เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 641-642
บทที่ 641 การแสดงความรักต่อหน้าส…
ในอดีตไช่ชิงเยว่ยินดีที่จะเมินเรื่องนี้
แต่ไม่ว่ายังไงเรื่องของวันนี้เกี่ยวข้องกับ [ภูเขาแม่น้ำหมื่นสาย] ด้วยเหตุนี้ เธอจึงไม่สามารถเมินเฉยได้อีกต่อไป
ของชิ้นนี้เป็นของลูกสาวเธอ มันจะตั้งไม่ถูกมอบให้กับคนนอกอย่างแน่นอน
“นี่เธอ อย่าไร้สาระ นั่นน้องสาวฉัน”
“เธอแต่งงานแล้ว ดังนั้น เธอจึงเป็นสมาชิกของตระกูลเจียน คุณเป็นคนประเภทไหน? ทําไมคุณถึงจงใจมอบข้าวของเงินทองมีค่าให้กับตระกูลคนอื่น”
“มันไม่สําคัญว่าเธอจะแต่งงานหรือไม่ ความจริงที่ว่าเธอเป็นน้องสาวฉันก็ไม่เคยเปลี่ยนอีกทั้งไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าเธอปกป้องตระกูลเวิน”
“ใช่เธอเป็นน้องสาวคุณ แล้วพวกเราล่ะ? เราไม่ใช่ตระกูลของคุณแล้วใช่ไหม คุณไม่สนใจเกี่ยวกับเงินรั่วกับฉันเลยเหรอ คุณเคยสนใจไหมว่าเราจะอยู่หรือตาย?”
“หยุดพูดแบบนั้น ฉันเป็นห่วงเป็นรั่วอยู่แล้ว ทรัพย์สินทั้งหมดในอนาคตย่อมจะต้องเป็นของเวินรั่วแต่ไม่ว่ายังไงฉันก็ตั้งใจที่จะมอบ [ภูเขาแม่น้ำหมื่นสาย] ให้กับอีหลิงไม่ว่าเธอจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม”
พูดเสร็จเดินเฉิงก็เดินออกจากห้องไป
หลังจากที่เป็นเฉิงออกจากห้องไป ไปชิงเยว่ก็ทบทําลายข้าวของด้วยความโกรธ
เมื่อจ๋ายหวินเชิงประกาศว่าเขาจะหมั้น หานหมิงอวี้และซิงเหว่ยต่างก็พากันตกใจ
ในอดีตพวกเขาคิดว่าจ๋ายหวินเชิ่งจะเป็นคนสุดท้ายที่แต่งงานในบรรดาทั้งสามคนนี้
แต่ทว่า จ๋ายหวินเชิงกลับเป็นคนแรกที่ประกาศหมั้น
“เขาหมั้นกับใคร? เป็นเด็กสาวคนเดียวกันกับครั้งที่แล้วงั้นเหรอ?” ซึ่งเหว่ยถาม
“คําถามนั้นจะมีความหมายอะไร? เราเพียงแค่เห็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ปรากฏขึ้นข้างนายท่านเชิงและเราก็รู้จักเขามานานแล้วด้วยมันเป็นปาฏิหาริย์ในตัวเองอยู่แล้ว นายคาดหวังจะให้เขาเปลี่ยนไปเป็นสาวอื่นในช่วงเวลาสั้นๆงั้นเหรอ”
หานหมิงอวไม่เชื่อว่าสาคูจะบานสองครั้ง
“อืมม เด็กหญิงคนนั้นค่อนข้างเจ๋ง เธอรู้วิธีเล่น ยิ่งไปกว่านั้น เธอก็ดูเหมือนยุ่งเหมือนจ๋ายหวินเซิ่ง”ซึ่งเหว่ยแสดงความคิดเห็น ซึ่งเหว่ยมีความประทับใจที่ดีต่อเจียนอีหลิง
เธอเยือกเย็นมากเหลือเกิน เมื่อมาถึงการแข่งรถบนท้องถนน
นอกจากนี้ เธอก็ยังจัดการถล่มพวกเขายับในครั้งแรกที่เล่นบิลเลียด
อืมม..ไม่แปลกใจเลยที่ต้นสาคูจะบาน ผู้หญิงคนนั้นเหมาะกับนายท่านเชิงจริงๆ
“ฉันคิดว่ามันก็เข้าท่าดีเช่นเดียวกัน นายท่านเชิงจะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิต”
หานหมิงอวและซิงเหว่ยรู้เรื่องสภาพร่างกายของนายท่านเชิง ดังนั้นพวกเขากังวลว่าอีกฝ่ายไม่มีแผนการที่จะแต่งงาน
“อืม เราควรจัดปาร์ตี้คนโสดไหม? ไม่ว่ายังไง นายท่านเพิ่งคงจะไม่โสดต่อไปอีกแล้ว” ซึ่งเหว่ยกล่าว
“อาา ใช่ แน่นอนๆ เราควรทําแบบนั้น ควรขอให้เขามา” หานหมิงอวอุทาน
ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงส่งข้อความถึงจ๋ายหวินเชิง ที่น่าประหลาดใจก็คือจ๋ายหวินเชิ่งตกลงที่จะออกมา
จากนั้นหานหมิงอวก็จัดงาน
จ๋ายหวินเชิ่งมาถึงงานตรงเวลา แต่ทว่าเขามีเจี่ยนอีหลิงติดตามมาด้วย
หานหมิงอวี่ 4
นี่ไม่ใช่ว่าเป็นปาร์ตี้คนโสดหรอกเหรอ?
เอาจริงนะ นี่ไม่ได้ขัดแย้งกับธีมของปาร์ตี้คนโสดเหรอ?
จ๋ายหวินเชิงกําลังจับมือของเจียนอีหลิง
มือใหญ่รวบไปบนมือที่เล็กกว่า
เมื่อหานหมิงอวและซิงเหว่ยเห็นจ๋ายหวินเชิง พวกเขาต้องการที่จะบ่นในเรื่องพฤติกรรมดังกล่าวในทันทีแต่ว่าพวกเขาไม่กล้าพูดอะไรเลย
“วันนี้เราจะทําอะไร” จ๋ายหวินเชิงถาม
“โบว์ลิ่ง ปาเป้า ห้องหลบหนี หมื่นหยวนสําหรับแต่ละอย่าง” หานหมิงอว์ตอบ
จ๋ายหวินเชิ่งหันไปมองเงี่ยนอหลิง เขากําลังสอบถามความคิดเห็นเธอ
“อือ” เจี่ยนอีหลิงพยักหน้า เธอไม่มีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ “นายเอาเงินมาได้”
“ฉันจะชนะให้เธอ”
“อืมม”
จากนั้นจ๋ายหวินเชิ่งก็หันหน้าไปพูดกับหานหมิงอ และคนอื่น “เริ่มกันเลย”
เมื่อพวกเขาเห็นสีหน้าของจ๋ายหวินเชิง ซึ่งเหว่ยและหานหมิงอ ก็รู้ว่าวันนี้เขาเอาจริง
หานหมิงอและซิงเหว่ยไม่มีอะไรจะพูด
ถึงแม้ว่านายจะสามารถคว้าเงินรางวัล 10,000 หยวนทุกแมตช์ แต่จ๋ายหวินเชิงต้องการเงินจริงๆเหรอ?
บทที่ 642 การแสดงความรักต่อหน้าสาธารณะของนายท่านเชิง 2
มีผู้หญิงคนหนึ่งที่จ้องไปที่เจี่ยนอีหลิงเกือบตลอดเวลา
ผู้หญิงคนนั้นอายุยี่สิบต้นๆ เธอมีใบหน้าที่โดดเด่น
“ใช่เธอคนนั้นเหรอ” ผู้หญิงคนนั้นถามหานหมิงอว
“พี่ผิง ดูไม่ออกเหรอ? ไม่ต้องคิดมากแล้ว” หานหมิงอวตอบขณะส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้
เหยาโม่ผิง อยู่ในแวดวงเพื่อนสนิทมิตรสหายของเขา ทุกคนเรียกเธอว่า “พี่ผิง” เป็นการให้เกียรติ
นี่เป็นการยอมรับสถานะและอุปนิสัยของเธอในสังคม
เพราะพวกเขาออกไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ ทุกคนรู้ว่าพี่ผิงชอบนายท่านเชิง
ทันทีที่พี่ผิงได้ยินว่านายท่านเชิงหมั้นหมาย เธอก็ขึ้นเครื่องบินจากนิวยอร์กกลับมาที่เป่ยจิงทันที
ก่อนที่จะเห็นด้วยตาของตนเอง เหยาโม่ผิงปฏิเสธที่จะเชื่อข่าวนี้
เธอไม่เชื่อว่าจ๋ายหวินเชิ่งจะปักใจให้กับสาวสักคน
“เธอมาจากตระกูลไหนในเป่ยจิง” เหยาโม่ผิง ถาม
“เธอไม่ได้มาจากเป่ยจิง เธอมาจากตระกูลเจียนในเมืองเหิงหยวน” หานหมิงอว์ตอบ
“เมืองเหิงหยวน? เมืองชั้นสองเหรอ?”
เมืองเหิงหยวนไม่ใช่เมืองใหญ่ในจีน อันที่จริงก็ไม่อาจนับได้ว่าเป็นตัวจังหวัดด้วยซ้ํา อย่างมากที่สุดก็เป็นเพียงแค่อําเภอ เมืองชั้นสอง)
ตระกูลที่มาจากเมืองเหิงหยวนไม่มีอะไรเทียบได้กับตระกูลที่มีอํานาจในเป่ยจิง
ไม่มีค่าพอที่จะเปรียบเทียบกับตระกูลจ๋ายด้วยซ้ําไป
ตามจริง ทุกคนในปัจจุบันต่างก็มีฐานะทางสังคมที่เข้มแข็งกว่าเธอ
หานหมิงอวี่เข้าใจความหมายเบื้องหลังคําพูดของเหยาโม่ผิงอย่างรวดเร็ว เขาเสนอแนะว่า “พี่ผิงนายท่าน เชิงไม่สนใจสถานะทางสังคม พี่ก็รู้เรื่องนี้นี่ เบื้องหลังของคุณหนูอีหลิงไม่สําคัญสําหรับเขาที่สําคัญคือเขาชอบเธอ”
แต่ไม่ว่ายังไงก็ราวกับว่าเหยาโม่ผิงนั้นไม่ได้สนใจในคําพูดของหานหมิงอวเลย ในทางกลับกันดวงตาเธอเพ่งไปที่จ๋ายหวินเชิงซึ่งปัจจุบันกําลังขว้างลูกโบว์ลิ่ง
ผ่านไปชั่วขณะ สายตาของเหยาโม่ผิงก็ย้ายไปที่เจี่ยนอีหลิง ตอนนี้เจี่ยนอีหลิงกําลังนั่งอยู่ในสถานที่พักผ่อนในบริเวณใกล้เคียง
รูปร่างหน้าตาของเจียนอีหลิงนั้นเล็กน่ารัก เธอมีหน้าตาขาวผ่องมีผิวพรรณละเอียดอ่อน
สองคําแรกที่เข้ามาในใจของเหยาโม่ผิงขณะที่เธอมองไปที่เจี่ยนอีหลิงนั้นก็คือ นุ่มนวลและโค้งเว้าเหมือนไม่มีกระดูก
ขณะนี้ เจี่ยนอีหลิงกําลังนั่ง เธอถือโทรศัพท์ไว้ในมือและกําลังแตะไปที่หน้าจอ เธอไม่ได้มองไปที่จ๋ายหวินเชิ่งเลย
แต่ทว่า ถ้าเป็นเหยาโม่ผิง เธอคงไม่มีทางละสายตาจากจ๋ายหวินเชิ่งไปได้
ผู้หญิงคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจงั้นเหรอ?
เกมที่กําลังเล่นอยู่ในตอนนี้ก็คือโบว์ลิ่ง
มันเป็นการแข่งขันแบบคนเดียว ผลการแข่งขันแต่ละรอบจะนํามารวมกัน ผู้ที่มีคะแนนมากที่สุดหลังจากหก รอบจะกลายเป็นผู้ชนะโดยรวม
เจี่ยนอีหลิงไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันนี้ ดังนั้นจ๋ายหวินเชิ่งจึงเข้าร่วมด้วยตัวเอง
ทุกเกมต้องเสียค่าเข้าร่วมหมื่นหยวนจากจํานวนผู้เข้าร่วมทั้งหมดยี่สิบคน เงินรางวัลรวมทั้งหมดคือสองแสนหยวน
ผู้เข้าร่วมสามอันดับแรกจะแบ่งเงินรางวัลทั้งหมด
ที่หนึ่งจะได้ส่วนแบ่งหนึ่งแสนสองหมื่นหยวน ที่สองจะได้ส่วนแบ่งหกหมื่นหยวนและที่สามจะได้สองหมื่นหยวน
ก่อนหน้านี้ จ๋ายหวินเจ๋งไม่สนใจเรื่องโบว์ลิ่งเลย ดังนั้นคะแนนจึงมักจะอยู่ตรงกลางของบรรดาเพื่อนฝูง
แต่ทว่าวันนี้เห็นชัดว่าเขาจริงจังมาก
เขาสามารถทําสไตรค์ได้ทั้งหกรอบ
เมื่อเห็นแบบนี้ ผู้เข้าร่วมคนอื่นก็รู้สึกหดหูมากเหลือเกิน
นายท่านเชิงตั้งเป้าเป็นที่หนึ่ง
หลังการแข่งขันจบลงนายท่านเชิงก็รั้งอันดับหนึ่งได้อย่างไม่ต้องสงสัย เขาเอาเงินรางวัลส่วนใหญ่ไปครอง
จากนั้น เงินก็ถูกโอนเข้าบัญชีของจ๋ายหวินเชิง
หลังจากที่เงินเข้าบัญชีของจ๋ายหวินเชิง เขาก็โอนเงินไปที่เจี่ยนอีหลิงทันที
เขาได้รับรางวัลทั้งหมดหนึ่งแสนสองหมื่นหยวน หลังจากหักค่าลงทะเบียนหมื่นหยวนแล้ว ก็ยังมีกําไรรวม ถึงหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นหยวน
“ฉันยกรายได้ทั้งหมดให้” จ๋ายหวินเชิงพูดกับเจียนอีหลิงด้วยรอยยิ้มกว้าง
ราวกับว่าเขาพอใจกับเงินที่เขาได้รับชัยชนะมามาก
หลังจากที่เจี้ยนอีหลิงได้รับเงินแล้ว เธอก็โอนเงินหนึ่งหมื่นหยวนกลับไปที่จ๋ายหวินเชิ่ง “เงินติดกระเป๋า