เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 645-646
เจ้าพ่อ บทที่ 645 การแข่งขันปาเป้า 2
หากเจียนอีหลิงยังคงเล่นในระดับนี้ต่อไป เธอจะจบเกมทันทีหากลูกดอกครั้งต่อไปพุ่งเข้าเป้า
ในทางตรงกันข้าม เหยาโม่ผิงยังคงขาดไปเก้าสิบแปดคะแนน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะจบเกมด้วยลูกดอกเพียงดอกเดียว
วิธีเดียวที่เหยาโม่ผิงจะชนะก็คือถ้าเจี้ยนอีหลิงพลาดในการปาครั้งต่อไป
แต่ทว่าด้วยวิธีที่เธอเล่นก่อนหน้านี้ นั่นจะเป็นไปได้ยังไง?
จากนั้น เจียนอีหลิงก็ทําท่าปา เธอกําลังจะปาลูกดอกในดอกต่อไป
ทันใดนั้น ผู้หญิงคนหนึ่งก็ถลามาจากฝูงชนแล้วชนเข้ากับเจียนอีหลิง
การทําเช่นนี้ทําให้ลูกดอกของเจียนอีหลิงทําคะแนนได้สิบแต้มแทนที่จะเป็นเป้าหมาย
ทันใดนั้นบรรยากาศก็หยุดชะงักค้าง
สีหน้าของหานหมิงอวและซิงเหว่ยก็เปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน
หญิงที่ชนเข้ากับเจียนอีหลิงนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเหยาโม่ผิง ที่จริงก็คือเธอเป็นลูกน้องของเหยาโม่ผิง
ดังนั้นจึงค่อนข้างแปลกอยู่บ้าง ที่เธอถลาออกมาจากฝูงชนในช่วงเวลานี้ การถลาล์มของเธอทําให้ลูกดอกของเจี่ยนอีหลิงพลาดเป้า
ดังนั้นการกระทําของเธอจึงค่อนข้างน่าสงสัย
เจียนอหลิงหันไปมองหญิงสาวคนนั้น
หญิงสาวที่ชนเจี่ยนอีหลิงรีบขอโทษ “ฉันขอโทษ ฉันสะดุดขาตัวเอง”
“ฉันไม่รับคําขอโทษ” เจียนอีหลิงตอบ
คําตอบของเจี่ยนอีหลิงเยือกเย็นไม่ขาดสติ ดูเหมือนเธอจะไม่โกรธ
แต่ทว่าคําพูดของเธอนั้นทําให้บรรยากาศแข็งตัว
คําพูดนี้ทําให้หญิงสาวที่ชนเข้ากับเจียนอีหลิงถึงกับตะลึงงัน
คนอื่นในห้องต่างก็จ้องไปที่เชี่ยนอีหลิงเช่นเดียวกัน
แทนที่จะอธิบาย เจียนอีหลิงค่อยๆเดินไปที่กระดานปาเป้า จากนั้นเธอก็ดึงลูกดอกที่เธอเพิ่งขว้างออกมา
ในที่สุด หลังจากที่ดึงลูกดอกออกมา เธอก็กลับไปยังจุดเดิมก่อนที่จะปามันอีกครั้ง
คราวนี้ลูกดอกพุ่งเข้าเป้า นั่นหมายความว่าเธอได้รับห้าสิบแต้ม
เจียนอีหลิงไม่ต้องการคําขอโทษจากหญิงสาวคนนั้น ในทางกลับกัน เธอต้องการปาลูกดอกที่พลาดเป้าอีกครั้ง
เด็กผู้หญิงที่ถลามาชนเจี้ยนอีหลิงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างกระอักกระอ่วน
เจียนอีหลิงเดินไปที่จ่ายหวินเชิงแล้วพูดว่า “ฉันชนะ”
“อื้อ”
จากนั้นสายตาของจํายหวินเซิ่งก็กวาดสายตาไปทั่วฝูงชน
ดูเหมือนว่าเขาต้องการจะถามว่ามีใครคัดค้านกับผลลัพธ์สุดท้ายนี้หรือไม่
เมื่อฝูงชนเห็นสายตาที่จับจ้องมองมาของจํายหวินเชิง พวกเขาต่างก็ส่งเสียงเชียร์และปรบมือให้เจียนอีหลิงอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้น กรรมการก็ประกาศชัยชนะของเจี่ยนอีหลิง
เมื่อได้ยินแบบนี้ เหยาโม่ผิงก็รู้สึกอับอายเหลือเกิน
เธอคือคนที่ต้องการแข่งขันกับเจียนอีหลิง แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังแพ้อยู่ดี
ทุกคนต่างก็มองไปที่เธออย่างกระอักกระอ่วนเช่นเดียวกัน
พวกเขารู้ว่าเธอกําลังคิดอะไรอยู่ พวกเขายังรู้ด้วยว่าเธอพยายามจะพิสูจน์อะไรจากการทําแบบนี้
แต่ทว่าเธอกลับแย่ลงไปกว่าเดิมอีก เธอกลายเป็นแบคกราวด์ที่ดึงความยอดเยี่ยมของเจียนอีหลิงออกมา
เพื่อบรรเทาความกระอักกระอ่วน หานหมิงอวี่รีบเสนอให้เริ่มห้องหลบหนี
สถานที่ห้องหลบหนีนั้นอยู่ติดกัน งานนี้จัดโดยหานหมิงอวและซิงเหว่ยเป็นพิเศษ
ห้องหลบหนีนี้เข้มข้นกว่าห้องหลบหนีปกติเป็นอย่างมาก เจ้าของห้องหลบหนีนี้เป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนคดีอาชญากรรมที่เกษียณอายุแล้ว เป็นผลให้เขามีประสบการณ์มากมายในการสอบสวนคดีอาญา
ห้องต่างๆในธุรกิจของพวกเขาจะได้รับการอัปเดตเป็นระยะๆ ทําให้ผู้ที่ชื่นชอบห้องหลบหนีหลายคนต่างพากันมาเล่น
แต่ไม่ว่ายังไง ห้องหลบหนีที่นี่นั้นยากเหลือเกินเมื่อเทียบกับห้องหลบหนีที่อื่น
หลังจากเข้าไปในบริเวณงานแล้ว หานหมิงอวก็เตือนเจียนอีหลิงว่า “อีหลิง เจ้าของร้านชอบเอาของน่ากลัวไปไว้ในห้อง ยิ่งไปกว่านั้นในบางกรณี เขาถึงกับพยายามจําลองสถานที่เกิดเหตุฆาตกรรม บางทีก็อาจมีคราบเลือดมากมาย ถ้าเธอกลัวก็แค่หลับตา นายท่านเชิงสามารถนําทางเธอออกไปข้างนอกได้”
บทที่ 646 ห้องหลบหนี 1
“อื้อ” เจียนอีหลิงตอบ
หลังจากที่พวกเขาเข้าไปในร้าน พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับจากเจ้าของร้าน
เจ้าของร้านมีผมสีขาว ตาข้างหนึ่งบอด แม้ว่าตานั้นจะถูกปิดด้วยผ้าปิดตา แต่ก็ยังมีรอยแผลเป็นอยู่รอบๆเบ้าตา
การปรากฏตัวของชายชรานั้นทําให้ดูเหมือนว่าเขามีเรื่องเล่ามากมายในอดีต
เจ้าของร้านพาฝูงชนไปที่ทางเข้าห้องหลบหนี จากนั้นเขาก็ให้เพจเจอร์แก่หานหมิงอ “กฎเหมือนเดิม หากพวกคุณติดอยู่ข้างในหรือต้องเผชิญกับอันตรายใดๆก็อย่าลืมใช้เพจเจอร์”
ห้องหลบหนี้ตั้งอยู่ที่อาคารในโรงงานร้าง มันอยู่ไกลจากใจกลางเมืองเป่ยจิง และด้วยเหตุนี้ ชายชราคนนี้จึงได้เปลี่ยนมันให้เป็นห้องหลบหนีอันแสนพิสดาร
อาคารโรงงานมีขนาดใหญ่มาก ชายชราได้จัดและออกแบบภายในห้องหลบหนีอย่างระมัดระวัง เมื่อเข้าไปข้างในแล้ว ไม่ง่ายเลยที่จะออกไป
หานหมิงอวและคนอื่นเคยมาที่ห้องหลบหนีนี้มาก่อน แต่ไม่ว่ายังไง ส่วนใหญ่พวกเขา
มักจะหนีไม่พ้น และด้องใช้เพจเจอร์สื่อสารกับเจ้าของร้าน ซึ่งในที่สุด พวกเขาก็จะหนีรอดได้จากคําแนะนําของชายชราเท่านั้น
จากนั้นหานหมิงอวี่ก็บอกกับทุกคนว่าพวกเขาจะเล่นด้วยกฎเดิมๆเหมือนปกติ ค่าธรรมเนียมการมีส่วนร่วมสําหรับทุกคนคือหนึ่งหมื่นหยวน
หลังจากเข้าไปในห้องหลบหนี ใครก็ตามที่ไขปริศนาได้ก็จะได้รับเงินหนึ่งหมื่นหยวน หากจํานวนปริศนาที่ไขได้เกินเงินรางวัลรวมแล้ว เขาจะจ่ายส่วนที่เหลือให้ ในทางตรงกันข้ามถ้ามีเงินเหลือ เงินจะเอาไปร้องคาราโอเกะในคืนนั้น
ไม่มีใครคัดค้านเรื่องนี้
จากนั้นฝูงชนก็เข้าไปในห้องหลบหนีและเริ่มการผจญภัย
ทันทีที่พวกเขาเข้าไป ประตูที่พวกเขาผ่านก็ถูกล็อค
ห้องที่พวกเขาเข้าไปนั้นมีแสงสลัว นอกจากนี้ ในห้องก็ยังไม่มีหน้าต่าง ผนังทรุดโทรมและบางส่วนของเพดานก็หลุดลอกออก
ในห้องนั้นมีเพียงเตียงผู้ป่วยหนึ่งเตียงเท่านั้น มีหุ่นจําลองวางอยู่บนเตียงคนไข้
หุ่นจําลองทําจากเรซิน ฝีมือของหุ่นนั้นช่างเหลือเชื่อ รูปร่างลักษณะทั้งหมดมีความสมจริงมากเหลือเกิน
แต่ถึงกระนั้นอวัยวะของหุ่นก็ได้หายไป
เป็นผลให้หุ่นจําลองนั้นให้บรรยากาศที่น่าขนลุก
เมื่อห้องหลบหนีเริ่มต้นขึ้น ทุกคนก็เริ่มค้นหาเบาะแสในห้อง
เจียนอีหลิงเดินไปที่หุ่นจําลอง
เธอเริ่มตรวจสอบการตายของหุ่นจําลองอย่างรอบคอบ
หากเจ้าของร้านมีความเป็นมืออาชีพเพียงพอ การตายของหุ่นจําลองก็จะต้องตรงกับเนื้อเรื่องของห้องหลบหนี
ซิงเหว่ยและหานหมิงอวตกใจเมื่อเห็นเจี้ยนอีหลิงจ้องไปที่หุ่นจําลอง
ไม่ใช่ว่าหุ่นจําลองนี้คือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในห้องหรอกเหรอ?
แล้วทําไมเจี่ยนอีหลิงถึงเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียด?
ดูไม่เหมือนว่าเธอจะกลัวหุ่น ในทางกลับกันดูเหมือนเธอจะค่อนข้างสนใจมันอยู่
“เดี๋ยวก่อน..ซึ่งเหว่ย… ว่าที่พี่สะใภ้ของเราดูเหมือนจะไม่กลัวของพวกนี้…”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซึ่งเหว่ยก็เข้าไปใกล้หูของหานหมิงอวและกระซิบ
“ใช่ ฉันเองก็แปลกใจเหมือนกัน หุ่นนั้นค่อนข้างสมจริง มันเพิ่มบรรยากาศน่ากลัว แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทําให้เธอกลัวเลย”
แม้แต่หานหมิงอวก็คิดว่าหุ่นนี้น่ากลัว
เขาไม่ได้กลัวเพราะเขาไม่ได้กลัวอะไรง่ายๆ แต่ถึงกระนั้น เขาก็ไม่ต้องการที่จะตรวจสอบหุ่นจําลองอย่างละเอียดเช่นเดียวกัน
“เธอกําลังมองหาอะไรอยู่?” จํายหวินเชิงถามเจี่ยนอีหลิง
“บาดแผลบนหุ่นจําลองนี้ทําให้ดูเหมือนว่าบุคคลนั้นถูกผ่าทั้งเป็น” เจียนอหลิงตอบ “รายละเอียดเกี่ยวกับหุ่นจําลองนี้ดูสมจริงมากๆ”
เจียนอหลิงค่อนข้างสนใจคนที่สร้างหุ่นนี้ขึ้นมา
ผู้สร้างหุ่นนี้ใช้วัสดุที่เหมาะสมและความรู้ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์สําเร็จรูปดูสมจริงยิ่ง
จํายหวินเชิงไม่ค่อยได้ยินเจียนอีหลิงแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบุคคลหรือสิ่งของแบบนี้มาก่อน
อืม ดูเหมือนว่าเขาตัดสินใจถูกแล้วที่ชวนเธอมา
“หลังจากที่เราออกไปแล้ว ลองถามเจ้าของร้านว่าเขาทําหุ่นนี้ได้ยังไงสิ” จ่ายหวินเชิงกล่าว
“อื้อ”