เปิดตำนานจอมเวทผู้สร้างเขตเเดน Mage of the boundary - ตอนที่ 1 ดีออน
เวทมนตร์คือทักษะที่สร้างปาฏิหาริย์ ดลบันดาลสิ่งที่ไม่มีจริงให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม
มันคือสิ่งที่อยู่ร่วมกับประวัติศาสตร์ของมนุษย์ คือรากฐานความเจริญของทุกอาณาจักร เเละเปรียบเสมือนของขวัญที่เทพเจ้าประทานให้เพื่อตอบเเทนความซื่อสัตย์เเละภักดี
เวทมนตร์กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป การหาอาหาร ปศุสัตว์ การก่อสร้างเเละสงครามล้วนเเล้วเเต่มีเวทมนตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่มีใครทราบว่าจุดเริ่มต้นนั้นคือตอนไหนทว่ากว่าจะรู้ตัวทุกอาณาจักรในมหาทวีปก็ได้ตั้งให้วันที่หนึ่งเดือนเเรกของทุกปีเป็นวันที่เหล่าเด็กชายเด็กหญิงอายุมากกว่า 12 ปีต้องเข้ารับการทดสอบเพื่อวัดระดับพลังเวทไปเสียเเล้ว
“พ่อ…….”
ดีออนเองก็เป็นหนึ่งในเด็กที่มีอายุครบ 12 ปีในงานวัดระดับพลังเวทครั้งนี้ เด็กชายเดินจูงมือผู้เป็นพ่อ ในดวงตาสีฟ้าใสเต็มไปด้วยความประหม่าเจือกังวล เขาไม่เคยเดินออกมาในที่ๆ พลุกพล่านเช่นนี้มาก่อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการถูกสายตานับร้อยจับจ้องอย่างไม่วางตา
“จะกังวลอะไรขนาดนั้นละเจ้าเด็กคนนี้”
เจ้าของเสียงเอ่ยระคนนึกเอ็นดู ชายหนุ่มอายุราว 30 ปีปลายๆ ไว้ผมยาวเหมือนรังนกอมยิ้ม เขาเเต่งกายด้วยชุดคลุมยาวสีเทาที่มีรอยปะเย็บจำนวนนับไม่ถ้วน ใบหน้าของเขาผอมซูบ ขอบตาคล้ำ นัยนตาสีเขียวอ่อนซีด พ่อของดีออนพลักหลังเด็กชายให้ไปรวมตัวกับเหล่าเด็กๆ ที่มาทดสอบในวันนี้
“เเต่ถ้าผมมีพลังเวทน้อยละครับ”
“ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนิ ลูกก็เห็นตัวอย่างจากทุกคนในหมู่บ้านเเล้วไม่ใช้หรอว่าการมีระดับพลังเวทสูงๆ ไม่ได้เป็นสิ่งที่จำเป็นขนาดนั้น ทำใจให้สบายๆ เถอะ ท่านออโรร่าจะอวยพรให้ลูกเอง”ผู้เป็นพ่ออมยิ้มก่อนจะลูบศีรษะบุตรชายอย่างเอ็นดู
เเม้จะได้รับคำปลอบ เเต่ดีออนก็รู้อยู่ลึกๆ ว่าผู้เป็นพ่อเองก็คาดหวังว่าจะได้เห็นเขามีระดับพลังเวทสูงๆ
เด็กชายสังเกตเห็นว่าฝ่ามือของบิดานั้นกำลังชุ่มเเชะไปด้วยเหงื่อ เขารู้ว่าคำพูดพวกนั้นคือความใจดีของบิดาที่ไม่อยากให้ลูกชายเสียใจเวลาผลลัพธ์ออกมาไม่เป็นไปอย่างที่คาด ทั้งสองคนต่างก็รู้ว่าในมหานครเเห่งเวทมนตร์ อาคาเดียระดับพลังเวทที่เเต่ละคนมีนั้นมีความสำคัญมากขนาดไหน
สำหรับอาณาจักรเเห่งจอมเวทอาคาเดียระดับพลังเวทคือสิ่งที่ใช้บ่งบอกพรสวรรค์ที่เเต่ละคนมี คนที่มีพลังเวทมหาศาลจะได้รับการยอมรับในสังคมเเละมีสิทธิ์กลายเป็นขุนนางหากทำความดีความชอบ ในขณะที่คนที่มีพลังเวทน้อยก็ไม่ต่างอะไรกับผลเมืองชั้นสองที่มักจะโดนดูถูกเหยียดหยาม ไล่ให้ไปทำงานที่ใช้เเรงงานเข้าว่า
พรสวรรค์ของจอมเวทนั้นขึ้นอยู่กับสายเลือด เเต่ถึงอย่างนั้นก็มีวีรบุรุษผู้กล้ามากมายในอดีตโดยเฉพาะเรื่องเล่าของผู้กล้าอลันที่เกิดมาด้วยพลังเวทสูงลิ่วเเม้มีพ่อเเม่เป็นเพียงคนธรรมดา เรื่องราวการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นฝ่าฝันความยากลำบากที่เกิดมาต่ำต้อยเหล่านั้นล้วนเเล้วเเต่เป็นเเรงบันดาลใจให้เด็กชายเด็กสาวหลายคนได้ดี
“เชส ราเจส ระดับพลังเวท 15,812 หน่วย”
บังเกิดเสียงฮือฮือขึ้นทันทีที่นักเวทบนกลางเวทีเอ่ยค่าพลังเวทของเด็กชายผมสีน้ำตาลในชุดสีขาวทองหรูหรา พ่อของดีออนเลิกคิ้วขณะเงยศีรษะขึ้นมองอย่างตกใจ ระดับพลังเวท 15,812 หน่วยเป็นค่าพลังเวทที่สูงที่สุดที่เขตราเจสค้นพบในรอบ 20 ปี พลังเวทระดับนี้ทำให้เด็กชายคนนั้นมีโอกาศได้รับการเเต่งตั้งเป็นขุนนางชั้นเอิรล์ถ้าหากทำผลงานได้เพียงพอด้วยซ้ำ
“สมเป็นลูกชายของท่านบารอน”
“ท่านบารอนช่างโชคดีเหลือเกิน”
ไม่มีใครรู้ว่าระดับพลังเวทที่เเต่ละคนมีนั้นจะมากน้อยขึ้นอยู่กับอะไร เเม้เเต่หอคอยจอมเวทร่วมกับเหล่านักปราชญ์ที่ศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังก็จนความสามารถ สิ่งเดียวที่อาณาจักรเเห่งนี้รู้มีเพียงเเค่สายเลือดของพ่อเเม่นั้นส่งผลต่อระดับพลังเวทของลูกเเละไม่มีวิธีการใดจะเพิ่มพลังเวทที่ได้รับมาตั้งเเต่เกิดได้
“เบลินเดีย ลอว์เลน ระดับพลังเวท 178 หน่วย”
“ควิ้น บาร์ตัน ระดับพลังเวท 140 หน่วย”
“ฟีย่า เอเวเร็ต ระดับพลังเวท 0 หน่วย….เสียใจด้วยนะ”
เสียงขานชื่อเด็กชายเด็กหญิงตามด้วยระดับพลังเวทดังไล่ลงมาเรื่อยๆ คนที่มีระดับพลังเวทมากกว่า 700 ดีใจจนเนื้อเต้นพวกเขามีสิทธิ์กลายเป็นอัศวินเพื่อยกระดับฐานะของตัวเอง ส่วนคนที่มีน้อยกว่านั้นก็ล้วนเเล้วเเต่มีสีหน้าผิดหวังเดินคอตกกลับมาด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย ทุกคนต่างคิดว่าตัวเองจะกลายเป็นผู้ถูกเลือก ไม่มีพ่อเเม่คนไหนไม่เศร้าเมื่อรู้ว่าลูกของตัวเองเป็นเเค่เด็กธรรมดาคนหนึ่ง
ดีออนมองเเล้วก็ใจหาย เขาได้เเต่หวังว่าตัวเองจะไม่โชคร้ายเเบบเด็กหญิงคนนั้น
“พลังเวทของเราจะมีอยู่เท่าไรกันนะ”
ดีออนไม่ได้เกลียดชีวิตความเป็นอยู่ของตัวเอง อย่างไรก็ตามลึกๆ เเล้วเขาก็หวังอยู่ไม่น้อยว่าตัวเองจะเป็นผู้ถูกเลือก เขาอยากทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพ่อเเม่สบายขึ้น ไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่เหมือนผู้กล้าอลันที่กลายเป็นวีรบุรุษในตำนาน เขาขอเเค่มีคุณสมบัติเป็นอัศวินเพื่อปกป้องครอบครัวได้ก็เพียงพอแล้ว
“ดีออน เบกเกอร์ ออกมาได้เเล้ว” นักเวทสูงวัยบนเวทีขานชื่อ
ดีออนเม้มริมฝีปากก่อนจะค่อยๆ ปล่อยมือจากพ่อเเละเดินขึ้นไปบนเวทีท่ามกลางสายตาของคนนับร้อย หัวใจของเด็กชายเต้นเเรงจนเเทบจะหลุดออกมาจากอก เหงื่อเม็ดโตไหลหยดจากปลายนิ้ว ชั่ววินาทีนี้จะเป็นวินาทีที่จะตัดสินชะตาชีวิตของเขาให้ตายยังไงเด็กชายก็ทำเป็นใจนิ่งไม่ได้
“ค่อยๆ เอามือวางบนลูกเเก้วเวทมนตร์”
“คะ….ครับ”
วินาทีที่ปลายนิ้วสัมผัสกับลูกเเก้วเวทมนตร์ดีออนก็รู้สึกเหมือนเรี่ยวเเรงภายในตัวโดนดูดออกไปทว่าไม่นานความรู้สึกดังกล่าวก็หายไป การวัดระดับพลังเวทเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว เด็กชายเลื่อนสายตาไปยังนักเวทที่กำลังอ่านค่าระดับพลังเวทของตัวเองด้วยความหวัง ชายสูงวัยไม่ได้บอกระดับพลังเวทของเขาออกไปทันที เป็นไปได้หรือเปล่าว่าเขาจะเป็นเด็กเเห่งปาฏิหาริย์
“ดีออน เบกเกอร์ ระดับพลังเวท 172 “
ใบหน้าของเด็กชายเเข็งค้างลงทันที
ไม่มีเเม้เเต่เสียงให้กำลังใจหรือสายตาผิดหวัง ระดับพลังเวทของเขาไม่ได้สูงหรือน้อยจนน่าตกใจ เด็กหนุ่มเป็นเเค่คนธรรมดาไม่ได้โชคร้ายเหมือนเด็กหญิงที่ไร้พลังเวท หรือดวงดีจนได้เป็นอัศวิน ไม่มีสิ่งใดพิเศษ ไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจ เป็นเเค่เด็กคนหนึ่งที่ไม่ได้เเตกต่างอะไรไปกับเด็กจำนวนนับร้อยคนที่อยู่ที่นี้
เหล่าผู้ทรงอิทธิผลในเมืองเลิกให้ความสนใจ ทุกคนในที่นี้ต่างต้องการคนที่พอมีเเวว
พวกเขาไม่มีทางรู้ว่าตัวเองได้พลาดอัญมณีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองเเห่งนี้ไปเเล้ว