เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 745-746
บทที่ 745 ผู้อาวุโสเฟิง 2
ทุกคนคิดว่าผู้อาวุโสเฟิงอาจจะโกรธเจียนอหลิง
เฟิงเหว่ยเรียกเจียนอหลิง
“เสี่ยวหลิง”
เขาเอ่ยเรียกเธออย่างสนิทสนมด้วยสีหน้าที่เป็นมิตร ยิ่งไปกว่านั้นน้ําเสียงเขาก็นุ่มนวล ดูใจดี ด้วยเช่นเดียวกัน
เมื่อได้ยินชื่อของตัวเอง เจียนอหลังก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่เฟิงเว่ย
“ลุงเฟิง”
“เสี่ยวหลิง ฉันไม่คิดว่าเธอจะมารับฉันด้วย” เฟิงเหว่ยกล่าว ท่าทางของเขาต่างจากที่เว่ยฉุรุ่ยคาดไว้อย่างสิ้นเชิง
ไม่เพียงแต่เฟิงเหว่ยจะไม่ได้แสดงความไม่พอใจต่อเจียนอีหลิง ดูเหมือนว่าเขาจะค่อนข้างสนิทกับเจียนอหลิงอีกด้วย
สิ่งนี้ทําให้ทุกคนสับสนกันมาก
ผู้อาวุโสเฟิงกับเจียนอีหลิง?
เป็นไปได้ยังไง?
“ฉันไม่รู้ว่าเป็นลุง” เจี่ยนอีหลิงสารภาพ
เธอไม่ได้มาเพื่อทักทายเฟิงเหว่ยโดยเฉพาะ
เธอรู้ว่าเฟิงเหว่ยจะมาถึงเป่ยจิงบ่ายนี้ พี่ชายรองเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังคืน
แต่เธอไม่รู้ว่าคนที่จํายหวินเชิงและคนอื่นๆ กําลังรออยู่คือเฟิงเหว่ย
แม้ว่าเธอจะพูดแบบนั้น เฟิงเหว่ยก็ยังยิ้มต่อไป “เฮ้อ ทําไมเธอไม่โกหกฉันบ้างล่ะ”
“ไม่โกหกหรอก”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” เฟิงเหว่ยหัวเราะ “ไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ เสี่ยวหลิงยังคงซื่อตรงเสมอ”
การสนทนาระหว่างเฟิงเหว่ยและเจียนอีหลิงทําให้คนที่เหลือสับสน
ชายชราอ้วนถามเฟิงเหว่ยด้วยความประหลาดใจ “ผู้อาวุโสเฟิง คุณรู้จักคุณหนูอีหลิงงั้นเหรอ?”
“ใช่ ฉันกับพี่ชายของเธอเป็นเพื่อนกัน” เฟิงเหว่ยอธิบาย
เฟิงเหว่ยเจอกับเจียนหยุ่นโม่มาก่อน จากนั้นเขาก็พบกับเจียนอหลิง
หลังจากนั้น เขาก็อาศัยอยู่กับพี่ชายและน้องสาวบนเกาะลั่วไห่เซินเป็นเวลาหลายเดือน
พี่ชายของเจียนอีหลิงรู้จักเฟิงเหว่ยด้วยหรือ?
ไม่มีใครคาดคิดว่าตระกูลเจียนจะโชคดีแบบนี้
แม้ว่าเว่ยฉีรุ่ยจะคาดเดามาก่อน แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะคิดว่าเจียนอหลิงและเฟิงเหว่ยจะมีความสัมพันธ์ระหว่างกันเช่นนี้
จากนั้นจํายหวินเชิงถามเจี่ยนอีหลิง “ถ้าพี่ชายของเธอเป็นเพื่อนกับเขา แล้วทําไมเธอถึงเรียกเขาว่าลุงเฟิงล่ะ?”
เจียนอหลิงตอบ “เขาบอกว่าเรียกพี่แล้วมันดูแปลกๆ”
เดิมที เฟิงเหว่ยแก่กว่าเจียนหยุ่นโม่ไม่มาก และเจียนอหลิงก็อายุน้อยกว่าเจียนหยุ่นโม่มาก
ดังนั้น ในแง่ของอายุเฟิงเหว่ยอาจเป็นลุงของเจียนอีหลิงก็ได้
ถ้าเจียนอีหลิงเรียกเขาว่าพี่ เฟิงเหว่ยก็รู้สึกเหมือนว่าตัวเขาเองเป็นอันธพาล
เมื่อได้ยินดังนั้น จยหวินเชิงก็หันกลับมาเรียกเฟิงเหว่ย “ลุงเฟิง”
เฟิงเหว่ยเหลือบมองจํายหวินเชิง ใบหน้าของเขาคล้ายกระตุกเล็กน้อย
เฟิงเหว่ยพูดกับเจียนอหลิงอีกครั้ง “ยังไงก็ตาม พี่ชายของเธอกับฉันสร้างอุปกรณ์ใหม่ให้เธอเสร็จแล้ว”
ขณะที่พูด เฟิงเหว่ยก็เปิดกระเป๋าเดินทางของตัวเอง แล้วหยิบกระเป๋าใบเล็กกว่าออกมา
สิ่งของในกระเป๋าเดินทางทั้งหมดที่เขานํามาในครั้งนี้ ครึ่งหนึ่งเป็นของเจียนอหลิง
จากนั้นเฟิงเหว่ยก็มอบกล่องเล็กๆ ให้เจี่ยนอีหลิง
เจียนอหลิงเปิดกล่องที่ภายในเต็มไปด้วยอุปกรณ์ใหม่ครบครัน
อุปกรณ์พวกนี้ดูเหมือนวัตถุธรรมดาๆ
บางชิ้นดูเหมือนเครื่องประดับสําหรับสาวน้อย เช่น แหวน สร้อยคอ ต่างหู กิ๊บติดผม ที่คาดผม และบางชิ้นก็ดูเหมือนของเล่นเด็ก
ถึงแม้จะดูธรรมดา แต่จริงๆแล้วมันมีความลึกลับซ่อนอยู่
เทคโนโลยีหลักของอุปกรณ์เหล่านี้คือแบตเตอรี่แบบปุ่มซึ่งมีพลังงานไฟฟ้าที่สูงมาก
ด้วยการสนับสนุนของแบตเตอรี่นี้ พวกเขาสามารถสร้างอุปกรณ์พิเศษจํานวนมากที่มีขนาดเล็กและละเอียดอ่อน ซึ่งสะดวกต่อการพกพา
“พี่ชายของเธอบอกให้เธอสวมสร้อยข้อมืออิเล็กทรอนิกส์นี้ด้วย เขาบอกให้เปิดตอนกลางคืน ในตอนที่เธอนอนหลับ” เฟิงเหว่ยถ่ายทอดคําพูดของเจียนหยุ่นโม่
อะไรปกป้องเธอจากระหว่างที่หลับตอนกลางคืน?
ดูเหมือนว่าสร้อยข้อมืออิเล็กทรอนิกส์นี้จะเป็นชิ้นส่วนของอุปกรณ์ต่อต้านพวกหมาป่าด้วย
จากนั้นเฟิงเหว่ยก็ค่อยๆ อธิบายให้เจียนอหลิงฟังต่อ “พี่ชายของเธอยังบอกมาอีกด้วยว่า ถ้ามี คนทําเรื่องไม่ดีกับเธอ อุปกรณ์พวกนี้จะทําให้ร่างกายคนพวกนั้นชักกระตุก แต่เธอไม่ต้องกังวลมาก มันจะไม่ส่งพวกเขาไปที่ห้องฉุกเฉิน”
เมื่อได้ยินดังนั้น ชายชราอ้วนก็มองไปที่จํายหวินเฉิ่งด้วยความเป็นห่วง…
ถ้าใส่มันในตอนกลางคืน… ดูเหมือนว่าสร้อยข้อมือนี้น่าจะเล็งเป้าหมายไปที่จํายหวินเชิง…
บทที่ 746 ผู้อาวุโสเฟิง 3
เมื่อมองไปที่กล่องบนโต๊ะ ก็ยังมีอุปกรณ์ขนาดเล็กอื่นๆ อีกมากมายที่ดูธรรมดา แต่แท้จริงแล้วไม่รู้ว่ามีพลังที่แข็งแกร่งแบบใดที่ซ่อนอยู่
ทันใดนั้น ชายแก่อ้วนก็กังวลเกี่ยวกับชีวิตในอนาคตของนายท่านเชิง…
ชีวิตหลังแต่งงานของนายท่านเชิง…คงจะเป็นหลุมเป็นบ่อมากขึ้นใช่ไหม?
เจียนอหลิงหยิบสร้อยข้อมือขึ้นมาสวม แล้วเธอก็เก็บกล่องเล็กๆไป
จากนั้นทั้งห้าคนก็ไปรับประทานอาหารร่วมกันที่ร้านอาหาร
ระหว่างมื้ออาหาร เว่ยรุ่ยพยายามเอาชนะความโปรดปรานของเฟิงเหว่ย
แต่ไม่ว่าอย่างไร เฟิงเหว่ยก็มักจะเย็นชาและเฉยเมยต่อเว่ยจีรุยเสมอ
ตรงกันข้าม เขาแสดงความห่วงใยและกระตือรือร้นต่อเจียนอีหลิงเป็นอย่างมาก
ยังไงก็ตาม เจี่ยนอีหลิงก็ไม่ได้พูดคุยกับใครอย่างอบอุ่น เฟิงเหว่ยเองก็ไม่มีข้อยกเว้น
ทําให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารดูแปลกไปเล็กน้อย
หลังจากทานอาหารเสร็จ เว่ยจีรุ่ยก็เสนอจะส่งเฟิงเหว่ยกลับที่พัก แต่เฟิงเหว่ยก็ปฏิเสธข้อเสนอของเว่ยรุ่ย จากนั้นเขาก็พูดบอกเองว่าต้องการกลับไปกับเจี้ยนอีหลิง
เจียนอหลิงมากับจํายหวินเชิง ดังนั้น จ๋ายหวินเซึ่งก็ต้องส่งเฟิงเหว่ยกลับไป
ด้วยเหตุนี้ จํายหวินเชิงจึงมีหน้าที่ขับรถ ในขณะที่เฟิงเหว่ยและเจียนอีหลังคุยกันอยู่นั่งเบาะหลัง
เบาะหน้าและเบาะหลังสามารถปิดกั้นกันได้ เฟิงเหว่ยตั้งใจทําแบบนี้เพื่อไม่ให้จ่ายหวินเชิงที่กำลังขับรถอยู่มาได้ยินการสนทนาระหว่างเขากับเจียนอีหลิง
เมื่อกี้ เว่ยฉีรุ่ยและชายชราอ้วนก็อยู่ด้วย ดังนั้นจึงไม่สะดวกสําหรับเฟิงเหว่ยที่จะพูดคุยกับเจียนอีหลิง แต่ตอนนี้ไม่มีคนอื่นแล้ว ในที่สุดเขาก็สามารถพูดอะไรก็ได้
“เสี่ยวหลิงทําไมเธอถึงมาอยู่กับคนของสมาคมจงอี้” เฟิงเหว่ยถามอย่างสงสัย
“ฉันหมั้นกับอาเชิงแล้ว” เจียนอหลิงตอบ
“อ่อ ได้ยินเรื่องหมั้นจากพี่ชายรองของเธอแล้ว แล้วจากนั้นเขาก็วิ่งไปตัดต้นไม้ใกล้โรงพยาบาลกลางดึกเพราะเรื่องนี้”
เจียนหยุ่นโม่จะทําอะไรได้อีก เขาสู้จํายหวินเชิงไม่ได้ ถ้าทําแบบนั้นน้องสาวก็จะล่าบากใจ เขาเลยทําได้แค่ตัดต้นไม้เพื่อระบายความโกรธเท่านั้น
“แต่ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ทําไมเธอถึงชอบจํายหวินเชิง เพราะเขาหล่อเหรอ?” เฟิงเหว่ยถาม เขาสงสัยว่าเจียนอหลิงมาคบกับจํายหวินเซึ่งได้ยังไง
จํายหวินเฉิ่งมีชื่อเสียงที่ไม่ค่อยดีนักในเป่ยจิง
นอกจากเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างหญิงชาย ในอีกหลายแง่มุม เขาก็ยังเป็นคนที่ดูออกนอกลู่นอกทางอีกด้วย
เฟิงเหว่ยรู้จักปู่ของจํายหวินเชิง นอกจากนี้เขายังมีความสัมพันธ์บางอย่างกับสมาคมจงอี้ และยังมีหลายค่าที่เขาไม่สามารถอธิบายให้เจียนอหลิงฟังได้
และนี่คือเหตุผลบางส่วนที่เว่ยรุ่ยและคนอื่นๆ ปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพ
ยังไงก็ตาม เฟิงเหว่ยไม่ค่อยมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับจํายหวินเชิงที่จะเป็นหัวหน้าคนต่อไปของตระกูลจ่าย
“เขาหล่อ แล้วก็เป็นคนดีด้วย” เจี่ยนอีหลิงตอบ
เจียนอหลิงยอมรับว่าจํายหวินเซึ่งเป็นคนหน้าตาดี ในบรรดาผู้ชายที่เจียนอหลิงเคยเห็นจํายหวินเชิงมีเสน่ห์มากที่สุด หัวใจของเธอเต้นแรงทุกครั้งที่มองเขา
“อาา ถ้าเธอชอบเขาก็ไม่เป็นไร เขาก็ดูดี อย่างน้อยก็เป็นคนที่ดูดีมีเสน่ห์ ดูสบายตา”
เฟิงเหว่ยไม่คิดว่าจะมีปัญหาใหญ่อะไร แต่เขาก็ยังเข้าใจความเศร้าของเจี่ยนหยุ่นโม่
ยังไงก็ตาม น้องสาวคนเล็กที่น่ารักคนนี้ดันถูกหมาป่าขโมยไป และกําลังจะโดนหมาป่าตัวนั้นกัดกินทีละคํา แค่คิดเจี่ยนหยุ่นโม่ก็เจ็บปวดใจแล้ว
จากนั้นเฟิงเหว่ยก็ถามเจี่ยนอีหลิงต่อ “ว่าแต่การพัฒนา TXG-48 เป็นยังไงบ้าง?”
ก่อนที่เจียนอหลิงจะมาที่เป่ยจิง เธอเคยร่วมงานกับทีมวิจัยเพื่อพัฒนายาตัวใหม่นี้
“อยู่ในคลินิกระยะที่ 2 ดําเนินการไปได้ด้วยดี”
“ครั้งนี้ขอส่วนแบ่งหน่อยได้ไหม?”
“ไม่ได้”
“คราวนี้เธอปฏิเสธฉันเร็วจัง? ฉันคิดว่าอย่างน้อยเธอน่าจะคิดเรื่องนี้สักหน่อย”
“ฉันหมั้นแล้ว ฉันต้องประหยัดเงินไว้กับอาเชิงจํานวนหนึ่ง” เจียนอีหลังตอบ
“เจ้าคนชอบเงินตัวน้อย แล้วเธอจะต้องเสียเงินจริงๆ”
ยังไงก็ตาม นี่ไม่ใช่แค่วันสองวันที่เจี่ยนอีหลิงจะเป็นคนรักเงิน
ในการก่อตั้งโรงพยาบาลพิเศษขนาดใหญ่อย่างลั่วไห่เซิน เธอสามารถคํานวณทุกบัญชีได้อย่างแม่นยํา