เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 699-700
บทที่ 699อาหารของอหลังสุดยอดมาก 2
เจี่ยนอี้เหิงชิมตามด้วยเนื้อสันในชิ้นหนึ่ง เนื้อนุ่มฉ่า ออกรสเผ็ดเล็กน้อย อร่อยอย่างมาก เครื่องเทศก็ดึงเอารสชาติของเนื้อวัวออกมาได้ดี
หลังจากนั้นเจี้ยนอี้เหิงก็กินที่ละจาน
อาหารทุกจานทําให้เขาประหลาดใจและพอใจเป็นอย่างมาก
เขาไม่เคยรู้ว่าทักษะการทําอาหารของเจี่ยนอีหลิงนั้นเยี่ยมยอดมาก
จากบรรดาผู้หญิงที่อยู่รอบตัวเจี่ยนอี้เหิงทั้งหมด เจียนอีหลิงเป็นคนแรกที่ท่าอาหารได้
ยิ่งไปกว่านั้น เธอทําอาหารได้อร่อยมาก อร่อยยิ่งกว่าร้านอาหารข้างนอกเสียอีก
แม่ของเขา เนี่ยจวิน เป็นผู้หญิงที่ใจร้อนมาก เธอรู้วิธีทะเลาะกับใครสักคนเป็นปกติ แต่กลับทําอาหารไม่ได้เรื่องเลย
รวมทั้งผู้หญิงทุกคนที่เจี่ยนอี้เหิงรู้กันในโรงเรียนศิลปะการต่อสู้ก็ด้วย…
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเด็กสาวทําอาหาร และเป็นครั้งแรกที่กินด้วย
สุดท้าย อาหารทุกจานบนโต๊ะถูกกินจนหมด แม้แต่ข้าวในหม้อหุงข้าวก็หมดเกลี้ยง ไม่มีข้าวเหลือแม้แต่เม็ดเดียว
ตอนที่เจี่ยนอีหลิงทําอาหาร เธอก็รู้สึกว่าความอยากอาหารของเจี่ยนอี้เหิงจะมากกว่าคนอื่น แต่เธอไม่คิดว่ามันจะมากขนาดนี้
ดูเหมือนว่าเธอจะประเมินความอยากอาหารของเจียนอี้เหิงต่ำไป
เป็นความจริงที่ความอยากอาหารของเจี่ยนอี้เหิงนั้นมีมากกว่าพี่น้องคนอื่นในตระกูลเจียน แต่วันนี้เขากินมากกว่าปกติเพราะอาหารอร่อยมาก
“ขอบคุณ” เจียนอี้เหิงเริ่มพูดค่าพูดหนึ่งกับเจี้ยนอีหลิง ซึ่งเป็นเรื่องหาได้ยากนัก
จากนั้นเขาจึงรีบละสายตาจากเจี่ยนอีหลิงอย่างรวดเร็ว
เขาไม่ชอบพูดคุยกับผู้หญิง
แค่ค่าว่า ขอบคุณ ก็มากพอแล้วสําหรับเขา
###
หลังจากที่เจี่ยนอีหลิงและคนอื่นๆ ออกไปแล้ว เจี่ยนอี้เหิงก็ถามเจี่ยนอี้เฉินเกี่ยวกับเรื่องลักพาตัวอย่างจริงจัง “บอกฉันทีว่าคดีลักพาตัวครั้งล่าสุดเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
“พี่ชายใหญ่ อย่าฝึกมือกับผมเลย… ผมไม่เก่ง…”เจี้ยนอี้เฉินพูดตะกุกตะกัก
เขาคิดว่าพี่ชายกําลังสอบถามรายละเอียดของวันนั้น ก็เพื่อสอนให้เขารู้วิธีตอบโต้กลับ
“ฉันไม่ได้จะฝึกนาย แค่อยากคุยว่าเกิดอะไรขึ้น” เจียนอี้เหิงพูด เขายังคงไม่แสดงสีหน้าใดๆ
“อ๋อ…” เจียนอี้เฉินจึงอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นอย่างเงียบๆ
หลังจากเล่าเสร็จแล้ว เจี่ยนอี้เฉินก็ถามอีกครั้ง “พี่ ทําไมพี่ถึงถามเรื่องนี้กับผมล่ะ?”
“เพื่อแก้แค้นแทนนาย”
มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถเอาชนะน้องชายได้ และมีเพียงแม่เท่านั้นที่สามารถเอาชนะพวกเขาทุกคน แต่คนนอกไม่สามารถทําแบบนั้นกับพวกเขาได้
“พี่ ผมไม่เป็นไร พี่ก็เห็นว่าตอนนี้ผมยังมีชีวิตอยู่ จริงไหม?”
เจียนอี้เฉินพูดแล้วยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะทําสีหน้าไร้เดียงสา
ถ้าไม่ใช่เพราะเจี่ยนอี้เหิงรู้ว่าน้องชายของเขาเป็นคนแบบไหน เขาคงเชื่อในการแสดงของอีกฝ่ายแล้วจริงๆ
“นายแอบลงมือไปแล้วเหรอ?” เจียนอี้เหิงถาม
เจียนอี้เฉินไม่ใช่คนที่จะยอมทนทุกข์
มีเพียงครอบครัวของเขาเท่านั้นที่ทําให้เขาทุกข์ทรมานได้ ส่วนคนนอกทําเช่นนั้นไม่ได้
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เจียนอี้เฉินหัวเราะ “ดเหมือนว่าพี่จะเข้าใจผมดี”
“ใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้?”
“เป็นคนจากตระกูลฉิน ผมจะหาโอกาสสลัดมันออกไป แล้วสร้างปัญหาให้ตระกูล ฉันอยู่ไม่สุข”
“ระวังตัวด้วย นายจะเล่นอะไรก็ได้ แต่อย่าเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอีก”
“รู้ไหม พี่ไม่ต้องกังวลไป ผมยังมีบอดี้การ์ดตัวท็อปที่พี่ช่วยฝึกอยู่ ไม่เป็นไรหรอก”
“พวกเขาไม่ได้เก่งหมดทุกอย่าง
“พี่ชาย พี่ต้องเชื่อใจผมสิน”
เมื่อได้ยินดังนั้น เจียนอี้เหิงจึงตัดสินใจไม่ถามเรื่องนี้ต่อ
วันรุ่งขึ้น เจี๋ยนอหลิงเตรียมกล่องอาหารกลางวันให้เจี่ยนอี้เหิงและเจี่ยนอี้เฉินก่อนออกไปข้างนอก
กล่องอาหารกลางวันถูกใส่ไว้ในกล่องหุ้มสีดําสองกล่องไร้ลวดลาย
กล่องอาหารกลางวันของเจี่ยนอี้เหิงดูใหญ่ขึ้นหนึ่งเท่า
นี่เป็นอาหารกลางวันที่เจียนอหลิงจัดเตรียมไว้ให้เจี่ยนอี้เฉินและเจียนอี้เหิง
เธอทํากล่องข้าวกลางวันส่วนของจํายหวินเพิ่งแยกออกมา เขาก็กินอาหารที่มีไขมันมากเกินไปไม่ได้
เจียนอี้เหิงเปิดกล่องข้าวออกมาดูก่อนเป็นพิเศษ
อาหารไม่เหมือนกับเมื่อวาน แต่ยังไงก็ตามมันก็ดูอร่อยเหลือเกิน
บทที่ 700 เข้ากับพี่อี้เหิง 1
“ตึดติด ยึดติด..”
นาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์ในกระเป๋าเจี่ยนอีหลิงส่งเสียงเตือนเบาๆ
ทันใดนั้น บนหน้าปัดของนาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์ก็มีข้อความปรากฏขึ้นมา
[มีคนกําลังติดตามคุณ ดัชนีอันตราย 2]
ดัชนีอันตรายมีอยู่ 5 ระดับ ตัวเลขอยู่ระหว่าง 1 ถึง 5 ยิ่งตัวเลขสูง ก็ยิ่งอันตรายมากขึ้น
แม้ว่าตอนนี้เจี้ยนอีหลิงกําลังติดตามอยู่ แต่ดัชนีอันตรายมีเพียง 2 เท่านั้น ดังนั้นผู้ที่ติดตามเจี่ยนอีหลิงจึงไม่สามารถคุกคามเธอได้
ในเวลานี้เอง โทรศัพท์มือถือของเจียนอีหลิงก็ดังขึ้น เป็นสายของหัวหน้าทีมหร่วน
เนื่องจากนาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์ในกระเป๋าเธอเชื่อมต่อกับระบบรักษาความปลอดภัยของหัวหน้าทีมหร่วนและทีมปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งสมาชิกหลักของทีมทุกคนจะพกอุปกรณ์นี้ติดตัวตลอด
ระบบนี้สามารถทําให้พวกเขาเข้าถึงอุปกรณ์ตรวจสอบและสื่อสารทั้งหมดในสภาพแวดล้อมโดยรอบ ยิ่งไปกว่านั้น คอมพิวเตอร์จะระบุรูปภาพภายในอุปกรณ์เหล่านั้นโดยอัตโนมัติ เพื่อตรวจสอบว่าใครมีเจตนาร้ายต่อคนที่ได้รับการคุ้มครองจากพวกเขา
ดังนั้น เครื่องจึงแจ้งเตือนไปที่เจี่ยนอีหลิงทันที
แน่นอนว่าหัวหน้าทีมหร่วนก็รู้ได้ตั้งแต่แรกว่ามีคนติดตามเจี่ยนอีหลิงอยู่
“อาา…มีคนถ่าลังตามเธอไปแล้ว อยากให้ฉันจัดการกับมันตอนนี้เลยไหม?”
“ตอนนี้ยังไม่จําเป็น เดี๋ยวจะวุ่นวาย”
ตอนนี้เจี่ยนอีหลิงอยู่ที่มหาวิทยาลัยเป่ยจิง
“ก็ได้ เราจะจัดการกับมันหลังจากที่เธอออกจากมหาวิทยาลัย
หัวหน้าทีมหร่วนก็วางสายไปอย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกัน ระบบรักษาความปลอดภัยยังคงตรวจสอบสถานการณ์รอบตัวของเจียนอีหลิง
ขณะที่เจียนอีหลิงกําลังเดินอยู่ มีชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมดา กําลังเดินตามเจี่ยนอีหลิงอยู่ข้างหลังห่างออกไปประมาณร้อยเมตร
เขาพยายามทําตัวเพื่อไม่ให้ถูกจับได้มากที่สุด
เขาคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เจี่ยนอีหลิงจะสังเกตเห็นเขา โดยที่เธอไม่ได้หันกลับมา
ในขณะเดียวกัน ชายคนนั้นก็ยังติดต่อกับผู้สมรู้ร่วมคิดของตน
“ถ้าเธอเข้าไปในตึกของมหาวิทยาลัยที่ไม่มีคนอยู่ ฉันจัดการได้เลยไหม?”
“ไม่ได้ เราต้องรอให้เธอออกจากมหาวิทยาลัยก่อน ที่เป่ยจึงมีกล้องวงจรปิดมากเกินไป ยิ่งไปกว่านั้น คนเข้าออกค่อนข้างบ่อยเลยไม่สะดวกสุด ทําตามแผนเดิมของเรา เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด สาวน้อยคนนี้มีค่าหัวถึงเจ็ดสิบล้านหยวน ถ้าเราลักพาตัวเธอได้ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอื่นไปตลอดชีวิต”
พวกเขารู้ว่าเจียนอหลิงคือ Dr. FS.
พวกเขายังรู้ด้วยว่ามีคนคอยอยู่เบื้องหลังเจี่ยนอีหลิง
ยังไงก็ตาม รางวัลเจ็ดสิบล้านหยวนก็น่าสนกว่ามาก
เมื่อถูกดึงดูดด้วยกาไรมหาศาล บางคนก็กล้าที่จะปล้นธนาคาร และบางคนก็กล้าที่จะลักพาตัวเจี่ยนอีหลิง
ทีมปฏิบัติการพิเศษฟังการสนทนาของคนพวกนั้นชัดเจนทุกค่า
“เชีย พวกมันกล้าคิดที่จะลักพาตัว Dr. FS. ของพวกเรา หน้าด้านกันจริงๆ”
สมาชิกชายของที่มปฏิบัติการพิเศษดูถูกผู้ลักพาตัวทั้งสองคน จากนั้นเขาจึงอาสาไปปฏิบัติภารกิจ “หัวหน้า ปล่อยผมออกไปเร็วๆ เถอะ ผมอยากจับคนพวกนี้ด้วยตัวเอง”
“ฉันส่งคนไปแล้ว นายคอยดูอยู่ที่นี่และเตรียมพร้อมต่อไป” หัวหน้าทีมหร่วนตอบ เขาส่งคนไปเรียบร้อยแล้ว
“อาา โอเค…” ชายคนนั้นตอบ เขารู้สึกเสียดายเล็กน้อย
เจียนอีหลิงกําลังจะออกจากมหาวิทยาลัยหลังจากทํางานเสร็จ เมื่อออกจากประตูของมหาวิทยาลัย เธอก็เห็นเจี่ยนอี้เหิง
เจียนอี้เหิงยืนอยู่ข้างประตูรถสีดา
เขาสวมชุดล่าลองที่สะดวกในการออกกําลังกาย
มือข้างหนึ่งล้วงไว้ในกระเป๋ากางเกง ท่าทางของเขาดูสบายๆ แต่ก็ยังมีออร่าสง่าผ่าเผยเกินบรรยาย
ถ้าจํายหวินเชิงยืนอยู่ในแบบเดียวกัน เขาน่าจะดูเป็นอันธพาลที่ชั่วร้ายเสียมากกว่า
สาวๆ หลายคนที่ประตูมหาวิทยาลัยมองไปยังเจี่ยนอี้เหิง บางคนก็อยากจะออกมาพูดคุยกับเขา