เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 1213-1214
บทที่ 1213 การสร้างทีม 5
ในงานเลี้ยงรอบกองไฟ ขวดที่ไป๋ผิงผิงนําติดตัวไปถูกแทนที่โดยเจี่ยนหยุ่นโม่
ตอนนี้มีเพียงน้ํากลั่นที่ใส่สีย้อมเล็กน้อยเท่านั้น
แต่เรื่องนี้เจี่ยนหยุ่นน่าวไม่รู้
ไป๋ผิงผิงมองขวดที่อยู่ในมือตัวเองด้วยประหลาดใจเล็กน้อย
เป็นไปได้ยังไง?
เฟยชิงบอกว่าสิ่งนี้จะทําให้เกิดอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงเมื่อสัมผัสกับผิวหนัง
ตามหลักแล้วคนที่ถูกน้ําสาดควรตอบสนองเล็กน้อย
“ไป๋ผิงผิง อีหลิงท่าอะไรให้เธอ! ถึงอยากฆ่าแกงเธอแบบนี้!?”
เจี่ยนหยุ่นโม่และหลี่จั๋วเจียเดินออกมา พวกเขาอยู่แถวๆนี้ราวกับว่าพวกเขารู้อยู่แล้วว่าไปผิงผิงจะลงมือ
ไป่ผิงผิงรีบโยนขวดในมือทิ้งอย่างรวดเร็ว “ไม่ ฉัน ฉันไม่ได้ทํา….ฉันไม่ได้ต้องการจะฆ่าเธอ! ฉันแค่อยากสอนบทเรียนให้เธอ!”
หลี่จั๋วเจียพูดด้วยน้ําเสียงโมโหว่า “เธอไม่ได้ตั้งใจ? เธอพยายามทําร้ายเจี่ยนอีหลิงด้วยยาในขวดนั้น ฉันเห็นหมดแล้ว”
เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆที่ได้ยินเสียงก็รีบวิ่งเข้ามา
พวกเขาเห็นเจี่ยนหยุ่นน่าวเปียกไปทั้งตัว และไป๋ผิงผิงที่ยืนนิ่งอย่างโง่งมอยู่ข้างๆ และขวดยาที่อยู่บนพื้นที่เต็มไปด้วยสารเคมี
หลังจากเห็นขวดยาเพื่อนร่วมงานจําได้ว่าขวดยานี้เป็นของในห้องวิจัยของโรงพยาบาล เป็นวัตถุอันตรายมีเพียงแพทย์ที่มีคุณสมบัติเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ใช้อย่างถูกกฎหมาย
ยาที่อันตรายแบบนี้ ภายใต้สถานการณ์ปกติแล้วเขาจะไม่น่ามันออกจากห้องวิจัยโดยพลการเด็ดขาด
ตอนนี้กลับมีขวดยานี้ปรากฏอยู่ที่นี่ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? ใครกล้าเอาขวดยานี้มาที่นี่?
“ไป๋ผิงผิง บอกเหตุผลที่เธอทําแบบนี้มา เธอรู้ไหมว่าเธอตั้งใจฆ่าคน?”
ว่าไงนะ? ฆ่าคน?
ทุกคนที่ได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
“โทษฉันคนเดียวก็ไม่ถูก! เจี่ยนอีหลิงไม่ดีเอง! เธอเป็นคนที่ไม่ยอมให้ฉันเลื่อนตําแหน่งฉัน แค่ไม่พอใจและอยากสอนบทเรียนให้เธอแค่นั้นเอง!” ไป๋ผิงผิงพยายามแก้ตัว
หลี่จั๋วเจียด “บทเรียน? นี่คือบทเรียนงั้นเหรอ? หากขวดยาที่เธอใช้มีสารเคมีดั้งเดิมอยู่ คนสองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้คงจ่าไม่ได้แล้ว!”
“ยานี้จะฆ่านางได้ยังไง!” ไป๋ผิงผิงโต้กลับ
สิ่งที่ไป๋ผิงผิงคิดก็คือ ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่สามารถอยู่ลั่วไห่เซินได้อีกต่อไป แทนที่จะอดทนอดกลั้น เธอควรสั่งสอนเจี่ยนอีหลิงก่อนจากไปให้เจ็บปวดสักครั้ง เพื่อให้จดจําเธอไปตลอดชีวิต
“ยานี้มีฤทธิ์กัดกร่อนมาก การสัมผัสกับผิวหนังไม่ได้ผลดีไปกว่ากรดกํามะถันเข้มข้น เธอบอกว่าแค่อยากจะสั่งสอนงั้นเหรอ?” หลี่จั๊วเจียเยาะเย้ยอย่างเย็นชา “อะไรนะ…สารกัดกร่อนอะไร?” ไปผิงผิงตะลึงงันไปทั้งตัว
“ฉัน…ไม่ใช่…ฉัน…” ไปผิงผิงพยายามแก้ต่างให้ของตัวเอง
เฟยชิงรีบเข้ามาตําหนิไป๋ผิงผิง “ไป๋ผิงผิง ทําไมเธอถึงท่าอะไรโง่ๆแบบนี้? เธอคงสับสนเกินไป! เธอไม่เพียงแต่ไม่แก้ไขอะไรได้ แต่ยังต้องรับผิดชอบทางอาญาด้วย เธอนี่โง่จริงๆ!”
ความผิดทางอาญา?
ร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ?
หลี่จั่วเจียบอกไป๋ผิงผิง “ฉันได้แจ้งตํารวจแล้ว เธอคงต้องติดคุกหัวโตเลยแหละ!”
อะไรนะ?
ติดคุก?
ทันใดนั้นไป๋ผิงผิงก็ทรุดลงนั่งบนพื้นด้วยขาที่อ่อนแรงและเริ่มร้องไห้
“ฉันไม่อยากติดคุก! ฉันไม่อยากติดคุก!”
เจี่ยนหยุ่นโม่ที่มีใบหน้าที่อบอุ่นตลอดเวลา ตอนนี้กลายเป็นสีหน้าเย็นชา “การร้องไห้ไม่มีประโยชน์อะไร เธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว และต้องยอมรับผลกับสิ่งที่เธอทำ”
บทที่ 1214 การสร้างทีม 6
“เสี่ยว….เสี่ยวหลิง…”
เจี่ยนหยุ่นน่าวรู้สึกเขินอายเล็กน้อย
เจี่ยนอีหลิงกําลังจัดการกับผมของเขา
เธอกําลังเป่าผมให้เขา และจัดทรงผมให้ด้วย
เจี่ยนหยุ่นน่าวเปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่มีร้านตัดผมแถวนี้ เจี่ยนอีหลิงก็เลยจัดการด้วยตัวเอง
“ไม่ดีเหรอ?”
“ดูดี ดูดี ดูดีมากๆ” เจี่ยนหยุ่นน่าวรีบตอบ
เขาสัมผัสได้ถึงมืออันอ่อนนุ่มของน้องสาวที่จับผมของตัวเองอย่างชัดเจน
ลมอุ่นของเครื่องเป่าผมพัดผ่านหัวของเขา แต่ภายในอกของเขากลับอบอุ่นกว่าบนหัว
ไม่นานผมของเขาก็ถูกเป่าให้แห้ง และเจี่ยนอีหลิงยังได้จัดผมให้กับเจี่ยนหยุ่นน่าวใหม่
เจี่ยนหยุ่นน่าวรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วเกินไป
รู้อย่างนี้เขาควรไว้ผมให้ยาวขึ้นหน่อย จะได้เป่าได้นานขึ้น
กลางดึก ขณะที่ทุกคนกําลังนอนดูท้องฟ้า
ท้องฟ้านอกเมืองนั้นปลอดโปร่งและเห็นดาวได้อย่างชัดเจน
ลมริมทะเลสาบคืนฤดูร้อน นั้นเย็นสบายมาก
เจี่ยนอีหลิง หลัวซิ่วเอิน เจี่ยนหยุ่นโม่และเจี่ยนหยุ่นน่าวนอนดูท้องฟ้าในเต็นท์
เจี่ยนหยุ่นน่าวหันหน้าไปมองเจี่ยนอีหลิงที่อยู่ข้างๆ
จำได้ว่าตอนเด็กๆพวกเขานอนดูท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวด้วยกัน
ตอนนี้มีทั้งพี่ชายรองน้องสาวของเขาอยู่ที่นี่
มันช่างดีเหลือเกิน
เจี่ยนหยุ่นน่าวมีความสุขมากและพอใจ ก่อนจะหลับไปโดยไม่รู้ตัว
เขาฝันถึงตอนที่เขายังเป็นเด็ก เขากําลังเล่นกับน้องสาวคนเล็ก และดันทาแจกันของแม่แตก พี่ชายใหญ่ทําหน้าบึ้งตึง พี่ชายรองช่วยพูดปกป้องพวกเขา
พ่อแกล้งตีก้นน้องน้องสาว
“อาน่วน คุณก็เห็นว่าผมตีเสี่ยวหลิงเจ็บไปหมดแล้ว”
น้องสาวร่วมมือกับพ่อ เธอร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร
เขาซ่อนตัวอยู่หลังพี่ชายรอง
เขาไม่ได้ฝันแบบนี้มาหลายปีแล้ว
โดยเฉพาะสองปีที่น้องสาวหายไป
เขาฝันร้ายทุกวัน ถึงกระทั่งฝันว่าน้องสาวกลายเป็นวิญญาณและถามเขาว่าทําไมเขาถึงไม่เชื่อ บางครั้งยังฝันว่าน้องสาวยืนอยู่ท่ามกลางหิมะเพียงลําพัง รอบด้านมีหิมะขาวโพลน ใบหน้าไร้อารมณ์ ถึงเธอจะไม่แสดงออกว่ากําลังเศร้าเสียใจ แต่กลับทําให้คนมองปวดใจยิ่งกว่าตอนเห็นเธอร้องไห้เสียอีก
โชคดีที่มันไม่ใช่ความจริง
น้องสาวไม่ได้หายไปไหน
ครอบครัวของพวกเรายังคงอยู่ด้วยกัน
ไป๋ผิงผิงถูกนําตัวออกไป ทั้งหลี่จั๋วเจียและเจี่ยนหยุ่นโม่ก็รู้ว่าเรื่องยังไม่จบ
เนื่องจากไป๋ผิงผิงเป็นเพียงพยาบาลฝึกหัดในโรงพยาบาล เธอจึงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าห้องปฏิบัติการและไม่มีสิทธิ์ที่จะเอายาออกมาได้
ดังนั้น เมื่อไปผิงผิงถูกสอบปากค่า เขาจงใจให้หัวหน้าทีมหร่วนถามคําถามบางอย่าง
ผลก็คือไป๋ผิงผิงยืนยันว่ายานั้นเธอขโมยมาด้วยตัวเธอเองไม่มีใครให้ความช่วยเหลือทั้งสิ้นเรื่องของไป๋ผิงผิงจบลง เธอถูกควบคุมตัวชั่วคราว
วันอังคารที่สองของการสร้างทีมคือเวลาประเมินที่หลี่จั่วเจียพูดถึง
ผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมการประเมินนี้ ได้เตรียมการไว้อย่างดี
เมื่อเริ่มการประเมิน ทุกคนพบว่าเจี่ยนอีหลิงซึ่งคิดว่าต้องเข้าร่วมการประเมินแน่นอนกลับไม่ได้เข้าร่วม แต่ดูแลการสอบแทนผู้ควบคุมการประเมิน
แม้ว่าจะมีเรื่องน่าประหลาดใจอยู่บ้าง แต่คนส่วนใหญ่ก็ยอมรับได้
เพราะพวกเขารู้ว่าเจี่ยนอีหลิงมีความสามารถมาก และมากกว่าพวกเขา
มีเพียงเฟยชิงเท่านั้นที่รู้สึกไม่สบายใจ
การไม่เข้าสอบของเจี่ยนอีหลิงหมายความว่าไม่ว่าเธอจะได้คะแนนดีแค่ไหน ในสายตาของคนอื่น เธอก็สู้เจี่ยนอีหลิงไม่ได้
เธอแพ้การสอบนี้ ก่อนที่เธอจะได้สอบด้วยซ้ํา!