เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 681-682
เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 681 กระเช้ยาชู กําลังและอาหารเสริม
ท่านรองแห่งตระกูลจํายยุ่งมาก หลังจากพักเพียงหนึ่งคืน เขาก็รีบจากไปในวันรุ่งขึ้นทันที
เขาจากไปก่อนที่ท้องฟ้าจะสว่าง
บางทีที่เขาจากไปเร็วขนาดนี้ อาจเป็นเพราะการรู้จี้ขี้บ่นของท่านผู้เฒ่าจําย
ก่อนหน้านี้ ทุกคนในตระกูลจํายเป็นโสดกันทุกคน ท่านผู้เฒ่าจํายไม่สามารถแต่งงานกับใครได้อีก และในที่สุดนายท่านเชิงก็มีคู่หมั้นเป็นของตัวเอง ดังนั้น คนเดียวที่เหลืออยู่มีเพียงท่านรองแห่งตระกูลจ่ายเท่านั้น
เนื่องจากท่านรองแห่งตระกูลจํายยังไม่แก่จนเกินไป ซึ่งเขายังสามารถมีลูกได้ ถ้าหากเขาตั้งใจจะมีภรรยาจริงๆ
ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ท่านผู้เฒ่ายจะต้องเล่นละคร เพื่อกระตุ้นการแต่งงานของลูกชายตัวเอง และเขามักจะพูดถึงเรื่องนี้อยู่เสมอ
แต่ว่า ท่านผู้เฒ่าจํายไม่สามารถกระตุ้นนายท่านรองแห่งตระกูลจํายได้อีกต่อไป จึงทําให้สายตาของเขาจ้องไปที่หลานชายและหลานสะใภ้ในอนาคตแทนทันที
อืมม…เขาจะทําอะไรได้บ้าง เพื่อให้เจียนอหลิงตั้งครรภ์ก่อนแต่งงาน?
เพื่อให้ตระกลได้เติบโตยิ่งขึ้นกว่าเดิม ท่านผู้เฒ่ายพร้อมที่จะไร้ยางอายในเรื่องแบบนี้เสมอ
และด้วยเหตุนี้ ท่านผู้เฒ่าจํายจึงมีความคิดที่น่ากลัวเช่นนี้ออกมา
เช้าวันรุ่งขึ้น เจี๋ยนอหลิงได้รับ “ของขวัญแห่งความรัก” จากท่านผู้เฒ่าย
เขาได้มอบกระเช้ากับเธอ ซึ่งภายในกระเช้านั้นมียาชูกําลังและอาหารเสริมอยู่มากมาย
และทั้งหมดนี้มีไว้สําหรับเธอเท่านั้น
เพราะจํายหวินเชิงไม่สามารถกินอาหารเสริมพวกนี้ได้
แต่ว่า เจียนอีหลิงสามารถกินของที่อยู่ในกระเช้านี้ได้
ดังนั้น ตัวเลือกเดียวของท่านผู้เฒ่าจํายก็คือเจียนอหลิง
เจียนอหลัง จ้องไปที่กระเช้ายาชูกําลังและอาหารเสริมที่อยู่ในห้องทํางาน ซึ่งตอนนี้เกือบครึ่งห้องเต็มไปด้วยกระเช้าของท่านผู้เฒ่าย และเธอไม่รู้ว่าจะทํายังไงกับมันดี
เจียนอีหลิงมองไปที่จํายหวินเชิง เพื่อขอความช่วยเหลือ
เมื่อเห็นแบบนี้ จํายหวินเชิงก็ยิ้มออกมา “อย่ามองสามีในอนาคตของเธอแบบนั้น เพราะฉันกินของพวกนี้ไม่ได้ แต่ถ้าเป็นเธอสามารถทําได้อย่างแน่นอน และเธอควรลองกินสิ่งนี้จริงๆ เมื่อกินเข้าไปแล้วฉันรับรองได้ว่าหลังจากนั้น…”
“หลังจากนั้นทําไมงั้นเหรอ?”
“ต่อไปเธอจะไม่เหนื่อยมาก เมื่อต้องทําการผ่าตัดในอนาคต”
ในเวลานี้ มีการประชุมเกิดขึ้นที่ไฉ่หนิงชวน
มีกลุ่มคนนั่งอยู่ในห้องโบราณเล็กๆ ซึ่งภายในห้องนี้มีทั้งชายและหญิงอยู่ด้วยกัน บางคนแก่กว่าและบางคนอายุยังน้อย
ทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะที่อยู่ในวงการเดียวกัน
วันนี้ พวกเขามาที่นี่เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับผู้นําตระกูลหญิงคนใหม่ของตระกูลจําย
สําหรับตระกูลอื่นๆ การหมั้นหมายถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป แต่จะแตกต่างออกไปทันที ถ้าหากเป็นการหมั่นหมายของตระกูลจําย
และนี่เป็นช่วงการประเมินผู้นําตระกูลหญิงในอนาคตของตระกูลจ่าย ซึ่งเป็นกฎที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษหลายชั่วอายุคน
ด้วยเหตุนี้ จึงมีช่วงระยะเวลาหนึ่งที่พวกเขาจะต้องทําการตรวจสอบผู้นําตระกูลหญิงคนนี้
หากในช่วงเวลานั้น ประสิทธิภาพของผู้นําตระกูลหญิงมีคุณสมบัติไม่เพียงพอ ก็จะทําให้สัญญาการแต่งงานในอนาคต จะต้องถูกยกเล็กในทันที
โดยทั่วไป การประเมินนี้จะมีระยะเวลาประมาณสองถึงสามปี
หลังจากการประเมินนี้สิ้นสุดลง หญิงสาวคนนั้นก็จะได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ ว่าเธอเป็นผู้นําตระกูลหญิงของตระกูลจํายอย่างแท้จริง
“ฉันเดาว่าครั้งนี้เรื่องจะต้องจบลงอย่างรวดเร็ว เพราะเธอเป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มีชื่อว่าเจียนอีหลิง”
คนที่พูดขึ้นมาคือชายชราในวัย 60 เศษ ซึ่งเขามีรูปร่างอ้วนและมีใบหน้ากลม
ซึ่งชายชราคนนี้เป็นที่นับถือของคนกลุ่มนี้เป็นอย่างมาก
“ครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นขี้ในไฉ่หนิงชวน ฉันรู้ว่าเรื่องนี้ได้รับการตัดสินใจในเบื้องต้นไปแล้ว ซึ่งตระกูลยี่ไม่เคยสุ่มแจกจอย่างแน่นอน และถ้านายท่านเชิงได้ให้จี้กับคุณหนูอหลิง ก็แสดงว่าเขาได้ตัดสินใจไปแล้วว่าจะต้องเป็นเธอเท่านั้น”
คราวนี้ เป็นหญิงวัยกลางคนพูดขึ้นมาบ้าง ซึ่งคําพูดและออร่าของเธอไม่ได้อ่อนแอไปกว่าผู้ชายภายในห้องนี้เลย
หลังจากนี้ คนอื่นๆก็ได้แสดงความคิดเห็นออกมาเช่นเดียวกัน
“ผู้นําตระกูลหญิงของตระกูลย อาจจะส่งผลต่อพันธมิตรทั้งหมดของเรา และฉันรู้สึกว่าตระกูลจํายรีบตัดสินใจในเรื่องนี้เร็วเกินไป”
“อาา…ตั้งแต่หัวหน้าคนก่อนของตระกูลจํายถึงแก่กรรม อํานาจในมือก็เริ่มลดน้อยลงไปเรื่อยๆ และยิ่งไปกว่านั้น หัวหน้าคนปัจจุบันของตระกูลจํายก็แก่ลงทุกวัน และถ้าหากยังเป็นแบบนี้ต่อไป ตระกูลจํายจะต้องจบสิ้นแน่”
“ใช่ ฉันคิดว่าถึงเวลาที่จะต้องเลือกผู้นําคนใหม่กันแล้ว”
ผู้ชายอายุ 30 ต้นๆได้แนะนําสิ่งนี้ขึ้นมา ซึ่งคําแนะนําของเขาทําให้ท่าทางของกลุ่มเปลี่ยนไปในทันที
บทที่ 682 พันธมิตรทางธุรกิจ
ทุกคนต่างรีบคัดค่านเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว
“นายไม่ควรพูดถึงเรื่องไร้สาระแบบนี้ออกมา ซึ่งตระกูลจํายเป็นผู้นําของเรามาตั้งแต่สมาคมจงอี้ได้เริ่มก่อตั้งขึ้น อีกทั้งตระกูลจํายได้ช่วยให้เราสามารถรักษารากฐานของพันธมิตรมาเป็นเวลาหลายร้อยปี”
ซึ่งสมาคมจงของพวกเขามีประวัติศาสตร์มาหลายร้อยปีแล้ว
พันธมิตรเริ่มก่อตั้งขึ้นครั้งแรก ในช่วงเวลาที่ประเทศเกิดความวุ่นวายและเกิดความไม่สงบ
ย้อนกลับไปในตอนนั้น บรรพบุรุษของตระกูลจ่ายได้รวบรวมกลุ่มคนที่มีความสามารถ เพื่อช่วยประเทศและประชาชน อีกทั้งยังได้ก่อตั้งสมาคมเพื่อมนุษยธรรมสําหรับประเทศขึ้นมาอีกด้วย
และด้วยเหตุนี้ สมาคมจึงถูกตั้งชื่อว่าสมาคมจง
ต่อมาเมื่อยุคสมัยและกาลเวลาได้เปลี่ยนแปลงไป บุคคลเหล่านี้ก็เริ่มมีส่วนร่วมกับธุรกิจและวงการอื่นๆมากขึ้น ซึ่งทุกคนต่างก็สนับสนุนกัน และก้าวหน้าหรือถอยหลังไปพร้อมกัน
ทุกวันนี้ พวกเขาเป็นเหมือนพันธมิตรทางธุรกิจเสียมากกว่า
พวกเขายังคงปฏิบัติตามกฎของบรรพบุรุษอยู่ตลอด ซึ่งบ่อยครั้ง พวกเขาจะทําบุญกับคนที่ขัดสน ถึงแม้ว่ารูปแบบการทําบุญจะแตกต่างจากเมื่อหลายร้อยปีก่อนก็ตาม แต่ว่าแนวความคิดนี้ก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม
ซึ่งสมาคมจงอี้ยังคงแข็งแกร่งจนมาถึงทุกวันนี้ จึงทําให้ตระกูลของพวกเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมหลายสิบเท่า หรืออาจจะเป็นเพราะพวกเขาปฏิบัติตามกฎของบรรพบุรุษอย่างเคร่งครัดก็เป็นไปได้ และท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนในพันธมิตรต่างก็มีความสัมพันธ์ที่แยกจากกันไม่ได้
ตระกูลจํายเป็นผู้นําของตระกูลอื่น ในการเริ่มก่อตั้งสมาคมจงอี้ และยังคงเหมือนเดิมจนถึงทุกวันนี้
และสิ่งนี้ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงมาหลายร้อยปีแล้ว
อีกคนจึงพูดเสริมขึ้นมาว่า “ฉันเห็นด้วย พวกเราคือสมาคมจงอี้ ซึ่งเรามีคําว่าภักดีในชื่อของสมาคมเรา ดังนั้นเราจะทําสิ่งนั้นได้อย่างไรกัน”
ชายคนนั้นรับโต้กลับทันที “ทําไมถึงจะทําไม่ได้ ตอนนี้กาลเวลาได้เปลี่ยนไปแล้ว เราไม่จําเป็นต้องเดินตามบรรพบุรุษเมื่อหลายร้อยปีก่อนอีกต่อไป”
“ฉันไม่มีทางเห็นด้วยอย่างแน่นอน!”
คนอื่นยังคงคัดค้านคําแนะนําของชายคนนั้นอย่างหัวเด็ดตีนขาด
จากนั้น ชายชราที่ค่อนข้างอวนได้กล่าวขึ้นว่า “เว้นแต่หัวหน้าตระกูลจ่ายหรือผู้น่าตระกูลหญิง ไม่สามารถทําตามบทบาทหน้าที่ได้ ซึ่งฉันก็ไม่เต็มใจที่จะทําลายกฎของบรรพบุรุษที่มีมานานนี้ และเราไม่ควรทําลายรากฐานของพันธมิตร
ชายหนุ่มหัวเราะก่อนพูดว่า “หยุดพูดถึงกฎของบรรพบุรุษกันเสียที ทั้งๆที่กฎพวกนั้นได้ตายไปตั้งนานแล้ว แต่ว่าผู้คนต่างหากที่ยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้น ถ้าหากเราไม่สามารถก้าวให้ทันกาลเวลาในปัจจุบันได้ พันธมิตรทั้งหมดของเราจะพังทลายลงในที่สุด และพวกคุณก็ได้เห็นแล้ว ว่าอำนาจของตระกูลยค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆ แล้วที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ คู่หมั้นของนายท่านเชิงไม่สามารถช่วยเหลือพันธมิตรของเราได้อย่างแน่นอน อีกทั้งรูปลักษณ์ของเธอทําให้ดูเหมือน…ดูเหมือนเธอจะดูแลครอบครัวธรรมดาๆไม่ได้ด้วยซ้ําไป”
คู่หมั้นของนายท่านเชิงดูเหมือนเด็กผู้หญิงที่อ่อนแอและอ่อนโยน ดังนั้น เธอไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นําตระกูลหญิงของตระกูลยแม้แต่น้อย
ผู้หญิงคนนั้นค่อนข้างหน้าตาดี คงมีคนอยากปกป้องเธออยู่มากมาย แต่ว่ามันไม่มีประโยชน์เลย เมื่อต้องมาเป็นผู้นําตระกูลหญิงของตระกูลนี้
แต่ในประเด็นนี้ ทุกคนกลับเห็นด้วยกับมุมมองของผู้ชายคนนี้
เธอดูอ่อนแอเกินไปจริงๆ ซึ่งตัวเธอมีทักษะความเป็นผู้นําขั้นพื้นฐานด้วยงั้นเหรอ? แล้วผู้หญิงคนนี้จะสามารถเป็นผู้นําที่ยอดเยี่ยมได้ยังไงกัน?
หลายคนครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานาน แต่พวกเขาก็ยังไม่มีคําตอบที่ถูกต้องเสียที
“แต่ถ้าท่านรองแห่งตระกูลจํายอยากกลับมาเป็นหัวหน้าตระกูล เราก็ลืมเรื่องที่พูดกันไปได้เลย” ชายหนุ่มกล่าวเสริม
เขาคงไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ถ้าหากเป็นท่านรองแห่งตระกูลจ่าย
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ทุกคนกําลังไม่พอใจจํายหวินเชิงและเจียนอหลิงเป็นอย่างมาก
จํายหวินเชิงสุขภาพไม่แข็งแรง ในทางตรงกันข้าม เจี่ยนอีหลิงกลับไม่มีอะไรดีเลยแม้แต่น้อย
อีกด้านหนึ่ง จํายหวินเชิงได้มอบรหัสผ่านบัญชีให้เจี่ยนอีหลิง
“นี่คืออะไร?” เจียนอหลิงถาม
“นี่คือสมุดบัญชี” จยหวินเชิงตอบ “เมื่อเวลาผ่านไป เรื่องอะไรๆส่วนใหญ่ก็มักจะใช้วิธีการดูสมุดแบบออนไลน์
จากนั้น จยหวินเชิงได้ทําการเปิดซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ชนิดพิเศษ ซึ่งซอฟต์แวร์นี้ไม่ได้เผยแพร่สู่สาธารณะ แต่มันถูกใช้งานโดยสมาชิกของสมาคมจงอี้เท่านั้น