เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 657-658
บทที่ 657 การอภิปรายอย่างเผ็ดร้อนเ…
ข่าวที่ว่าโรงพยาบาลรั่วไห่เซ็นกําลังจะจัดตั้งสาขาใหม่ในเป่ยจิงนั้นได้แพร่ระบาดไปทั่วทั้งเมืองอย่างรวดเร็ว
ข่าวนี้ได้สร้างความตื่นเต้นเป็นอย่างมากไม่ใช่เฉพาะกับวงการแพทย์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงโลกภายนอกด้วย
อันที่จริง มีการเปิดกระทู้หลายรายการบนอินเทอร์เน็ตเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่มากมาย
มุมมองของทุกคนมีความสอดคล้องกันอย่างน่าประหลาดใจพวกเขาทั้งหมดตั้งตารอในเรื่องนี้กันอย่างล้นหลาม
จากนั้น ทุกคนก็เข้าใจถึงสาเหตุที่โรงพยาบาลสั่วไห่เซ็นได้ทําการรับสมัครคน เพื่อคัดเลือกผู้สมัครในครั้งนั้นเพราะพวกเขาได้วางแผนที่จะเปิดสาขาใหม่
เวินรั่วกําลังกินข้าวอยู่กับแฟนหนุ่มของเธอ และตอนนี้เขากําลังพูดถึงข่าวนี้
“เธอรู้ไหมว่าโรงพยาบาลรั่วไห่เซิน เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลก ในแง่ของมาตรฐานทางการแพทย์? และตอนนี้พวกเขากําลังคิดที่จะเปิดสาขาในเป่ยจิง ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ดีมากเหลือเกินสําหรับพลเมืองของที่นี่!”
โรงพยาบาลรั่วไห่เซิน เป็นโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานทางการแพทย์เหนือกว่าโรงพยาบาลอื่นในโลกดังนั้นการเปิดสาขาในเป่ยจิง จึงเป็นที่ยอมรับสําหรับเมืองหลวงแห่งนี้
เวินรั่วเพิ่งเริ่มคบกับผู้ชายคนนี้ และเธอได้ยืนยันความสัมพันธ์นี้เมื่อสองวันที่ผ่านมา
ชายคนนี้มีชื่อว่าจสื่อโม่ เขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนในมหาวิทยาลัยของเธอ
จูสื่อโม่มีความเป็นมาที่ดีมาก เขาเป็นถึงนายน้อยของตระกูลใหญ่ในเป่ยจิง
ถึงแม้ว่าหน้าตาผู้ชายคนนี้จะไม่โดดเด่นมากนัก แต่จสื่อโม่ก็มีพรสวรรค์ในด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลการเรียนดี การเล่นเปียโน หรือไวโอลิน อีกทั้งยังสามารถแต่งเพลงของตัวเองได้อีกด้วย
และด้วยเหตุผลนี้ นอกเหนือจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างของจูสื่อโม่ คือผู้ชายในอุดมคติของเวินรั่วอย่างแท้จริง
ดังนั้น หลังจากที่จสื่อโม่ได้สารภาพรักกับเงินรั่ว เธอก็ตอบตกลงที่จะออกเดทกับอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ออกเดทแล้ว สิ่งเดียวที่ทําให้เป็นรั่วรู้สึกไม่สบายใจก็คือ จูสื่อโม่ชอบพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ปัจจุบัน เขาชอบที่จะแบ่งปันมุมมองและความคิดเห็นกับเธอ แต่ทว่าเป็นรั่วไม่แน่ใจว่าจะตอบเขาได้อย่างไร
ตัวอย่างเช่นตอนนี้ เป็นรั่วไม่ค่อยรู้จักโรงพยาบาลรั่วไห่เซ็นมากนัก แต่ทว่าจสื่อโม่ก็เอาแต่พูดถึงเรื่องนี้อยู่ตลอด
“เห็นได้ชัดว่าสถานที่ก่อสร้างของโรงพยาบาลได้รับการอนุมัติแล้ว และตอนนี้ทุกคนกําลังคาดเดาว่าบริษัทใดจะเป็นคนสร้างสาขาใหม่ของโรงพยาบาลรั่วไห่เซิน” จูสือโม่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ทําไมมันถึงสําคัญขนาดนั้น?” เวินรั่วถาม
“นี่ไม่ใช่แค่การทําเงินเท่านั้นเพราะมันสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับบริษัทนั้นได้อีกด้วยซึ่งโรงพยาบาลถั่วไห่เซินขึ้นชื่อด้านการใช้สิ่งที่ดีที่สุดดังนั้นบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกจากโรงพยาบาลแห่งนี้ก็จะได้รับการโฆษณาฟรีโดยอัตโนมัติอีกทั้งได้พบปะกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลแล้วใครจะไม่อยากรู้จักทีมลึกลับและแข็งแกร่งแบบนี้กัน?”
เมื่อได้ยินคําพูดของจูสื่อโม่ ร่องรอยของความคาดหวังก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเวินรั่ว
แต่ทว่าตระกูลเป็นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ดังนั้นเธอจึงทําได้เพียงแค่ฟังอยู่เงียบๆ เท่านั้น
จากนั้นเป็นรั่วก็ถามขึ้นว่า “พวกเขาจะตัดสินใจกันเมื่อไรงั้นเหรอ? นอกจากการก่อสร้างแล้ว พวกเขากําลังมองหาอย่างอื่นอีกไหม?”
“อืม…เราไม่ต้องพูดถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ของที่นี่ เห็นได้ชัดว่าบริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ชื่อหมิงได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลรั่วไห่เซิน ซึ่งผู้ผลิตได้จัดหาอุปกรณ์เฉพาะสําหรับโรงพยาบาลแห่งนี้โดยที่โรงพยาบาลอื่นไม่สามารถซื้ออุปกรณ์นี้ได้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะต้องการมันมากขนาดไหนก็ตาม”
ปัจจุบัน บริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ชื่อหมิง ได้ขายผลิตภัณฑ์เพียงสองผลิตภัณฑ์ให้กับตลาด แต่ทว่าผลิตภัณฑ์ทั้งสองนี้ ทําให้พวกเขาทํากําไรได้อย่างมากมาย
“ในแง่อื่นนั้น…ฉันเองก็ยังไม่แน่ใจเท่าไร” จูสื่อโม่ตอบเขาต้องการทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมากซึ่งท้ายที่สุดเขาก็จะสามารถสร้างรายได้และชื่อเสียงด้วยการทําธุรกิจให้กับโรงพยาบาลรั่วไห่เซ็น
หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว จสื่อโม่ก็ไปส่งเงินรั่วกลับบ้าน
แต่เมื่อจุสื่อโม่ไปถึงหน้าประตู เขาก็เห็นเงี่ยนอีหลิงออกมาพอดี
เนื่องจากย่าเงี่ยนอาศัยอยู่ในวิลล่าของตระกูลเวินจึงทําให้เงี่ยนอีหลิงมาเยี่ยมผู้เป็นย่าเป็นครั้งคราว
“ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน? แล้วทําไมถึงออกมาจากบ้านของเธอได้”จูสื่อโม่ถามเวินรั่วขึ้นมาทันที
บทที่ 658 อาจไม่ได้มาจากครอบครัวที่ดี
“เธอเป็นญาติฉันเอง” เป็นรั่วตอบ จากนั้นเธอก็พูดเสริมอีกว่า“แต่ว่าเธอกําลังจะหมั้นแล้ว”
“กําลังจะหมั้นงั้นเหรอ? แต่ว่าดูเด็กกว่าเธอมากเลยนะแล้วทําไมถึงได้หมั้นหมายแล้วล่ะ?” จูสื่อโม่ได้ตอบกลับในทันทีในน้ําเสียงของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“อืม ฉันเดาว่าเธอน่าจะตกหลุมรักตั้งแต่เด็กๆ”
แต่ความเป็นจริงแล้ว เงี่ยนอีหลิงอายุน้อยกว่าเป็นรั่วเพียงหนึ่งปีเท่านั้นแต่เพราะรูปลักษณ์ของเธอจึงทําให้ดูอ่อนกว่าวัยมาก
จึงไม่ถือว่าเป็นการตกหลุมรักตั้งแต่ยังเด็ก
อย่างไรก็ตาม คําพูดของเวิ่นรั่ว ได้ทําให้จุสื่อโม่รู้สึกว่าเด็กหญิงตัวเล็กๆเมื่อสักครู่นี้ทําตัวไม่ดีเท่าไรนักซึ่งผู้หญิงที่ประพฤติตัวดีจะไม่ตกหลุมรักเมื่ออายุเพียงแค่ 14 ถึง 15 ปีแต่ทว่าเธอคนนั้นกลับกําลังจะหมั่นอีกด้วย!
โดยทั่วไป หากเธอได้หมั้นหมายตั้งแต่เนิ่นๆอาจจะมีบางอย่างเกิดขึ้นก็เป็นไปได้
แต่ทว่า จุสื่อโม่ไม่ได้ถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาไม่ได้อยากรู้เรื่องนี้มากนัก และที่สําคัญไม่ควรถามมากเกินไปเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวของคนอื่น
หลังจากที่จสื่อโม่จากไปแล้ว เป็นรั่วก็เข้าไปในบ้านของเธอ
ไปชิงเยว่เดินเข้าไปในห้องทํางานของเวินรั่ว ในขณะที่เธอถือถาดผลไม้อยู่ในมือ และเอ่ยถามเกี่ยวกับจสื่อโม่
“เป็นยังไงบ้าง? ลูกกับสื่อโม่เข้ากันได้ดีใช่ไหม?”
“ก็ไม่เลวนัก” เวินรั่วตอบ พวกเขาทั้งคู่เข้ากันได้ดีเลยทีเดียว
“ดีแล้ว ตระกูลจูเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงมากในเป่ยจิง นอกจากนี้สื่อโม่ยังเป็นเด็กที่มีความสามารถอีกด้วยเขาเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบสําหรับลูก แม่จะถือว่าสื่อโม่เป็นลูกเขยของแม่ในอนาคตฉะนั้นลูกต้องจับเขาเอาไว้ให้ได้”
เมื่อเธอได้ยินคําพูดของแม่ อยู่ดีๆ ใบหน้าของจํายหวินเชิงก็แวบเข้ามาในจิตใจของเวินรั่วอย่างรวดเร็ว
ซึ่งเป็นใบหน้าที่ยากจะลืมเลือนเสียจริงๆ
แต่ทว่า เป็นรั่วก็รีบสะบัดความคิดนั้น ออกจากหัวสมองของเธออย่างรวดเร็ว
เธอรู้ว่าจํายหวินเซึ่งเป็นตัวตนที่ไม่สามารถสัมผัสหรือเอื้อมถึงได้
“อ๋อใช่ แม่ได้ถามพ่อหรือยัง ว่าทําไมเงี่ยนอีหลิงถึงเลิกกับนายท่านเชิง? แต่กลับเลือกหมั้นหมายกับคนในครอบครัวธรรมดาแทน?” เป็นรั่วถาม เธอยังคงสับสนเกี่ยวกับเรื่องนี้
ชายชราที่โง่เขลา และแสนธรรมดาที่มาขอหมั้นหมายในวันนั้น ไม่ได้มาจากตระกูลจํายอย่างแน่นอน
เขาอาจจะไม่ได้มาจากครอบครัวที่ดีเช่นเดียวกัน มิฉะนั้นเขาคงจะไม่ก้มหน้าและคํานับให้กับตระกูลเจียน
“ฉันไม่รู้ หลังจากที่ทะเลาะกับพ่อของเธอ ตั้งแต่วันนั้นฉันก็ไม่ได้คุยกับเขาอีกเลย และก็ไม่อยากถามเกี่ยวกับเรื่องนั้นอีกด้วย เงี่ยนอีหลิงอาจถูกนายท่านเชิงทิ้งก็ได้ ซึ่งนายท่านเพิ่งมีคนที่เขาต้องการอยู่รอบตัวแล้วทําไมจะต้องไปสนใจในตัวเงี่ยนอีหลิงกัน ถึงแม้ว่าเขาจะสนใจก็ตาม แต่ก็อาจจะแค่ลองสิ่งใหม่ๆเท่านั้นฉันว่าคนอย่างเขาไม่รับผู้หญิงตระกูลเจี้ยนไปเป็นภรรยาหรอกเพราะตระกูลเจียนและตระกูลจํายนั้นอยู่ห่างกันหลายร้อยไมล์”
และสถานะทางสังคมของตระกูลเจียนนั้น ก็ยังไม่ดีเท่าตระกูลเป็น
อันที่จริง ตระกูลจยังมีสถานะทางสังคมที่ดีกว่าตระกูลเวิน แต่ทั้งสองตระกูลของพวกเขาก็ยังไม่สามารถเทียบกับตระกูลจํายได้แม้แต่น้อย
นอกจากนี้ บุคคลนั้นคือนายท่านเชิง! เขาไม่สนใจแม้แต่หญิงสาวของตระกูลฉินเสียด้วยซ้ํา ดังนั้นทําไมเขาต้องมาสนใจเจียนอหลิง?
“เธอดีดตัวเองขึ้นมาค่อนข้างรวดเร็ว” เวินรั่วให้ความเห็นในส่วนนี้
“อืม แต่นั่นคือธุรกิจ แต่ว่าลูกอย่าได้ทําตามเงี่ยนอีหลิงเด็ดขาด ตอนนี้ลูกแค่เดทกับจุสื่อโม่ก็พออย่าได้รับร้อนในสิ่งอื่น และอย่าทําให้เขารู้สึกว่าลูกทําตัวน่ารําคาญ เข้าใจใช่ไหม?”
“เข้าใจแล้ว” เวินรั่วตอบ หลังจากนั้นเธอกล่าวเสริมขึ้นมาอีกว่า “แม่ต้องไปขอโทษพ่อเร็วๆนี้ด้วยและอย่าเถียงในเรื่องนี้อีก เพราะพ่อค่อนข้างใส่ใจและลําเอียงไปทางตระกูลเจียนมาก”
“แม่รู้” ไปชิงเยว่ตอบ เมื่อพูดถึงเรื่องนี้หน้าตาเธอก็เริ่มบิดเบี้ยวเล็กน้อย “แต่แม่ไม่ต้องการที่จะทําเช่นนั้นและยิ่งไปกว่านั้น แม่ไม่เข้าใจว่าทําไมพ่อของลูก ถึงได้มุ่งมั่นอยู่กับการตอบแทนบุญคุณเมื่อหลายปีก่อนมากนักเขายังคงยืนกรานที่จะใช้เงินเราเพื่อตอบแทนสิ่งที่เรียกว่าบุญคุณนั่น”
“อาา แต่พ่อก็เป็นแบบนั้นมาตลอด แม่แค่อํานวยความสะดวกให้เขาก็พอ” เวินรั่วตอบ
“ตกลง ตกลง ฉันจะไปขอโทษเขาก็ได้ แต่ว่าฉันจะไม่ปล่อยให้พ่อเธอมอบ [ภูเขาแม่น้ําหมื่นสาย]ให้กับตระกูลเจียนเด็ดขาด!”