เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 1239-1240
บทที่ 1239 เห็นคนตายแล้วไม่ช่วยเหลือ 2
ความคิดของเขาเป็นเรื่องปกติของมนุษย์
แต่เจี่ยนอีหลิงไม่เต็มใจที่จะทําการผ่าตัด และพวกเขาก็ไม่มีทางเลือก
ของแบบนี้บังคับซื้อขายไม่ได้
มีคนพยายามเกลี้ยกล่อมเจี่ยนอีหลิง “ด็อกเตอร์เจี่ยน ถ้าอย่างนั้นคุณก็ช่วยทําการผ่าตัดให้กับภรรยาของชายคนนี้เถอะ มันไม่ใช่เรื่องง่ายสําหรับเขา และเขามีลูกสองคนยังเล็กอยู่เลย” “ใช่ ด็อกเตอร์เจียน คุณควรมีน้ําใจหน่อยนะ”
“ด็อกเตอร์เจียน คุณคิดซะว่าเห็นแก่เด็กสองคนนี้ ลูกสองคนยังเด็กอยู่เลย ถ้าไม่มีแม่พวกเขา ก็คงน่าสงสารมาก” หลายคนช่วยกันเกลี้ยกล่อมเจี่ยนอีหลิง
แต่เจี่ยนอีหลิงดูเหมือนจะใจแข็งจริงๆเธอปฏิเสธที่จะรับผู้ป่วยรายนี้ “ศัลยแพทย์ของโรงพยาบาลล้วไห่เซินสาขาเป่ยจิงมีความสามารถในการผ่าตัดนี้”
ด้วยเหตุผลนี้
เนื่องจากการตัดสินใจของเจี่ยนอีหลิง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงนําชายและลูกสองคนกลับไปที่วอร์ด
ในช่วงบ่ายมีนักข่าวจํานวนมากวิ่งเข้ามาในโรงพยาบาล
นักข่าวสัมภาษณ์เจี่ยนอีหลิงและผู้ป่วยเกี่ยวกับการที่เจี่ยนอีหลิงปฏิเสธที่จะทําการผ่าตัดแม่ของเด็กสองคน
พวกเขาถึงกับเข้าไปในห้องทํางานของเจี่ยนอีหลิงและถามเจี่ยนอีหลิงโดยตรงว่าทําไมเธอถึงเย็นชาไร้ความปราณีและไม่เต็มใจที่จะทําการผ่าตัด
“หมอสาขาก็สามารถผ่าตัดได้เช่นเดียวกัน” เจี่ยนอีหลิงตอบ
“สิ่งที่ด็อกเตอร์เจียนหมายถึงคือ ฆ่าไก่ไม่จําเป็นต้องใช้มีดฆ่าโค* เพราะความยากของการผ่าตัดนั้นต่ําเกินไป คุณจึงไม่อยากลงมืองั้นเหรอ?”
(X9H+] สํานวน ฆ่าไก่ไม่จําเป็นต้องใช้มีดฆ่าโค หมายความว่า การทําสิ่งเล็กๆไม่ จําเป็นต้องใช้พรสวรรค์ อํานาจ หรืออะไรมากเกินความจําเป็น)
นักข่าวสาวถามคําถามอย่างเฉียบคม
“กรุณาอย่าบิดเบือนค่าพูดของฉัน”
“แล้วคุณจะอธิบายเหตุผลที่คุณไม่เต็มใจทําการผ่าตัดครั้งนี้ได้ยังไง? ฉันได้ตรวจสอบมาแล้วว่าคุณไม่มีกําหนดการผ่าตัดในเร็วๆนี้”
“ฉันไม่มีกําหนดการผ่าตัดก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันต้องทําการผ่าตัดครั้งนี้” “มีเหตุผลใช่ไหม? ฉันได้ยินมาว่าคุณเพิ่งทําการผ่าตัดให้ท่านผู้อาวุโสที่มีภูมิหลังครอบครัวที่ดีมาก”
นักข่าวถามอย่างไม่ยอมแพ้
“ทําไมต้องเน้นย้ําว่าภูมิหลังครอบครัวที่ดี?” เจี่ยนอีหลิงถามนักข่าวกลับ
“เพราะสิ่งที่พวกเราเห็นในตอนนี้คือ ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างครอบครัวที่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณและคนที่คุณยินดีที่จะทําการผ่าตัดเพื่อรักษาชีวิต คือสถานะทางสังคมของพวกเขา”
“ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดก็คือคนก่อนหน้าถ้าฉันไม่ช่วยเขาจะตาย แต่คนนี้มีหมอคนอื่นๆที่สามารถช่วยเธอได้”
เจี่ยนอีหลิงนิ่งสงบและไม่รีบร้อน
นักข่าวที่ถามค่าถามถึงกับอึ้งกับสิ่งที่เจี่ยนอีหลิงพูด
ในเวลานี้ ลูกสองคนของหญิงที่ป่วยวิ่งออกมา
“ด็อกเตอร์เจี่ยน ได้โปรดช่วยแม่หนูเถอะนะ ถ้าหนูโตขึ้นหนูกับน้องชายจะทํางานอย่างหนัก เพื่อหาเงินมาคืนคุณแน่นอน!”
เด็กหญิงตัวเล็กๆคุกเข่าลงอีกครั้งและก้มศีรษะให้เจี่ยนอีหลิง
และดึงน้องชายของตัวเองมาก้มศีรษะให้เจี่ยนอีหลิงด้วย
ท่าทางของเด็กสองคนนั้นน่าประทับใจมาก
ทําให้คนที่เห็นรู้สึกเศร้าอย่างช่วยไม่ได้
ตากล้องรีบเล็งกล้องไปที่สองพี่น้องเพื่อถ่ายฉากที่กําลังเคลื่อนไหวนี้
วิดีโอการสัมภาษณ์เจี่ยนอีหลิงได้ปรากฏในแพลตฟอร์มสื่อหลักอย่างรวดเร็ว
หลังจากตัดต่อแก้ไขแล้ว ในการให้สัมภาษณ์ต่อหน้าผู้ชมเจี่ยนอีหลิงถูกนําเสนอต่อหน้าผู้ชมว่าเป็นหมอที่ไร้ความปราณีที่นําเงินไปทําธุรกิจและผ่าตัดให้เฉพาะคนรวยเท่านั้น
เมื่อต้องเผชิญกับค่าวิงวอนของเด็กทั้งสองคนเธอยังคงนิ่งเฉย
และคําพูดของเจี่ยนอีหลิงที่ตอบนักข่าวก็ถูกแก้ไขเช่นเดียวกัน
ค่าพูดที่เธออธิบายว่าทําไมถึงไม่ผ่าตัดให้แม่ของเด็กถูกตัดออกไป
บทที่ 1240 เห็นคนตายแล้วไม่ช่วยเหลือ 3
ชาวเน็ตมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับเรื่องนี้
ชาวเน็ตบางคนด่าตรงๆ คิดว่าเจี่ยนอีหลิงขี้ขลาดเกินกว่าจะเป็นหมอ บ้างก็บอกว่าเธอเก่งที่จะเป็นหมอ แต่เธอไม่มีจิตสํานึกในการเป็นหมอ
แต่มีชาวเน็ตที่มีเหตุผลบางคนที่คิดว่ามันไร้สาระเกินไป หากตรวจสอบสถานการณ์ตระกูลของเจี่ยนอีหลิงในอินเตอร์เน็ต ก็จะรู้ว่าคนรวยขนาดนี้จะทําการผ่าตัดเพราะเห็นแก่เงินได้อย่างไร?
นอกจากนี้ชาวเน็ตบางคนยังเสนอว่า แม้ว่าจะไม่ใช่เพื่อเงิน เด็กๆถึงกับทําขนาดนี้ ไม่ว่าใครก็ตามที่เห็นอกเห็นใจก็ควรช่วยเหลือ
มีการวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมเลือดเย็นและไร้ความปราณีของเจี่ยนอีหลิงมากขึ้น
ทำตัวสูงส่ง* ไม่ถือชีวิตคนเป็นชีวิต
(BÈÍ E ทําตัวสูงส่ง สํานวนจีน ไม่ยึดติดกับความเป็นจริง ทําตัวห่างออกไป นิยมใช้กับผู้นําที่ทําตัวเหินห่างและไม่ยอมรับความเป็นจริง มาจากหนังสือ (:JBM·#VZ) )
ความคิดเห็นออนไลน์มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
รายงานที่เกี่ยวข้องได้รับการแสดงความคิดเห็นบนเว็บไซต์วิดีโอสั้นกว่าหนึ่งแสนครั้ง ซึ่งกลายเป็นประเด็นร้อนประจําวัน
วันรุ่งขึ้นมีสื่อมาสัมภาษณ์ที่โรงพยาบาลมากขึ้น
สื่อปักหลักอยู่ในสํานักงานของเจี่ยนอีหลิง ทําให้เจี่ยนอีหลิงไม่สามารถทํางานได้
นักข่าวต่างพยายามถามเจี่ยนอีหลิงว่าทําไมไม่รักษาแม่ของเด็กที่น่าสงสารสองคนนั้น เฟียชิงยืนอยู่ที่มุมห้องและเฝ้าดูฉากนี้อย่างเงียบๆ
ทุกอย่างที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอเหมือนกับที่เธอคาดไว้
ความเย่อหยิ่งของเจี่ยนอีหลิงในที่สุดก็จะฆ่าตัวของเธอเอง
แน่นอนว่า แม้ว่าเจี่ยนอีหลิงจะยอมทําการผ่าตัด แต่การรอคอยเธอคงอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจมาก
เพราะเมื่อผ่าตัดแล้วไม่ว่าผลการผ่าตัดจะเป็นเช่นไร ผู้หญิงคนนั้นก็จะพูดในภายหลังว่าเธอปวดหัวหลังจากที่ได้รับการผ่าตัด
สมองของมนุษย์เป็นสิ่งที่ซับซ้อนมาก และเป็นเรื่องยากที่จะตรวจสอบอาการปวดหัวอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบัน
ตราบใดที่ผู้หญิงคนนั้นยืนยันว่าตัวเองมีอาการปวดหัว แม้ว่าเครื่องมือจะตรวจไม่พบ ก็ถือได้ว่าการทดสอบเครื่องมือนั้นไม่สมบูรณ์
เมื่อเวลานั้นมาถึงโลกภายนอกจะตั้งคําถามกับระดับทักษะทางการแพทย์ของเจี่ยนอีหลิง ดังนั้น ไม่ว่าเจี่ยนอีหลิงจะเลือกผ่าตัดหรือเลือกที่จะไม่ผ่าตัดให้ผู้หญิงคนนั้น เธอก็ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้ายอยู่ดี
ไม่ว่ายังไงเจี่ยนอีหลิงก็จะไม่รับการผ่าตัดต่อจากคนอื่นกลางคันใช่ไหม?
ตอนนี้เธอจะรับการผ่าตัดนี้หรือไม่?
หลี่จั่วเจียลงมาจากชั้นบน
ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องใหญ่เกินไป ในฐานะผู้อํานวยการสาขาเขาต้องออกมาเผชิญหน้ากับสื่อ
ต่อหน้าสื่อ หลี่จั๋วเจียตอบคําถามอย่างใจเย็นว่า “อย่างที่ทุกคนรู้ ด็อกเตอร์เจี่ยนเป็น
ศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดในโรงพยาบาลของเรา หากผู้ป่วยทุกคนที่มาโรงพยาบาลของเราต้องการหมอที่ดีที่สุดเพื่อทําการผ่าตัดแล้วล่ะก็ ด็อกเตอร์เจี่ยนก็คงต้องยุ่งอยู่ตลอดใช่ไหม?”
“อีกอย่าง ไม่มีกฎก็ไร้ระเบียบ ทุกคนรู้ว่าโรงพยาบาลของเรารับผู้ป่วยในแบบที่แตกต่างจากโรงพยาบาลหลัก ถ้าครั้งนี้ด็อกเตอร์เจียนของเรายอมประนีประนอม แล้วต่อไปถ้าทุกคนที่ไม่ได้อยู่ในอันดับที่ต้องรักษาที่โรงพยาบาลของเราจะย้ายเข้ามารับการรักษาแล้วบังคับให้หมอในโรงพยาบาลของเราทําการรักษาให้ล่ะ? ถ้าเป็นแบบนี้เราจะจัดการยังไง?”
นักข่าวกล่าวว่า “ยังไงก็ตามในตอนนี้เจี่ยนอีหลิงยังไม่มีการเตรียมการผ่าตัดอื่น ในฐานะหมอไม่ควรมีหน้าที่ช่วยชีวิตผู้ป่วยที่กําลังจะตาย รักษาผู้บาดเจ็บ และเผชิญหน้ากับผู้ป่วยที่ต้องการ ความช่วยเหลือจากเธองั้นเหรอ?”
หลี่จั่วเจียหัวเราะ “ในเมื่อคุณไม่เชื่อในระดับความสามารถของหมอคนอื่นๆในโรงพยาบาลของเรา ทําไมคุณถึงมารักษาที่โรงพยาบาลของเราล่ะ? โรงพยาบาลของเราเป็นมากกว่าด็อกเตอร์เจียน”
นักข่าวอีกคนหนึ่งยังคงถามหลี่จั๋วเจียว่า “แล้วคุณคิดว่าด็อกเตอร์เจี่ยนมีปัญหาเรื่องหยิ่งเกินไปหรือไม่? เท่าที่ฉันทราบมา เธอยังไม่มีกําหนดการผ่าตัดในเร็วๆนี้ ทําไมเธอถึงไม่รับงานถ้าเธอว่างแบบนี้?”