เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 695-696
เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 69 สอนลมมิงเป็นเจ้าอชายหาเสนและที่ชายหยหมิน 5
“คือ ใช่แล้ว” เจี่ยนหยู่เจี๊ยตอบขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคําพูดนั้น จากนั้นเขาก็ก้มหน้าลง เพื่อกินขนมหวานชิ้นต่อไป
“อือ” เจียนอีหลิงพยักหน้าลงเล็กน้อยอย่างเชื่อฟัง ในขณะที่เธอเริ่มกินขนมตรงหน้าต่อเช่นกัน
และตอนนี้ทั้งคู่มีคะแนนเสมอกัน!
“อืม…นั่นก็ขึ้นอยู่กับความผิดพลาดที่ได้ทําลงไปด้วย ถ้าหากมีข้อผิดพลาดบางอย่างขึ้นมา เธอต้องเผชิญหน้ากับมันแทนที่จะหลีกเลี่ยง แต่ถ้าวิ่งหนีมันเธอก็จะกลายเป็นคนที่ไร้ความรับผิดชอบ” เจียนหยู่หมินตอบกลับด้วยน้ําเสียงเย็นชา
เมื่อได้ยินดังนั้น เจี่ยนหยู่เงียและเจี่ยนอีหลิงก็หยุดการเคลื่อนไหวทันที
ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะไม่ค่อยเข้าใจที่เจียนหยู่หมินพูดเท่าไรนัก แต่พวกเขารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างที่ไม่ถูกต้องระหว่างเคี่ยนหยู่หมินและหลัวซิ่วเอิน
“อืม…พี่ใหญ่มีอะไรจะพูดกับพี่สาวเอินไหม?” เจียนหยู่เงียถาม
“ไม่! ไม่! ฉันไม่ได้ทําอะไรทั้งนั้น!”
แต่ทว่า ก่อนที่เจี้ยนหยู่หมินจะได้มีโอกาสตอบเจี่ยนหยู่เจีย แต่อยู่ดีๆหลัวซิ่วเฉินก็รีบปฏิเสธออกมาอย่างไม่ทันรู้ตัว
และการปฏิเสธนี้รวดเร็วเป็นอย่างมาก แม้แต่เจี่ยนอีหลิงก็เห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติอย่างแน่นอน
ดังนั้น เจียนหยู่เจียและเจียนอหลิงจึงหันมามองหน้ากันอย่างพร้อมเพรียง
จากนั้น ทั้งสองคนก็หยิบจานขนมที่กินอยู่บนโต๊ะ แล้วย้ายไปนั่งที่โต๊ะข้างๆแทน ซึ่งพวกเขาได้ตัดสินใจให้เจี่ยนหยู่หมินและหลัวซิ่วเฉิน ได้มีพื้นที่สําหรับพูดคุยได้สะดวกยิ่งขึ้นกว่าเดิม
พวกเขาไม่รู้จริงๆว่าเจี่ยนหยู่หมินและหลัวซิ่วเอินคิดจะพูดถึงเรื่องอะไรกัน แต่ว่าพวกเขาไม่มีความคิดที่จะมีส่วนร่วมแม้แต่น้อย
“น้องสาว ชิ้นนี้อร่อยสุดๆไปเลย เธอต้องลองดู
“อื้อ”
ด้วยเหตุนี้ เจี่ยนหยู่เจียและเจี่ยนอีหลิงจึงกินขนมกันต่ออย่างมีความสุข
แต่เมื่อมองมาที่โต๊ะของเจี่ยนหยู่หมินและหลัวซิ่วเฉิน บรรกายาศโดยรอบกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
“พี่ชายหยู่หมิน…เอ่อ…เมื่อคืนนี้เป็นความผิดพลาด ฉันต้องขอโทษด้วย โอเคไหม?”
“ใครอยากให้เธอขอโทษ? หลังจากที่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมา ถึงแม้ว่าฝ่ายหนึ่งจะต้องขอโทษก็ตาม แต่ตามปกติแล้วผู้ชายต้องเป็นฝ่ายขอโทษไม่ใช่เหรอ?” เจี่ยนหยู่หมินถามด้วยความหงุดหงิด เขาเป็นผู้ชาย! และเขาต้องเป็นคนรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น! แล้วทําไมหลัวซิ่วเอินถึงพูดแบบนี้กับเขากัน?
“แต่เมื่อคืน…ฉัน…”
“โอ้พระเจ้า ฉันเป็นคนเริ่มก่อน…ถึงแม้ว่าต่อมาฉันจะถูกตรึงอยู่กับที่ก็ตาม…”
เมื่อเจียนหยู่หมินนึกถึงรายละเอียดของเมื่อคืน ใบหน้าของเขาก็กลายเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว
“หัะ?” เมื่อได้ยินประโยคนั้น หลัวซิ่วเฉินก็รู้สึกงงงันเป็นอย่างมาก
พี่ชายหยู่หมินหมายความว่ายังไง?
เมื่อคืนเธอไม่ได้บังคับเขางั้นเหรอ?
แต่ว่าเขากลับทําสิ่งเหล่านั้นด้วยความเต็มใจ?…แล้วนั้นไม่ได้หมายความว่าเขา… เขามีความรู้สึกต่อเธอด้วยงั้นเหรอ?
ทันทีที่เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ สมองของหลัวซิ่วเอินก็พังทลายลงอย่างสมบูรณ์
“ฉันต้องเป็นคนพูดเรื่องนี้ออกมาเอง แล้วทําไมถึงเป็นเธอที่พูดแทนฉันล่ะ” ถ้าหากเจียนอีหลิงและเจี่ยนหยู่เจียไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาคงได้สู้กับผู้หญิงตรงหน้าเขาไปแล้ว
“ฉัน…ฉันไม่ได้…ฉันแค่…” หลัวซิ่วเฉินพูดติดอ่าง เธอคิดไม่ออกว่าจะพูดอะไรต่อไป
อาา ทันใดนั้นสมองของเธอก็ไม่ทํางานอย่างฉับพลัน?
ทําไมวันนี้สมองถึงไม่ค่อยดีนัก?
แล้วทําไมสมองของเธอถึงได้ไร้ประโยชน์ในช่วงเวลาสําคัญแบบนี้กัน?!
เจียนหยู่หมินเห็นหลัวซิวเอ็นพูดตะกุกตะกัก เขาก็คิดว่าเธอพยายามหาข้ออ้างให้กับตัวเอง ดังนั้นเขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก “อืม…ถ้าอยากจะไปก็ออกไปซะ! แล้วอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าเธออีก!”
หลัวซิ่วเอ็นถึงกลับหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง แต่เมื่อได้ยินอย่างนั้น เธอก็ก้มหน้าลงทุน
หลังจากนั้น เธอก็หยิบกระเป๋าแล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
ถ้าเขาอยากให้เธอไป เธอก็จะไปตามที่เขาบอก
เธอไม่อยากรบกวนชีวิตของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเขาไม่ต้องการถูกรบกวน
เมื่อเจียนหยู่หมินเห็นหลัวซิ่วเฉินเดินจากไปแล้ว เขาก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม
ผู้หญิงคนนั้นจากไปแล้วจริงๆ! เธอเดินจากไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักว่า!
เสน่ห์ของเขาตอนนี้มันแย่ขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ?
เมื่อเจียนหยู่เจียและเจียนอีหลิงเห็นหลัวซิ่วเฉินเดินออกไปแล้ว ทั้งคู่ก็หันหน้าไปมองเจี่ยนหยู่หมินพร้อมกัน
“หยุดมองฉันได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้ฉันจะโสดอีกครั้ง!” เจียนหยู่หมินโกรธจัด
“อาา พี่สะใภ้ของเราในอนาคตได้วิ่งหนีไปแล้ว” เจี่ยนหยู่เจี้ยพูดกับเจียนอหลิง
ผ่านไปครู่หนึ่ง เจี่ยนหยู่เงียก็เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
เดี๋ยวก่อนนะ!…พี่ใหญ่ตกหลุมรักพี่สาวเป็นอย่างนั้นเหรอ?!
บทที่ 696 ญาติเจียนอี้เพิ่ง
เจี่ยนหยู่เจี้ยอ้าปากค้างอยู่นานก่อนจะปิดลงในที่สุด
จากนั้น เขาก็หันมาถามเจียนอีหลิงที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา “เสี่ยวหลิงเธอไม่แปลกใจเลยงั้นเหรอ?”
“ฉันก็แปลกใจเหมือนกัน” เจียนอีหลิงตอบกลับ แต่ทว่าใบหน้าของเธอยังคงเยือกเย็นอยู่ตลอดเวลา
“อาา..” เสี่ยวหลิงถ้าเธอแปลกใจจริงๆ เธอต้องไม่ทําหน้าแบบนั้นสิ!
จากนั้น เจี๋ยนอีหลิงก็พูดขึ้นว่า “พี่สาวเอินค่อนข้างดี”
เจียนอหลิงชอบพี่สาวเอินเพราะเธอดีใจ และเหมาะที่จะมาเป็นพี่สะใภ้ของเธอ
แต่ที่สําคัญที่สุด พวกเขาทั้งคู่ต้องชอบพอกันด้วย
“เสี่ยวหลิงเธอคิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนสวยไหม?” เจี่ยนหยู่หมินถามเจี่ยนอีหลีงด้วยความสนใจ
“อื้อ”
“แต่เธอช่างใจร้ายเหลือเกิน เธอหันหน้าหนีและไม่ยอมรับในสิ่งที่ฉันพูดเลย” เจี่ยนหยู่หมินพูดออกมาด้วยน้ําเสียงหงุดหงิด
เจี่ยนหยู่หมินรู้สึกหงุดหงิด แต่อาจจะเป็นเพราะเขารู้สึกว่าเสน่ห์ของตัวเองนั้นช่างไร้ประโยชน์ ซึ่งเขาไม่สามารถทําให้หลัวซิ่วเฉินหันมาชอบเขาได้
“โชคดีนะพี่ใหญ่! ฉันขอเป็นกาลังใจให้พี่ เพราะพี่จะเป็นคนแรกในหมู่พวกเราที่สามารถออกเดทกับใครสักคน” เจียนหย่เลี้ยกล่าว
ถ้าหากพี่ใหญ่ทําสําเร็จ เจี่ยนหยู่เงียก็จะมีพี่สะใภ้ที่งดงามและมีความกล้าหาญ แค่คิดเขาก็มีความสุขแล้ว!
ในเวลาต่อมา โทรศัพท์ของเจียนอหลิงก็ดังขึ้น และนี่เป็นสายของเจี่ยนอี้เฉิน
แต่เมื่อเจียนอหลิงกดรับสาย เธอก็ได้ยินเสียงของเจียนอี้เฉินที่กาลังทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก
“เสียวหลิง…ช่วยด้วย มาช่วยฉันหน่อย ”
“นายอยู่ที่ไหน?”
น้ําเสียงที่นุ่มนวลของเธอค่อนข้างเป็นกังวล
“ตอนนี้ ฉันอยู่อพาร์ตเมนต์
“ใครทําร้ายนาย?”
“จะเป็นใครได้อีก? เป็นพี่ชายของฉันเอง! ถ้าเธอไม่มาตอนนี้ ฉันได้ถูกเขาฆ่าแน่!”
พี่ชายของเจี่ยนอี้เฉินก็คือเจียนอี้เพิ่ง
เจียนอี้เหิงไม่ได้มาร่วมงานหมั้นของเจี่ยนอีหลิง เพราะเขาต้องคอยคุ้มกันนักข่าว ในเขตสงคราม จึงทําให้เขาไม่สามารถกลับมาได้ทันเวลา
แต่ทว่า เจี่ยนอีหลิงไม่เคยคาดคิดมาก่อน ว่าเจี่ยนอี้เพิ่งจะทุบตีน้องชายทันที หลังจากที่เขากลับมาที่เป่ยจิง
ซึ่งดูเหมือนว่าความอดทนต่อการโดนทําร้ายของเจียนอี้เฉิน จะได้รับมาจากพี่ชายของตัวเอง
เมื่อพวกเขาได้ยินว่าเจี่ยนอี้เพิ่งกลับมาที่เป่ยจิงแล้ว สีหน้าท่าทางของเจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนหยู่เงียก็แข็งที่อในทันที
“เสี่ยวหลิง ฉันรู้สึกว่าเธอไม่ต้องไปสนใจกับเรื่องนี้ก็ได้ เจี่ยนอี้เหิงคงจะเมตตาต่อน้องชายของตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งเราไม่ควรเข้าไปยุ่งกับพวกเขา”
“ใช่ มันอันตรายเกินไป เจี่ยนอี้เหิงสามารถทุบกาแพงด้วยเท้าข้างเดียวได้ และถ้าพวกเราถูกเขาเตะ เราคงจะต้องนอนโรงพยาบาลนานถึงครึ่งปี”
ความคิดเห็นของเจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนหยู่เจี้ย ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้มีความคล้ายคลึง กันอย่างไม่น่าเชื่อ พวกเขากําลังวางแผนที่จะถนอมชีวิตของตัวเองและอยู่ห่างจาก เจี่ยนอี้เพิ่งให้ได้มากที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น เจี่ยนอี้เหิงเป็นพี่ชายเพียงคนเดียวในตระกูลเจียน ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเจียนอีหลิง
หรืออาจเป็นเพราะการจู่ของเนี่ยจวิน จึงทําให้เจี่ยนอี้เหิงไม่เคยมีความอดทนกับผู้หญิงมากนัก
ในความคิดของเขา พวกผู้หญิงนั้นบอบบางเกินไป นอกจากนี้เขายังไม่สามารถคาดเดาจิตใจของพวกเธอได้ อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ยากที่สุดอีกด้วย
เนื่องจากเจียนอี้เหิงไม่สามารถเข้าใจผู้หญิงได้ เขาจึงต้องรักษาระยะห่างกับพวกเธออยู่เสมอ
แน่นอน ว่ารวมเจี่ยนอีหลิงไว้ด้วยเช่นกัน
อันที่จริง ในความคิดของเจี้ยนอี้เหิง เจี้ยนอีหลิงนั้นค่อนข้างบอบบางที่สุดในบรรดาเด็กผู้หญิง
เขารู้สึกราวกับว่าถ้าเขาบีบเธอแรงเกินไป เธอจะสลบไปทันที
ดังนั้น แม้ว่าเจียนเฉินกําลังขอให้เจียนอีหลิงมาช่วยเขา แต่เจียนอหลิงก็ไม่สามารถช่วยเขาได้อยู่ดี
ซึ่งตอนนี้ เจียนอี้เหิงกาลังทุบตีน้องชายของตัวเอง พวกเขาไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้มากนัก
และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อพวกเขาไปถึงที่นั่น เจี๋ยนอี้เหิงน่าจะซ้อมเจียนอี้เฉินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เจี่ยนอีหลิงไม่ค่อยแน่ใจในสถานการณ์ในตอนนี้ เธอจึงตัดสินใจไปหาเจียนอี้เฉิน
แต่ว่า เจี่ยนหยู่หมินไม่อยากไปที่นั่น แต่ถ้าน้องสาวอยากไป เขาคงทําได้แค่เสียสละชีวิตและสุขภาพของตัวเอง เพื่อไปกับน้องสาวของเขาเท่านั้น
ดังนั้น เจี่ยนหยู่หมิน เจี่ยนอีหลิง และเจี่ยนหยู่เจีย จึงรีบไปที่อพาร์ตเมนต์ของเจี่ยนอี้เฉินทันที
เมื่อพวกเขามาถึง เจียนอี้เฉินก็ถูกพี่ชายตัวเองซ้อมไปเรียบร้อยแล้ว