เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 677-678

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 677 ภรรยาที่ สมบูรณ์แบบสําหรับนายท่านเชิง

เจี่ยนอีหลังต้องการปฏิเสธของขวัญเหล่านี้ แต่ทว่าจํายหวินเพิ่งได้รับของขวัญให้เธอไปแล้ว

“ไม่ต้องกังวล สิ่งที่อารองมอบให้เธอ มันเป็นของเธอ”

“มากเกินไป” เจี่ยนอีหลิงกระซิบ

สิ่งของมากมายในรายการนั้นมีค่ามากเหลือเกิน แค่ทรัพย์สินเพียงอย่างเดียวก็เป็นเงินจํานวนมหาศาลแล้ว

“ไม่เป็นไร เอาของที่อารองให้ไปเถอะ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธของขวัญจากเขา” จํายหวินเชิงกล่าว

เวินรั่วก็อยู่ที่นี่ในขณะนี้ด้วย

เนื่องจากเป็นเฉิงและไช่ชิงเยว่เป็นลุงและป้าของเจี่ยนอีหลิงพวกเขาจึงควรอยู่ที่นั่นในวันนี้

แต่ทว่า เนื่องจากอุบัติเหตุ ทั้งคู่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะขาดงานหมั้นไม่ได้

และด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงให้เป็นรั่วมาแทน

เมื่อเวินรั่วเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เธออดไม่ได้ที่จะมองไปรอบๆ

เขาคือ CEO ในตํานานของเทียนชิงกรุ๊ป นอกจากนี้ เขาเป็นถึงนายท่านรองของตระกูลยี่ ของขวัญเหล่านี้อาจมีค่ามากกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลเจียน

ยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นเพียงของขวัญงานหมั้น

เห็นได้ชัดว่าตระกูลจํายแตกต่างจากครอบครัวอื่นๆในเป่ยจึงเหลือเกิน

แม้แต่ครอบครัวของสื่อโม่ ก็เทียบไม่ได้กับตระกูลจํายในแง่ของอํานาจและความมั่งคั่ง

จากนั้นนายท่านรองของตระกูลจํายก็เดินไปที่ปู่เจียนและเจี่ยนชฉิง

จับมือกับทั้งสองคนอย่างแข็งขัน

“ปู่เอี่ยน เจี่ยนชูฉิง”

เมื่อได้รับการต้อนรับอย่างดี ปู่เจียนและเจี่ยนชฉิงรู้สึกปลาบปลื้มมากเหลือเกิน พวกเขาไม่รู้จะตอบยังไง

อันที่จริง พวกเขาไม่ควรได้รับความเคารพเช่นนั้นจากนายท่านรองแห่งตระกูลจ่ายด้วยซ้ํา

“นายท่านรองจํายสภาพเกินไปแล้ว” เขียนชจึงพูดอย่างเร่งรีบ

“เป็นโชคดีที่ได้ลูกสาวจากตระกูลเจียนมาเป็นสะใภ้”

พ่อแม่ของจํายหวินเชิงเสียชีวิตไปแล้วทั้งคู่ ส่งผลให้นายท่านรองจํายกลายเป็นพ่อสําหรับ
เขา

จึงได้ดีมากมาตลอด” “คนอื่นคนไกลที่ไหนกันเล่า นายท่านเชิงเขาเก่งมาก เขานั้นดูแลอหลิงได้ดีมากมาตลอด”

แม้ว่าตระกูลเจียนจะรู้ว่าเจียนอหลิงมีความสามารถมากแค่ไหน แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถทนต่อค่าชมดังกล่าวจากนายท่านรองของตระกูลจ่ายได้

จากนั้นนายท่านรองของตระกูลจํายได้พูดคุยกับปู่เจียนและเขียนชูฉิงอยู่ค่อนข้างนาน

การพูดคุยที่สุภาพและเป็นมิตรไม่สอดคล้องกับกลิ่นอายและรูปลักษณ์เขาเลยแม้แต่น้อย

ปู่เจียนและเจียนชูฉิงเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น

มีเพียงท่านผู้เฒ่าจํายและจํายหวินเชิงเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ เพราะพวกเขารู้ดีว่านายท่านรองจ่ายนั้นน่ากลัวมากต่อหน้าคนนอก แต่ก็เป็นเพียงเสื้อกระดาษต่อหน้าตระกูลของพวกเขาเอง

จากนั้นท่านรองแห่งตระกูลจํายก็จ้องไปที่เวินน่าน

“ฉันได้ยินมาว่าเธอมีลูกถึงสี่คน?” นายท่านรองจํายถาม

“ใช่ อีหลิงมีพี่ชายสามคน” เป็นนวนตอบ เธอแนะนําลูกชายทั้งสามเธอให้เขาฟังที่ละคน

เจียนหยุ่นเฉิงและเจี่ยนหยุ่นน่าวอยู่ด้วย แต่ทว่าเจียนหยุ่นโม่กลับไม่อยู่

เมื่อนายท่านรองแห่งตระกูลจํายมองไปที่เจี่ยนหยุ่นเฉิงและเจี่ยนหยุ่นน่าวเขาอดยิ้มไม่ได้

สุดยอดจริงๆ

ย่าเจียนมีลูกชายสามคน

ดังนั้น ทั้งหมดจึงมีหลานเก้าคนในตระกูลเจียน

จากจํานวนนั้น เจี๋ยนชฉิงมีลูกถึงสี่คน

ดูเหมือนว่าตระกูลเจียนจะมีประเพณีการมีลูกเยอะ

จุดนี้เหมาะสําหรับตระกูลจํายของพวกเขามาก

สิ่งนี้มีประโยชน์มากกว่าเงินและอ่านาจของตระกูลจ่ายมาก

เงินนั้นไม่สําคัญ ตระกูลจํายของพวกเขาไม่ได้ขาดแคลนเงิน

ในทางกลับกัน พวกเขาขาดคน

และเจียน หลังยังเป็นนักศึกษาแพทย์ มีคุณสมบัติเป็นแพทย์ตั้งแต่อายุยังน้อย และเป็นศัลยแพทย์ที่ยอดเยี่ยม

เธอช่างเหมาะกับจ่ายหวินเชิง

ในสายตาของนายท่านรองจ่าย เจี่ยนอีหลิงคือภรรยาที่สมบูรณ์แบบสําหรับจํายหวินเชิง

ยกเว้นที่อยู่เจี่ยนอหลังในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ถึงจะน่าสงสัยแต่นอกจากนั้นเธอก็ไม่มีปัญหาอะไร

บทที่ 678 สําลักขณะแกล้งเธอ

งานหมั้นดําเนินไปอย่างราบรื่น ตระกูลจํายกระตือรือร้นอย่างมากต่อตระกูลเจียน

นี่เป็นสัญญาณที่ดีกับตระกูลเจียน

ในอนคตถ้าเจียนอีหลังแต่งงานกับตระกูลจํายจริงๆก็จะไม่ถูกรังแก

หลังงานหมั้น เจียนอหลิงกลับบ้านพร้อมกับจํายหวินเชิง

พอเข้ามาบ้าน เจี๋ยนอหลิงก็เห็นจํายหวินเชิงกาลังยิ้ม

รอยยิ้มเขาค่อนข้างดูดี

“ตอนนี้เธอไม่ได้เข้ามาในบ้านฉันในฐานะหมอประจําตัวของฉันอีกต่อไปแล้ว”

แต่ตอนนี้เธอเป็นคู่หมั้นของเขา

เจียนอีหลิงหน้าแดงระเรื่อเหมือนแอปเปิ้ลแดงที่เพิ่งสุก

พอเห็นหน้าของเจี่ยนอีหลิงแดง รอยยิ้มของจํายหวินเชิงชัดเจนยิ่งขึ้น “เราหมั้นกันแล้ว เดี๋ยวนี้เขินเป็นแล้วงั้นเหรอ มันช้าไปหน่อยมั้ย?”

จากนั้นเขาก็หยอกล้อเลี่ยนอีหลิงต่อไป “เธอรู้ไหม หลังจากที่เราหมั้นกัน ความสัมพันธ์ของเราก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว? เธอเป็นคู่หมั้นของฉัน เช่นนั้นเรามา…”

“จะสืบพันธ์งั้นเหรอ” เจียนอหลิงถาม

ในฐานะแพทย์ที่เรียนวิชาชีววิทยาได้ดี เจี่ยนอีหลิงก็ไม่รู้เรื่องนี้หรอก

แต่เธอมีความรู้ทางทฤษฎีเพียงพอเกี่ยวกับกายวิภาคของมนุษย์และการสืบพันธุ์

“แค่ก แค่ก แค่ก…”จ่ายหวินเชิงสําลัก

ตอนแรกตั้งใจจะแกล้งกระต่ายน้อย แต่ทว่าค่าพูดของเจียนอหลิงทําให้เขาสําลักน้ําลายแทน

ดูเหมือนกระต่ายน้อยจะรู้มาก

จํายหวินเซึ่งมองไปที่ใบหน้าของเจียนอีหลิง ใบหน้าเธอเยือกเย็นดวงตาเธอดูอยากรู้อยากเห็นและใสซื้อเล็กน้อย

จํายหวินเชิงอยากจะทําอย่างที่เธอพูดไปชั่วขณะ

แต่มันเป็นเพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น

จํายหวินเชิงรีบพูดว่า “ดึกมากแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ อย่านอนดึกล่ะ อย่าทําให้ร่างกายอ่อนแอ

“โอเค”

จากนั้นเจียนอีหลิงก็หันหลังกลับและมุ่งหน้าเข้าไปในห้องเธอ

เธอไม่ได้สังเกตว่าจ่ายหวินเชิงกําลังจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เร่าร้อน

ความร้อนที่แผดเผานี้ ถูกระงับด้วยตัวเขาเอง

มันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม

แม้ว่าเขาจะใช่วิธีที่น่ารังเกียจเพื่อให้พวกเขาได้หมั้นกัน แต่เขาไม่ต้องการใช้วิธีเดียวกันเพื่อ ทําให้เธอเป็นของเขา

เขาจะรอเธอ

รอจนกว่าความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขาชัดเจนขึ้น

รอให้เธอเข้าใจมากกว่านี้อีกนิด

ข่าวการหมั้นของจํายหวินเชิงและเจียนอหลิงได้ระเบิดไปทั่ววงการข่าวในเป่ยจิง

ปฏิกิริยาแรกของคนส่วนใหญ่ คือเจียนอีหลิงคือใคร

ยกเว้นคนที่ไปเที่ยวกับจํายหวินเชิง บางคนอาจจะเคยเห็นเจี่ยนอีหลิงและรู้จักเธอแล้ว แต่คนอื่นก็รู้แค่ว่าเจียนอหลิงมาจากครอบครัวธรรมดาในเมืองเหิงหยวน พวกเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลย

[ใครคือเจียนอหลิง เธอรู้จักกับนายท่านเชิงได้ยังไง?]

[ใช่ เธอเจอเขาได้ยังไง นานท่านเชิงเป็นคนที่ไม่ได้พบได้ง่ายๆสักหน่อย]

(นี่มันนกกระจอกกลายเป็นหงส์ ผู้หญิงที่ไม่เคยได้ยินชื่อกลายเป็นผู้นําตระกูลหญิงของตระกูลจําย]
ปฏิกิริยาที่สองของทุกคน คือฉันหยุฝานจะมีปฏิกิริยายังไง

ทุกคนคิดว่าฉันหยุฝานจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ พวกเขากําลังรอให้ฉันหยุฝานทําให้เจี่ยนอีหลิงลําบาก

เพราะในเป่ยจิง ตระกูลเดียวที่กล้ายุ่งกับตระกูลยคือตระกูลฉิน

แม้ว่าตอนนี้เธอกําลังถูกพูดคุยกัน แต่ฉันหยุฝานก็จ้องไปที่โทรศัพท์ของเธอ

เธอกําลังจ้องมองที่ประวัติการสนทนาระหว่างเจี่ยนอี้เฉินกับเธอ

การสนทนาทั้งหมดมุ่งเน้นไปที่คดีลักพาตัวครั้งสุดท้าย

หัวข้อการสื่อสารระหว่างพวกเขาทั้งหมดเกี่ยวกับธุรกิจอย่างเดียว

ตามที่เขาพูด เขาแค่ต้องการใช้เธอเพื่อควบคุมฉินชวน

ยังไงก็ตามจนถึงตอนนี้ เธอยังไม่รู้เลยว่าฉันชวนไปทําอะไรให้เขากันแน่