เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 1233-1234
1233 ปัญหาความเข้าใจในการอ่านคนจําเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากภายนอก
ชายคนนี้อยู่เป่ยจิงมาหนึ่งปีแล้ว และเขารู้ว่าใครที่สามารถล่วงเกินได้ และใครที่ไม่สามารถล่วงเกินได้
“เธอไม่ได้มีนามสกุลฉินหรือจ่าย แต่เธอมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับตระกูลฉินและตระกูลจ่ายมิสฉินหยูฝานเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ ผู้นําตระกูลฉินเคยเป็นครูสอนพิเศษของเธอและต่อมาทั้งคู่ก็เป็นเพื่อนสนิทกัน และการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของจ่ายป๋อเชินผู้นําตระกูลจ่ายก็เป็นเธอที่สามารถตามล่าหาฆ่าตกรจนเจอ และที่สําคัญไปกว่านั้น นายท่านเชิงยังเป็นคู่หมั้นของเธอ และตอนนี้เจี่ยนหยุ่นเฉิง ประธานตระกูลเจี่ยนอันโด่งดังก็เป็นพี่ชายคนโตของเธอ แล้วแกจะบอกฉันว่าผู้หญิงคนนั้นสามารถล่วงเกินได้อย่างนั้นเหรอ?”
“ผม…”
“มันไม่ใช่แค่นั้น แกเคยได้ยินชื่อของโรงพยาบาลลั่วไห่เซินใช่ไหม? ซึ่งเธอเป็นสมาชิกของโรงพยาบาลรั่วไห่เซินสาขาหลัก อีกทั้งเธอยังเป็นทายาทของบริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ชื่อหมิง ที่จางชวี่หมิงได้ประกาศต่อสาธารณชน!”
ชายคนนั้นตกตะลึงอย่างสมบูรณ์แบบ
เขาจะรู้ได้ยังไงว่าผู้หญิงที่ดูอ่อนโยน น่ารัก ไม่มีอารมณ์แบบนั้น จะมีภูมิหลังที่น่ากลัวแบบนี้อยู่ แล้วหลังจากนี้อนาคตของเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป?
ถ้าเขารู้ตั้งแต่แรก เขาคงไม่กล้าพูดกับเธอแบบนั้นอย่างแน่นอน!
อันหยางถูกนําตัวกลับไปที่ตระกูลเจี่ยน โดยเจี่ยนอีหลิงนํายารักษาบาดแผลออกมา “บอสปล่อยให้ฉันจัดการเองดีกว่า”
อันหยางไม่กล้าปล่อยให้เจี่ยนอีหลิงช่วยเขาเรื่องยา
ถ้านายท่านเชิ่งรู้เข้า ชะตากรรมของเขาคงจะเลวร้ายยิ่งกว่าบาดแผลบนร่างกายในตอนนี้อย่างแน่นอน
“ฉันทําให้เอง” หูเจียวเจียวหยิบกล่องยาจากมือของเจี่ยนอีหลิง
เมื่อได้ยินดังนั้น อันหยางก็หันไปมองหูเจียวเจียวทันที
หูเจียวเจียวก้มหัวลงและอธิบายเบาๆว่า “นายอย่าเข้าใจผิด ฉันเห็นแก่อีหลิงหรอกนะ ถึงจะเป็นคนรักไม่ได้ ฉันก็ไม่ได้อยากเป็นศัตรูกับนาย ไม่อย่างนั้น มันจะไม่ดีสําหรับอีหลิงที่เป็นคนกลาง”
คําพูดของหูเจียวเจียวไม่ได้มีไว้สําหรับอันหยางเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตัวเธอเองด้วย
อันหยางหลุบตาลงและมองพื้นแทน เขาไม่กล้าที่จะมองไปที่ดวงตาหูเจียวเจียว
“เธอพูดถูก”
เพื่อน นี่อาจจะเป็นความสัมพันธ์ที่ใกล้เคียงที่สุด ที่พวกเขาทั้งคู่สามารถทําได้ในชีวิตนี้ใช่ไหม?
ขั้นตอนการรักษาบาดแผลใช้เวลาเพียงห้านาทีเท่านั้น แต่สําหรับอันหยางและหูเจียวเจียวดูเหมือนจะผ่านไปแล้วหนึ่งศตวรรษ
เจี่ยนอีหลิงมองทั้งสองคนอยู่ใกล้ๆ
เมื่อทั้งสองคนไม่สนใจ เจี่ยนอีหลิงก็ถ่ายรูปแล้วส่งไปให้จ่ายหวินเชิ่ง
ตอนนี้ จ่ายหวินเชิ่งกําลังประชุมอยู่ ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น และเมื่อเห็นข้อความแจ้งเตือนว่าเจี่ยนอีหลิงเป็นคนส่งมา จ่ายหวินเชิ่งก็ยกยิ้มมุมปาก
หัวหน้าแผนกที่กําลังรายงานอยู่รู้สึก “อึดอัด” อยู่ในใจเล็กน้อย
รอยยิ้มของนายน้อยจ่ายหมายความว่ายังไง?
คนทั้งบริษัทรู้ดีว่าชายผู้นี้ไม่เคยยิ้มหรือหัวเราะมาก่อน
แต่ทําไมการประชุมที่ผ่านไปเพียงครึ่งทาง จู่ๆเขาก็หัวเราะออกมา
จ่ายหวินเชิ่งกดข้อความ และเห็นภาพที่ส่งมาจากเจี่ยนอีหลิง
หูเจียวเจียวในภาพกําลังทายาให้กับอันหยาง ซึ่งเป็นแฟนเก่าของเธอ
[อยากถามอะไร?]
จ่ายหวินเชิ่งเดาได้ว่านี่อาจจะเป็นคําถาม เพื่อความเข้าใจในการอ่าน
กระต่ายตัวน้อยที่เขาเลี้ยงไว้ค่อนข้างเก่งทุกอย่าง แต่ความเข้าใจในการอ่านเพื่อทําความเข้าใจนั้นแย่เกินไป เธอจึงต้องการความช่วยเหลือจากภายนอก
[พวกเขาชอบกันไหม?]
และข้อความนี้ ทําให้จ่ายหวินเชิ่งยิ้มและหัวเราะยิ่งกว่าเดิม
หัวหน้าแผนกที่กําลังรายงานอยู่หยุดทันที และมองจ่ายหวินเชิ่งด้วยความหวาดกลัว
“พูดต่อได้เลย” จ่ายหวินเชิ่งพูดกับหัวหน้าแผนก แล้วก้มหน้ามองข้อความในโทรศัพท์มือถืออีกครั้ง
ที่แท้นายท่านเชิ่งก็ไม่ได้หัวเราะเยาะเขา ถ้าอย่างนั้นก็ค่อยยังชั่ว
หัวหน้าแผนกถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วเริ่มรายงานต่อไป
จ่ายหวินเชิ่งส่งข้อความถึงเจี่ยนอีหลิง [เธอต้องการให้พวกเขากลับมาคืนดีกันไหม?]
เจี่ยนอีหลิง [ได้เหรอ?]
จ่ายหวินเชิ่ง [หากเธอต้องการ นายท่านคนนี้สามารถช่วยเธอได้]
เจี่ยนอีหลิง [ต้องการ
จ่ายหวินเชิ่ง [ครั้งหน้าต้องพูดแบบเดียวกัน ตอนที่เธออยู่บนเตียงกับฉัน]
บทที่ 1234 แล้วเธอคิดถึงฉันไหม?
เจี่ยนอีหลิง (นายมันคนเจ้าเล่ห์]
จ่ายหวินเชิ่ง [ไม่รู้ว่าใครที่เล่นตุกติกกับนายท่านก่อน แล้วจะให้ฉันหยุดได้ยังไง? เฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้นที่จุดไฟได้ ห้ามประชาชนจุดตะเกียง* งั้นเหรอ?]
(RTANÈÑX, f###XJ เฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้นที่จุดไฟได้ ห้ามประชาชน จุดตะเกียง หมายถึง ผู้มีอํานาจสามารถทําสิ่งต่างๆได้ด้วยตนเอง แต่คนธรรมดาถูกจํากัดไม่ให้ทํา กิจกรรมที่ชอบด้วยกฎหมาย โดยทั่วไปยังหมายถึงการกระทําตามอําเภอใจโดยตนเอง แต่เรียกร้องอย่างเคร่งครัดหรือไม่อนุญาตให้ผู้อื่นมีสิทธิ)
เจี่ยนอีหลิง [ตอนนี้เวลาทํางาน]
จ่ายหวินเชิ่ง [ในเวลาทํางานเธอเป็นอันธพาลไม่ได้ ถ้าอย่างนั้น พอกลับถึงบ้านเธอก็สามารถเป็นอันธพาลได้ใช่ไหม?]
เจี่ยนอีหลิง [ตอนนี้ ฉันอยู่ที่ตระกูลเจี่ยน]
มันเป็นไปไม่ได้เลย ที่เธอจะเล่นเป็นอันธพาลในเวลากลางคืน
จ่ายหวินเชิ่ง (แล้วเธอคิดถึงฉันไหม?]
เจี่ยนอีหลิง [อ๋อ]
จ่ายหวินเชิ่ง (คิดมากแค่ไหน?]
เจี่ยนอีหลิง (ฉันคิดถึงมากๆ]
จ่ายหวินเชิ่ง [เธอยังต้องการมีลูกกับฉันไหม?]
เจี่ยนอีหลิง [ฉันไม่ต้องการมันแล้ว]
เจี่ยนอีหลิงหน้าแดง แต่โชคดีที่อันหยางหรือหูเจียวเจียวไม่ได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของเธอ
จ่ายหวินเชิ่ง (ทําไมตอนนี้ถึงไม่ต้องการแล้วล่ะ ก่อนหน้านี้เธอยังต้องการอยู่เลย]
เจี่ยนอีหลิง [ไร้สาระอีกแล้ว คนเจ้าเล่ห์]
เนื่องจากร่างกายของเขาดีขึ้นแล้ว และธรรมชาติของหมาป่าในร่างของจ่ายหวินเชิ่ง จึงได้ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างสมบูรณ์
ไม่ใช่แค่ลงมือท่าเท่านั้น แต่รวมไปถึงคําพูดด้วย
ตอนนี้ ผู้คนกําลังนั่งอยู่ในห้องประชุม ซึ่งมีหัวหน้าระดับสูงของแผนกต่างๆของบริษัท และหนึ่งในหัวหน้าแผนกก็ยังคงรายงานการทํางานอย่างจริงจัง
พวกเขาก็ยังคงเป็นคนเดิม แต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยเศษขยะสีเหลือง* (HB) เศษขยะสีเหลือง หมายถึง เรื่องลามก)
หลังจากที่หูเจียวเจียวทายาให้อันหยางเสร็จแล้ว บรรยากาศกลับยิ่งน่าอึดอัดมากกว่าเดิม
“เมื่อกี้ ขอบคุณนายมาก” หูเจียวเจียวขอบคุณอย่างสุภาพ
ที่อันหยางทะเลาะวิวาทกับคนอื่น อาจเป็นเพราะเธอเป็นเพื่อนของอีหลิง หรือเพราะเขาเคยชินกับการทะเลาะวิวาท และเมื่อเห็นแบบนี้แล้วจะไม่ให้คันมือได้อย่างไร
หูเจียวเจียวรู้ดีว่าอันหยางเป็นคนมีคุณธรรม และน่านับถือมาก
แม้ว่าผู้หญิงที่ถูกลวนลามวันนี้จะเป็นผู้หญิงที่ไม่รู้จัก อันหยางก็จะไม่นั่งดูเฉยๆอย่างแน่นอน
“ไม่ต้องเกรงใจ”
ในขณะที่พูด อันหยางมองไปที่หูเจียวเจียว
ระหว่างอันหยางและหูเจียวเจียวไม่มีอะไรจะพูด ส่วนเจี่ยนอีหลิงก็ไม่ใช่คนพูดมาก
เมื่อก่อนพวกเขาสามคนอยู่ด้วยกัน จะเป็นอันหยางและหูเจียวเจียวที่พูดไม่หยุด ส่วนเจี่ยนอีหลิงจะเป็นผู้ฟังอย่างเดียว
แต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีอะไรจะพูด จึงทําให้บรรยากาศเงียบมากระหว่างพวกเขาทั้งสามคน หลังจากที่ผ่านไปครึ่งชั่วโมง หูเจียวเจียวรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรอยู่อีกต่อไป ดังนั้น เธอจึงได้บอกลาเจี่ยนอีหลิง
หูเจียวเจียวกําลังจะจากไป แต่หานหมิงอวี้ในชุดเสื้อผ้าหรูหราก็เดินเข้ามาอย่างสดใส
หานเหมิงอวี้เป็นผู้ชายทั่วไปที่สามารถพบได้ในเมืองหลวง
ร่ํารวย เอาใจใส่ กระตือรือร้น และขี้เล่น
มีผิวที่ดี และมีภูมิหลังที่ดีอีกเช่นกัน
ถึงแม้จะรู้ว่าเขาเป็นลูกคนรวยสุรุ่ยสุร่าย แต่ผู้หญิงก็ยังแห่กันไปหาเขา
หลังจากที่เดินเข้าประตูมาแล้ว หานหมิงอวี้ก็ทักทายเจี่ยนอีหลิงทันที “สวัสดี พี่สะใภ้”
เขารู้ว่าเจี่ยนอีหลิงจะต้องสงสัย ดังนั้น หันเหมิงอวี้จึงบอกเจี่ยนอีหลิงตรงๆว่า “นายท่านเพิ่งให้ฉันไปส่งเจียวเจียวกลับบ้าน”
จากนั้น หานเหมิงอวี้ก็หันไปพูดกับหูเจียวเจียวว่า “ฉันจะไปส่งเธอเอง มันไม่ปลอดภัยสําหรับผู้หญิงที่จะขึ้นรถกลับคนเดียว”
“ไม่เป็นไร ฉันกลับด้วยตัวเองได้…”
“มันไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอก นายท่านเชิ่งรู้ว่าฉันกําลังจะไปมหาลัยของเธอ ดังนั้น เขาแค่ให้ฉันพาเธอไปด้วยก็เท่านั้น” หานเหมิงอวี้อธิบาย
มันเป็นแบบนี้นี่เอง
เนื่องจากจ่ายหวินเชิ่งเป็นคนจัดการไว้ หูเจียวเจียวจึงไม่สามารถปฏิเสธได้
“ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนคุณด้วย” หูเจียวเจียวขอบคุณหานเหมิงอวี้
“ไม่มีปัญหา เธอเป็นเพื่อนที่ดีของพี่สะใภ้ฉัน ก็ถือว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องเกรงใจ”
หานเหมิงอวี้ยิ้มสดใส ทําให้ผู้คนรู้สึกอบอุ่นมาก
จากนั้น หานหมิงอวี้ก็พูดกับเจี่ยนอีหลิงว่า “พี่สะใภ้ ฉันจะพาเจียวเจียวกลับก่อน เธอสบายใจได้ ฉันสัญญาว่าจะส่งเจียวเจียวกลับบ้านอย่างปลอดภัย”