เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 1199-1200
บทที่ 1199 พวกพี่ชายไปร้องเพลงกันจริงๆ 1
เธอรู้ว่าเจี่ยนอีหลิงเป็นศัลยแพทย์ที่น่าทึ่ง แต่ไม่เคยรู้ว่าเธอเก่งขนาดนี้
ในวันผ่าตัด เนื่องจากว่าเธอเป็นหมอฝึกหัดคนใหม่ จึงไม่ได้ไปดูเฟยชิงทําการผ่าตัดเหมือนหมอคนอื่น
แต่หลังจากการผ่าตัด การพูดคุยของเพื่อนร่วมงานทําให้เธอรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของเจี๋ยนอีหลิงอย่างแท้จริง
“ยังไงก็ดีกว่าพวกเรา อาทิตย์หน้าพวกเราจะจับกลุ่มกัน คุณช่วยเราเชิญเธอได้ไหม?” เจี่ยนอีหลิงไม่ได้อยู่ในกลุ่มงานของสาขา ทําให้เจี่ยนอีหลิงไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการจับกลุ่มในครั้งนี้
แต่ตอนนี้เพื่อนร่วมงานต้องการใกล้ชิดกับเจี่ยนอีหลิงมากขึ้น ยกเว้นเพียงไม่กี่คน ทุกคนเกือบจะเห็นพ้องกันว่าเจี่ยนอีหลิงสามารถไปเข้าร่วมกลุ่มกับพวกเขาได้
“นี่…ถึงฉันจะถาม แต่มันก็ขึ้นอยู่กับเจี่ยนอีหลิงเอง” จางหยุนไม่กล้าพูดมากเกินไป
มื่อถึงเวลาเลิกงาน จางหยุนและเจี่ยนอีหลิงก็ออกจากโรงพยาบาลด้วยกัน
ทันทีที่พวกเขาเดินออกจากประตู ทั้งสองก็เห็นผู้คนที่เพิ่มมากขึ้นในจัตุรัสไม่ไกลจากโรงพยาบาล
“เกิดอะไรขึ้น?” ความอยากรู้อยากเห็นตามสัญชาตญาณของมนุษย์ ผลักดันให้จางหยุนมองไปทางนั้น “ดูเหมือนว่าจะมีเสียงเปียโน”
เสียงเปียโน?
ทันใดนั้นเจี่ยนอีหลิงก็นึกอะไรขึ้นมาได้ และรีบเดินไปทางทิศทางของฝูงชน
ความครึกครื้นทั่วไปกับเจี่ยนอีหลิงไม่ค่อยเกี่ยวข้องกัน แต่ความครึกครื้นในวันนี้อาจจะแตกต่างออกไปเล็กน้อย
เจี่ยนอีหลิงและจางหยุนเบียดเสียดเข้าไปในฝูงชน
บนจัตุรัสที่ว่างเปล่า มีแกรนด์เปียโนตั้งอยู่
นักดนตรีหนุ่มแสนหล่อเหลากําลังบรรเลงอย่างดื่มดํา นิ้วมือเรียวยาวของเขาเล่นบนแป้นเปียโนอย่างรวดเร็ว ท่าให้ผู้ชมตื่นตาตื่นใจถ้วนก่อน
นักดนตรีไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นเจี่ยนหยุ่นน่าว
เจี่ยนหยู่หมินถือไมโครโฟนและร้องเพลงอย่างไพเราะเคียงข้างเขาอย่างสง่างาม ชุดเครื่องเสียงระดับไฮเอนด์กระจายเสียงเปียโนและเสียงร้องได้อย่างลงตัว ดึงดูดผู้ชมนับไม่ถ้วน
ทุกคนจําได้ว่าคนที่เล่นเปียโนเป็นนักเปียโนหนุ่มที่เพิ่งเป็นที่รู้จักในช่วงสองปีที่ผ่านมาและนักร้องคนนี้ก็คือ เซี่ยหมินหยู่ อดีตสมาชิกวง Jupiter ที่ออกจากวงการบันเทิงเมื่อหลายปี
ตรงหน้าทั้งสองคนมีชามใบหนึ่ง ชามแตกมีรอยรั่วภายใน และมีป้ายเขียนข้างๆ ว่า “ยินดีต้อนรับ”
การรวมตัวกันแบบนี้ มากพอที่จะมีคอนเสิร์ตเป็นหมื่นๆ คน แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็แสดงกันที่ริมถนนงั้นเหรอ?
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
แล้วศิลปินพเนจรจะอยู่กันยังไง?
ถ้าไม่ใช่เพราะบอดี้การ์ดกําลังขวางทางอยู่ ตอนนี้ฝูงชนที่กําลังมุงดูคงพุ่งเข้าไปแล้ว
จางหยุนดึงแขนของเจี่ยนอีหลิง “ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม นักเปียโนที่ฉันชอบ กําลังเล่นเปียโนต่อหน้าฉัน”
ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านจินฮุ่ย จินจิ่นและเจี่ยนอีหลิงอาศัยอยู่ด้วยกัน ทําให้เธอได้พบกับพี่ชายทั้งหลายของเจี่ยนอีหลิง
แต่จางหยุนไม่เคยเห็น จางหยุนได้พูดคุยกับเจี่ยนอีหลิงเพียงครั้งเดียวก่อนที่จะมาถึงเป่ยจิง และมีคนของเจี่ยนอีหลิงมารับตัวเธอไป
ในช่วงเวลานั้น เธอไม่ได้พบกับครอบครัวของเจี่ยนอีหลิง
ระหว่างที่จางหยุนยังคงประหลาดใจ เจี่ยนอีหลิงก็เดินไปหาเจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนหยุ่นน่าว
บอดี้การ์ดที่ปิดกั้นผู้ชมอื่นๆ ไม่ได้หยุดเจี่ยนอีหลิง
เจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนหยุ่นน่าวต่างก็เห็นเจี่ยนอีหลิง
เจี่ยนหยู่หมินเดินเข้ามาดึงเจี่ยนอีหลิง สายตามองเจี่ยนอีหลิงอย่างอ่อนโยนราวกับว่าเพลงนี้ร้องเพื่อเธอ
เจี่ยนหยู่หมินมีสายตาที่อ่อนโยนและลึกซึ้งเฉพาะตอนที่เขาร้องเพลงเท่านั้น
เป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นเขาอ่อนโยนตามปกติ
บทที่ 1200 พวกพี่ชายไปร้องเพลงกันจริงๆ 2
มีผู้ชมที่ยืนดูอยู่จ่าทั้งสองคนได้เมื่อตอนที่เข้าร่วมรายการด้วยกัน และรู้ว่าทั้งสองคนเป็นพี่น้องก้น
และเนื้อเพลงที่ร้องโดยเจี่ยนหยู่หมิน ก็เป็สิ่งที่พี่ชายพูดกับน้องสาว
เธอคือของขวัญจากพระเจ้าสําหรับพวกเรา
เธอคือนางฟ้าของพวกเรา
เธอคือแสงสว่างที่พวกเราอยากปกป้อง
ไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะเติบโตขึ้น
ไม่อยากให้เธอต้องสัมผัสสายลมและหยาดฝน
แต่เวลามักจะเดินเร็วอยู่เสมอ
ละทิ้งความไม่รู้ในวัยเยาว์ของเธอ และขจัดอันตรายกับปัญหาออกไป
ขอให้เธอมีชีวิตที่สงบสุข
ขอให้เธอมีความสุขตลอดชีวิต
ขอให้พวกเราดูแลกันและกันตลอดไป
เพลงนี้หาไม่ได้ในอินเตอร์เน็ต และไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน
เพราะนี่เป็นดนตรีต้นฉบับของเจี่ยนหยุ่นน่าว และเนื้อเพลงที่เขียนขึ้นโดยเจี่ยนหยู่หมิน วันนี้เป็นการร้องเพลงในที่สาธารณะครั้งแรก
เจี่ยนอีหลิงมองเจี่ยนหยู่หมินอยู่พักหนึ่ง มือเล็กล้วงเข้าไปในกระเป๋าของตัวอง แล้วหยิบเงินทอนออกมาสองสามเหรียญ
นี่คือเงินทอนไม่กี่เหรียญเธอ
จากนั้น เจี่ยนอีหลิงก็เดินไปที่ชามแตกๆ
โยนเงินทั้งหมดลงในนั้น
ผู้ชมที่มองอยู่ต่างมีเครื่องหมายตั้งคําถามแปะอยู่บนหน้า
???
ได้รับการยอมรับจากน้องสาว?
รู้สึกว่าพรุ่งนี้น่าจะมีการค้นหายอดนิยมในเว่ยป๋อว่า [เซอร์ไพรส์! อดีตไอดอลร้องเพลงริมถนน รอน้องสาวของตัวเองมาบริจาคเงินค่าขนมไม่กี่หยวนอย่างน่าสงสาร
เพราะเจี่ยนอีหลิงเป็นคนน่า ไม่นานนักผู้ชมคนอื่นๆ ก็โยนเงินลงในชาม
ห้าหยวน สิบหยวน หรือหนึ่งร้อยหยวน
สักพักชามใบเล็กก็เต็มแล้ว
เจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนหยุ่นน่าวร้องเพลงทั้งหมดสามเพลง หลังจากที่สามเพลงนั้นจบลง พวกเขาก็ปิดแผงลอยกลับบ้าน
เจี่ยนหยู่หมินหยิบชามแตกๆ ที่เต็มไปด้วยเงิน และพบว่าหลัวซิ่วเฉินที่ยืนอยู่ด้านหน้าของฝูงชน
วันนี้ที่เขาและหยุ่นน่าวร้องเพลง หยุ่นเฉิง หยุ่นโม่และภรรยากับลูกๆ ก็มีส่วนร่วมด้วย
หลัวซิ่วเอินยังคงกอดเจี่ยนตันตัวน้อยไว้ในอ้อมแขน
เจี่ยนหยู่หมินมอบชามใบเล็กเจี่ยนตัน “เจ้าเด็กตัวเหม็น ดูสิ นี่คือค่าร้องเพลงที่พ่อของแกหามาได้อย่างยากล่าบาก ฉันจะเอาไปซื้อนมผงกับผ้าอ้อมให้ละกัน”
“อา…” เด็กน้อยไม่สนใจพ่อของตัวเองเลยสักนิด และไม่ได้มองชามใบเล็กๆ ที่อยู่ตรงหน้าด้วย ในสายตาของเขามีเพียงอาคนสวยเท่านั้น
“บัดซบ!” เจี่ยนหยู่หมินอดที่จะสบถออกมาไม่ได้ เจ้าเด็กนี่ไม่ไว้หน้าพ่ออย่างเขาเลยสักนิด! หลัวซิ่วเอินก้มหน้าตําหนิ “วันนี้ฉันต้องดูแลลูกทั้งวัน ไม่อยากจะคิดเลยว่าเสี่ยวตันหนักแค่ไหน ถ้าให้อามาอุ้มแล้วอาจะเหนื่อยไหม! ขนาดแม่ยังเหนื่อยที่อุ้มเสี่ยวตันมาทั้งวันเลย”
“ฮือ ฮือ ฮือ…”
เด็กน้อยถูกแม่ห้ามไม่ให้เข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของอาคนสวย ก็ได้แต่เบ้ปากอย่างน่าสงสารจากนั้น เขาก็มองไปที่พ่อและลุงของเขา
ผลก็คือ ไม่มีใครสนใจเขาเลย
ฮือ ฮือ ฮือ
หลังจากออกจากจัตุรัส ทุกคนเข้าไปพักในร้านอาหารใกล้เคียง
จางหยุนมองไปที่เจี่ยนหยุ่นน่าวและถามด้วยความประหลาดใจว่า “ที่แท้พวกคุณห์เป็นพี่น้องกัน!”
จางหยุนพูดกับเจี่ยนหยุ่นน่าวอ่างตื่นเต้น “ฉันชอบเพลงของคุณมาก ทุกเพลงซึ้งมาก ฉันคิดว่า…”
เธอคิดว่าผู้แต่งเป็นคนที่งดงามและเศร้าหมอง
แต่ไม่คิดว่าตัวจริงจะไม่ดูเศร้าหมองเลยสักนิด
ความงดงามก็คือความงดงาม ตระกูลเจี่ยนไม่มีพี่น้องคนไหนที่หน้าตาไม่ดีเลย
นี่คงเป็นข้อได้เปรียบของยีนสินะ? จางหยุนอิจฉามาก
เจี่ยนหยุ่นไม่ช่วยเจี่ยนหยุ่นน่าวอธิบาย “ที่เพลงเขาเศร้าก็เพราะว่าเขาสูญเสียสมบัติล้ําค่าไป ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ”
ทุกคนต่างเข้าใจสิ่งที่เจี่ยนหยุ่น
จางหยุนนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะมีเริ่มตอบสนอง
ปรากฏว่านักเปียโนที่เธอชอบแต่งเพลงเศร้าเพราะน้องสาวหายไป
เขาไม่คิดว่าตนเองจะช่วยน้องสาวได้
โลกนี้เล็กเกินไปจริงๆ โชคชะตาก็เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์จริงๆ
นอกจากนี้ คนตระกูลเจี่ยนก็น่าทึ่งจริงๆ
พี่ชายแต่ละคนยอดเยี่ยมมาก
คงจะโกหกไม่ได้ว่าไม่อิจฉา