เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 625-626
บทที่ 625 ตบหน้าขณะสตรีมสด 3
เวินน่วนไปที่ธนาคารเพื่อขอสําเนาบันทึกเหล่านี้
เวินน่วนไม่ได้ใช้บัตรใบนี้อย่างอื่น มันถูกใช้เพียงเพื่อจ่ายเงินเดือนใหกับพนักงานที่ได้รับการว่าจ้างจากตระกูลเจี่ยน
บันทึกแสดงให้เห็นชัดเจนว่ามีการโอนเงินให้แม่ของโม่ชืออวิ้น
ทุกเดือน มารดาของโม่ชืออวิ้นจะได้รับเงินจํานวนหนึ่งหมื่นหกพันหยวน
นอกเหนือจากการจ่ายเงินครั้งสุดท้ายเพียงหกพันหยวน ก่อนหน้านั้นการจ่ายเงินจะเป็นหนึ่งหมื่นหกพัน
นอกจากนี้ยังมีสําเนาสัญญาระหว่างตระกูลเจี้ยนและมารดาของโม่ชืออวิ้นบนหน้าจออีกด้วย สัญญานี้มีรายละเอียดเกี่ยวกับเงินเดือน โบนัส และเงื่อนไขอื่นๆ โม่ฮุยฉิงได้ลงนามในสัญญานี้เมื่อเธอทํางานให้กับตระกูลเจี่ยน
สัญญาระบุอย่างชัดเจนว่า ฐานเงินเดือนของโม่ฮุยฉิงคือหกพันหยวน อะไรก็ตามที่นอกเหนือจากหกพันหยวนนั้นจะขึ้นอยู่กับผลงานของเธอ
ดังนั้น นอกจากหนึ่งหมื่นหกพันหยวน ก็มีเพียงหกพันหยวนที่เป็นเงินเดือนประจําของโม่ฮุ่ยฉิง ตระกูลเจี่ยน จ่ายเงินโบนัสเป็นจํานวนหนึ่งหมื่นหยวนให้เธอทุกเดือน
ในเดือนสุดท้าย เงินเดือนของโม่ฮุ่ยฉิงได้ถูกจ่ายตามปกติ แต่ทว่าโบนัสของเธอนั้นไม่ได้รับการจ่าย
ด้วยเหตุนี้ เรื่องราวชีวิตที่ยากลําบากและอดีตอันน่าเศร้าของโม่ชืออวิ้นจึงไม่ถูกต้อง เงินเดือนของแม่เธอไม่ได้ถูกหัก
หนึ่งหมื่นหกพันหยวนต่อเดือนไม่ใช่เงินเดือนที่ต่ํา
อันที่จริง พนักงานคอปกขาว*บางคนยังไม่สามารถรับเงินเดือนที่สูงแบบนี้ได้ด้วยซ้ํา
คอปกขาว-คอปกน้ําเงิน* เป็นคําเรียกพนักงานสองประเภท คอปกขาวก็คือพนักงานในสํานักงาน และคอปกน้ําเงินก็คือแรงงานที่ต้องทํางานใช้แรงงาน
ความคิดเห็นต่างพากันพูดออกกันไปคนละทิศละทาง
[อะไรวะ? ค่าจ้างของเธอนั่นถือว่าค่อนข้างสูงสําหรับแม่บ้านไม่ใช่เหรอ หนึ่งหมื่นหกพันหยวนเชียวนะ พระเจ้า]
[ฉันขอบอสแบบนี้ด้วยได้ไหม? อยากไปเป็นแม่บ้านที่นี่ด้วย ฉันไม่อยากไปทํางานแล้ว]
[แล้วที่โม่ชืออวิ้นบอกว่าเธอกับแม่ต้องลําบาก ต้องใช้ชีวิตอย่างยากจน นั่นเธอเรียกว่ายากจนอย่างงั้นเหรอ]
[เธอมักจะขายภาพพจน์ของการเป็นเด็กที่เติบโตมาในครอบครัวที่ยากจน เธอเอาแต่พูดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ต่อต้านสิ่งที่ไม่ถูกต้อง นี่ไม่ใช่วันแรกที่เธอทําแบบนี้]
โม่ชืออวิ้นสามารถเห็นเนื้อหาที่แสดงขึ้นมาในฝั่งหน้าจอของเงี่ยนหยู่หมินได้ ในเมื่อพนักงานวางมันไว้ถัดจากหน้าจอของเธอ
เมื่อเห็นแบบนี้ มือของโม่ชืออวิ้นก็เริ่มมีเหงื่อออก แต่เธอก็พยายามรักษาความเยือกเย็นเมื่ออยู่ต่อหน้ากล้อง
ถึงกระนั้น โม่ชืออวิ้นก็ยังสามารถอธิบายสถานการณ์อย่างใจเย็นต่อหน้าผู้ชม จากเสียงเธอนั้น ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าเธอกําลังตื่นตระหนก
“มิสเตอร์เซี่ยหมินหยู่ ฉันไม่อยากตอบคุณเมื่อกี้นี้ แต่ถึงกระนั้นนั่นไม่ได้หมายความว่าฉันยอมรับโดยปริยาย ฉันได้พูดถึงเรื่องเกี่ยวกับการได้รับการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม แต่ฉันไม่ได้บอกว่าเป็นตระกูลเจี่ยน ฉันกําลังพูดถึงครอบครัวอื่นที่แม่ทํางานให้ หลังจากที่แม่ฉันทํางานให้กับตระกูลเจี่ยนสถานการณ์ครอบครัวของเราก็ดีขึ้นมาก”
“ถ้าเช่นนั้น คุณช่วยกรุณาให้ข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัวเหล่านั้นหน่อยได้ไหม? ว่าเป็นตระกูลหลิวหรือตระกูลหม่า?”
โม่ฮุ่ยฉิงเคยทํางานให้ตระกูลหม่าและตระกูลหลิวมาก่อน
เนื่องจากทั้งสองตระกูลนั้นตั้งอยู่ในเมืองเหิงหยวน จึงไม่ยากที่ตระกูลเจียนจะตามหาพวกเขา
นอกจากนี้ ตระกูลเจี่ยนก็ยังพบหลักฐานที่รัดกุมเช่นเดียวกัน
เนื่องจากโม่ฮุ่ยฉิงทํางานเป็นแม่บ้านให้กับทั้งสามตระกูล จึงต้องเป็นหนึ่งในตระกูลเหล่านี้ที่ปฏิบัติต่อพวกเธออย่างรุนแรง
ความเยือกเย็นของโม่ชืออวิ้นเริ่มสั่นคลอน
เจี่ยนหยู่หมินเตรียมตัวมาพร้อม เธอปล่อยให้เขาพูดแบบนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
“มิสเตอร์เซี่ยหมินหยู่ วันนี้คุณมาเพื่อจะสอบปากคําฉันงั้นเหรอ”
“ถ้าไม่ใช่เพราะว่าคณใช้น้องสาวผมสร้างกระแสความนิยมให้กับตัวเอง คุณคิดหรือว่าผมจะมีเวลามาเผชิญหน้ากับคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้]
[โอ้ พระเจ้า พี่หยูตรงไปตรงมามาก]
[เขาไร้ความปราณีเช่นเคย]
[ใช่ เขาไม่เคยแสดงความเมตตาต่อผู้หญิง สมกับเป็นพี่หยู]
เมื่อได้ยินแบบนี้ โม่ชืออวิ้นก็ตอบว่า “อืม เท่าที่ฉันรู้ อินเทอร์เน็ตกําลังคุยเรื่องการศึกษาของน้องสาวคุณ นั่นดูเหมือนจะไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลยไม่ใช่เหรอ? หรือว่าบางที คุณกําลังคิดใช่เรื่องนี้เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของผู้ชมไปอย่างงั้นเหรอ”
บทที่ 626 ตบหน้าขณะสตรีมสด 4
คําพูดของโม่ชืออวิ้นได้รับการยอมรับจากแฟนๆ และผู้ชมทั่วไปบางคน
[ใช่แล้ว ไม่ใช่โม่ชืออวิ้นที่เป็นคนหยิบยกเรื่องวิชาการของเจี่ยนอีหลิงที่มหาวิทยาลัยเป่ยจิงขึ้นมานี่นา จะกล่าวหาโม่ชืออวิ้นว่าทําแบบนี้ได้ยังไง]
[เขากําลังพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเรางั้นเหรอ
[ถ้าไม่เคลียร์เรื่องการฉ้อโกงทางวิชาการ ชื่อของเจี่ยนอีหลิงก็จะไม่สะอาด]
โม่ชืออวิ้นมั่นใจในเรื่องนี้มากขึ้น
ก่อนอื่น เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ
แม้ว่าเธอจะได้กล่าวในรายการโชว์ว่าเธอเรียนมัธยมปลายกับนักเรียนคนหนึ่งที่ใช้เส้นสายตระกูลเพื่อให้ได้คะแนนสูงจนได้ไปเรียนต่อต่างประเทศในที่สุด แต่ก็มีหลายคนที่สามารถเข้าเกณฑ์พวกนี้ได้
ไม่ใช่เจี่ยนอีหลิงคนเดียว
ประการที่สองโม่ชืออวิ้นเชื่อด้วยใจจริงว่าผลลัพธ์ของเจียนอีหลิงเป็นของปลอม เธอไม่คิดว่าตนเองกําลังใส่ร้ายเจี่ยนอีหลิงในเรื่องนี้
ด้วยเหตุนี้ โม่ชืออวิ้นจึงมั่นใจว่า ไม่สามารถทําให้ชื่อของเจี่ยนอีหลิงสะอาดขึ้นมาได้
เมื่อได้ยินเรื่องนี้เจี่ยนหยู่หมินก็พูดว่า “เอาล่ะ ตอนนี้ผมจะพูดถึงเรื่องเกรดและการเรียนของน้องสาวผม”
จากนั้นฮั่วอวี้ก็เปลี่ยนหน้าจออีกครั้ง
ข้อมูลแรกที่ได้รับก็คือเจี่ยนอีหลิงกําลังศึกษาในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศ
เป็นมหาวิทยาลัยระดับโลก อันที่จริง อาจารย์ที่ปรึกษาของเธอก็คือศาสตราจารย์ไฮด์
จากนั้น ก็มีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับการทดลองและงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของเจี่ยนอีหลิง เอกสารที่นําเสนอต่อหน้าผู้ชมเหล่านี้ได้รับการเผยแพร่โดยเจี่ยนอีหลิงในช่วงสองปีที่ผ่านมา
บทความทั้งหมดเหล่านี้เผยแพร่โดยเจี่ยนอีหลิง
“บทความพวกนี้สามารถพบได้ในเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ รวมไปถึงวารสารทางวิชาการ หากพวกคุณสนใจ พวกคุณสามารถดูเอกสารเหล่านี้ได้ในอีกสักครู่
“ยิ่งไปกว่านี้ ตระกูลเจี่ยนก็มีภูมิหลังและสถานะทางครอบครัวในสังคม แต่ไม่ว่ายังไง คุณคิดว่าเราจะสามารถส่งผลต่อการประเมินและการตัดสินของศาสตราจารย์ไฮด์ได้หรือไม่”
[ฉันรู้จักศาสตราจารย์ไฮด์ มันยากมากที่จะเป็นนักศึกษาเขา นี่เป็นที่รู้จักกันดีในระดับสากล ฉันไม่คิดว่าจะสามารถซื้อเขาได้ด้วยเงิน]
[เดี๋ยวก่อน เจี่ยนอีหลิงเป็นนักศึกษาของเขาจริงๆเหรอ? ฉันรู้ว่ามันยากมากที่จะเข้ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ นอกจากนี้ การเข้าแผนกการแพทย์ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก โอ้ พระเจ้า นี่ต้องเป็นเรื่องโคตรยากที่จะได้กลายเป็นนักศึกษาของศาสตราจารย์ไฮด์]
[ใช่ ฉันไม่คิดว่าใครๆจะสามารถใช้อํานาจและเงินเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์นี้ได้]
[เดี๋ยวก่อน ถ้างั้นคะแนนของเจียนอหลิงก็เป็นของจริงสิใช่ไหม]
[นี่เป็นหลักฐานที่รัดกุมมาก]
ผู้ชมจํานวนมากแสดงความตกใจ
จากนั้น หน้าจอก็เปลี่ยนกลับมาเป็นเจี่ยนหยู่หมิน
เจี่ยนหยู่หมินพูดกับผู้ชมต่อไปว่า “นอกจากนี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลที่อ้างว่างานถูกลอกเลียน มหาวิทยาลัยเป่ยจิงได้โพสต์คําชี้แจงอย่างเป็นทางการสําหรับเรื่องนั้นแล้ว หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่มหาวิทยาลัยเป่ยจิง]
[เดี๋ยวก่อน เจี่ยนอีหลิงเป็นนักศึกษาระดับหัวกระทิจริงๆเหรอ?]
[ถ้าย้อนกลับไปที่รายการเรียลลิตี้โชว์ เห็นได้ชัดว่าเงี่ยนอีหลิงมีไอคิวสูงจริงๆ แต่ว่าไม่มีใครเชื่อ ทุกคนตั้งใจขุดแต่ช่วงเวลาที่คะแนนเธอตกต่ํา]
[เธอไม่ใช่นักศึกษาชั้นยอดธรรมดา เธอเป็นพระเจ้าอย่างแท้จริง เทพหลิงโปรดรับการคุกเข่าคารวะของข้าน้อยด้วย]
ทันใดนั้น ความคิดเห็นต่างก็พากันแสดงความชื่นชมและบูชาเจี่ยนอีหลิง ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น
ใบหน้าของโม่ชืออวิ้นซีดเผือด
เจี่ยนอีหลิงเป็นนักศึกษาของศาสตราจารย์ไฮด์จริงงั้นเหรอ
เธอมีความสามารถจริงๆงั้นเหรอ?
เป็นอย่างนั้นจริงๆเหรอ?
ความเป็นจริงที่น่าตกใจนี้ทําให้โม่ชืออวิ้นตื่นตระหนก เธอกําลังถูกกดดัน
นี่เป็นความเป็นไปได้ที่เธอคาดไม่ถึง
เธอเคยคิดว่าเกรดของเจี่ยนอีหลิงเป็นของปลอม