เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 671-672
เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 671 ท่านรองแห่งตระกูลจําย
จูสื่อโม่รีบตอบแทนเวินรั่วทันที “แน่นอนเวินรั้วเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะท้ายที่สุดแล้ว Dr.FS ก็ได้ช่วยชีวิตพ่อของเธอเอาไว้ แล้วเธอจะไม่เห็นด้วยได้ยังไง?”
“งั้นก็ดี”
จ่ายหวินเชิงพูดก่อนที่จะเดินจากไป
หลังจากที่จสื่อโม่มองจ่ายหวินเชิงเดินออกไปแล้ว เขาก็หันกลับมาถามเวินรั่วว่า “ญาติของเธอนี่โชคดีจริงๆ แม้แต่นายท่านเชิงก็ออกมาหาด้วยตัวเอง แล้วเป็นเรื่องจริงงั้นเหรอที่ญาติของเธอจะหมั้นกับใครสักคน? แต่ฉันกลับมองว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างญาติของเธอกับนายท่านเชิง..”
“อย่าเดาส่งเดช” เวินรั่วพูดขึ้นมาทันที ตอนนี้เธอไม่อยากได้ยินจุสื่อโม่พูดถึงเจียนอหลิงอีก “ฉันหิวแล้ว ช่วยไปซื้ออาหารให้หน่อยได้ไหม?”
“โอเค พักผ่อนเถอะไม่ต้องเสียใจไป ตอนนี้พ่อกับแม่ของเธอปลอดภัยแล้ว” จุสื่อโม่ปลอบโยนเวินรั่ว
จากนั้น เขาก็เดินออกไปเพื่อซื้ออาหารให้
แต่ทว่า จสื่อโม่ไม่ได้ไปซื้ออาหารทันที ในทางกลับกันเขากลับเดินไปที่วอร์ด ซึ่งตอนนี้เจียนอหลิงกําลังพักอยู่
เขาเดินไปรอบๆทางเดินของโรงพยาบาลครู่หนึ่ง
และในที่สุด เขาก็เห็นเจี่ยนอีหลิงกําลังนั่งกินข้าวอยู่คนเดียว
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเป็นถึง DrFS ซึ่งท่ามกลางข่าวลือ เธอถูกมองว่าเป็นศัลยแพทย์ที่มีฝีมือมากที่สุดในประเทศจีน
แต่เนื่องจากคําพูดของเวินรั่วก่อนหน้านั้น ทําให้ความประทับใจครั้งแรกของจูสื่อโม่ค่อนข้างแย่ แต่ตอนนี้ ในสายตาของเขา เธอเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับจํายหวินเชิงมากที่สุด
หลังจากที่เดินโฉบอยู่หน้าประตูครู่หนึ่ง จูสื่อโม่ก็เดินเข้าไปในห้องเพื่อทักทายเจี่ยนอีหลิง
“สวัสดี ฉันชื่อจุสื่อโม่ เป็นแฟนของญาติเธอ วันนี้ขอบคุณมากที่พยายามอย่างหนักเพื่อช่วยลุงเวิน ฉันมาเพื่อขอบคุณแทนเวินรั่ว”
“ด้วยความยินดี ถึงยังไงเขาก็เป็นลุงของฉัน” เจียนอีหลิงตอบ
“เธอทําหน้าที่นี้แล้ว ไม่ว่ายังไงก็ตามเราก็อยากขอบคุณจริงๆ” จูสื่อโม่ตอบ น้ําเสียงเขาอ่อนโยนและจริงใจเป็นอย่างมาก
“อือ” เจียนอหลิงตอบ เธอคุยกับคนไม่ค่อยเก่ง
“อีกอย่าง ตระกูลของฉันมีธุรกิจอยู่ในเบี้ยจึงมากมาย ถ้าหากต้องการความช่วยเหลือในอนาคต โปรดติดต่อมาได้เลย”
จากนั้น จสื่อโม่ก็วางนามบัตรลงบนโต๊ะของเจียนอีหลิง ซึ่งตอนนี้บนโต๊ะของเธอเต็มไปด้วยกล่องอาหาร
“งั้นไปก่อนนะ เพราะต้องไปหาซื้ออาหารให้เวินรั่ว ซึ่งก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุ”
จากนั้น จสื่อโม่ก็โบกมือลาเจียนอหลิงก่อนที่จะหันหลังเดินจากไป
อีกด้านหนึ่ง จยหวินเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากอาของเขา
“แกกําลังจะหมั้นงั้นเหรอ? แล้วทําไมถึงไม่บอกฉันล่วงหน้า ขอเวลาให้ฉันเตรียมของขวัญก่อนไม่ได้หรือไง!”
ท่านรองแห่งตระกูลจํายมีเสียงทุ้มลึก ซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นของฮอร์โมนเพศชาย
“ไม่จําเป็น ผมไม่ต้องการอะไรเป็นพิเศษ
“ไม่จําเป็นงั้นเหรอ แกหมายความว่ายังไง เธอคนนั้นจะมาเป็นภรรยาของแกในอนาคตเลยนะ บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ว่าแกจะหมั้นวันไหน ฉันจะกลับไปที่เป่ยจิงเพื่อร่วมงาน”
“งานที่นั่นยุ่งมาก อาไม่จําเป็นต้องกลับมาที่นี่เป็นพิเศษหรอก”
“งานยุ่งแค่ไหนก็จะไป ฉันจะไม่พลาดงานสําคัญของแกเป็นอันขาด”
อาของจํายหวินเชิงยืนกรานที่จะมาร่วมงานนี้ให้ได้
“โอเค อย่างนั้นก็ตามใจเถอะ” จํายหวินเชิงตอบ เขาไม่สามารถโน้มน้าวอาของเขาให้เปลี่ยน ใจได้
ที่ชั้นบนสุดของอาคารสํานักงานในประเทศ Y
มีชายวัยกลางคนกําลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะทํางานของเขา ลักษณะและร่างกายของผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์ในแบบผู้ชายอย่างเต็มเปี่ยม
ชายคนนี้มีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก และจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากท่านรองแห่งตระกูลจําย และเขาเพิ่งคุยกับจํายหวินเพิ่งจบไปเมื่อสักครู่นี้เอง
หลังจากวางสายไปแล้ว ท่านรองแห่งตระกูลจํายก็ขอให้คนของเขาค้นหาของขวัญให้หลานสะใภ้ในอนาคตทันที
“ไปเตรียมของขวัญให้หลานสะใภ้ในอนาคตของฉัน และของขวัญชิ้นนั้นต้องไม่ธรรมดา”
“ได้ครับ ท่านรอง”
“ว่าแต่ท่านรอง ทางเราได้ตรวจสอบข้อมูลของหญิงสาวแล้ว ความเป็นมาของครอบครัวเธอ ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ว่า…”
“เกิดอะไรขึ้น?” ท่านรองแห่งตระกูลจํายถามขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายในดวงตาของเขามีประกายเย็นชาขึ้นมาทันที
บทที่ 672 เจี่ยนอีหลิงกําลังหมั้นกับจํายหวินเชิง
“เราไม่สามารถตรวจสอบที่อยู่ของเธอ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาได้”
“ทําไมถึงตรวจสอบไม่ได้?”
และนี่เป็นปัญหาใหญ่สําหรับพวกเขา
ถ้าคนของเขาไม่สามารถติดตามข้อมูลของเธอได้ แสดงว่าเธอต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่าง
แน่นอน
“ขออย่าให้เธอเป็นคนที่คิดทําร้ายนายท่านเชิงก็พอ?”
ภรรยาในอนาคตของจ่ายหวินเชิง อาจมาจากครอบครัวธรรมดา เธอสามารถมีรูปลักษณ์ที่แสนธรรมดาได้ ไม่มีความสามารถอะไรเลยก็ได้ หรือจะมีนิสัยที่แย่มากขนาดไหนก็ยังได้
อย่างไรก็ตาม เธอต้องไม่ทําร้ายจํายหวินเชิง ไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือแม้กระทั่งจิตใจของเขาก็ตาม
นี่คืออาของจํายหวินเชิง ซึ่งมีข้อกําหนดเพียงอย่างเดียวสําหรับคนที่จะมาเป็นหลานสะใภ้ตระกลจ่าย
“จับตาดูต่อไป แต่อย่าทําให้เธอเกิดความไม่พอใจเป็นอันขาด นอกจากนี้ ต้องมีคนคอยดูว่าในแต่ละวันของเธอทําอะไรไปบ้าง”
ท่านรองแห่งตระกูลจําย ไม่ต้องการทําลายความสัมพันธ์ระหว่างหลานชายกับหลานสะใภ้ในอนาคต
เพราะในที่สุด หลานชายของเขาก็มีใจให้กับผู้หญิงเป็นครั้งแรกในรอบ 22 ปี
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สําหรับหลานชายคนนี้ที่จะสามารถดูแลสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ แล้วนับประสาอะไรกับผู้หญิงเพียงคนเดียว
แต่ว่า เขายังต้องสืบเรื่องนี้ให้ละเอียดอีกครั้ง และต้องมั่นใจว่าจะไม่มีใครสามารถทําอันตรายจ่ายหวินเชิงได้
“ผมเข้าใจ ผมรู้ว่าต้องทํายังไงต่อไป”
ตอนนี้เป็นเฉิงและไช่ชิงเยวทั้งคู่ได้ตื่นขึ้นมาแล้ว แต่เมื่อไช่ชิงเยวลืมตาขึ้นมา ภายในหัวใจของเธอต่างก็เต็มไปด้วยความเสียใจ
เธอไม่เพียงบาดเจ็บไปทั่วทั้งร่างเท่านั้น แต่เธอเกือบทําให้สามีของตัวเองเสียชีวิต
“พ่อของลูกได้พูดอะไรตอนที่ตื่นขึ้นมาบ้างไหม?” ไช่ชิงเยวถามลูกสาวด้วยความเป็นห่วง
“เขาถามว่าแม่มีอะไรผิดปกติบ้างไหม หนูก็เลยบอกไปว่าแม่ไม่ได้รับบาดเจ็บหนักเท่าพ่อ เมื่อได้ยินอย่างนี้เขาก็โล่งใจมากเลย”
เมื่อได้ยินคําพูดนั้น ดวงตาของไช่ชิงเยว่ก็เริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ เธอจําเรื่องที่ทะเลาะกับสามีในรถได้อย่างแม่นย่า และเมื่อยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจที่ได้กระทําสิ่งนั้นลงไป
“ตอนนั้น แม่ไม่ควรทะเลาะกับพ่อเลย มันเป็นความผิดของแม่ทั้งหมด”
“แม่คะ อย่าเศร้าไปเลย แม่แค่โกรธที่พ่อจะมอบ [ภูเขาแม่น้ําหมื่นสาย] เท่านั้น”
“ใช่ ถ้าไม่ใช่เพราะเวินน่วนและเจียนอีหลิง แม่ก็คงจะไม่ทะเลาะกับพ่อหรอก”
ไช่ชิงเยวและเวินรั่วไม่ต้องการตําหนิเวินเฉิง ดังนั้นความเกลียดชังทั้งหมดนี้ จึงถูกโยนไปที่เวินน่วนและเจี่ยนอีหลิงในทันที ที่เป็นสาเหตุทําให้เกิดความขัดแย้งระหว่างสองสามีภรรยา
“แม่คะ อย่าได้พูดถึงเรื่องนี้กับพ่ออีกในอนาคต แค่ทําตามที่เขาต้องการก็พอ”
“แม่รู้ แม่รู้ และแม่จะไม่ทําแบบนี้อีกแล้ว” ไช่ชิงเยวตอบกลับ ในขณะที่เธอหลั่งน้ําตาออกมาด้วยความสํานึกผิด
จุสื่อโม่ได้มาเยี่ยมเป็นเฉิงและไช่ชิงเยว่
ซึ่งเขาแวะมาเยี่ยมวอร์ดของไช่ชิงเยว่ก่อนเป็นคนแรก
เมื่อเธอเห็นจุสื่อโม่เดินเข้ามา ไช่ชิงเยว่ก็รีบปาดน้ําตาออกในทันที และรอยยิ้มพึงพอใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
“สื่อโม่ ทําไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่? ตอนนี้เธอกําลังยุ่งอยู่กับการจัดการธุรกิจของตัวเองไม่ใช่เหรอ? แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น ก็ยังสละเวลามาเยี่ยมในวันนี้ ป้าดีใจมากจริงๆ”
“ไม่เป็นไรครับ เวินรั่วไม่สามารถดูแลทั้งป้าและลุงได้พร้อมกัน ดังนั้น สิ่งนี้จะเป็นผลดีสําหรับ เธอที่ผมจะมาเยี่ยมบ่อยๆ เพื่อแบ่งเบาภาระของเธอได้บ้าง”
“นั่นเป็นความคิดที่ดีจริงๆ” ไช่ชิงเยวพยักหน้าลงเล็กน้อย และรอยยิ้มจริงใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
จุสื่อโม่ เหมาะสมที่จะเป็นลูกเขยในอนาคตของเธอจริงๆ
ไม่เพียงแต่มาจากตระกูลที่ดีเท่านั้น แต่จสื่อโม่ยังมีการศึกษาที่ดีอีกด้วย และนอกจากนี้ เขายังมีอุปนิสัยที่ดีและมีน้ําใจต่อเวินรั่วเป็นอย่างมาก
“อ้อใช่ เวินรั่ว ทําไมถึงไม่บอกฉันก่อนหน้านี้ล่ะ ว่าญาติของเธอเป็นคู่หมั้นของนายท่านเชิง?
“นายพูดว่าอะไรนะ?” เวินรั่วถามขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคํากล่าวนั้น ในขณะที่เธอมองไปที่จสื่อโม่ด้วยสีหน้าตกใจเป็นอย่างมาก
“โอ? เธอไม่รู้เรื่องนี้งั้นเหรอ ตอนนี้ข่าวเกี่ยวกับการหมั้นหมายของนายท่านเช่ง ได้แพร่กระจายไปทั่วเป่ยจิง ว่าเขากําลังจะหมั้นกับเจียนอีหลิง”
ข่าวนี้ทําให้ ไช่ชิงเยวและเวินรั่วตกตะลึงทั้งคู่
เป็นไปได้ยังไง?
เจียนอีหลิงกําลังจะหมั้นกับจํายหวินเพิ่งจริงๆ งั้นเหรอ?
“เป็นไปไม่ได้…ชายชราที่มาขอหมั้นหมายในวันนั้นได้บอกชัดเจนว่าเป็นหลานชายของเขา ถ้าหากหลานชายคนนั้นคือนายท่านเชิงแล้วล่ะก็…หรือว่าชายชราคนนั้นจะเป็น…”