เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 1203-1204
บทที่ 1203 เฟยชิงถูกลดตําแหน่ง 2
[ฉันเดาว่าการประเมินนี้เรียกว่าเป็นเพียงการสร้างแรงผลักดันให้กับเจี่ยนอีหลิงและเพื่อโน้มน้าวใจทุกคน]
[ฉันจะทําอะไรได้อีก? ฉันไม่มั่นใจ เจี่ยนอีหลิงอายุน้อยกว่าฉันแต่ความแข็งแกร่งของเธอนั้นเหนือกว่าฉันมาก การที่เธอได้เป็นหัวหน้าแผนกศัลยกรรม คงไม่มีใครไม่พอใจ]
[ฉันรู้สึกว่าด็อกเตอร์เฟีย ค่อนข้างสงสาร ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เก่งเหมือนคนอื่นแต่เธอก็ยังเป็นผู้นําด้านศัลยกรรมอยู่ เพียงแค่ด้อยกว่าเจี่ยนอีหลิงเท่านั้น]
[นี่เป็นสิ่งที่ช่วยไม่ได้ เสือสองตัวไม่อาจอยู่ในถ้ําเดียวกันได้ ฉันรู้สึกว่าหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด็อกเตอร์เฟยอาจจะไม่สามารถอยู่ในโรงพยาบาลได้อีต่อไป]
[แต่ยังไงก็ตาม ลั่วไห่เซินก็เป็นโรงพยาบาลที่จ่ายค่าตอบแทนดีที่สุดในประเทศ ไม่มีโรงพยาบาลไหนให้เงินเดือนสูงแบบนี้ได้ และในฐานะที่เป็นพนักงานของลั่วไห่เซิน ก็ยิ่งดีเป็นสองเท่าเพราะจะทําให้เธอมีหน้าตาอีกด้วย]
[ไม่ ตอนนี้โรงพยาบาลหลักของเราเป็นผู้มีอํานาจในวงการแพทย์ การได้เข้าทํางานที่สาขาก็ถือเป็นเกียรติเช่นเดียวกัน ดังนั้นฉันรู้สึกว่าเฟยชิงไม่จําเป็นต้องจากไป แม้ว่าเธอจะไม่ใช่หัวหน้าแผนกศัลยกรรมแล้ว แต่ตําแหน่งและสวัสดิการที่ได้รับก็ไม่มีที่ไหนเทียบได้]
[ใช่ ใช่ อีกทั้งยังมีโอกาสที่จะได้สัมผัสกับบุคคลสําคัญของสํานักงานใหญ่อีกด้วย]
พนักงานส่วนใหญ่ในลั่วไห่เซินสาขาเป่ยจิงมีความภูมิใจที่ตัวเองสามารถเป็นหนึ่งในนั้นได้ ไม่เพียงแต่มีโอกาสได้ติดต่อกับสถานพยาบาลชั้นนําเท่านั้น แต่ยังรับรู้ถึงความสามารถของตัวเองอีกด้วย
เมื่อเดินออกไปข้างนอก และมีคนได้ยินว่าเธอเป็นคนของโรงพยาบาลลั่วไห่เซิน แววตาพวกเขาก็จะเปลี่ยนเป็นเคารพขึ้นมาทันที
ดังนั้นทุกคนจึงจริงจังกับการประเมินในเดือนถัดๆไป ไม่ว่าจะได้เลื่อนตําแหน่งหรือไม่ก็ตาม ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีในการฝึกฝน และยังสามารถบอกได้ว่าตัวเองนั้นมีข้อกพร่องตรงไหน และควรพัฒนาไปในทิศทางใด
เมื่อกลับมาจากห้องประชุม เฟ่ยชิงก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะและร้องไห้
เธออายุสามสิบ แต่ตอนนี้เธอกําลังร้องไห้เหมือนเด็กอายุสิบสาม
เธอไม่เคยรู้สึกน้อยเนื้อต่ําใจขนาดนี้มาก่อน
ตอนนี้เธอกลายเป็นตัวตลกในโรงพยาบาล
เธอเองก็ไม่อยากเป็นแบบนี้ เธอคิดว่าตัวเองท่าได้ สามารถรักษาผู้ป่วยให้หายขาดได้ หลังจากทำการผ่าตัด
ถึงแม้จะมีความเสี่ยง แต่เธอคิดว่ามันอยู่ในขอบเขตที่เธอสามารถควบคุมได้ ใครจะรู้ว่าจะเป็นแบบนั้น…
เธอจ๋าได้ว่าตอนที่เธอผ่านการสัมภาษณ์ของโรงพยาบาลรั่วไห่เซินสาขาเป่ยจิง เธอทําให้ทั้งครอบครัวมีความสุขและภูมิใจในตัวเธอมากกว่าตอนที่เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยแพทย์ชั้นนำของประเทศเสียอีก
พ่อของเธอยังจัดโต๊ะสําหรับจัดเลี้ยงพิเศษสองโต๊ะ และเชิญญาติมาทานอาหารเย็นร่วมกันไม่นานเธอก็โดดเด่นในหมู่ศัลยแพทย์และกลายเป็นหัวหน้าแผนกศัลยกรรมของโรงพยาบาลลั่วไห่เซินสาขาเป่ยจิงที่เพิ่งก่อตั้ง
นี่คือค่ายืนยันและเป็นเกียรติสําหรับเธอ
พ่อแม่ของเธอดีใจมาก กับสิ่งที่ทุกคนพูดถึง
เมื่อทราบข่าวญาติและเพื่อนๆก็พากันมาแสดงความยินดี
ตอนนี้เธอถูกลดตําแหน่งแล้ว เธอจะอธิบายเรื่องนี้กับญาติและเพื่อนๆของเธอยังไง?
เฟยชิงไม่รู้ว่าควรทํายังไงดี อารมณ์ด้านลบทั้งหมดกลายเป็นน้ําตา เธออดที่จะร้องไห้ออกมาไม่ได้
เฟียชิงรู้ดีว่าแม้เธอจะถูกลดตําแหน่ง หรือเธอรู้สึกผิด เธอก็ไม่สามารถออกไปจากลั่วไห่เซิน
หลังจากออกจากบั่วไห่เซิน เธอไม่มีที่ไหนที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว โรงพยาบาลในประเทศและต่างประเทศไม่มีที่ไหนจะมีระดับและการรักษาที่เทียบได้กับลั่วไห่
หลังจากร้องไห้อยู่พักหนึ่ง เฟ่ยชิงก็นึกขึ้นได้ว่าไป๋ปิงปิงพูดกับเธอว่ากําลังจะมีการสร้างทีมในสัปดาห์หน้า
ตราบใดที่เจี่ยนอีหลิงไม่อยู่ ก็จะไม่มีใครสามารถคุกคามตําแหน่งหัวหน้าแผนกศัลยกรรมของเธอได้?
เฟียชิงรู้ว่าในลั่วไห่เซินสาขาเป่ยจิง มีเพียงเจี่ยนอีหลิงคนเดียวที่มีความสามารถในผ่าตัดมากกว่าเธอ
บทที่ 1204 จงใจทําให้เข้าใจผิด
หากไม่มีเจี่ยนอีหลิง ถึงเธอจะล้มเหลวในการผ่าตัดครั้งนี้ คนอื่นก็จะล้มเหลวเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถคุกคามตําแหน่งและอํานาจของเธอได้
เฟียชิงนึกถึงไป๋ปิงปิง
หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เฟ่ยชิงก็เช็ดคราบน้ําตาออกจากใบหน้าและล้างหน้า
จากนั้นเฟยชิงก็ส่งข้อความถึงไป๋ปิงปิงและชวนเธอไปช้อปปิ้งหลังเลิกงาน
“ด็อกเตอร์เฟียมันไม่ยุติธรรมกับเธอเลย” ไป๋ปิงปิงต่อสู้เพื่อเฟยชิง
“ฉันไม่เป็นไร ฉันฝีมือไม่ดีเท่าคนอื่น ผู้อํานวยการหลี่เพียงแค่ลดตําแหน่งฉันแต่ไม่ได้ไล่ฉันออก ก็ถือว่าเขาผ่อนปรนต่อฉันแล้ว” เฟ่ยชิงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
“เธอมีทัศนคติที่ดีจริงๆ” ไป๋ปิงปิงกล่าวว่า “ถ้าเป็นฉัน ฉันคงทําไม่ได้”
เฟียชิงยิ้ม “ขอบคุณเธอมากที่เป็นห่วงฉัน มีเพียงเวลานี้เท่านั้นที่ฉันจะมองเห็นความรู้สึกที่แท้จริงในความทุกข์ยากได้อย่างชัดเจนว่าในโรงพยาบาลนี้ ใครเป็นเพื่อนที่ดีสําหรับฉัน”
ไป๋ปิงปิงมีความสุขมากที่ได้ยินคําพูดนี้
เธอเป็นแค่พยาบาลฝึกหัดเท่านั้น แต่เธอสามารถเป็นเพื่อนที่ดีกับหมอระดับเฟียชิงได้ เธอดีใจมาก
ตั้งแต่เข้ามาในโรงพยาบาล เธอรู้ดีว่าการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเฟยชิงจะเป็นประโยชน์ต่ออนาคตของเธอ ดังนั้นเมื่อใครมีปัญหากับเฟ่ยชิง เธอจึงเป็นคนแรกลุกขึ้นปกป้อง เพื่อให้เฟ่ยชิงเห็นความดีของเธอ
“ไปซื้อกระเป๋ากับฉันเถอะ ฉันอารมณ์ไม่ดี ดังนั้นไปซื้อกระเป๋าให้สบายใจดีกว่า”
เฟ่ยชิงลากไป๋ปิงปิงเข้าไปในร้านหรูและเลือกกระเป๋าราคาหนึ่งแสนหยวน
ขณะที่กําลังจะจ่ายเงิน เฟียชิงหยิบกระเป๋าตังค์ออกมาจากกระเป๋า และบังเอิญหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาและทํามันตกลงบนพื้น
ไป๋ปิงปิงช่วยเฟยชิงเก็บมันขึ้นมา เมื่อถือมันไว้ในมือ เธอก็เห็นชื่อของตัวเองทันที
ไป่ปิงปิงตกใจเล็กน้อย เฟียชิงรีบคว้ากระดาษจากมือของไป๋ปิงปิง
หลังจากจ่ายเงินเสร็จไป๋ปิงปิงก็ถามเฟยชิงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นบนกระดาษแผ่นนั้น
เฟียชิงอยากจะพูดแต่ก็หยุดไว้ “เธออย่าถามเลย”
“ด็อกเตอร์เฟีย เธอบอกว่าฉันเป็นเพื่อนที่ดีของเธอไม่ใช่เหรอ ฉันเห็นคะแนนการประเมิน เขียนอยู่บนกระดาษแผ่นนั้น มันคืออะไร? โปรดบอกฉันให้ชัดเจน ไม่อย่างนั้นคืนนี้ฉันคงนอนไม่หลับ”
เฟยชิงรู้สึกลําบากใจมาก หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง เธอก็พูดขึ้นมาว่า “เอาเถอะ ฉันจะบอกเธอ แต่เธอต้องรับปากว่าจะไม่บอกคนอื่นว่าฉันเป็นคนบอกเธอ”
“อือ ฉันรับปาก เธอสบายใจได้ ฉันจะไม่บอกใครว่าเธอเป็นคนบอกฉัน” “นี่คือแบบประเมินสําหรับนักศึกษาฝึกงาน ซึ่งแพทย์ระดับผู้อํานวยการของทุกคนจะต้องกรอก นอกเหนือจากความเห็นของผู้อํานวยการพยาบาลแล้ว ความคิดเห็นของแพทย์ก็มีความสําคัญเช่นเดียวกัน ก่อนหน้านี้ฉันเป็นผู้อํานวยการแผนกศัลยกรรมดังนั้นฉันจึงมีแบบฟอร์มนี้เหมือนกัน” “แล้วผลการประเมินของฉันเป็นยังไงบ้าง?” ไป๋ปิงปิงถามอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่า เธอหวังว่าตัวเองจะสามารถผ่านการฝึกงานและกลายเป็นพนักงานประจําของลั่วไห่เซินสาขาเป่ยจิงได้
“เธอ……ผ่านแต่……”
สีหน้าของเฟียชิงสับสนมาก ท่าทางเหมือนไม่อยากบอกไป่ปิงปิง
“แต่อะไร?” ไป๋ปิงปิงยิ่งร้อนใจเข้าไปอีก นี่มันเรื่องอะไรกัน เธอต้องการที่จะรู้ผล
“แต่มีคนให้คะแนนเธอไม่ดี ดังนั้นตอนนี้เธอจึงกลายเป็นนักศึกษาฝึกงานที่ทําคะแนนได้แย่ที่สุด ”
“ใคร?” ใครให้คะแนนที่ไม่ดีกับฉัน?” ไป๋ปิงปิงโกรธเคืองขึ้นมาทันที
“เธออย่าถามอีกเลย”
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเฟยชิง ไป่ปิงปิงก็มีคําตอบในใจ