เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 739-740
บทที่ 739 อาวุธ ป้องกันตัวที่มีประสิทธิภาพร้ายแรง 1
จากนั้น หยางเยว่ก็หันหน้ามาเพื่อพูดกับฉันหยุฝานว่า “ฉันต้องขอโทษเกี่ยวกับเหตุการณ์การลักพาตัวด้วย ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทําให้เธอตกใจ แล้วก็ไม่ได้ตั้งใจจะทําร้ายเธอ”
“ไม่ใช่ฉันที่ป่าควรจะขอโทษ แต่เป็นนายท่านเชิงและฉินชวนที่เกือบตาย” ฉินหยุฝานกล่าว
เมื่อได้ยินดังนั้น หยางเยว่ก็ตอบกลับอย่างเยือกเย็น “ฉันไม่ใช่คนดี ฉันแค่ต้องการปกป้องสามีและคนที่ฉันรัก ฉันไม่สนคนอื่นทั้งนั้น”
“ป้าควรมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ได้แล้ว โทษจะได้น้อยลง” ฉินหยฝานกล่าว
วันนี้ฉันหยุฝานมาเพื่อเกลี้ยกล่อมหยางเยว่ ให้มอบตัวกับเจ้าหน้าที่
หยางเยว่กําลังจะตกลงเมื่อฉันหงรุ่ยพูดกับพ่อบ้านทันที “พ่อบ้าน จับหยุฝานและคุณหนูอีหลิงไว้อย่าปล่อยให้พวกเขาออกไปได้ และถอดอุปกรณ์สื่อสารทั้งหมดออกด้วย”
“ลุง!?”
“หยุฝานลุงขอโทษด้วย ลุงไม่สามารถปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับป่าได้ ยิ่งไปกว่านั้นลงปล่อยเธอไปไม่ได้ เว้นแต่จะแน่ใจได้ว่าเธอจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้ให้ใครรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณหนูอีหลิงที่เป็นคู่หมั้นของจํายหวินเชิง ป้าของเธอคิดที่จะใส่ร้ายนายท่านเชิง เขาคงจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปอย่างแน่นอน”
“แต่ป้าทําผิด ไม่ควรให้อภัย” ฉันหยุฝานพูดขณะพยายามเกลี้ยกล่อมลุงของตน
“หยุฝาน ลุงแต่งงานกับป้ามาหลายปีแล้ว เธอคือชีวิตของลุง”
เมื่อได้ยินแบบนี้ สายตาของฉันหยุฝานก็มีเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
เธอไม่อยากเป็นแบบนี้ ไม่อยากเป็นศัตรูกับลุงกับป้าของตัวเอง
หลังจากที่ความสัมพันธ์เธอกับพ่อของเธอจบลง ลุงและป้าคือคนที่ใกล้ชิดเธอที่สุด
“
พ่อบ้านก้าวไปตรงหน้า
ฉินหยฝานก้าวไปขวางตรงหน้าเจี้ยนอีหลิงและพูดว่า “อย่าแตะต้องเธอ”
จากนั้นฉันหยุฝานก็พูดกับเจียนอีหลิงว่า “อีหลิงดูเหมือนฉันจะดึงเธอเข้ามายุ่งกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแล้วสิ”
หลังจากที่พวกเขารู้ความจริงแล้ว ฉันหยุฝานก็ยืนกรานที่จะมาหาหยางเยวและชักชวนให้หยางเยวมอบตัว
อย่างที่เจียนอีหลิงว่าไว้ มันอาจจะไร้ประโยชน์
แต่เธอกลับไม่ฟัง
สุดท้ายเจียนอีหลิงไม่เพียงไม่หยุดเธอ แต่ยังเลือกที่จะไปกับเธอด้วย
“ไม่เป็นไร” เจียนอีหลิงตอบอย่างใจเย็น
พ่อบ้านเดินไปตรงหน้าเพื่อจับฉินหยฝานก่อน และจับมือของฉันหยุฝานไขว่ไว้ข้างหลัง
จากนั้นเขาก็เดินไปที่เจี่ยนอีหลิง
เมื่อฉันหยุฝานเห็นแบบนี้เธอก็ขอร้องฉินหงรุ่ย “อย่าแตะต้องเธอ ลุงได้โปรดปล่อยเธอไปเถอะ จับหนูไว้คนเดียวพอ”
เฉินหงรุ่ยไม่ฟัง ส่งสัญญาณให้พ่อบ้านจัดการต่อ
ยังไงก็ตาม เหตุการณ์ต่อไปเป็นสิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึง
ทันทีที่พ่อบ้านแตะไหล่ของเจียนอีหลิงก็เหมือนถูกไฟฟ้าดูด ร่างเขากระตุกก่อนจะล้มลงบนพื้น
แม้แต่ฉันหยุฝานก็ยังผงะ เธอมองเจียนอีหลิงด้วยความประหลาดใจ
“อุปกรณ์ป้องกันตัว มีกระแสไฟในระดับที่ปลอดภัย อย่างมากที่สุดจะทําให้เกิดอาการชักและโคม่า “เจียนอีหลิงอธิบายด้วยน้ําเสียงที่เยือกเย็น
“อุปกรณ์ป้องกันตัว?” เป็นครั้งแรกของฉันหยุฝานที่เห็นอุปกรณ์ป้องกันตัวประเภทนี้
เธอไปเอามาจากไหน?
บนไหล่ของเจี่ยนอีหลิงดูเหมือนไม่มีอะไร มีแต่ปุ่มที่ดูเหมือนของตกแต่งเท่านั้น
ปุ่มนี้ดูเหมือนจะไม่มีความจุในการเก็บพลังงานมากนัก
และด้วยเหตุนี้ฉินหงรุ่ยจึงสั่งให้ลูกน้องเข้าใกล้เจี่ยนอีหลิงอีกครั้ง
ในตอนนั้นเองเจี่ยนอีหลังหยิบเอายางสีดําที่เหมือนแท่งไม้ออกมาจากกระเป๋ากางเกง มันบางมาก บางยิ่งกว่านิ้วก้อยของเธอด้วยซ้ํา
เจียนอีหลิงยืดออก ส่วนที่ยืดออกจะเป็นโลหะสีเงินขาว
เดิมที่มันยาวแค่นิ้วเดียว แต่สามารถยึดได้ยาวถึงห้าสิบเซนติเมตร
“อย่าขยับ มันเปิดเครื่องอยู่” เจียนอีหลิงพูดพร้อมกับถือแท่งเหล็กเรียวยาวอยู่ในมือ
แต่ทว่าลูกน้องของฉันหงรุ่ยไม่ฟังคําพูดเธอพวกเขารีบวิ่งเข้ามาหาเธอทันที
เจียนอีหลิงโบกแท่งโลหะเรียวในมือ
บทที่ 740 อาวุธป้องกันตัวที่มีประสิทธิภาพร้ายแรง 2
เมื่อแท่งโลหะสัมผัสคู่ต่อสู้ ฝ่ายตรงข้ามก็กระตุกสองสามครั้งแล้วล้มลงทันที
อาการคล้ายกับกระบองไฟฟ้าทั่วไป
แต่ทว่าแท่งโลหะนี้สะดวกมากสําหรับเจียนอีหลิงในการพกพา
หากส่วนที่เป็นโลหะของแท่งสัมผัสใคร กระแสไฟฟ้าที่แห่งนั้นจะทําให้ร่างกายของอีกฝ่ายกระตุกและล้มลง
ดังนั้น พวกลูกน้องและบอดี้การ์ดจึงไม่สามารถเข้าใกล้เจี่ยนอีหลิงได้เลย
คนที่เข้ามาก็ล้มลงต่อหน้าเจียนอีหลิง
เจียนอีหลิงเป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ เธอถือแท่งโลหะบางๆอยู่ในมือ และเธอยังเอาชนะลูกน้องหลายคนในบ้านของตระกูลฉินได้
เมื่อฉันหยุฝานเห็นเช่นนี้ ก็มีประโยคหนึ่งปรากฏขึ้นในใจเธอ ถ้าความสามารถในการต่อสู้อ่อนหัดแค่มีอาวุธก็สามารถพลิกสถานการณ์ได้
แม้ว่าเจียนอีหลิงจะไม่แข็งแรง แต่เธอก็มีอาวุธอยู่ในมือ ไม่มีใครสามารถเข้าใกล้เธอได้
คนที่จับฉินหยุฝานก็ล้มลงกับพื้นเช่นเดียวกัน และฉินหยุฝานก็เป็นอิสระอีกครั้ง
“เธอเตรียมของพวกนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” ฉันหยุฝานถามด้วยความสงสัย
ก่อนจะมาฉินหยฝานไม่รู้ด้วยซ้ําว่าเจียนอีหลิงแบกของพวกนี้มาด้วย
“พี่หยู่เจี๊ยบอกให้ฉันพกอาวุธป้องกันตัวไว้” เจียนอีหลิงตอบ
แต่ทว่าอุปกรณ์ป้องกันตัวที่เจียนหยู่เอี่ยมอบให้เธอนั้นไม่ได้ค่อยจะได้ผลดีเท่าไร
สิ่งที่เธอมีได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสําหรับเธอ
เธอพกมันติดตัวไปด้วยเสมอ แต่ทว่าอุปกรณ์ดังกล่าวถูกปิดและเก็บไว้อยู่ เว้นแต่เธอจะตกอยู่ในอันตรายเจี่ยนอีหลิงจะถึงเปิดสวิตช์
เนื่องจากเธอเตรียมใจก่อนที่จะมา วันนี้เจี้ยนอีหลิงจึงเปิดสวิตช์ไว้ล่วงหน้า
“สิ่งเล็กๆแบบนี้มีพลังขนาดนั้นได้ยังไง” ฉินหยุฝานถาม
“มีแบตเตอรี่พิเศษ”
แบตเตอรี่พิเศษ?
นั่นหมายความว่าแบตเตอรี่นี้ทํางานได้ดีกว่าแบตเตอรี่ในท้องตลาดใช่ไหมนะ?
นี่เป็นครั้งแรกของฉันหยุฝานที่ได้เห็นแบตเตอรี่ขนาดเท่านี้ ที่ปล่อยกระแสไฟฟ้าอันแข็งแกร่งออกมาได้มากมาย
ในขณะที่ฉินหงรุ่ยยังคงพยายามคิดหาวิธีปราบเจียนอีหลิง ในขณะนั้น ผู้คนที่รออยู่ด้านนอกก็บุกเข้ามา
แน่นอนว่ารวมถึงจํายหวินเชิงและฉันชวน
แถมพ่วงเจ้าหน้าที่ตํารวจอีกด้วย
“พวกเธอ…”
เมื่อเห็นฉันชวน ฉันหยุฝานและจํายหวินเชิงยืนอยู่ด้วยกัน ฉันหงรุ่ยก็มีใบหน้าที่แปลกใจ
เขาไม่เคยคิดว่าสามคนนี้จะยืนอยู่ด้วยกัน
ฉันชวนและฉินหยฝานมีความขัดแย้งระหว่างพวกเขา จํายหวินเจ๋งก็ไม่ถูกกับพี่น้องฉันเช่นเดียวกัน สองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนในเป่ยจิงต่างก็รู้ดี
แต่ทว่า วันนี้ทั้งสามกลับยืนอยู่ด้วยกัน
ตรงกันข้ามกับสิ่งที่หยางเยว่คาดไว้ในตอนแรก
ฉินหยฝานพยายามเกลี้ยกล่อมลุงเธออีกครั้ง “ลุงอย่าทําอะไรที่ไร้ประโยชน์อีกเลย เราเตรียมการมาหมดแล้ว อีหลิงกับหนูเข้ามาเพื่อคุยกับลุงก่อน และต้องการฟังเรื่องทั้งหมดจากปากของลุงเท่านั้น”
หยางเยว่ก้าวไปตรงหน้าและพูดว่า “ฉันยอมรับในสิ่งที่ฉันทํา แต่สามีฉันไม่เกี่ยวข้องกับเรื่อง
“หยางเยว” ฉินหงรุ่ยร้องออกมาด้วยความตกใจ และเขาก็ตกลงมาจากเตียง
เมื่อเห็นแบบนี้หยางเยวรีบวิ่งกลับไปหาสามีและช่วยให้เขาลุกขึ้น “อย่ากังวล ฉันรู้ว่าฉันทําอะไรผิด ดังนั้น ฉันยินดีที่จะรับผลที่ตามมา ไม่ว่ายังไงก็ตามถ้าฉันมีโอกาสได้กลับไปเลือกอีกครั้ง ฉันก็จะยังคงทําแบบเดิม ความเกลียดชังของฉันที่มีต่อฉินหงจื้อนั้นมากเหลือเกิน”
ในนิยายต้นฉบับไม่มีโรงพยาบาลรั่วไห่เซิน และในขณะนี้ฉินหงรุ่ยได้ตายไปแล้ว
แต่ทว่าหยางเยว่ก็ยังคงทําแบบเดิม
นี่เป็นเพราะนอกจากจะป้องกันไม่ให้ฉันหงรุ่ยเข้ารับการรักษาแล้ว ฉันหงจื้อยังเคยทําอีก หลายสิ่งหลายอย่างที่ทําให้หยางเยว่โกรธแค้น
ดังนั้น เมื่อสามีเธอเสียชีวิตในนิยายต้นฉบับ ความโกรธแค้นของหยางเยว่ก็ถูกปลดปล่อยออกมา
แม้ว่าคราวนี้จะมีอะไรที่แตกต่างออกไป แต่หยางเยว่ก็ยังตัดสินใจทําแบบเดิม