เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 691-692

บทที่ 691 พี่สาวเย็นและพี่ชายหยู่หมั้น 1

“อื้อ…พริกบอกว่านี่คือสิ่งที่เพื่อนร่วมห้องสอนมา เธอก็เลยมาสอนให้ฉันอีกที” เจียนอีหลิงสารภาพออกมา

จํายหวินเชิงก้มมองดูกระต่ายน้อยที่โอบกอดเขาอยู่ ก่อนที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ

“เธอควรไปเที่ยวกับพริก และเพื่อนร่วมห้องของเธอให้บ่อยขึ้นในอนาคต” จ๋ายหวินเชิงพูดกับเจียนอหลิง

“ทําไม?”

“พวกเขาดีกับเธอมาก และที่สําคัญ พวกเขาคิดถึงเธอเป็นอันดับแรก จนสามารถระบายความโกรธแทนเธอได้”

จํายหวินเชิงพูดออกมา พลางก้มหน้าจ้องไปที่ริมฝีปากสีแดงหวานที่ตอนนี้อยู่ใกล้ใบหน้าของเขามาก จนทําให้มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อย แต่สุดท้ายเขาก็ไม่คิดที่จะลงมือทําอะไรกับคนตรงหน้า

เจียนหยู่หมินและหลัวซิ่วเฉินนัดเจอกันที่ค่ายมวยอีกครั้ง

แต่ครั้งนี้ หลัวซิ่วเอินค่อนข้างมีเมตตามากกว่าครั้งที่ผ่านมา เธอมั่นใจว่าเจียนหยู่หมินจะสามารถลุกขึ้นมาได้

หลังจากที่ชกมวยกันเสร็จแล้ว ทั้งสองก็ไปดื่มด้วยกัน

เมื่อหลัวซิ่วเฉินเริ่มรู้สึกเมา เธอมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะเป็นพี่น้องกับเจียนหยู่หมินอีกครั้ง

จากนั้น ทั้งสองก็เริ่มสาปแช่งจํายหวินเชิงด้วยกันอย่างเมามัน

“จํายหวินเสิ่งชั่วร้ายมาก! เจ้านั้นต้องมีเจตนาร้ายอย่างแน่นอน! ไอ้ผู้ชายคนนั้นกล้าดียังไงถึงมาลักพาตัวน้องสาวของฉันไป! น้องสาวฉันยังเด็กอยู่เลย! แต่เจ้านั่นกลับไม่สนใจเรื่องนั้นแม้แต่น้อย! ให้ตายสิ!”

“ใช่!…นายพูดถูก เธอเป็นสมบัติล้ําค่าของสถาบันของฉัน แต่กลับมาขโมยเธอไปทั้งอย่างนั้น ไม่สนใจความรู้สึกของคนในสถาบันเลยหรือไง? และฉันก็รู้มาว่าเขาเป็นคนไม่ดีเมื่อสามปีที่ผ่านมา!”

“เธอคิดแบบนั้นจริงเหรอ? ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ! เพราะเมื่อ 3 ปีที่แล้วฉันก็รู้มาว่าเขาเป็นคนไม่ดีเหมือนกัน! ซึ่งเขาเป็นคนสารเลวที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบเจอมา และทุกครั้งที่เจอหน้าไอ้หมอนั้น ฉันอยากจะทุบให้แหลกคามือ! แต่ว่าฉันไม่อยากทําให้น้องสาวร้องไห้!”

ในขณะที่ทั้งคู่กําลังสาปแช่งจํายหวินเชิงอยู่นั้น ทั้งสองกลับมีความคิดและอารมณ์ เหมือนกันอย่างไม่น่าเชื่อ ราวกับว่าพวกเขาได้พบเพื่อนสนิทที่ห่างหายกันมานาน

หลัวซิ่วเฉินตบไปที่ต้นขาของเธอ ก่อนที่จะเริ่มหัวเราะออกมา “ฮ่า ฮ่า ฮ่า หากนายเอาชนะไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นฉันคนนี้จะสู้กับเขาเอง และรับรองได้เลยว่าฉันสามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอน”

แต่ว่า เจียนหยู่หมินไม่ได้กลัวจ่ายหวินเชิง “ฉันไม่ได้กลัวเขา! และถ้าเกิดสถานการณ์เลวร้ายขึ้นมาจริงๆ ฉันจะขอให้อี้เพิ่งกลับบ้าน! แล้วเธอจะได้เห็นจํายหวินเชิงลงไปนอนกองอยู่บนพื้น!”

ถึงแม้ว่าเขาจะชนะการต่อสู้ไม่ได้ แต่เขาก็มีญาติพี่น้องที่สามารถเอาชนะการต่อสู้ เพื่อเขาได้!

“โอ้! ถ้ามีโอกาสฉันอยากเจอญาติของนายจริงๆ เพราะฉันอยากต่อสู้กับเขาดูบ้างสักครั้ง”

“ได้แน่นอน ถ้ามีโอกาสนั้น ฉันก็อยากเห็นทั้งคู่ต่อสู้เหมือนกัน”

“ใช่ๆ! มาเร็วๆ! เรามาฉลองให้กับมิตรภาพของเรากันเถอะ!”

จากนั้น ทั้งสองก็ยกแก้วขึ้นฉลองกันอย่างมีความสุข

เมื่อหลัวซิ่วเฉินเริ่มเมาขึ้นเรื่อยๆ เธอก็มองไปที่เจี่ยนหยู่หมิน ในขณะที่เธอค่อยๆกลายเป็นคนโง่ที่กําลังตกหลุมรัก

“พี่ชาย…พี่ชายหยู่หมิน…นายรู้ไหมว่าฉันรู้สึกยังไง? แค่เห็นนายก็ทําให้ฉันรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน! ตอนนั้นฉันทํางานตลอด มันทําให้ฉันรู้สึกโดดเดี่ยวมาก ซึ่งบุคลิกของฉันไม่ได้ดีมากนัก ดังนั้นผู้หญิงจึงไม่ชอบไปเที่ยวกับฉัน นอกจากนี้ผู้ชายก็ไม่อยากไปเที่ยวกับฉันเหมือนกัน เหตุผลก็เป็นเพราะว่าฉันเป็นผู้หญิง…”

ตั้งแต่เล็ก หลัวซิ่วเอ็นแตกต่างจากคนอื่น

บุคลิกของเธอคล้ายกับเด็กผู้ชาย เธอมีนิสัยที่ประมาทและชอบความรุนแรง นอกจากนี้ เธอยังเป็นนักเรียนที่ฉลาดอย่างไม่น่าเชื่อ

ด้วยเหตุนี้ ก่อนที่เธอจะมาเข้าร่วมสถาบันวิจัยทางการแพทย์สุ่ยหลิง ตัวเธอไม่เคยมีเพื่อนมาก่อนเลย

นอกจากพ่อแม่ของเธอแล้ว เธอไม่มีใครคุยด้วยสักคนเดียว

แต่ทว่า เมื่อเธอมาถึงสถาบันวิจัยทางการแพทย์สุ่ยหลิง เธอกลับพบคนประเภทเดียวกันอยู่ที่นี่เป็นจํานวนมาก

และในที่สุด เธอก็รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันแห่งนี้

จากนั้น หลัวซิ่วเอินก็พูดต่อ ในขณะที่เธอรู้สึกตัวเพียงครึ่งเดียวว่า “แต่หลังจากที่ฉันได้ยินเสียงร้องเพลงของนาย มันทําให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาก และฉันไม่ได้รู้สึกโดดเดี๋ยวอีกต่อไป”

บางที่สําหรับเจียนหยู่หมิน เธอก็เป็นได้แค่หนึ่งในแฟนคลับจํานวนมากของเขาเท่านั้น

แต่ทว่าสําหรับเธอ วงไอดอลชายจูปีเตอร์เป็นส่วนสําคัญในชีวิตของเธอ

เมื่อใดก็ตามที่เธอรู้สึกเหงา เธอก็จะฟังเพลงของวงนี้ นั่งดูโปสเตอร์ของพวกเขานอนดูวิดีโอและการแสดงของพวกเขาเมื่ออยู่คนเดียว

ตอนนั้น หลัวจิ๋วเอินไม่เคยคิดว่าจะไล่ตามคนดังหรือบอยแบนด์มาก่อน

แต่สุดท้าย เธอก็ได้ตกหลุมรักวงไอดอลชายจูปีเตอร์จนถอนตัวไม่ขึ้น และเธอได้ตกหลุมรักวงนี้มานานหลายปีแล้ว

บทที่ 692 พี่สาวเอินและพี่ชายหยู่หมิน 2

ตั้งแต่อัลบั้มแรกจนถึงอัลบั้มสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็นการประกาศโซโล่ จนไปถึงการประกาศของเจี่ยนหยู่หมินที่จะลาออกจากวงการบันเทิง

ในขณะที่เจี่ยนหยู่หมินฟังคําพูดของหลัวซิ่วเฉินอยู่นั้น ภายในหัวใจของเขาก็เกิดระลอกคลื่นบางอย่างขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

และเขาไม่รู้ว่าจะต้องรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้

ซึ่งดูเหมือนว่าคนตรงหน้า จะไม่ใช่แค่เพื่อนของเจียนอีหลิงอีกต่อไป ในทางกลับกันดูเหมือนว่าเธอจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และดูพิเศษมากสําหรับเขาอย่างบอกไม่ถูก

เช้าวันรุ่งขึ้น หลัวซิ่วเฉินตื่นขึ้นมาด้วยความงุนงง

เธอกําลังนอนอยู่บนเตียงสีขาวขนาดใหญ่ในห้องพักของโรงแรม

หลัวซิ่วเอินค่อยๆ กางแขนออกจากใต้ผ้าห่มสีขาวนุ่มฟู

จึงทําให้ข้อศอกไปแตะโดนกล้ามท้องของใครบางคนเข้า ซึ่งกล้ามท้องของเขาคนนี้ดูกระชับยิ่งกว่าผู้หญิงทั่วไปเสียอีก
นี่เธออยู่ที่ไหน?

เมื่อคืนเธอดื่มหนักมากเกินไป จึงทําให้ตอนนี้หัวของเธอรู้สึกหนักเป็นอย่างมาก

ในขณะที่หลัวซิ่วเอินค่อยๆลืมตาขึ้นมา เศษเสี้ยวของความทรงจําภายในจิตใจที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ก็แวบเข้ามาในหัวเธออย่างรวดเร็ว

และตอนนี้ตรงหน้าของเธอ กลับมีภาพของชายหนุ่มรูปหล่อที่เธอชื่นชอบ ซึ่งกำลังนอนอยู่ใกล้ใบหน้าของเธอมาก

เธอจึงหลับตาลงตามสัญชาตญาณ

แล้ว…อะไรๆก็ไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป

ทั้งสองคนได้ทําในสิ่งที่ผู้ชายและผู้หญิงสมควรทํา หลังจากที่พวกเขาทั้งคู่มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองแล้วเท่านั้น

“เชี่ย เกิดเรื่องแล้วไง!”

หลังจากที่นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ หลัวซิ่วเอินก็อุทานออกมาเสียงดังลั่น

เธอทําจริงๆ…เธอได้ทําเรื่องแบบนั้นลงไปแล้วจริงๆ…

อาา…เธอไม่ควรดื่ม

ครั้งที่แล้ว เธอก็เกือบทําอะไรบางอย่างกับเจียนหยู่หมิน

แต่ครั้งนี้ เธอได้เอาค่าว่า เกือบ โยนทิ้งไปอย่างไม่ใยดี!

จนทําให้มีบางอย่างเกิดขึ้นจริงๆ

และเสียงของหลัวซิ่วเฉิน ได้ปลุกเจี่ยนหยู่หมินข้างๆให้ตื่นขึ้นมา

เมื่อเจี่ยนหยู่หมินลืมตาและเห็นหลัววเป็นกาลังจ้องมองเขาอยู่ จึงทําให้เขารู้สึกเขินอายเล็กน้อย

แน่นอนว่าเขาไม่ได้สูญเสียความทรงจํา เป็นผลให้เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขาเมื่อคืนนี้

เพราะเมื่อคืนเขามีสติสัมปชัญญะอยู่ทุกวินาที

ถ้าเขาเมาจริงๆก็คงจะทําอะไรไม่ได้อย่างแน่นอน

เมื่อคืนทั้งสองดื่มกันค่อนข้างมาก จึงทําให้จิตใจค่อนข้างยุ่งเหยิง แต่พวกเขายังคงมีสติสามารถรับรู้ได้ว่าตัวเองกําลังทําอะไร

หลัวซิ่วเอ็นจ้องมองไอดอลที่นอนอยู่ข้างๆเธอ ก่อนที่จะร้องไห้ออกมาในใจด้วยความโศกเศร้า

แม้ว่าเจี่ยนหยู่หมินจะเป็นคนเริ่มการจูบ แต่หลังจากนั้นเธอก็เป็นคนเริ่มต้นทําทุกอย่างด้วยตัวเอง

และเมื่อคืนเธอถูกครอบง่าอย่างสมบูรณ์!

เธอทําอย่างนี้ได้ยังไงกัน?

แล้วเธอจะกล้ามองหน้าไอดอลที่เธอชื่นชอบต่อไปได้ยังไง?

ไม่…เมื่อคืนเธอไม่ได้ใช้แค่มือเท่านั้น แต่เธอยังใช้ปากของเธออีกด้วย!

ตอนนี้ หลัวซิ่วเฉินรู้สึกเหมือนกําลังจะเป็นบ้า

เจี่ยนหยู่หมินมองดูหลัวซิ่วเฉิน ในขณะที่สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า จนทําให้เขาเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า เธอสามารถแสดงสีหน้าท่าทางที่หลากหลายเช่นนี้ได้อย่างไร

ดูเหมือนว่าหัวใจของเธอกําลังขัดแย้งกันมากในตอนนี้

ในขณะนั้น เจี่ยนหยู่หมินก็คิดในใจ ว่านี่ไม่นับว่าเป็นการนอนกับแฟนคลับตัวยงใช่ไหม?

“พี่ชายหยู่หมิน” ในที่สุดหลัวซิวเอ็นก็พูดออกมา หลังจากนั่งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไปเถอะ และฉันต้องขอโทษสําหรับสิ่งที่ทําลงไป ยังไงนายก็คิดแค่…แค่คิดว่านายถูกยุงกัดเท่านั้นก็พอ!”

ถูกยุงกัดงั้นเหรอ?

เธอกําลังพูดเกี่ยวกับตัวเองออกมาอย่างนั้นเหรอ?

เจียนหยู่หมินไม่เคยคาดคิด ว่าหลัวซิ่วเอินจะขอให้เขาลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้

เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการคบหา และมีความสัมพันธ์กับเธออย่างชัดเจน

เขาไม่ใช่คนประเภททําตัวสบายๆไปวันๆ ก่อนที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เขาต้องยืนยันว่าพวกเขาทั้งคู่ชอบพอกันอยู่ก่อนแล้ว

เจี่ยนหยู่หมินมองไปที่หลัวซิ่วเฉิน และไม่ได้ตอบอะไรออกไป ซึ่งตอนนี้เขารู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย โดยที่ปฏิกิริยาแรกของหลัวซิ่วเอินก็คือ การเคลียร์ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขา

เกิดอะไรขึ้น? การมีความสัมพันธ์กับเขาทําให้เธอต้องอับอายงั้นเหรอ?

หรือว่าเธอไม่พอใจในตัวเขากันแน่?

การแสดงออกเมื่อคืนก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนี่!