เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 743-744
บทที่ 743 พี่ชายเจ็บใจ
“มันไม่ใช่แบบนั้น”
ห้าค่านี้ถูกบีบออกมาจากระหว่างฟันของจํายหวินเชิง
แต่ทว่า ท่านผู้เฒ่าจ่ายไม่สนใจต่อความคิดเห็นของจํายหวินเชิงแม้แต่น้อย ในทางกลับกัน เขาพูดต่อว่า “ฉันเข้าใจว่าพวกแกยังเด็กและแข็งแรง แต่ว่ายังมีเวลาอีกเหลือเฟือสาหรับเรื่องนั้น แกต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป และที่สําคัญต้องคํานึงถึงร่างกายของแกเป็นหลัก
เมื่อได้ยินดังนั้น จ๋ายหวินเชิงก็วางสายทันที และไม่ให้โอกาสของเขาได้พูดอีกต่อไป
อาา ปู่เริ่มรําคาญมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ทว่า คําพูดของปู่กลับมีเหตุผลเล็กน้อย
กระต่ายน้อยชอบอะไรบ้าง?
ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ชอบเสื้อผ้า หรือเครื่องประดับอะไรเป็นพิเศษ
ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่มีงานอดิเรกเป็นพิเศษอะไรเลย
เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทํางาน
หรือจะให้พูดตามตรง ถ้าเธอชอบทําอะไรสักอย่าง สิ่งนั้นอาจจะทําให้ตัวเองเหนื่อยเป็นอย่างมาก และเธอก็ชอบฝึกพลังกระต่ายของตัวเอง โดยการทําตาแดงอยู่ตลอดเวลา และสิ่งเหล่านี้นี่เองที่ทําให้เธออ่อนล้า
อื่ม…เขาต้องคิดแก้ปัญหานี้เสียแล้ว
[อาวุธป้องกันตัวมีประโยชน์ไหม?] เจียนหยุ่นโม่ส่งข้อความถึงเจี่ยนอีหลิง
[คือ พวกมันค่อนข้างใช้งานง่ายมาก]
ก็ดีแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ฉันกับลุงเฟิงได้ทําอย่างอื่นไว้ให้เธอด้วย แล้วจะส่งให้เธอเมื่อเขาไปถึงที่นั่น ซึ่งเที่ยวบินน่าจะถึงเป่ยจิงวันพรุ่งนี้ตอนบ่ายโมง]
(นายไม่มางั้นเหรอ?] เจียนอีหลิงถาม เธอคิดถึงเจี่ยนหยุ่นโม่นิดหน่อย
[ฉันจะยังไม่กลับในช่วงนี้
เจียนหยุ่นโม่กังวลว่าเขาจะทะเลาะกับจ่ายหวินเชิง
แม้ว่าเขาจะสนับสนุนการตัดสินใจของน้องสาว แต่เขาก็ยังโกรธเมื่อเห็นจํายหวินเชิง
และถ้าหากพวกเขาทะเลาะกัน เจียนอหลิงจะเป็นคนที่เสียใจมากที่สุด
ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจไม่กลับไป เมื่ออยู่ไกลก็จะไม่เห็นสิ่งที่เจ็บปวด
[นายยังโกรธอยู่อีกเหรอ?]
เธอไม่ได้บอกเขาล่วงหน้า ว่าเธอก่าลังจะหมั้นกับจ่ายหวินเชิง…
[ฉันไม่ได้โกรธ และไม่เคยโกรธด้วย แต่ว่าใจฉันมันเจ็บ มันเจ็บมาก]
น้องสาวของเขาถูกลูกหมาป่าขโมยไป แล้วหัวใจจะไม่เจ็บได้ยังไง?
[ฉันขอโทษ]
[เด็กโง่ เธอจะขอโทษทําไม? สิ่งที่สําคัญที่สุดคือฉันอยากให้เธอมีความสุข ได้ทําตามหัวใจตัวเอง อย่าเป็นห่วงไปเลย เพราะหัวใจของฉันทําด้วยเหล็ก ซึ่งความเจ็บปวดไม่มีผลกับฉันมากขนาดนั้น]
[แต่หัวใจของนายทําจากเนื้อ และมันนิ่มมาก]
Tใช่ ใช่ ฉันมีหัวใจที่อ่อนโยนสําหรับเธอเสมอ เพราะฉะนั้น โปรดดูแลตัวเองให้ดีในช่วงเวลาที่เธอพักอยู่เป่ยจิง และถ้าเธอทําร้ายตัวเอง หัวใจของฉันจะเจ็บปวดมาก]
โอ๋อ ฉันจะดูแลตัวเอง]
[นอกจากนี้ อย่าให้จํายหวินเชิงฉวยโอกาส ห้ามกอดหรือจุบเด็ดขาด
[เราจูบกันแล้ว] เจียนอีหลิงตอบตามตรง
[อาา หัวใจเจ็บอีกแล้ว ฉันต้องใจเย็นๆ และได้โปรดอย่าพูดถึงจํายหวินเชิงในตอนนี้ ฉันกลัว ว่าถ้าร่างกายของฉันสั่นตอนที่ฉันทําการทดลอง ฉันอาจจะสร้างอาวุธชีวภาพขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
เช้าตรู่ของอีกวัน จ่ายหวินเชิงพาเจียนอหลิงไปหาใครสักคน
ระหว่างทาง จํายหวินเชิงได้อธิบายให้เจี้ยนอหลิงฟังว่า “เรากําลังไปพบผู้อาวุโส เขามีความสัมพันธ์บางอย่างกับสมาคมจงอี้ ซึ่งพวกเขาบอกเราว่ากําลังจะถึงเป่ยจิงในบ่ายของวันนี้”
“ตกลง” เจียนอหลิงตอบ เธอไม่ได้ถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ถ้าจํายหวินเจ๋งกําลังพาเธอไปพบใครสักคน ซึ่งเธอก็จะไปเจอเขา และไม่จําเป็นต้องรู้ว่าต้องพบกับใคร เพราะนั่นไม่สําคัญสําหรับเธอเลย
เมื่อพวกเขามาถึง เว่ยรุ่ยและชายชรารูปร่างอ้วนเล็กน้อย ที่พวกเขาเคยพบมาก่อนก็มาถึงเช่นเดียวกัน
ที่นี่คือร้านอาหารที่อยู่ใกล้สนามบิน และพวกเขานัดเจอกันที่นี่
ดูเหมือนว่าบุคคลนี้ค่อนข้างสําคัญสําหรับสมาคมจงอี้ ท้ายที่สุดแล้ว สมาชิกที่สําคัญที่สุดหลายคนของพันธมิตรก็ได้เข้ามาทักทายเขาด้วยตัวเอง
เมื่อเว่ยจีรุ่ยเห็นเจียนอีหลิง บนใบหน้าของเขาก็ปรากฎรอยยิ้มดูถูกเหยียดหยาม
“สวัสดี นายท่านเชิงและคุณหนูอีหลิง” แม้ว่าเว่ยจีรี่ยจะทักทายพวกเขาด้วยคําสุภาพ แต่น้ําเสียงและท่าทางไม่ได้แสดงความเคารพแม้แต่น้อย
บทที่ 744 ผู้อาวุโสเฟิง 1
จากนั้น เว่ยฉีรุ่ยก็กล่าวกับนายท่านเชิงว่า “นายท่านเชิง ผู้อาวุโสเฟังเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นคนที่เข้มงวดมาก เขาคงจะทนไม่ได้กับสายตาที่แข็งกระด้าง นอกจากนี้ เขาไม่ชอบบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง เพราะนั่นจะทําให้เสียเวลา และเวลาของเขามีค่ามาก ผมเกรงว่า…”
เว่ยฉุรุ่ยจ้องมองไปที่เจี่ยนอีหลิง ซึ่งความหมายของคํานั้นไม่ค่อยชัดเจนมากนัก
เมื่อเร็วๆนี้ เว่ยฉีรี่ยได้แสดงความกล้าออกมามากขึ้นเรื่อยๆ
ในขณะที่ตระกูลเว่ยแข็งแกร่งขึ้น เขาจึงไม่สนใจตระกูลจํายอีกต่อไป
เมื่อได้ยินอย่างนี้ จ่ายหวินเชิงก็ตอบกลับอย่างใจเย็น “เธอคือผู้นําตระกูลหญิงของตระกูลจ่ายของฉัน ดังนั้น ทําไมเธอถึงเป็นบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง? เว่ยจีรุ่ย คุณกําลังดูถูกผู้น่าตระกูลหญิงของตัวเองงั้นเหรอ? คุณหลงทางมากเกินไป หรือเป็นฉันที่ตีความจากคําพูดของคุณผิดไปเอง?”
เว่ยจีรุ่ยอธิบายว่า “อึม ผมแค่คิดว่าผู้อาวุโสเฟิงอาจจะไม่พอใจ และไม่ได้หมายถึงอย่างอื่นเลย ซึ่งผมไม่สามารถดูถูกผู้นําตระกูลหญิงของตระกูลจ่ายได้อย่างแน่นอน”
เว่ยฉีรุ่ยกล่าวออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
จํายหวินเชิงตอบกลับ “คุณรู้ได้ยังไงว่าเขาจะไม่พอใจ?”
เมื่อชายชราอ้วนเห็นสถานการณ์ เขาจึงพยายามแก้ไขความขัดแย้งทันที “นายท่านเชิงได้โปรดอย่าโกรธเลย ฉีรุ่ยไม่รู้ว่าจะพูดออกมายังไง แต่เราทุกคนรู้ว่าอารมณ์ของผู้อาวุโสเฟิง ค่อนข้างจะแปลกจริงๆ”
อันที่จริง เขาเป็นคนแปลกประหลาด
เขาคนนี้มีนิสัยแปลกๆ ไม่ว่าจะเป็นใครหรือใหญ่มาจากไหน เขาไม่เคยแสดงความเคารพแม้แต่น้อย และต่อให้เป็นผู้เฒ่าจําย เขาก็ไม่เคยพูดจาดีๆเลยสักครั้ง
แม้ว่าจะเป็นคนที่มีลักษณะนิสัยประหลาด แต่ก็เป็นบุคคลที่น่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก
เขาเป็นประธานสมาคมที่ลึกลับมากต่อโลกภายนอก
ในทางกลับกัน แทนที่จะให้ความสนใจกับบทสนทนา เจียนอหลิงนั่งลงบนที่นั่งและเปิดคอมพิวเตอร์ ซึ่งเธอกําลังยุ่งอยู่กับการจัดเรียงบางสิ่ง
ร้านอาหารนี้ค่อนข้างพิเศษ โดยสถานที่แห่งนี้จะไม่รับแขกธรรมดาทั่วไป ดังนั้น จึงมีเพียงบุคคลที่มีสถานะพิเศษเท่านั้นถึงจะสามารถเข้าได้
ดังนั้น เวลานี้ พวกเขาเป็นคนกลุ่มเดียวในร้านอาหาร ซึ่งเป็นสถานที่เงียบสงบเหมาะกับการทํางานในสํานักงานอย่างมาก
ในขณะที่เธอกําลังจดจ่ออยู่กับงานของตัวเอง เจียนอีหลิงไม่ได้ยินแม้แต่คําเดียวที่เว่ยจีรุ่ยพูดออกมา
สักพักก็มีคนเข้ามาในร้านอาหาร
คนผู้นี้เป็นชายวัยกลางคนสวมสูทสีอ่อน กําลังเดินเข้ามาในร้านอาหาร
ผู้ชายคนนี้ดูสง่างาม และมีท่าทางที่ไม่ธรรมดา
เขาลากกระเป๋าเดินทางสีดาอยู่ในมือของเขา
ทันทีที่เขาเดินเข้าไป คนในร้านอาหารก็ก้มหัวและทักทายด้วยความเคารพ
“ผู้อาวุโสเฟิง”
แม้แต่เว่ยรุ่ยและชายชราอ้วนเล็กน้อย ก็มุ่งหน้าไปยังชายวัยกลางคนอย่างรวดเร็ว
แต่ทว่า เจียนอหลิงยังคงยุ่งอยู่กับงานของเธอ และไม่สังเกตเห็นใครเข้าในร้านอาหาร
เมื่อถึงเวลามิสเตอร์เฟิงก็เดินมาที่โต๊ะ แต่เธอก็ยังก้มหน้าอยู่ ราวกับว่าเธอกําลังยุ่งกับบางสิ่งที่สําคัญ
“ผู้อาวุโสเฟิง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ” ชายชราอ้วนเล็กน้อยพูดขึ้น พร้อมจับมือกับเฟิงเหว่ย และรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
เว่ยฉีรุ่ยก็เริ่มทักทายเฟิงเหว่ยเช่นเดียวกัน “ผู้อาวุโสเฟิง การมาที่นี่ด้วยเครื่องบินคงเป็นการเดินทางที่ยาวนานมาก ท่านคงจะเหนื่อยมาก”
แต่ทว่า เฟิงเหว่ยไม่ตอบสนองต่อทั้งสองคน แต่สายตาของเขาจ้องไปที่เจี่ยนอีหลิง ซึ่งเธอยังคงทํางานของตัวเองอยู่
เมื่อเห็นว่าเพิ่งเหว่ยกําลังจ้องไปที่เจี่ยนอีหลิง ชายชราอ้วนเล็กน้อยก็รีบอธิบายตัวตนของเจียนอีหลิงทันที “นี่คือคู่หมั้นของนายท่านเชิง เธอเป็นผู้นําตระกูลหญิงของตระกูลจ่ายในอนาคตครับ”
ชายชราอ้วนเล็กน้อยยังกังวลว่าเพิ่งเหว่ยจะเข้าใจผิดสถานการณ์ ซึ่งเขาไม่ต้องการให้ผู้อาวุโสเฟิงคิดว่าเจียนอีหลิงเป็นคนไม่สําคัญ
เฟิงเหว่ยไม่ได้พูดอะไรออกมา ในทางกลับกันเขายังคงจ้องมองเจียนอหลิงต่อไป
สีหน้าของเฟิงเหว่ยทําให้เว่ยฉีรุ่ยยิ้มออกมา “ผู้อาวุโสเฟิง คุณหนูอหลิงยังเด็กอยู่ และนั่นเป็นสาเหตุที่เธอไม่คิดอะไรมาก ได้โปรดอย่าตําหนิเธอเลย”
เมื่อได้ยินอย่างนี้ จ่ายหวินเชิงตอบทันทีว่า “เธอเป็นผู้นําตระกูลหญิงในอนาคตของตระกูลจําย เธอไม่จําเป็นต้องคิดมาก”
“นายท่านเชิง ท่านตามใจคู่หมั้นมากเกินไปแล้ว และนั่นจะไม่เป็นผลดีสําหรับตัวเธออย่างแน่นอน”
“อืม มันเป็นเรื่องของตระกูลจํายไม่ใช่เรื่องของคุณ?”
เว่ยรุ่ยกัดฟันจนแน่น และเขาทําได้เพียงกลืนคําพูดของตัวเองกลับมาเท่านั้น
อาา [เราจูบกันแล้ว]