เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 703-704
บทที่ 703 เข้ากับพี่อี้เหิง 4
คําพูดเหล่านี้ท่าให้เจี่ยนอี้เพิ่งหยุดครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
เจี่ยนอหลิงเข้ากับคนได้ง่ายงั้นเหรอ?
แต่อย่างน้อยๆสองวันมานี้ เธอก็ดูค่อนข้างจะเข้ากันได้ง่าย เธอไม่พูดมาก และไม่จซื้อะไรเกี่ยวกับเขา นอกจากนี้ เธอไม่มีตรรกะหรือเหตุผลแปลกๆ แล้วทําอาหารก็เก่งและอร่อยสุดๆอีกด้วย
แต่อคติของเจี่ยนอี้เหิงที่มีต่อเด็กผู้หญิงนั้นฝังรากลึก
ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นเรื่องยากสําหรับเขาที่จะเปลี่ยนมุมมองเพียงเพราะเขาโต้ตอบกับเจียนอหลิงในเวลาแค่สองสามวัน
“นายถูกยิงเมื่อสี่ห้าปีที่แล้วเหรอ?” เจี่ยนอีหลิงอ้าปากถามเจี่ยนอี้เหิงทันที
ดูเหมือนว่าที่เจี้ยนอีหลิงจ้องไปที่เจี่ยนอี้เหิงเมื่อกี้นี้ ไม่ใช่ที่กล้ามเนื้อหน้าท้อง หรือกล้ามหน้าอก แต่เธอมองดูที่แผลเป็น
เจียนอี้เพิ่งมองลงไปที่บาดแผลบนไหล่ของตัวเอง
เขาเคยถูกกระสุนลูกหลงเมื่อตอนที่อยู่ในพื้นที่สงคราม
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อห้าปีที่แล้วจริงๆ
แต่ทว่า เขาไม่เคยเล่าให้ครอบครัวฟังเลย
เมื่อเจียนอี้เฉินเห็นรอยแผลเป็นก้อนใหญ่นี้ เขาก็บอกว่าเขาถูกกิ่งไม้แทง ไม่ได้บอกว่าเขาถูกยิง
“เธอรู้ได้ยังไง?” เจี่ยนอี้เพิ่งถามเจี่ยนอีหลิง
แต่สําหรับเจียนอหลิง บาดแผลจากกระสุนปืน และบาดแผลอื่นมีความแตกต่างกัน อย่างชัดเจน ดังนั้นการโกหกของเจี่ยนอี้เหิงหลอกได้เพียงเจี่ยนอี้เฉินที่ไม่รู้เรื่องทางการแพทย์เท่านั้น
“จริงแหรอ? พี่ใหญ่ พี่ถูกยิงจริงๆเหรอ พี่ไม่เคยบอกอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย” เจียนอี้เฉินร้องออกมา รอยยิ้มบนใบหน้าค่อยๆหายไป สีหน้าเขากลายเป็นเคร่งขรึม และแววตาเริ่มดุร้าย
เจียนอี้เพิ่งละเลยค่าถามของเจี่ยนอี้เฉิน ตรงกันข้ามเขาทวนคําถามกับเจียนอีหลิง “เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันถูกยิง”
“พี่ใหญ่ อีหลิงเป็นนักศึกษาแพทย์” เจียนเฉินพูดเสียงเบา จากนั้นเขาก็เสริมว่า “ยังไงก็ตาม พี่โกหกฉัน จริงๆแล้วพี่ไม่ได้บอกฉันเกี่ยวกับบางสิ่งที่ร้ายแรงอย่างที่พี่ถูกยิง…”
จากนั้นเจี้ยนอีหลิงก็ออกมา “ในวันที่ฝนตก ไหล่ของนายจะเจ็บหรือบวมใช่ไหม?”
“เธอรู้ด้วยเหรอ?” เจี่ยนอี้เหิงหรี่ตาและจ้องไปที่เจี่ยนอหลิง
“นั่งลง” เจียนอีหลิงพูดด้วยน้ําเสียงเชิงสั่งการ
เจียนอี้เหงหยดคร่หนึ่ง แล้วนั่งลงตามที่เจี่ยนอีหลิงพูด
เจียนอีหลิงตรวจสอบที่บาดแผลของเจี่ยนอี้เพิ่ง
เนื่องจากเจียนอี้เพิ่งได้รับบาดเจ็บในพื้นที่สงคราม สถานพยาบาลในตอนนั้นไม่สามารถรักษาบาดแผลของเขาให้ดีได้
ส่งผลให้แผลสมานได้ไม่ดี ยิ่งไปกว่านั้นยังมีผลกระทบต่ออาการบาดเจ็บเขาอีกด้วย
“บาดแผลของนายไม่ได้รับการรักษามาให้ดี ดังนั้น แผลเป็นก้อนใหญ่ตรงนี้ต้องถูกพูดออกมาเพื่อให้ร่างกายสร้างใหม่” เจี่ยนอีหลิงกล่าว
เมื่อได้ยินดังนั้นเจียนอี้เฉินถึงกับตกใจ “ไม่จริงใช่ไหม? ขุดเอาแผลเป็นก้อนใหญ่นี้ออกมา?”
แค่ฟังคําพูดของเจี่ยนอีหลิง เจียนอี้เฉินก็รู้สึกเจ็บปวด
“ความเสียหายของเส้นประสาทของกล้ามเนื้อทําให้เลือดไหลเวียนไม่ดี เมื่อได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิ ส่วนนี้ของร่างกายจะไม่สบาย ยิ่งไปกว่านั้นสถานการจะแย่ลงตามอายุ นายต้องรักษาให้เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ดังกล่าว” เจี่ยนอีหลิงตอบกลับ
เจี่ยนอี้เพิ่งกล่าวว่า “ใช่ แต่เท่าที่ฉันรู้ ไม่มีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่สามารถจัดการกับปัญหานี้ได้
ระดับเทคโนโลยีทางการแพทย์ของโลกดั้งเดิมของเจียนอีหลิงนั้นดีกว่าของโลกนี้มาก
และด้วยเหตุนี้ วิธีการรักษาแบบนี้จึงถูกใช้กันทั่วไปในโลกเธอ
ดังนั้นโรงพยาบาลรั่วไห่เซ็นจึงสามารถดําเนินการดังกล่าวได้
“อีหลิง หมายความว่าเธอจะทําศัลยกรรมให้พี่ชายของฉันเหรอ?” เจียนอี้เฉินถาม
“ถือ” เจี่ยนอีหลิงพยักหน้า
“พี่ใหญ่ ให้อีหลิงรักษาพี่โดยเร็ว” เจี่ยนอี้เฉินรีบพูดอย่างรวดเร็ว
เขาไม่อยากให้ไหล่พี่ชายของเขาต้องเจ็บปวดตลอดไป มันจะต้องไม่เป็นแบบนี้นอย่างแน่นอน
แต่เจียนอี้เหิงไม่ได้ให้ค่าตอบในทันที
ในทางกลับกันเขาหยิบเสื้อผ้าบนโซฟาขึ้นมาแล้วสวมมัน จากนั้น เขาก็พูดว่า “ไว้ถ้าฉันว่างๆค่อยคุยกัน”
ราวกับว่าเขาไม่มั่นใจในความสามารถของเจี่ยนอีหลิงสักเท่าไหร่ บางทีเขาอาจจะไม่เห็นด้วยกับแผนการรักษาของเจี่ยนอหลิงเลยก็ได้
เขาไม่กลัวความเจ็บปวด แต่เขาไม่ต้องการทําอะไรที่ไร้ประโยชน์และเสียเวลา
บทที่ 704 การเปลี่ยนแปลงความคิดที่มีต่ออีหลิง 1
วันรุ่งขึ้น เนี่ยจวินก็วิ่งพรวดพราดเข้าไป
เจียนอี้เฉินเป็นคนบอกเนี่ยจวินเกี่ยวกับบาดแผลเก่าของเจี่ยนอี้เพิ่งว่าเป็นบาดแผลกระสุนปืน
เนี่ยจวินดุเจี้ยนอี้เหิงพร้อมปาดน้ําตา “ไอ้เด็กบ้า ทําไมไม่บอกแม่ แกโดนยิงได้ยังไง!? แกอยากให้ฉันเสียใจใช่ไหม? ตอนนั้นแกเจ็บมั้ย? แกตกอยู่ในอันตรายเหรอ?”
เนี่ยจวินลาบากใจกับลูกชายเธอ ในขณะเดียวกันเธอก็โกรธมากเช่นเดียวกัน
“ผมสบายดี” เจี่ยนอี้เหิงตอบ น้ําเสียงเขาราบเรียบเหลือเกินราวกับว่าเขาไม่สนใจเหตุการณ์เลย สําหรับเขา ดูเหมือนว่าการถูกยิงไม่ใช่เรื่องใหญ่
“แกสบายดีหมายความว่าไง!? เมื่อไหร่ที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ไหล่ของแกก็จะเจ็บปวด แกจะทําอะไรในอนาคต? แกยังเด็กมาก!” เนี่ยจวินร้องไห้
เจี่ยนอี้เหิงขมวดคิ้วเมื่อเห็นแม่ร้องไห้
เขาไม่รู้ว่าจะทํายังไงเมื่อต้องเผชิญกับน้ําตาของผู้หญิง
โดยเฉพาะกรณีที่คนที่ร้องไห้คือแม่ของเขาเอง
ถ้าคนนี้ไม่ใช่แม่ของเขา เขาคงหันหลังแล้วเดินจากไป
เนี่ยจวินยังคงร้องไห้ “แกไม่ต้องการให้เสี่ยวหลิงรักษาบาดแผลของแกงั้นเหรอ ไม่ว่ายังไงการขูดเนื้อก็ต้องเจ็บปวด ฉันก็ไม่อยากให้แกเจ็บ แต่แกต้องสัญญากับฉัน ว่าจะไม่ไปที่ประเทศที่ไม่ปกติสุขอีกต่อไป โอเค แล้วเรามาอยู่ที่นี่อย่างเงียบๆดีไหม”
เมื่อได้ยินอย่างนี้เจี้ยนอี้เหิงตอบว่า “แม่สัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของผม”
“ฉันไม่อยากยุ่งกับสิ่งที่แกอยากทํา แต่ฉันไม่ต้องการให้เกิดอะไรขึ้นกับแก ฉันจะไม่ขอให้แกทําอย่างอื่น ฉันจะไม่ห้ามถ้าแกต้องการจะไปเป็นขอทาน”
เนี่ยจวินมีข้อกําหนดเพียงข้อเดียวสําหรับลูกชาย เธอแค่อยากให้เขามีชีวิตอยู่
เจียนอี้เพิ่งตัดสินใจถอยหนึ่งก้าว “ผมสัญญาว่าจะทําการผ่าตัด แต่ในอนาคตแม่อย่าห้ามผมไม่ให้ไปที่พื้นที่สงคราม”
“อาา ทําไมล่ะ…” เนี่ยจวินเสียใจและหดหู
เมื่อเห็นหน้าลูกชายทําหน้าหนักแน่นเนี่ยจวินก็เลือกที่จะประนีประนอมอย่างไม่เต็มใจ “ฉันหยุดแกไม่ได้ถ้าแกจะไปพื้นที่สงครามอีก ยังไงก็ตามก็คิดให้ดีก่อนตัดสินใจ แกไม่จําเป็นต้องศัลยกรรมเพื่อฉัน ”
เนี่ยจวินแค่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสําหรับลูกชาย เธอรู้ว่าการขูดเอาแผลเป็นก้อนใหญ่ออกมานั้นเจ็บปวดมาก เธอเองก็ไม่เต็มใจที่จะให้ลูกชายเข้ารับการผ่าตัดเหมือนกัน
สุดท้ายเขาก็เป็นเลือดเนื้อที่เกิดจากร่างกายของเธอ การขุดเนื่อของเขาก็ไม่ต่างจากการขูดเนื้อของเธอ
เจียนอี้เฉินเกลี้ยกล่อมเจียนอี้เหิงตลอดทั้งคืน เขาต้องการให้พี่ชายยอมรับการรักษาของเจี่ยนอีหลิง
บางครั้งเขาก็พยายามทําตัวน่ารักและร่าเริง
“พี่ครับ พี่ควรจะเชื่อในอีหลิงนะ เจ็บปวดระยะสั้นดีกว่าเจ็บปวดระยะยาว นอกจากนี้อีหลิงบอกว่าจะวางยาสลบโดยการดม ไม่เจ็บมากเท่าไหร่”
หลังจากนั้นไม่นาน เขาพยายามยั่วยพี่ชายของตัวเอง
“เจียนอี้เหิง พี่ไม่กลัวความเจ็บปวดไม่ใช่เหรอ? ทําไมตอนนี้พี่ถึงกลัว? จริงๆแล้วพี่กลัวความเจ็บปวดใช่ไหม? ปกติพี่แกล้งทําเป็นไม่กลัวหรือเปล่า?”
จากนั้นเขาก็สะอื้นอยู่ตรงนั้นอีกสักพัก
“พี่ชาย ฉันเป็นห่วงพี่เหลือเกิน…ฉันกังวลว่าในอนาคตพี่จะดูแลตัวเองไม่ได้…”
ในที่สุดเจี่ยนอี้เหิงก็ทนเจี้ยนอี้เฉินไม่ได้แล้ว นอกจากนี้ เขายังนึกถึงคําพูดของแม่ด้วย ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัด
ทันทีที่เจี้ยนอี้เพิ่งพยักหน้า เจียนอี้เฉินก็โทรหาเจียนอีหลิงเพื่อนัดหมายกับเธอทันที
อย่างไรก็ตาม น้องสาวของเขาคือ Dr.FS เธอยุ่งมาก
คนส่วนใหญ่ไม่สามารถนัดหมายกับเธอได้ แต่ทําไมพี่ชายของเขายังคงลังเลสับสนอยู่ที่นี่และปฏิเสธที่จะตกลง
เมื่อได้รับโทรศัพท์จากเจียนอี้เฉิน เจี๋ยนอหลิงได้ขอยืมสถานที่จากผู้เฒ่าหยุนเพื่อทําการผ่าตัด
จากการผ่าตัดหลายครั้งของเธอ นี่เป็นการผ่าตัดเล็กๆอย่างหนึ่ง ต้องใช้เพียงการดมยาสลบเท่านั้น
และด้วยเหตุนี้เจี้ยนอี้เพิ่งจะมีสติตลอดเวลา เขาจะนั่งบนโต๊ะผ่าตัด สิ่งนี้ทําให้เจียนอหลิงผ่าตัดไหล่ได้ง่ายขึ้น
มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ชิ้นพิเศษวางอยู่ในห้อง
อุปกรณ์ชิ้นนี้ผลิตโดยบริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ชื่อหมิง ยังไม่มีการผลิตจํานวนมาก ด้วยเหตุนี้จึงไม่สามารถพบเครื่องมือทางการแพทย์ชิ้นนี้จากที่อื่นได้
เนื่องจากพี่น้องเจียนอี้เหิงและเจี่ยนอี้เฉินไม่ได้ประกอบอาชีพนี้ และไม่รู้จักเครื่องมือแพทย์ เลยไม่รู้จักความพิเศษของเครื่องมือแพทย์นี้