เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 617-618
บทที่ 617 กองกําลังปกป้องอีหลิง 2
ก่อนที่เจี่ยนอีหลิงจะมีโอกาสตอบกลับ [บอสสาวสวย] ก็ส่งข้อความอื่นมา
[อาา ฉันเดาว่าคงยากที่จะหาหลักฐาน ไม่มีใครตามเรื่องพวกนี้กันได้จริงๆ นอกจากนี้ โพสต์นั้นก็ยังคลุมเครือมากในบางเรื่อง มันจะเป็นการยากที่จะโต้แย้งคํากล่าวหาพวกนั้น]
โพสต์มีความคลุมเครือและตีความได้หลายอย่างในบางข้อความ ยิ่งไปกว่านี้ตระกูลเจี่ยนไม่ต้องการพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับสาธารณะ เว้นแต่จําเป็นจริงๆ
ท้ายที่สุด คนที่ทําผิดก็คือเจี่ยนหยุ่นน่าว
[ไม่เป็นไร ฉันจะจัดการเอง] เจี่ยนอีหลิงตอบ
[เอาล่ะ ฉันเชื่อ สําหรับโม่ชื่ออวุ่นนั้น ไม่ต้องกังวล ฉันจะทําให้มั่นใจเองว่าจะไม่มีใครช่วยอีกในอนาคต นางจะไม่มีโอกาสอยู่ในวงการบันเทิง]
หลงเยว่เทียนไม่สามารถช่วยเจี่ยนอีหลิงหาหลักฐานได้
แต่ถึงกระนั้น เธอก็สามารถช่วยเจี่ยนอีหลิงทําสิ่งต่างๆให้สําเร็จได้ในวงการบันเทิง
(ขอบคุณ]
[ทําไมเธอถึงขอบคุณฉัน? ฉันยังไม่ได้ทําอะไรเลย]
หลังจากที่เจี่ยนอีหลิงส่งข้อความถึงหลงเยว่เทียนเสร็จแล้ว ก็มีสายจากเจี่ยนหยุ่นเฉิงเข้ามาที่โทรศัพท์
เจี่ยนอีหลิงรับโทรศัพท์ เธอได้ยินเสียงที่ให้ความมั่นใจของเจี่ยนหยุ่นเฉิง
“อย่ากังวล บรรดาพี่ชายอยู่ที่นี่เพื่อช่วยน้องจัดการกับสถานการณ์แล้ว น้องไม่จําเป็นต้องฟังถ้อยคําที่ทําร้ายและเดามั่วพวกนั้น พี่จะไม่ปล่อยให้พวกเขาทําร้ายน้องอีกครั้ง”
เจี่ยนหยุ่นเฉิงพูดคํานี้ ในเมื่อเขารู้ว่าเจี่ยนอีหลิงเคยเจ็บปวดจากถ้อยคําเหล่านี้ทางอินเทอร์เน็ต
เจี่ยนอีหลิงถือโทรศัพท์ไว้ในมือ แต่ยังไงก็ตาม เธอเงียบ
เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับเจี่ยนหยุ่นเฉิงในสถานการณ์แบบนี้
เจี่ยนหยุ่นเฉิงไม่ถือที่เจี่ยนอีหลิงไม่ตอบเขา เขาพูดต่อไปอีกว่า “พ่อกับแม่เป็นห่วงน้องเหลือเกิน ถ้าน้องอารมณ์เสียก็สามารถกลับมาหาเราได้นะ เราจะอยู่ที่นี่เพื่อดูแลน้องเสมอ”
เจี่ยนหยุ่นเฉิงไม่รู้ว่าโพสต์นี้จะส่งผลเสียต่อเจี่ยนอีหลิงมากน้อยแค่ไหน
แต่ถึงกระนั้น คําเหล่านี้ที่มีเพียงไม่กี่บรรทัดบนหน้าจออาจกลายเป็นอาวุธสังหารได้
อาวุธนี้สามารถเจาะทะลวงเข้าไปในหัวใจของผู้คนได้ มันสามารถทําให้ชีวิตของผู้คนไหลหลั่งออกไปได้
“ฉันไม่เป็นไร” เจี่ยนอีหลิงตอบ หลังจากหยุดชั่วคราว เธอก็กล่าวเสริมว่า “ได้โปรด โปรดอย่ากังวล”
เมื่อได้ยินสองสามคําสุดท้าย เจี่ยนหยุ่นเฉิงก็หยุดชะงักไปเช่นเดียวกัน เขากําโทรศัพท์ในมือแน่น
“ตกลง ฉันเข้าใจ”
“อื้อ”
จากนั้นทั้งสองก็เงียบไปอีกชั่วขณะ
“ไม่มีอะไรอื่นที่พี่อยากจะพูดอีกแล้ว น้องวางสายก็ได้นะ” เจี่ยนหยุ่นเฉิงกล่าวในที่สุด
เขาถือโทรศัพท์ต่อไปอีกจนกระทั่งเจี่ยนอีหลิงวางสาย หลังจากได้ยินเสียงทึบ เขาจึงค่อยดึงหูฟังออก
จากนั้นเจี่ยนหยุ่นเฉิงก็หันกลับมามองตั๋วอวี่ ซึ่งขณะนี้ชั่วอว์กําลังพิมพ์ไปที่แป้นพิมพ์อย่างโกรธเคือง
“เมื่อไหร่จะเสร็จเสียที” เจี่ยนหยุ่นเฉิงถาม
“ไม่ต้องกระวนกระวาย ฉันกําลังพยายามอยู่ ไม่เห็นเหรอ” ชั่วอตอบกลับขณะที่เขายังคงพิมพ์ต่อไป นิ้วเขาไม่หยุดแม้แต่ชั่วขณะ
เขาทําตามคําแนะนําของเจี่ยนหยุ่นเฉิงเพื่อติดตามหาข้อมูลของบุคคลที่โพสต์ข่าว
ไม่มีปัญหากับการค้นหาตัวตนของเจ้าของบัญชี
แต่ทว่าเจ้าของบัญชีเดิมให้คนอื่นยืมบัญชีไปใช้ คนผู้นั้นได้จ่ายเงินเป็นจํานวนมหาศาลให้เขา
เนื่องจากเจ้าของบัญชีเดิมโลภเงิน เขาจึงตัดสินใจให้ยืมบัญชีที่เชื่อมโยงกับตัวตนที่แท้จริง
ราวกับไม่กลัวว่าคนอื่นจะโพสต์สิ่งที่ผิดกฎหมายในบัญชีของเขา
ประคับประคองกันไปด้วยนะครับ ผู้แปลจะได้อยู่จนจบเรื่อง
ดังนั้น ตอนนี้ฮั่วอว์จึงพยายามขุดคุ้ยหาตัวจริงที่โพสต์ข่าว
แต่ถึงกระนั้น คนผู้นี้ก็เจ้าเล่ห์มาก หมายเลขไอพีแอดเดรสของเขาอยู่ในประเทศอื่น นอกจากนี้ คนผู้นี้ยังใช้เครื่องมือป้องกันการตรวจจับด้วย ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นการยากที่จะติดตามไอพีแอดเดรสของบุคคลนั้น
“โอ้ พระเจ้า อย่าให้ฉันจับแกได้ ถ้าฉันจับแกได้ ฉันจะแอ็คทุกอย่างบนคอมพิวเตอร์แก” ชั่วอสาปแช่งด้วยความหงุดหงิด ขณะที่ยังคงพิมพ์ไปที่แป้นพิมพ์
บทที่ 618 กองกําลังปกป้องอีหลิง 3
คนต่อไปที่ติดต่อเจี่ยนอีหลิงก็คือเจี่ยนหยุ่นโม่
เจี่ยนหยุ่นโม่อยู่ต่างประเทศในตอนนี้ ดังนั้นเขตเวลาจึงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เป็นผลให้เขารู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ช้ากว่าคนอื่นอยู่บ้าง
หลังจากที่เจี่ยนอีหลิงรับสายแล้ว เจี่ยนหยุ่นโม่ก็ไม่ได้พูดถึงข่าวดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ยังไงก็ตาม เห็นได้ชัดว่าเขาโทรมาเพราะเรื่องนี้
ในโทรศัพท์ เสียงของเจี่ยนหยุ่นโม่นั้นนุ่มนวลและอ่อนโยน “อีหลิงของขวัญสําหรับน้องจะไปถึงในวันพรุ่งนี้ อย่าลืมรับพัสดุ นอกจากนี้เปยจิงอากาศก็เริ่มหนาวแล้ว อย่าลืมใส่เสื้อผ้าให้มากขึ้น พยายามอย่าให้ตัวเองเป็นหวัด น้ํามูกไหลจะทําให้รู้สึกไม่สบายตัว”
“อื้อ”
“แล้วน้องคิดถึงพี่บ้างไหม? หรือว่าใจร้ายอีกแล้ว?”
“ฉันคิดถึงพี่” เจี่ยนอีหลิงรีบตอบ
จากนั้นก็ได้ยินเสียงหัวเราะที่ชัดเจนสดใสจากเจี่ยนหยุ่นโม่ทางโทรศัพท์
“เป็นเด็กดีนะ พี่ชายจะไปถึงช้ากว่าของขวัญหนึ่งวันเท่านั้น”
แม้ว่าเจี่ยนหยุ่นโม่จะไม่พูดถึงเหตุการณ์นี้ แต่เขาก็ยังตั้งใจที่จะกลับมาที่เป่ยจิง
“ไม่ต้องกังวล” เจี่ยนอีหลิงตอบ “ฉันสามารถจัดการได้ ฉันไม่ได้อารมณ์เสียหรือกลัว”
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เจี่ยนหยุ่นโม่เงียบไปครู่หนึ่ง
จากนั้น เจี่ยนหยุ่นโม่ก็เลือกที่จะเชื่อในคําพูดของเจี่ยนอีหลิง
“ตกลง พี่จะเชื่อน้อง”
“อื้อ”
มีบุคคลที่ไม่คาดคิดได้ส่งข้อความถึงเจี่ยนอหลิง
นั่นก็คือฉันหยุฝาน
ในขณะนั้น ฉันหยุฝานได้ส่งข้อความแสดงความห่วงใยมาถึงเจี่ยนอีหลิง
ฉินหยูฝาน สบายดีไหม]
ฉินหยฝานเหมือนจะกังวลเกี่ยวกับเจี่ยนอีหลิงอยู่บ้าง เธอกังวลว่าความคิดเห็นของสาธารณชนจะส่งผล ต่อเจี่ยนอีหลิง
เจี่ยนอีหลิง [ไม่เป็นไร
ฉันหยุฝาน [เธอต้องการให้ฉันช่วยไหม]
เจี่ยนอีหลิง [ไม่จําเป็น ขอบคุณ]
ฉินหยฝาน [ไม่จําเป็นต้องสุภาพ ฉันเป็นหนี้เธออยู่ ฉันควรช่วย]
เจี่ยนอีหลิง[ไม่ ไม่ต้องกังวล]
ฉินหยฝาน [อืม มีบางอย่างที่ฉันสามารถช่วยได้แน่นอน ไม่ต้องสุภาพ ฉันไม่ชอบเป็นหนี้คนอื่น]
เจี่ยนอีหลิง [เธอสามารถช่วยฉันได้ในอนาคต]
ฉันหยุฝาน [เธอไม่น่ารักเลยสักนิด]
เจี่ยนอีหลิง [ลือ]
ฉินหยฝาน [ทําไมเธอถึงพูดว่า คือ ละหือ? เธอมันปีศาจหัวโต]
เจี่ยนอีหลิง [ฉันหัวไม่โต]
ฉินหยูฝาน [เอาล่ะ ฉันไม่สนใจหรอก ยังไงฉันก็จะช่วย]
ฉินหยฝานตัดสินใจช่วยเจี่ยนอีหลิง ไม่ว่าเจี่ยนอีหลิงจะยินดีกับความช่วยเหลือหรือไม่ก็ตาม
หลังจากส่งข้อความคุยกับฉันหยุฝานแล้ว เจี่ยนอีหลิงก็ได้ติดต่อใครบางคนในรายชื่อเพื่อน
เธอต้องการดูบุคคลที่อาจเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้
สําหรับคนที่เปิดเผยข้อมูลมากขนาดนั้น บุคคลนั้นต้องเชื่อมโยงกับตระกูลเจี่ยนอย่างแน่นอน
จากนั้น เจี๋ยนอีหลิงก็ต้องการดูฝั่งของโม่ชื่ออขึ้นด้วย
เนื้อหาของข่าวเป็นประโยชน์ต่อโม่ชื่ออริ้น ในสถานการณ์แบบนี้ ไม่มีเหตุผลที่จะถือว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นเพียงผู้ดู
โดยปกติแล้ว การพิจารณาสิ่งเหล่านี้จะไม่ง่ายนัก แต่ทว่า เจี่ยนอีหลิงมีเส้นสายค่อนข้างเยอะ คนธรรมดาจะไม่มีเส้นสายพวกนี้ช่วยเหลือพวกเขา
หัวหน้าทีมหร่วนได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมายแก่เขี่ยนอีหลิงแล้ว
เมื่อเจี่ยนอี้เฉินดูข่าวบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ สีหน้าของเขาก็มืดลง
มีชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้า เป็นผู้ชายคนเดียวกับที่เคยอยู่ใน KTV
เมื่อชายคนนั้นเห็นสีหน้าของเจี่ยนอี้เฉิน เขาพูดด้วยความกังวลว่า “นายน้อยอี้เฉิน ได้โปรดอย่าอารมณ์เสีย คนที่ให้ความช่วยเหลือโม่ชื่ออขึ้นมาจากประเทศอื่น พวกเขาไม่รู้เกี่ยวกับสิ่งที่คุณได้พูดไว้”
“ฉันไม่ได้ถามเรื่องนี้ ฉันกําลังถามถึงกระทู้ข่าว ขยะพวกนี้มันอะไรกัน”
เจี่ยนอี้เฉินมีสีหน้าดุร้ายและน่ากลัวเมื่อเขาโกรธ มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากรอยยิ้มปกติ