เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 761-762
บทที่ 761 ดูเหมือนเขาจะทําให้เจี่ยน…
เว่ยจีรุ่ยตอบว่า “มิสเตอร์เฟิง ฉันรู้ว่าคุณรู้จักกับพี่ชายของเจียนอหลิง ดังนั้นจึงประทับใจเจียนอีหลิงในฐานะรุ่นน้อง เป็นเรื่องปกติที่จะรักเธอ แต่คุณคิดจริงๆเหรอว่าเธอจะสามารถรับผิดชอบตระกูลจํายได้? คุณคิดว่าเธอสามารถเป็นผู้นําตระกูลหญิงของสมาคมจงได้งั้นเหรอ?”
“อืม นายจะคิดแบบนั้นก็ได้” เพิ่งเหว่ยตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เขาไม่ได้โต้แย้งคําพูดของเว่ยรุ่ยแม้แต่น้อย
“มิสเตอร์เฟิง คุณก็รู้ว่าสถานการณ์ในตระกูลเว่ยเป็นยังไง ตระกูลเว่ยก็ไม่ได้แย่ไปกว่าตระกูลจําย และมีความสามารถพอที่จะเป็นหัวหน้าสมาคมจงได้”
“ที่นายบอกฉันแบบนี้ เพราะนายต้องการให้ฉันอยู่ข้างนายงั้นเหรอ”
เพิ่งเหว่ยเข้าใจความหมายคําพูดของเว่ยรุ่ยที่ต้องการบอก
เขาพยายามหาพันธมิตร
“ใช่”
“รู้ไหม ฉันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสมาคมจงดังนั้น ฉันไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งภายใน หากนายมีความสามารถมากพอจะล้มล้างจํายหวินเชิงและตระกูลจํายได้ นายก็จัดการเองเถอะ ฉันไม่ขอยุ่งด้วย”
เพิ่งเหว่ยกันตัวเองออกจากเรื่องวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น
“มิสเตอร์เฟิง คณไม่สนใจเข้าร่วมจริงๆงั้นเหรอ ฉันสัญญาถ้าสําเร็จ…”
“ไม่จําเป็น” เฟิงเหว่ยขัดจังหวะก่อนที่เว่ยจีรุ่ยจะพูดจบ “ฉันและพ่อนายเป็นคนรู้จักเก่ากัน ดังนั้นฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่นายอยากทํา แต่ฉันขอปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมในเรื่องนี้”
ทันทีที่เพิ่งเหว่ยและเว่ยรุ่ยแยกจากกัน เพิ่งเหว่ยก็โทรหาเจียนอีหลิง เขาบอกเธอเกี่ยวกับความทะเยอทะยานของเว่ยรุ่ยและเตือนเธอให้ระวังตัวด้วย
เขาไม่กังวลเกี่ยวกับความสามารถของเจียนอีหลิงที่จะจัดการกับสิ่งต่างๆ แต่เขากังวลกับความสามารถของเจี่ยนอีหลิงในการค้นหาคนที่เป็นอันตรายกับเธอ
เธอค่อนข้างช้ในด้านนี้ ดังนั้นเขาจึงเตือนเธอให้ปลอดภัยไว้ก่อน
แต่ตอนนี้เว่ยจีรุ่ยนั้นค่อนข้างโจ่งแจ้งมาก คาดว่าทางตระกูลจ่ายน่าจะรู้แล้ว
“ฉันต้องการให้ระงับการซื้อขายของเว่ยกรุ๊ป” เจียนอีหลงกล่าว
“จริงเหรอ?” เพิ่งเหว่ยอุทาน เขาแปลกใจเล็กน้อยกับการตัดสินใจของเจี่ยนอีหลิง
เจียนอหลิงไม่ใช่คนอารมณ์อ่อนไหว แต่เธอไม่ค่อยสนใจกับเรื่องต่างๆมากนัก ยกเว้นเรื่องการหาเงิน
เพราะฉะนั้น เวลามีคนรังแกเธอ เธอทําเหมือนว่าไม่สําคัญอะไรกับเธอ เลยทําให้คนอื่นดูว่าเธอถูกรังแกได้ง่าย
เนื่องจากเรารู้จักเจียนอีหลิงมานานแล้วเฟิงเหว่ยจึงไม่เคยเห็นเจียนอีหลิงโกรธอะไรมากจริงๆ
ดังนั้น เขาจึงคิดว่าคราวนี้เจี้ยนอีหลิงจะไม่ทําอะไรเลยเหมือนกับครั้งอื่นๆ
แต่กลับผิดคาดเจี่ยนอีหลิงกลับแจ้งว่าการซื้อขายของเว่ยกรุ๊ปควรถูกระงับ
เจียนอหลิงกล่าวว่าการระงับการซื้อขายของเว่ยกรุ๊ปนั้นไม่ได้เป็นแค่การพูดเล่น แต่เธอมีความสามารถมากพอที่จะทําเช่นนั้นได้
“คือ จริงๆ” เจียนอีหลิงตอบ
เธอไม่ได้ล้อเล่น
“อาา…ถ้าอย่างนั้นฉันก็ได้แต่ไว้อาลัยให้กับเว่ยกรุ๊ปล่วงหน้า เฟิงเหว่ยตอบ ท้ายที่สุดเขาไม่ได้คิดที่จะมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ “แต่ถ้าหากเธอกําลังคิดที่จะขายหุ้นของพวกเขา ขอฉันด้วยคน ฉันก็อยากรวย”
เฟิงเหว่ยไม่อยากพลาดโอกาสทําเงิน
เขาว่าเจียนอหลิงเป็นพวกชอบเงิน แต่จริงๆแล้วเขาก็เหมือนกัน
“ตกลง”
เจียนอหลิงเห็นด้วย
“แต่ว่านายต้องช่วยฉันหน่อย”
“ฉันรู้ว่าเธอจะพูดแบบนั้น” เพิ่งเหว่ยตอบ เขาขบขันและทําอะไรไม่ถูกในเวลาเดียวกัน “เอาเลยเธอต้องการให้ฉันทําอะไร”
“หลังจากการดําเนินการและหุ้นถูกระงับ ฉันต้องการซื้อเว่ยกรุ๊ป”
“เธอต้องการซื้อเว่ยกรุ๊ปงั้นเหรอ?” เมื่อได้ยินอย่างนี้เพิ่งเหว่ยค่อนข้างแปลกใจ คราวนี้ทัศนคติของเจียนอีหลิงแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เธอปฏิบัติต่อสถานการณ์ทั้งหมดแตกต่างไปจากเดิมมาก
ดูเหมือนว่าครั้งนี้เว่ยฉีรุ่ยจะทําให้เจียนอีหลิงรําคาญมากจริงๆ
“อื้อ”
“ตกลง ฉันจะจัดการให้”
บทที่ 762 วิกฤตของเว่ยกรุ๊ป
“นายท่านเชิง เว่ยจีรี่ยทําตัวไม่เกรงกลัวเกินไปแล้ว ปล่อยเขาไปได้สักพักแล้ว ยังไงก็ตามน่าจะถึงเวลาจัดการแล้วใช่ไหม?”
หานหมิงอี้พูดพร้อมรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้า
ในการที่จะทําให้ใครบางคนพินาศ ต้องทําให้มันเป็นบ้าเสียก่อน
เป็นความตั้งใจของจํายหวินเจ๋งที่จะปล่อยให้ เว่ยจีรียอาละวาดในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา
จํายหวินเชิง หานหมิงอวและซิงเหว่ยไม่ได้ใช้เวลาไปกับความสนุกและเกมเท่านั้น
พวกเขาก่อตั้งพันธมิตรเหอฉี ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ สมาชิกหลักหลักคือสามคนนี้
ซิงเหว่ยกล่าวว่า “นอกจากนี้ เว่ยจีรุ่ยอาจเผยแพร่ข่าวลือเกี่ยวกับพี่สะใภ้ได้ ก่อนหน้านี้ผมคิดว่าเราจะเล่นกับเขาอีกสักหน่อย แต่ผมไม่คิดว่ามันจําเป็นแล้ว”
หานหมิงอวี่ “แต่ว่าพี่สะใภ้ช่างน่าทึ่งจริงๆ เธอเป็นเพื่อนกับพวกส.ส.ด้วย ดูเหมือนว่าทักษะของเธอไม่เพียงแต่เป็นที่ยอมรับในจีนเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ยอมรับในระดับสากลด้วย”
หันเหมิงอี้พูดติดตลกว่า “ในอนาคตถ้าผมป่วย นายท่านเชิงต้องขอให้พี่สะใภรักษาผมนะ”
ซึ่งเหว่ยกล่าว “พี่สะใภ้เป็นหมอศัลยแพทย์นายไม่ได้ป่วยหนักอะไร จะให้พี่สะใภรักษาทําไม? จะขอให้เธอตัดไส้ติ่งของนายงั้นเหรอ?”
จํายหวินเชิงขัดจังหวะการสนทนา “บริษัทที่สําคัญส่วนใหญ่ภายใต้ชื่อเว่ยกรุ๊ปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใช่ไหม งั้นก็ทําให้หุ้นของบริษัทเหล่านั้นถูกระงับและเพิกถอน”
หานหมิงอวพูดว่า “โอเค ไปชอร์ตหุ้นเว่ยกรุ๊ปกัน”
ซึ่งเหว่ยพูดขึ้นด้วยความแปลกใจ “เดี๋ยวก่อน ทําไมดูเหมือนจะมีคนอื่นทําอยู่”
เมื่อได้ยินดังนั้นหานหมิงอวี่ก็รีบเข้าไปดู
ใบหน้าของหานหมิงอวี่แสดงออกด้วยความมึนงง ขณะที่เขาแสดงความคิดเห็นว่า “เกิดอะไรขึ้น พวกเขาทําแบบเดียวกับที่เราคิดจะทําเลย”
ซึ่งเหว่ยพูดต่อว่า “นี่มันไม่สมเหตุผลเลย เว่ยกรุ๊ปแข็งแกร่งมากขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลให้คนอื่นทําแบบนี้”
หานหมิงอวี่เห็นด้วย “อืม สิ่งหนึ่งที่แน่นอน คนที่จัดการเรื่องนี้ย่อมมีอํานาจอยู่เบื้องหลังพวกเขาอย่างแน่นอน”
ในเป่ยจิงคนที่กล้าท้าเว่ยกรุ๊ปด้วยวิธีนี้สามารถนับได้ด้วยมือเดียว
และเมื่อคิดอยู่สักพักว่าใครจะสามารถนําความคิดเหล่านั้นไปปฏิบัติได้แต่ก็คิดไม่ออก
จํายหวินเชิงก็ขมวดคิ้วอย่างสงสัยเช่นเดียวกัน
ใครสักคนกําลังยุ่งกับเว่ยกรุ๊ป?
เป็นเรื่องบังเอิญงั้นเหรอ?
มีจุดประสงค์อะไรกันแน่?
วันรุ่งขึ้น มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับการฉ้อโกงทางการเงินของเว่ยกรุ๊ป
เมื่อเว่ยจีรี่ยตื่นขึ้นจากการนอนหลับ เขาก็ตกตะลึงราวกับมีสายฟ้าฟาดลงมาใส่เขา
มีข่าวมากมายเกี่ยวกับการฉ้อโกงทางการเงินของบริษัทต่างๆ
สิ่งที่ตามมาคือหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในเว่ยกรุ๊ปร่วงลงอย่างบ้าคลั่งหลังการเปิดตลาด และลดลงอย่างรวดเร็วภายในหนึ่งชั่วโมง
ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง มูลค่าตลาดของเว่ยกรุ๊ปลดลงถึงสองร้อยล้านหยวน
เว่ยฉีรุ่ยจัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการรับมือทันที
“ใครเป็นคนทํา? รายงานนี้มาจากไหน!”เว่ยจีรุ่ยตะโกน เขาโกรธจนตัวสั่นไปทั้งตัว
“เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญในการขุดข้อมูลภายในของบริษัทจดทะเบียน ชื่อบริษัทคือโปลัง บริษัทมีพนักงานประจําไม่เกินสิบคน แต่จํานวนพนักงานชั่วคราวมีมาก เนื้อหาหลักของบริษัทคือขุดค้นข้อมูลของบริษัทจดทะเบียน พวกข้อมูลปลอม และยังได้เงินจากการชอร์ตหุ้น”
บริษัทประเภทนี้มีอยู่จริง และบางบริษัทเคยเกี่ยวข้องมาก่อน
แต่ทว่าเว่ยจีรี่ยไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับเขา
“มีวิธีกู้คืนการสูญเสียของเราไหม?”
“มิสเตอร์เว่ย เราทําได้แค่ขอให้ทีมประชาสัมพันธ์ของเราพยายามช่วยให้เราฟื้นชื่อเสียงแต่ถ้าหากหันของเรายังคงตกต่อไปเรื่อยๆ ต่อไปมีความเสี่ยงที่บริษัทของเราจะถูกเพิกถอนได้”
“อาา นี่มันบ้าอะไรเนี่ย! บริษัทบ้านี้สมควรที่จะถูกนั่นเป็นพันครั้ง” เว่ยฉีรุ่ยสาปแช่ง