เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 647-648
บทที่ 647 ห้องหลบหนี 2
ราคาของห้องหลบหนีของที่นี่ ไม่ได้แพงกว่าห้องหลบหนีทั่วไปมากนัก แต่ทว่าค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสําหรับเจ้าของร้านนั้น อาจมีราคาแพงกว่าห้องหลบหนีทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเวลาผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง เจ้าของร้านก็จะมีการเปลี่ยนธีม หรือเลย์เอาต์ของห้องหลบหนีใหม่ทั้งหมด
ถ้าจะมองแบบนี้ ก็เหมือนกับว่าเจ้าของร้านกําลังเสียเงินไปโดยไม่ใช่เหตุ
แต่ทว่านั่นก็ทําให้ผู้คนชื่นชอบห้องหลบหนีนี้อย่างมากมาย และอยากรู้เกี่ยวกับห้องใหม่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
คนอื่นต่างพากันสํารวจไปรอบๆห้อง แต่ก็ไม่พบทางออกแต่อย่างใด
ดังนั้น ทั้งกลุ่มจึงเกิดความกังวลขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“อาา ทําไมห้องแรกถึงยากขนาดนี้? ฉันค้นหาบริเวณกําแพง และทุกอย่างแล้ว แต่ฉันกลับไม่พบอะไรเลย!”
“ศพนั่น สามารถเป็นเบาะแสได้ไหม? แต่เราได้ตรวจสอบแล้ว มันไม่มีกุญแจหรือสวิตช์อะไรเลย”
“ไม่มีทาง…เราต้องขอความช่วยเหลือ ตั้งแต่ห้องแรกจริงๆ งั้นเหรอ?”
“อย่าได้ทําอย่างนั้น แบบนั้นมันงี่เง่าเกินไป”
“แต่ทว่าเบาะแสเดียวที่เราได้รับคือ ข้อความที่เขียนบนเตียงเท่านั้น ถ้าร่างกายไม่เยือกเย็นวิญญาณก็ไม่สามารถเกิดใหม่ได้
“นั่นหมายความว่ายังไง? สิ่งนั้นไม่ได้หมายถึงการตายอย่างเยือกเย็นหรอกหรือ? หรือมันหมายถึงอย่างอื่น?”
ฝูงชนเริ่มส่งเสียงสนทนากัน มากขึ้น
เหยาโม่ผิงยืนอยู่บริเวณกลางห้อง และดูเหมือนว่าเธอจะไม่มีเงื่อนงําอะไรเลย
แต่ทว่า เธอก็ปฏิเสธที่จะยอมแพ้ และสายตาของเธอก็เริ่มทําการกวาดมองไปรอบๆ ห้องอย่างละเอียดอีกครั้ง
ผ่านไปครู่หนึ่ง สายตาเธอก็หยุดอยู่ที่จํายหวินเชิงและเจียนอีหลิง
หลังจากตรวจสอบหุ่นดังกล่าวมาระยะหนึ่งแล้ว ในที่สุดเงี่ยนอหลิงก็ลุกขึ้นยืน จากนั้นเธอก็เดินไปรอบๆห้องอย่างช้าๆ ที่ละก้าว
“เธอกําลังทําอะไรอยู่?”
เมื่อเห็นการกระทําของเจียนอหลิง ทุกคนก็จ้องมองไปที่เธอแทบจะไม่กระพริบตา
“ฉันก็ไม่รู้ เธออาจกําลังคิดในขณะที่เธอเดินสํารวจก็ได้?”
“หรือเธอกําลังวัดขนาดของห้องนี้งั้นเหรอ”
“ฉันไม่คิดว่าขนาดของห้องนี้ จะเกี่ยวข้องกับปริศนาในครั้งนี้หรอกนะ”
ในขณะที่พวกเขาดูเจี้ยนอีหลิงอยู่นั้น ทันใดนั้นเธอก็หยุดเดินเสียดื้อๆ
จากนั้นเธอก็นั่งลง และเอื้อมมือไปแตะแผ่นกระเบื้องที่อยู่บนพื้น ซึ่งดูจากที่เห็นแล้ว กระเบื้องแผ่นนั้นค่อนข้างเก่าเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้น เธอก็ดึงเครื่องมือเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋าเป้สะพายหลังของเธอ และใช้เครื่องมือนั้นแงะแผ่นกระเบื้องให้เปิดออกอย่างรวดเร็ว
แผ่นกระเบื้องไม่ได้วางอยู่บนพื้นอย่างถูกต้อง เป็นผลให้สามารถหยิบขึ้นมาได้ด้วยมือเปล่า
แต่ทว่า เงี่ยนอีหลิงไม่อยากทําร้ายมือของเธอ
หลังจากที่เธองัดกระเบื้องออกมาแล้ว ก็พบว่ามีถุงผ้าแอบซ่อนอยู่ใต้กระเบื้องแผ่นนั้น
เจียนอีหลิงนําถุงผ้าออกมา แล้วใส่เข้าไปในร่างของหุ่นจําลอง
จากนั้นก็ได้ยินเสียงดัง ตั้ง” จึงทําให้เตียงของโรงพยาบาลขยับออกเล็กน้อย และทันใดนั้น ประตูทางออกก็ค่อยๆปรากฏขึ้น ซึ่งประตูนี้เป็นเส้นทางนําไปสู่ห้องถัดไป
ปรากฎว่า มีบางอย่างในหุ่นจําลองได้ตอบสนองต่อสิ่งของที่อยู่ในถุงผ้า และเมื่อนําทั้งสองสิ่งมารวมกันจึงทําให้ประตูบานนี้เปิดออกในที่สุด
อวัยวะภายในที่ทําจากวัสดุเรซินชนิดเดียวกัน ก็คือสิ่งที่อยู่ภายในถุงผ้าใบนั้น
ดังนั้นเมื่อวางวัตถุทั้งสองเข้าด้วยกัน ก็จะทําให้หุ่นจําลองนี้สมบูรณ์ และสามารถไขปริศนาในห้องนี้ได้
และนี่เป็นการเติมเต็มคําใบ้ที่หายไปของห้องนี้ “ถ้าร่างกายไม่เยือกเย็นวิญญาณก็ไม่สามารถเกิดใหม่ได้”
“ว้าว ฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นมาก่อนเลย!”
“ฉันแค่เดินไปเดินมาในห้องตั้งหลายครั้ง แต่ฉันกลับไม่รู้ว่ามีกระเบื้องกลวงอยู่ในห้องนี้ด้วย!”
“พี่สะใภ้ สุดยอดมาก!”
ทุกคนเริ่มชื่นชมความสามารถของเจียนอีหลิง
อันที่จริง มีบางคนถึงกับเรียกเงี่ยนอีหลิงว่า “พี่สะใภ้
เมื่อได้ยินคําว่า “พี่สะใภ้ สีหน้าของเหยาโม่ผิงก็เริ่มบิดเบี้ยวจนน่าเกลียด
จากนั้น ทุกคนก็เข้าไปในห้องที่สองในทันที
ภายในห้องที่สองนั้นมืด และมีความมืดมนเช่นเดียวกัน
มีประตูอยู่ในห้องนั้น แต่ที่ประตูกลับมีรหัสล็อคอยู่อย่างแน่นหนา
และนี่ก็เป็นห้องหลบหนีที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป ซึ่งจะให้ผู้เล่นทําการค้นหารหัสผ่าน
คราวนี้ ภายในห้องจัดเป็นห้องอ่านหนังสือ ซึ่งมีหลายสิ่งหลายอย่างกระจัดกระจายไปทั่วห้อง
ในห้องแรกพวกเขามีเบาะแสน้อยมาก แต่มาคราวนี้พวกเขากลับได้รับเบาะแสมากเกินไป จึงทําให้เบาะแสทั้งหมดนี้เกิดความยุ่งเหยิงจนน่าปวดหัว เป็นผลให้ไม่มีใครรู้ว่าข้อมูลใดที่เป็นประโยชน์ในการปลดล็อกประตู
ดังนั้น ทุกคนจึงพยายามเดารหัสผ่านอยู่หลายครั้ง และพวกเขาก็พยายามแข่งขันกันว่า ใครจะสามารถหารหัสที่ถูกต้องได้ก่อนกัน
บทที่ 648 ห้องหลบหนี 3
มีเบาะแสมากเกินไปในห้องนี้ เป็นผลให้พวกเขาต้องกําจัดเงื่อนงําที่ไม่จําเป็นออกไปก่อนเป็นอันดับแรก
เจียนอีหลิงไม่ได้เร่งรีบในการค้นหารหัสผ่าน ในทางกลับกันเธอเริ่มสังเกตห้องเพื่อกรองข้อมูลที่ไม่จําเป็น
ห้องหลบหนีมักจะมีเนื้อเรื่องเดียวกัน ดังนั้นเบาะแสในห้องนี้ก็ควรเกี่ยวข้องกับหุ่นในห้องแรกเช่นกัน
จากข้อมูลในห้องแรกนั้น การตัดกระดาษหนังสือพิมพ์ได้รับความสนใจจากเจียนอหลิงเป็นอย่างมากซึ่งหนังสือพิมพ์ที่ถูกตัดได้วางอยู่บนชั้นหนังสือและเป็นประโยคที่เกี่ยวกับการรื้อถอน
ต่อให้ใครแต่งสวย แต่ไม่มีมโนธรรมท้องก็จะว่าง
ประโยคที่เกี่ยวกับท้องว่างได้เชื่อมโยงกับหุ่นในห้องก่อนหน้านี้
ดังนั้น ต่อให้คนที่ไม่มีจิตสํานึกก็น่าจะยังได้เบาะแสสําหรับห้องนี้อย่างแน่นอน
จากนั้น เงี่ยนอีหลิงก็ค้นหาที่โต๊ะทํางาน ซึ่งมีโน้ตจํานวนมากกองอยู่บนโต๊ะหนานับสิบชั้น
เงี่ยนอีหลิงเริ่มจับพลิกดูโน้ตอย่างรวดเร็ว และก็ได้คําตอบในทันที
ในหมายเหตุ มีการอ้างอิงถึงกรณีของแพทย์ที่โหดเหี้ยมคนหนึ่ง ซึ่งได้สร้างความเจ็บปวดให้กับผู้ป่วยมานับไม่ถ้วน
ดังนั้น เงี่ยนอีหลิงจึงใช้วันที่ของบทความนี้ เพื่อทําการเปิดประตู
ถ้าเจียนอีหลิงสามารถไขปริศนาได้เพียงครั้งเดียว ก็ถือว่าเธอโชคดีเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามการไขปริศนาสองครั้งติดต่อกันได้ คงไม่ได้เกี่ยวกับโชคอีกต่อไป?
เธอไม่น่าจะโชคดีขนาดนั้น
นั้น เจียนอีหลิงจะต้องเป็นอัจฉริยะอย่างแน่นอน และต้องเป็นคนที่มีไอคิวสูงเป็นอย่างมาก เธอถึงจะทําแบบนี้ได้
ตอนนี้ทุกคนมองไปที่เงี่ยนอีหลิง ในมุมมองที่แตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง
ก่อนหน้านี้ แม้ว่าพวกเขาจะเคารพเธอมาก แต่ความเคารพนั้นเกิดจากจํายหวินเชิง ไม่ใช่เพราะตัวตนของเจียนอีหลิงแต่อย่างใด
ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าพวกเขาจะเคารพเธอแต่ในหัวใจของพวกเขาก็ยังคงดูถูกเธออยู่เสมอ
พวกเขาไม่ประทับใจกับสถานะทางสังคมของเจียนอหลิงและความเป็นมาของเธอ นอกจากนี้พวกเขารู้สึกว่าเจียนอีหลิงไม่ได้อยู่ในแวดวงสังคมเดียวกัน
ที่จริงแล้วแม้แต่หานหมิงอว์และซิงเหว่ยก็รู้สึกแบบนี้
แต่ตอนนี้พวกเขาค่อยๆเปลี่ยนมุมมองของเงี่ยนอีหลิงใหม่ทั้งหมด
หานหมิงอวอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ“นายท่านเชิงความฉลาดของว่าที่ภรรยานายนั้นอยู่ไกลเกินกว่าฉันจะเอื้อมถึง”
จํายหวินเชิงยิ้มก่อนจะพูดว่า“นั่นเป็นเรื่องธรรมดา”
จากนั้นเขาก็เตือนหานหมิง“อย่าลืมให้เงินรางวัลกับเราด้วย”
หานหมิงอ “ ”
นี่มันไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ? นายท่านเพิ่งจะเน้นเรื่องเงินรางวัลไปทําไม อะไรทําให้เพื่อนของเขาเปลี่ยนไปขนาดนี้!
หลังจากนั้นในอีกสองสามห้องถัดไปเงี่ยนอีหลิงก็ไม่ได้เปิดโอกาสให้คนอื่นได้เล่นแม้แต่ตาเดียว
อันที่จริง เจียนอีหลิงได้พาคนทั้งหมดผ่านห้าห้องถัดไปอย่างรวดเร็วอีกทั้งความเร็วยังน่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก
แต่อยู่ดีๆ เหยาโม่ผิงก็พูดขึ้นมาว่า“คุณหนูอหลิงเราคงไม่สามารถสนุกกันได้เลยถ้าหากเธอยังทําแบบนี้ อยู่ พวกเราสามารถให้เงินรางวัลทั้งหมดนี้กับเธอก็ได้แต่เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนขอพวกเราเล่นสนุกกับห้องหลบหนีห้องนี้ได้ไหม”
คําพูดของเหยาโม่ผิง ทําให้ทุกคนหยุดชะงัก
บรรยากาศภายในห้อง กลับกลายเป็นน่าอึดอัดขึ้นมาในทันที
ซึ่งคําพูดของเหยาโม่ผิง ทําให้เจี้ยนอีหลิงดูเหมือนจะสนใจแค่เงินรางวัลเท่านั้น นอกจากนี้มันเหมือนกับว่าเจียนอีหลิงไม่สนใจคนอื่นแม้แต่น้อย
ทุกคนเงียบทันที
พวกเขาทั้งหมดรู้เหตุผลที่เหยาโม่ผิงกล่าวออกมาแบบนี้
แต่ทว่าพวกเขาไม่มีใครกล้าพูดถึงเหตุผลนั้นออกมาซึ่งพวกเขาไม่ต้องการทําร้ายเหยาโม่ผิง
ในใจของพวกเขา เหยาโม่ผิงมีความหมายมากเนื่องจากพวกเขามีความสนิทสนมกันในระหว่างที่ได้ออกไปเที่ยวด้วยกัน เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา
เมื่อต้องเผชิญกับท่าทางที่น่าอึดอัดใจของทุกคน อยู่ๆภายในหัวของเจียนอหลิงก็ค่อยๆ ปรากฎภาพหนึ่งขี้นมาถึงแม้เหตุการณ์นั้นจะผ่านมาเนิ่นนานแล้วก็ตาม
ครั้งนั้นพ่อแม่ของเธอ ได้พาเธอกลับบ้านเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวเท่านั้น
ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เธอมีอายุได้ประมาณแปดขวบ
เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับญาติของเธอ นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่เธอได้ออกไปเที่ยวกับคนที่มีอายุใกล้ เคียงกันอีกด้วย
เจียนอหลิงสนุกกับการเล่นกับพวกเขาเป็นอย่างมาก
แต่ทว่าผ่านไปสักพัก อะไรๆ ก็ดูน่าอึดอัดไปเสียหมด
เงี่ยนอีหลิงจบเกมด้วยตัวเธอเองทั้งเกม ส่งผลให้คนอื่นได้แต่ยืนดูอยู่ข้างๆ เธอเท่านั้น
ต่อมาพวกเขาก็ไม่ต้องการเล่นกับเธออีกต่อไป เป็นผลให้พวกเขาแยกเธอออกจากเกมทุกครั้งเมื่อมีการเล่นเกมอะไรสักอย่าง