เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 765-766
บทที่ 765 เพื่อนหรือศัตรู
“นายท่านเชิงเราได้ตรวจสอบบริษัทที่ชื่อโปลังแล้วแต่พบว่ามีข้อมูลน้อยมาก ณ ตอนนี้ เรายังไม่ทราบสาเหตุที่พวกเขาติดตามเว่ยกรุ๊ป ซึ่งมันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้”
หานหมิงอวี่ยังคงรู้สึกงงงัน หลังจากที่เขาขอให้คนของเขาติดตามและตรวจสอบบริษัทที่ชื่อโปลัง
“อื่ม บางที่พวกเขาอาจได้รับข้อมูลที่สามารถใช้กับเว่ยกรุ๊ปได้?” ซึ่งเหว่ยเดา
ไม่ว่ายังไงเว่ยจีรุ่ยค่อนข้างประมาทในช่วงสองปีที่ผ่านมา
แน่นอนจํายหวินเจ๋งจงใจที่จะทําตามใจเขา ซึ่งทําให้อัตตาเขาพองตัวและคิดว่าตัวเองสามารถยืนหยัดต่อสู้กับตระกูลจํายได้
ในทางตรงกันข้าม งานของเว่ยจีรุ่ยนั้นมีมลทินจริงๆกับการดําเนินการ เขาทิ้งหลักฐานมากมายที่คิดว่าจะไม่มีใครค้นพบ
ดังนั้น หากบังเอิญโดนจับได้ คนผู้นั้นจะสามารถทํากาไรมหาศาลจากเรื่องนี้
หานหมิงอวี่จึงถามจํายหวินเชิงว่า “นายท่านเชิงถ้าในที่สุดโปลังเกิดข้อพิพาทกับเว่ยกรุ๊ปเราควรรอดูการเปลี่ยนแปลงและรับผลประโยชน์หรือเปล่า?”
จํายหวินเชิงนั่งอยู่บนเก้าอี้ มีแก้ววิสกี้ใส่นมวางอยู่ตรงหน้า
นิ้วหนึ่งกําลังเคาะลงบนที่วางแขนของเก้าอี้
สายตาของเขามองออกไปนอกหน้าต่างและมองไปยังภูมิทัศน์ของเมือง
ถึงแม้ว่าเขาจะดูเหมือนไม่สนใจ แต่คุณสมบัติของเขายังคงมีความคมชัดของเหยี่ยว
“รอดูก่อน” จ๋ายหวินเชิงตอบ
ไม่สําคัญหรอกว่าบริษัทโปลังจะมีเจตนายังไงในตอนนี้ แต่สิ่งที่พวกเขาทํานั้นเป็นประโยชน์ต่อจํายหวินเชิงและพวกของเขา
หานหมิงอวี่ “ฉันอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับบุคคลที่อยู่เบื้องหลังบริษัทนี้จริงๆ เขาหรือเธอคงจะเป็นคนที่มีความสามารถพอสมควร เขาได้รับข้อมูลภายในมากมาย เพราะฉะนั้นพลังและอิทธิพลของพวกเขาจะต้องไม่ถูกประเมินต่ําเกินไป”
ซึ่งเหว่ย “อาา..เฉันหวังว่าพวกเขาจะเป็นมิตร ไม่ใช่ศัตรู ถ้าพวกเขาเป็นศัตรู การจัดการกับพวกเขาคงเป็นเรื่องยาก”
จํายหวินเชิงหลับตาลง เขาไม่ได้พูดอะไร แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็อยากรู้เรื่องของบริษัทโปลัง เพราะดูเหมือนว่าบริษัทนี้กําลังจะโค่นเว่ยกรุ๊ปลง
“อ้อ เมื่อเรื่องนี้คลี่คลาย นายคิดที่จะพาอีหลิงออกไปฮันนีมูนไหม” หานหมิงอวี่ถาม
จํายหวินเชิงลืมตาขึ้น
ทําไมถึงพูดถึงเรื่องนี้?
“ทุกวันนี้ คนนิยมไปฮันนีมูนตอนหมั้นกันอย่างงั้นเหรอ?
“เปล่า นายเพิ่งบอกฉันว่าอีหลิงมักจะทํางานหนักมาก ดังนั้น นี่จึงเป็นข้ออ้างที่ดีที่จะพาเธออ อกไปพักผ่อนสักหน่อย”
“ปกติผู้หญิงชอบไปที่ไหน?” จยหวินเชิงถาม
“อึมไปทะเลหรืออาจจะไปดูดอกไม้” ซึ่งเหว่ยเดาแบบง่ายๆ
หานหมิงอวี่ “นายท่านเชิงเธอคงถามผิดคนแล้วล่ะ ปกติเราก็แค่เล่นๆกับผู้หญิงแต่อัหลิงต่างจากผู้หญิงพวกนั้น”
หานหมิงอวี่เป็นที่รู้จักดีว่าเป็นคนเจ้าชู้ ในแวดวงเป่ยจิงนั้นเขาเปลี่ยนแฟนเหมือนกับเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างใดอย่างนั้น
แต่ยังไงก็ตามเป็นเพราะเขารู้ว่าผู้หญิงพวกนั้นไม่ได้รักเขา แต่ละคนแค่ต้องการบางสิ่งในความสัมพันธ์ ดังนั้นเขาก็แค่ใช้เงินไปกับพวกเธอเท่านั้น
“ใช่แล้ว เราเตรียมของขวัญไว้ให้แล้ว”
หานหมิงอวี่ได้เตรียมของขวัญไว้ให้จํายหวินเซึ่งเมื่อเขามาในวันนี้
“มันคืออะไร?”
“ถุงยางอนามัยชนิดใหม่”
หานหมิงอวี่เริ่มแนะนําผลิตภัณฑ์นี้กับนายท่านเชิง
ขณะที่เขาแนะนําผลิตภัณฑ์ เขารู้สึกเย็นยะเยือกที่กระดูกสันหลัง จากนั้น เขาก็เงยหน้าขึ้นมองจํายหวินเชิง
ทันใดนั้นเขารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“อ่า…อืม…นายท่านเชิงฉันจําได้ ว่าฉันยังมีสิ่งที่ต้องทํา…ฉันต้องไปเดี๋ยวนี้…”
หานหมิงอวี่วางของขวัญลงบนโต๊ะแล้วรีบออกจากห้องทันที
## ประคับประคองกันไปด้วยนะครับ ผู้แปลจะได้อยู่จนจบเรื่อง
ซึ่งเหว่ยตามออกมาด้วย
หลังจากที่ทั้งสองออกจากห้อง ทั้งคู่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ทําไมนายท่านเชิงดูไม่มีความสุขเลยในตอนนี้” ซิงเหว่ยถามหานหมิงอวี่
“อืมม อาจเป็นเพราะฉันทําร้ายหัวใจสาวบริสุทธิ์ไร้เดียงสา” หานหมิงอวี่เดา
ในด้านต่างๆ ส่วนใหญ่ ทั้งสองไม่เหมาะกับจํายหวินเชิง แต่พวกเขานั้นมีประสบการณ์มากกว่าในด้านนี้อย่างแน่นอน
บทที่ 766 มีตาแต่ไม่เห็นไท่ซาน 1
*คําเปรียบเปรย ที่มีความหมายเหมือนกับคําว่า มีตาหามีแววไม่ ไก่ได้พลอย ลิงได้แก้ว เห็นของที่มีค่าอยู่ตรงหน้าแต่กลับไม่รู้จัก
วันรุ่งขึ้น หุ้นของบริษัทเว่ยกรุ๊ปราคาลดลงต่อเนื่อง หลังจากซื้อขายสิบนาที หุ้นก็ถึงขีดจํากัดล่างของวัน จากนั้นหุ้นเหล่านั้นก็หยุดการซื้อขายอีกครั้ง
หลังจากที่เว่ยจีรุ่ย โมโหใส่บริษัท เขาก็มุ่งหน้าไปยังบริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ชวีหมิงทันที เขารออยู่ที่ชั้นสิบสองก่อนเวลาเที่ยง
เมื่อจางชวีหมิงเห็นเว่ยฉีรุ่ย มาถึงเร็วเกินไป เขาจึงเข้าใจเจตนาของชายคนนี้แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร นอกจากเตือนเว่ยรุยว่า “คุณเว่ย ผู้สืบทอดตําแหน่งมีบุคลิกแปลกๆ กรุณาพยายามเข้ากับเขาให้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นพยายามอย่าอารมณ์เสียหากเขาทําให้คุณอุ่นเคืองไม่ว่าทางใด”
ขณะที่เว่ยรุ่ย กําลังขอความช่วยเหลือจากผู้สืบทอดของบริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ชื่อหมิง เขาจําเป็นต้องเห็นด้วย “ไม่ต้องกังวลผู้อาวุโสจาง ผมสัญญาว่าจะให้เกียรติและสุภาพกับเขา ผมยินดีที่จะเอากําไรส่วนน้อยไป ผมแค่ต้องการให้โครงการนี้ผ่านไป ผมไม่ได้สนใจจริงๆว่าผมจะหาเงินได้มากแค่ไหน”
เว่ยจีรุ่ยวางไพ่ทั้งหมดไว้บนโต๊ะ
ก่อนหน้านี้เขาหวังพึ่งโปรเจกต์นี้เพื่อผลกําไร ตอนนั้น เขาไม่เต็มใจที่จะเอากําไรส่วนน้อยไปเลยด้วยซ้ํา
แต่สถานการณ์ตอนนี้ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เขาแค่ต้องการให้โครงการนี้ประสบความสําเร็จเท่านั้น
บริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ชวหมิงเป็นองค์กรที่มีรากฐานมั่นคงและมีชื่อเสียงที่ดี หากเว่ยกรุ๊ปประสบความสําเร็จในการเจรจาข้อตกลงนี้ จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างแน่นอน
ตราบใดที่ตกลงกันได้ เขาก็จะสามารถประกาศให้สาธารณชนทราบได้ ซึ่งหมายความว่ามีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะกู้คืนการสูญเสียจํานวนมากนี้ขึ้นมา
แต่จางชวีหมิงรู้ดีว่าทําไม เว่ยฉีรุ่ยถึงยอมประนีประนอม
เพราะตอนนี้เว่ยกรุ๊ป ก็เป็นเหมือนกับปลาบนเขียง ถ้าเขาไม่เปลี่ยนทัศนคติ เว่ยกรุ๊ปทั้งหมดก็จะล่มสลาย
แต่ข้อตกลงนี้จะขึ้นอยู่กับความปรารถนาของผู้สืบทอดของบริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ชวีหลิง
หากผู้สืบทอดตอบว่าไม่ เขาก็ไม่สามารถทําอะไรได้เช่นเดียวกัน
ดังนั้น เว่ยฉีรุ่ยจึงรอคอยอย่างใจจดใจจ่ออยู่ในสํานักงานของจางชวีหมิง
เกือบสิบสองนาฬิกา “ท่านรอง” ทําไมยังไม่ปรากฏตัว?
เว่ยรุ่ย ถึงกับนั่งนิ่งไม่ได้
ทุกๆสองสามนาที เขาลุกขึ้นเดินไปมา หลังจากเดินไปได้สักพักเขาก็กลับไปนั่งลง
จางชวีหมิงพูดติดตลกว่า “นายท่านเว่ย มีหนามงอกอยู่บนโซฟาในออฟฟิศงั้นเหรอ?”
“ขอโทษนะพี่จาง ผมแค่รู้สึกกังวลนิดหน่อย”
“อย่ากังวลไปเลยการผ่านสิ่งเหล่านี้สักสองสามครั้งในชีวิต คุณก็จะได้เรียนรู้จากสิ่งนี้และเติบโตขึ้น”
เมื่อเว่ยรุ่ยได้ยินอย่างนี้ เขาสงสัยว่าชายชราคนนี้ด่าเขางั้นเหรอ แล้วใครล่ะที่จะอยากให้บริษัทเผชิญกับหายนะแบบนี้?
หากเป็นวันธรรมดาเขาคงทะเลาะกับพี่จางไปแล้ว
แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถทําร้ายพี่จางได้
เมื่อเว่ยจีรุ่ยก่าลังจะลุกขึ้นอีกครั้ง ประตูสํานักงานก็เปิดออก
เว่ยจีรี่ยมองไปทางประตูด้วยความคาดหวัง
ชายในชุดสูทหน้าตาหล่อเหลากําลังเดินเข้ามา
คนนี้คือ…ฉินชวน?
เขาเป็นบุตรนอกกฎหมายของฉันหงจื้อ
ในขณะนั้นเว่ยจีรุ่ยก็ตกตะลึง
ฉันชวนเป็นทายาทของบริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ชวหมิงงั้นเหรอ?
“นายน้อยฉันชวน ยินดีที่ได้รู้จัก” จางชวีหมิงกล่าวทักทาย
ฉันชวนนัดกับจางชวีหมิงในตอนเช้า วันนี้พวกเขาจะมาคุยเรื่องบางอย่าง
ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดที่จะพบกันที่ร้านกาแฟ แต่เนื่องจากผู้เฒ่าจางค่อนข้างสูงวัย ฉันชวนคิดว่าเขามาที่สํานักงานของผู้เฒ่าจางจะดีกว่า
จางชวีหมิงบอกพนักงานต้อนรับว่าถ้าฉันชวนมา ก็ไม่ต้องแจ้ง ให้พาฉันชวนไปที่ออฟฟิศได้ทันที
วันนี้ฉันชวนมีเรื่องธุรกิจที่จะหารือกับบริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ชวหมิง
บริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ชวหมิงคิดที่จะร่วมมือกับเทคโนโลยีของฉันชวนเพื่อสร้างแอปที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์
ผู้ประสานงานนี้คือเจียนอีหลิง
เพราะเจียนอีหลิงถือหุ้นจํานวนมากในบริษัทเทคโนโลยีของฉันชวน เธอจึงเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลัก