เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 773-774
บทที่ 773 พี่สะใภ้โหดเหี้ยม
ดังนั้น เขาจึงตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้เห็นพี่สะใภ้ชกมวยมาก
ไม่รู้ว่ามันจะสยดสยองมากขนาดไหน
แต่ทว่า เจียนอีหลิงกลับส่ายหน้า
เธอปฏิเสธทุกอย่างที่อาจจะทําร้ายมือของตัวเองได้
“รอฉันอยู่ตรงนี้ หลังจากที่จัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ฉันจะไปอาบน้ําให้หอมตลบอบอวลเลยทีเดียว”
“อือ” เจียนอีหลิงตอบ ในขณะที่เธอก้มหน้าต่ําลงไปอีก
ทําไมเขาเอาแต่พูดถึงเรื่องนี้ล่ะ?
น่าอายจัง…
จากนั้น จํายหวินเชิงก็กลับเข้าสู่สังเวียน
และเมื่อเห็นจํายหวินเชิงสวมนวมอีกครั้ง
เว่ยฉียก็สะดุ้ง ในขณะที่เขาค่อยๆลุกขึ้น จากนั้นเขาก็จ้องไปที่จํายหวินเชิงและพูดด้วยน้ําเสียงโกรธจัด
“จํายหวินเชิง เป็นอะไรไป! ถ้าหากแกไม่ฆ่าฉันวันนี้ ฉันจะกลับมาแก้แค้นอย่างแน่นอน!”
เว่ยรุ่ยไม่แสร้งทําเป็นเชื่อฟังอีกต่อไป เขารู้ว่าจํายหวินเชิงไม่กล้าฆ่าเขา เพราะท้ายที่สุดแล้ว ถ้าหากเขาถูกฆ่าขึ้นมาจริงๆ จํายหวินเชิงก็จะต้องชดใช้ด้วยชีวิต
และด้วยเหตุนี้ ตราบใดที่เขาสามารถรอดชีวิตไปได้ เขาก็จะมีโอกาสตอบแทนความอัปยศอดสูที่ตัวเองได้รับในวันนี้อย่างแน่นอน
การแสดงออกของอีกฝ่าย ทําให้จํายหวินเชิงเห็นเป็นเรื่องขบขัน ในขณะที่เขาพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ฉันไม่ต้องการให้มือของฉันสกปรก”
จากนั้น เจี่ยนอีหลิงก็พูดกับเว่ยรุ่ยว่า “ระวังให้ดี ไม่งั้นนายจะถูกทุบตีจนตายอย่างแน่นอน”
แต่ทว่า เว่ยฉีรี่ยไม่กลัวคําพูดของเจียนอีหลิง “ถูกทุบตีจนตายงั้นเหรอ? ท่ามันเลยสิเจียนอีหลิง! และเธอควรอยู่ภายใต้การคุ้มครองของจํายหวินเชิงให้ดี ถ้าไม่อย่างนั้น ในอนาคตเธอจะต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแน่นอน!”
หลังจากนั้น เว่ยรุ่ยก็หันหน้ามาตะโกนใส่จ่ายหวินเชิง “แกควรจับตาดูคู่หมั่นของแกให้ดี บางทีสักวันหนึ่งแกอาจจะไม่ได้เห็นเธออีกต่อไป ในทางกลับกันอาจจะเห็นร่างที่ไร้ลมหายใจแทนก็ได้”
ในขณะที่เว่ยฉีรุ่ยพูดจบ เขาก็ได้รับหมัดจากจํายหวินเชิงทันที ซึ่งความแรงของหมัดได้เหวี่ยง เขาไปที่ด้านข้างของเวที และเว่ยจีรุ่ยทําได้เพียงยึดรั้วเชือกและยืนหอบหายใจอย่างหนักหน่วงเท่านั้น
เว่ยจีรุ่ยยังคงพูดต่อไป แต่ทว่าค่าพูดของเขายังไม่มีค่าไหนที่ไม่ได้ตอบรับด้วยหมัดของจํายหวินเชิงแม้แต่คําเดียว
“หยุดทะเลาะกันได้แล้ว” เจียนอีหลิงร้องออกมา “พาเขาไปรักษาบาดแผล”
เมื่อหานหมิงอได้ยินคําเหล่านี้ เขาก็คิดว่าพี่สะใภ้ค่อนข้างใจอ่อน
แต่ทว่าเขาไม่แปลกใจเลย ก็เพราะเธอยังเด็กอยู่และอาจจะไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน
“ฉันมียาอยู่ในกระเป๋า ใช้ยาในขวดสีแดง” เจียนอีหลิงพูดกับบอดี้การ์ดหญิงที่ติดตามเธอมา
บอดี้การ์ดหญิงเดินไปหยิบขวดยาสีแดงในกระเป๋าของเจียนอีหลิงทันที
ขวดยานี้ไม่มีฉลาก ยิ่งไปกว่านั้นมันไม่มีวันที่ผลิต และข้อมูลการขายใดๆทั้งสิ้น
มันเป็นแค่ขวดพลาสติกสีแดงธรรมดา แต่ว่ามีกระดาษติดอยู่ที่ข้างขวด บนแผ่นกระดาษแผ่นนั้นมีข้อมูล และสัญลักษณ์ทางเคมีเขียนไว้ด้วยมือเท่านั้น
จํายหวินเชิงได้ยินเจี่ยนอีหลิงบอกให้หยุดทะเลาะกัน เขาก็หยุดทันที
จากนั้น บอดี้การ์ดหญิงก็ทําการทายาลงบนบาดแผลของเว่ยรุ่ย
“อ๊าาาา…!”
ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องที่บีบหัวใจของเว่ยฉีรุ่ยก็ดังขึ้น
ทันทีที่ยาถูกทาลงบนบาดแผลของเว่ยรุ่ย เขาก็กรีดร้องออกมาราวกับถูกฆ่า
หานหมิงอวตกตะลึง ทําไมยานี้ถึงได้ดูเจ็บปวดมากกว่าการถูกชกต่อยเมื่อกี้นี้อีกเล่า?
“พี่สะใภ้ เขาจะไม่ตายใช่มั้ย?”
“ไม่ตายหรอก ยานี้มีไว้สําหรับรักษาบาดแผล มันจะช่วยให้แผลของเขาหายดี” เจียนอีหลิงอธิบาย
“จริงเหรอ?” หานหมิงอถาม ด้วยเหตุผลบางอย่างเขารู้สึกว่ายาขวดนั้นร้ายกาจยิ่งกว่ายาพิษ…?
คงจะคล้ายๆกับการโรยเกลือบนแผลสดประมาณนี้ใช่ไหม?
จํายหวินเชิงไม่คาดคิดมาก่อนเช่นเดียวกัน เขาจึงถามเจี่ยนอีหลิงว่า “ทําไมเธอถึงทํายาขึ้นมาล่ะ?”
จํายหวินเพิ่งรู้ว่ามีโอกาสสูงที่เจี่ยนอีหลิงจะทําขวดยานี้ขึ้นมา
และยิ่งไปกว่านั้น น่าจะเป็นยาที่ใช้รักษาบาดแผลจริงๆ
แต่ทว่า ฤทธิ์ของยาดูค่อนข้างจะ…สุดขีด..มันดูเจ็บปวดยิ่งกว่าการโรยเกลือหรือเทแอ ลกอฮอล์ลงบนบาดแผลเสียด้วยซ้ํา
“การจัดการกับคนเลว สิ่งนี้มีประโยชน์” เจียนอีหลิงตอบ
“เตรียมพร้อมสําหรับสถานการณ์แบบนี้เป็นพิเศษอย่างนั้นเหรอ?”
“อื้อ”
บทที่ 774 ถ้านายไม่ดูแลตัวเอง มันก็จะถูกใช้กับนาย
เมื่อได้ยินดังนั้น จํายหวินเชิงก็ค่อนข้างโล่งใจ โชคดีที่ยานี้ไม่ได้เตรียมไว้สําหรับเขา
ไม่อย่างนั้น เขาจะกลัวมากถ้าเขาได้รับบาดเจ็บ
“อืม แต่ถ้านายไม่ดูแลตัวเอง มันก็จะถูกใช้กับนายเหมือนกัน” เจียนอีหลิงกล่าวเสริมขึ้นมา
“แค่ก…แค่ก” จํายหวินเชิงปิดปากแล้วไอ เพื่อปิดบังความคิดในใจของเขา
เมื่อหานหมิงอได้ยินอย่างนี้ เขาก็ประทับใจเจียนอีหลิงอีกครั้ง
พี่สะใภ้เขาช่างโหดเหี้ยม!
เธอรู้ว่านายท่านเชิงไม่ชอบดูแลร่างกายตัวเอง
ดังนั้น เธอจึงสร้างยานี้ขึ้นมาสําหรับจํายหวินเชิงโดยเฉพาะ
ตอนแรกเขารู้สึกว่าพี่สะใภ้เป็นคนใจอ่อน? แต่ตอนนี้หานหมิงอวีกลับรู้สึกว่าเขาช่างไร้เดียงสาเหลือเกิน
เสียงกรีดร้องของเว่ยจีรุ่ยยังคงดังต่อไป และทุกเสียงกรีดร้องทําให้ดูเหมือนมีคนกําลังถูกฆ่าตายทั้งเป็น
ผ่านไป 5 นาที บาดแผลของเว่ยรุ่ยก็ได้รับการรักษา
จํายหวินเชิงและเจียนอีหลิงเดินไปที่เว่ยรุ่ย ในขณะที่เขากําลังนอนหงายอยู่บนโซฟา
ใบหน้าเว่ยรุ่ยขาวซีดไร้สีเลือด แม้แต่ริมฝีปากก็ยังดูขาวจนน่ากลัว
ยิ่งไปกว่านั้น เหงื่อเย็นๆปกคลุมอยู่บนหน้าผาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเว่ยรุ่ยได้รับความเจ็บปวดมากแค่ไหนในตอนนี้
เมื่อจ๋ายหวินเชิงและเจียนอีหลิงเข้าใกล้เว่ยฉีรุ่ย เขาก็ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะพูดออกมาสักคํา
และด้วยเหตุนี้ จํายหวินเชิงจึงสั่งคนของเขาว่า “ส่งมิสเตอร์เว่ยกลับบ้าน ฉันหวังว่ามิสเตอร์เวยจะออกกําลังกายให้มากกว่านี้ ในอนาคตฉันหวังว่าจะได้ชกมวยกับแกอีกครั้ง”
จากนั้น เว่ยจีรุ่ยก็ถูกนําตัวออกจากโรงยิมมวย
เมื่อเว่ยรุ่ยถูกส่งถึงบ้าน เขาก็ใช้เวลาทั้งบ่ายเป็นอัมพาตนอนอยู่บนเตียง และค่อยๆฟื้นตัวในตอนกลางคืน
ในตอนที่เข้าห้องน้ําไปส่องกระจก เขาก็ไม่เห็นแม้แต่รอยช้ําบนใบหน้าของเขาสักจุดเดียว
ราวกับว่าเขาไม่ได้ถูกทุบตีมาก่อน
แต่ทว่า เมื่อเขากดลงบนบริเวณที่จํายหวินเชิงต่อยเขา เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด
มากกว่าความเจ็บปวดที่เกิดจากบาดแผลเหล่านี้ แต่เขาโกรธมากจนหัวใจ ตับ ปอด และไตของเขาก็เจ็บปวดไปหมด
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้คณะกรรมการได้โทรมาหาเขา แล้วบอกว่าบริษัทอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย ซึ่งพวกเขาขอให้ช่วยคิดหาวิธีแก้ไขอย่างเร่งรวด
แต่ทว่า เขาจะทําอะไรได้อีกงั้นเหรอ?
เขาลองทําทุกอย่างที่คิดออกแล้ว! อีกทั้งยังพยายามหาเส้นทางการประชาสัมพันธ์ทั้งหมดที่สามารถทําได้
อาา ให้ตายเถอะจํายหวินเชิง เจียนอีหลิง ตอนนี้เว่ยรุ่ยทําได้เพียงนั่งสาปแช่งทั้งคู่เท่านั้น!
ในเวลาต่อมา เลขาของเว่ยจีรี่ยได้โทรมาบอกเขาว่า “ท่านคะ CEO ของบริษัทหวนเหยี่ยวเทคโนโลยต้องการพบท่านค่ะ”
หวนเหยียวเทคโนโลย?
บริษัทที่สร้างเกม Zerg Invasion งั้นเหรือ?
“บอกเขาว่าตอนนี้ฉันอยู่บ้าน แล้วเธอก็ส่งที่อยู่ของฉันให้เขาไป และขอให้เขามาที่บ้านของฉันแทน
นี่ถือว่าเป็นข่าวดีสําหรับเว่ยฉีรุ่ย
ไม่นาน เว่ยรุ่ยก็ได้พบกับ CEO ของบริษัทหวนเหยียวเทคโนโลยี
“สวัสดี CEO เจี๋ยน เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบคุณ” เว่ยจีรุ่ยกล่าวทักทายอย่างสุภาพ
“อ่อ คุณก็รู้ว่านามสกุลของผมคือเจียน แต่ทําไมดูเหมือนจะไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเจียนอีหลิงล่ะ?”
เจียนหยุ่นเฉิงสวมสูทสีดํา เขาพูดด้วยน้ําเสียงหนักและมีสีหน้าจริงจัง ราวกับว่าหมอกสีดําได้ ปกคลุมอยู่ในดวงตาของเขา
เมื่อได้ยินคําเหล่านี้ เว่ยฉีรุ่ยก็หยุดชะงักชั่วคราว
เจียนอีหลิง!
หนึ่งในสองชื่อที่เขาไม่อยากได้ยินก็คือเจียนอีหลิง!
“เธอเป็นสมาชิกในครอบครัวของคุณงั้นเหรอ?” เว่ยจีรุ่ยถามขึ้น ในขณะที่เขามองไปที่โปรไฟล์ของเจี่ยนหยุ่นเฉิงสั้นๆ ซึ่งก่อนที่เจี้ยนหยุ่นเฉิงจะมาถึงเขารู้แค่ชื่อเท่านั้น แล้วเขาจะไปรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเจี้ยนหยุ่นเฉิงและเจียนอีหลิงได้อย่างไรกัน
“เธอเป็นน้องสาวของผมเอง”
เว่ยฉีรี่ยลุกขึ้นยืนและพูดว่า “ออกไปซะ ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ!”
แต่ทว่า เจี่ยนหยุ่นเฉิงเพียงแค่นั่งอยู่เฉยๆ ซึ่งเขาไม่มีความคิดที่จะจากไปแต่อย่างใด
“ผมก็ไม่อยากเจอคุณเป็นพิเศษเหมือนกัน แต่ว่าน้องสาวอยากให้ผมทําแบบนี้” เจียนหยุ่นเฉิงพูด
“เจียนอีหลิง? ฮี” เว่ยรุ่ยหัวเราะออกมาด้วยความโมโหและโกรธจัด
“ตระกูลเจียนยินดีที่จะซื้อหุ้นของเว่ยกรุ๊ป” เจียนหยุ่นเฉิงกล่าวต่อ
“คุณกําลังฝันไปรึเปล่า!”