เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 1193-1194
บทที่ 1193 สี่พี่น้อง
“ในเมื่อทุกคนอยู่ที่ งั้นก็รับน้องสาวไปกินข้าวหลังเลิกงานกันดีกว่า” เจี่ยนหยุ่นเฉิงพูดกับน้องชายสองคน
หลังจากนั้นเจี่ยนหยุ่นเฉิงก็พูดกับเจี่ยนหยุ่นโม่ว่า “ไม่ช้าก็เร็วน้องสาวจะแต่งงานกับจ่ายหวินเชิ่ง แค่วันเดียวก็อาจจะสายเกินไป”
เจี่ยนหยุ่นเฉิงรู้ว่าเจี่ยนหยุ่นโม่มีศักยภาพที่สามารถหยุดน้องสาวได้มากที่สุดในบรรดาสามพี่น้อง
เจี่ยนหยุ่นไม่ยิ้มอบอุ่น มองผ่านโดยไม่พูดอะไร
เจี่ยนหยุ่นเฉิงรู้ดีว่าควรจะทําให้น้องชายของตนเองเป็นคนใจร้ายได้ยังไง
เจี่ยนหยุ่นน่าวกระซิบ “พี่ชาย น้องสาวชอบจ่ายหวินเชิ่งมากเลยอยากแต่งงานเร็วๆ ถ้าเธอมีความสุขก็ปล่อยให้เธอแต่งงานเร็วๆ เถอะนะ”
หลังจากที่เจี่ยนหยุ่นน่าวพูดจบก็ได้รับสายตาเย็นชาจากเจี่ยนหยุ่นเฉิงทันที
“พี่ชายใหญ่ เลิกต่อต้านโดยไม่จําเป็นเถอะ ตอนนี้คนทั้งโลกรู้แล้วว่าเสี่ยวหลิงของพวกเราเป็นสะใภ้ของตระกูลจ่าย งานแต่งงานเป็นเพียงพิธีของตระกูล ส่วนทั้งคนทั้งหัวใจถูกตระกูลจ่ายขโมยไปแล้ว”
เจี่ยนหยุ่นไม่รับรู้ความเป็นจริงแล้ว
ลูกหมาป่าวิ่งเข้าไปในรังกระต่าย และไม่ยอมปล่อยกระต่ายน้อยไป ไม่ว่าใครก็อย่าหวังว่าจะแย่งกระต่ายน้อยไปจากปากเจ้าลูกหมาป่านั้นได้
“ถ้าอย่างนั้นก็ทําสัญญาเยว่ฝ่าซานจาง* กับจ่ายหวินเชิ่ง ห้ามให้น้องสาวมีลูกได้ภายในสามปี เธอยังเด็กอยู่ และไม่ควรทนทุกข์ในเวลาสามปีนี้” *(*=* อ่านว่า เยว่ฝ่าซานจาง (กฎหมายตราสามดวง) เป็นรากฐานปกครองประเทศ อ้างอิงจากกฎหมายราชวงศ์ฉิน ยกเลิกเนื้อหาหนึ่งซึ่งไม่สอดคล้องกับเงื่อนไขของสังคมในยุคนั้น กําหนดกฎหมายแม่บทเก้าแม่บท นี่คือการเริ่มต้นของราชวงศ์ฮั่นในการออกกฎหมาย)
เจี่ยนหยุ่นเฉิงมีสีหน้าจริงจัง
“เรื่องนี้…” ดูเหมือนจะเป็นไปได้
สามพี่น้องมองหน้ากันอย่างเข้าใจ
ทั้งสามคนขับรถไปยังลั่วไห่เซินสาขาเมืองหลวง และรอให้เจี่ยนอีหลิงเลิกงาน
เจี่ยนอีหลิงเห็นพี่ชายสามคนมารับเธอหลังจากเลิกงานด้วยกันก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
เจี่ยนหยุ่นโม่ยิ้มและเดินเข้าไปหา “พวกพี่ชายหล่อจนอยากเป็นลมเหรอ?”
เจี่ยนหยุ่นโม่พูดติดตลกกับเจี่ยนอีหลิง
“อือ” เจี่ยนอีหลิงพยักหน้า และยอมรับความจริงว่าพี่ชายหล่อมาก
รอยยิ้มบนใบหน้าของเจี่ยนหยุ่นโม่กว้างขึ้น สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเอ็นดู “เธอรู้จักวิธีอ้อนพวกพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
“ฉันไม่ได้เรียนรู้”
พูดแก้ตัวไปเบาๆ
“เย็นนี้อยากกินอะไรสักหน่อย วันนี้พี่ชายรองเป็นเจ้าภาพ ฉันคงต้องกินให้เขาจนมากที่สุด” “ยากเกินไปที่จะกินให้พี่ชายรองจน” เจี่ยนอีหลิงตอบ
แม้ว่าเจี่ยนหยุ่นโม่จะไม่ใช่คนที่ร่ํารวยที่สุดในบรรดาพี่น้องตระกูลเจี่ยน แต่เขาก็มีเงินเก็บอยู่จํานวนไม่น้อย
สิทธิบัตรของเขาเพียงฉบับเดียวก็สามารถให้เช่าหาเงินได้เป็นจํานวนมาก
สิทธิบัตรของเจี่ยนหยุ่นโม่มักจะให้เช่าเท่านั้น แต่ไม่ได้ขาย และมีสัญญาตั้งแต่ห้าปีจนถึงยี่สิบปี ทําให้เขาสร้างรายได้จํานวนมากทุกปี
ตอนยังเด็กเขาก็อาจจะกินอยู่แบบจนๆ เพราะตอนนั้นเจี่ยนหยุ่นโม่มีเงินค่าขนมไม่มากนัก อีกทั้งเจี่ยนอีหลิงก็กินเก่งมาก แถมยังเลือกกินอาหารแพงๆ อีกด้วย
“ถ้าอย่างนั้นเธอก็กินให้จน พี่ชายสามของเธอไม่มีเงิน”
เจี่ยนหยุ่นน่าวเพิ่งลงจากรถ อยู่ดีๆ ก็งานเข้า
คนที่มีเงินน้อยที่สุดในสามพี่น้องคือเจี่ยนหยุ่นน่าว
เขาเพิ่งมีชื่อเสียงในช่วงสองปีที่ผ่านมา และยังไม่มีเวลาทําเงิน
เงินที่ได้จากอัลบั้มเพลงเพียงเล็กน้อยยังไม่เพียงพอตัวที่เขาจะซื้อเปียโนเองเลย
เจี่ยนหยุ่นน่าวรีบพูดทันที “น้องสาว ถึงพี่จะยากจน แต่ก็พยายามอย่างหนักเพื่อหากําไรจากการขายและร้องเพลงนะ”
เจี่ยนหยุ่นเฉิงพูดเสริมอย่างเฉยเมย “นายกับหยู่หมินคงทํางานด้วยกันได้ คนหนึ่งเล่น คนหนึ่งร้องเพลง ตั้งแผงลอยริมถนน น่าจะมีรายได้ไม่น้อยในช่วงบ่าย”
เจี่ยนหยุ่นโม่เห็นด้วย “ไม่เป็นไรนะ ฉันช่วยสนับสนุนนายได๋”
เจี่ยนหยุ่นเฉิงมีสีหน้าไร้อารมณ์ แต่น้ําเสียงจริงจัง “ฉันจะสนับสนุน หนุนอุปกรณ์เครื่องเสียงหนึ่งชุด”
เจี่ยนอีหลิงหยุดไปครู่หนึ่ง “ฉันจะสนับสนุนครีมกันแดด”
เจี่ยนหยุ่นน่าว “เรื่องนี้ทุกคนพูดเองนะ ถ้าผมกับพี่หยู่หมินตั้งแผงลอยขึ้นมา ทุกคนห้ามกลับคำ”
พี่น้องสี่คนไปทานอาหารเย็นในห้องส่วนตัวของร้านอาหารด้วยกัน
อาหารเย็นถูกกินไปครึ่งทางแล้ว เจี่ยนหยู่หมินก็อุ้มลูกชายของเขามา
“ได้ยินมาว่ามีคนเลี้ยงข้าวเย็น ฉันกับลูกชายเลยมากินด้วย”
บทที่ 1194 หลานชายตัวน้อยฉี่รดกางเกง
“ใครบอกนาย?” เจี่ยนหยุ่นน่าวถาม
“พี่ชายใหญ่ของนายไง!” เจี่ยนหยู่หมินตอบ “ฉันไม่พลาดกิจกรรมเล็กๆ ของครอบครัวหรอก”
“อา… อา…”
เมื่อเด็กน้อยเห็นเจี่ยนอีหลิง ร่างกายเล็กๆ ก็เอียงไปทางเจี่ยนอีหลิงอย่างสิ้นหวัง
“เจ้าเด็กนี่ พ่ออย่างฉันต่างหากที่พาแกมากินข้าว ไม่ใช่อา”
เด็กตัวเล็กๆ จะเข้าใจคําพูดของพ่อเขาได้ยังไง ในสายตาของเด็กน้อยมีเพียงอาคนสวยเท่านั้นอาคนสวยหอม อยากให้อาคนสวยอุ้ม!
เจี่ยนหยู่หมินทําได้แค่โยนเจ้าลูกชายตัวดีให้กับเจี่ยนอีหลิงและเตือนว่า “อย่าสร้างปัญหาให้อากินข้าวไม่ได้ ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ช่วยอาบน้ําให้แกน แม่ของแกก็จะไม่ช่วยอาบให้ด้วย!” เด็กตัวเล็กๆ ไม่ได้รู้สึกถึงกลิ่นอายจากพ่อของตัวเองเลย ในหัวเขามีเพียงอาคนสวยเท่านั้น เจี่ยนอีหลิงดูเหมือนสาวน้อยตัวเล็กๆ แต่การดูแลเด็กนั้นทําได้อย่างครบถ้วน
บางครั้งก็เป็นมืออาชีพมากกว่าเจี่ยนหยู่หมินและหลัวซิ่วเฉินที่เป็นพ่อแม่เสียอีก พูดได้เลยว่าความรู้ทางทฤษฎีของเจี่ยนอีหลิงนั้นสมบูรณ์แบบมาก
“แอ๋ แอ้ แอ้ แอ้ แอ้ แอ๋”
เด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่อยู่ในอ้อมแขนของเจี่ยนอีหลิงกําลังขับกล่อมไปมาอย่างมีความสุข เขาพึมพําโดยไม่รู้กําลังพูดถึงอะไรอยู่
หลังจากทานอาหารเสร็จ พวกเขาก็มีรอยยิ้มบนใบหน้าไม่มากก็น้อย
เจี่ยนอีหลิงก็เช่นกัน
บางทีเสี่ยวตันที่ในอ้อมกอดของเธอคงน่าเอ็นดูมากเกินไป หรือบางทีอาจเป็นพี่ชายหลายคนที่อยู่ตรงหน้าซึ่งกําลังมองด้วยสายตาที่อ่อนโยนอย่างมาก
ในตอนท้ายของอาหารเย็น เจี่ยนอีหลิงกําลังจะลุกขึ้น และของเหลวอุ่นๆ ก็เปียกกางเกงสีดําเธอทันที
นี่…
“เฮ้ย ฉันรีบออกจากบ้านจนลืมใส่ผ้าอ้อมให้เสี่ยวตัน!”
เจี่ยนหยู่หมินพอได้รับโทรศัพท์ ก็คิดแค่ว่าจะพาลูกชายออกไปกินข้าวข้างนอก
ในฐานะพ่อ ตามปกติแล้วเจี่ยนหยู่หมินไม่ได้ระมัดระวังมากนัก เขาพาลูกชายไปไหนมาไหนและลูกชายเขายังมีชีวิตอยู่
เจี่ยนอีหลิงมองไปที่กางเกงของตัวเอง เธอไม่ได้โกรธ แต่ยังยิ้มด้วย
ใบหน้าเล็กๆ งดงามไร้ที่ติมีรอยยิ้ม ทําให้พี่ชายทุกคนรู้สึกว่าโลกทั้งใบสว่างขึ้น
เจี่ยนหยุ่นโม่ยิ้มและพูดว่า “หยู่หมิน ลูกชายนายมาแก้แค้นแทนแล้ว”
ตอนเด็กๆ เจี่ยนอีหลิงฉี่รดกางเกงของเจี่ยนหยู่หมินหนึ่งตัว ตอนนี้เจี่ยนอีหลิงก็ถูกเด็กน้อยฉี่รดกางเกงหนึ่งตัว
กรรมมีวัฏจักรวนเวียน แล้วสวรรค์จะให้อภัยใคร
เจี่ยนหยู่หมินรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย “อย่าพูดถึงมันเลย รีบพาน้องสาวกลับบ้านเร็วเข้า!”
พวกเขายังคิดที่จะขํา กางเกงน้องสาวยังเปียกอยู่เลย น่าอึดอัดมาก! เด็กที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองทําเรื่องแย่ลงไป ยังคงหัวเราะคิกคักอยู่ตรงนั้น
“ยังจะหัวเราะอีก กลับบ้านไปฉันจะตีก้นแก กล้าดียังไงมาฉี่รดใส่อา แล้วยกขวดนมตัวเองขึ้น!”
“ฮิฮิ” เสี่ยวตันยังคงยิ้มอยู่
วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เจี่ยนอีหลิงและหลี่จั๋วเจียเข้าร่วมการประชุมทางการแพทย์ในฐานะตัวแทนของลั่วไห่เซิน
มีใบหน้าที่เจี่ยนอีหลิงคุ้นเคยมากมายในที่ประชุม หลายคนเป็นผู้สูงอายุที่เจี่ยนอีหลิงเคยพบมาก่อน
แต่มีหน้าใหม่ไม่กี่คน
หวินซงและคนอื่นๆ ดีใจมากที่ได้เห็นเจี่ยนอีหลิง พวกเขาวิ่งมาทักทายเจี่ยนอีหลิงในช่วงพักการประชุม และพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา
“เฮ้อ สองปีที่เธอไม่อยู่ พวกเราทั้งกลุ่มเหงามาก” ผู้อาวุโสหวินรู้สึกเศร้ามาก
หวินซงถามเจี่ยนอีหลิงว่าเธอไปที่ไหนใรช่วงสองปีที่ผ่านมา
แม้ว่าสองปีมานี้ เจี่ยนอีหลิงจะถูกขังอยู่ในสถานที่ที่ไม่อาจกลับมาได้ แต่งานวิจัยในมือก็ไม่เคยหยุดเลย หวินซงและคนอื่นๆ รีบถามเจี่ยนอีหลิงว่าสองปีมานี้มีความก้าวหน้าในการวิจัยในด้านใด และสอบถามรายละเอียดของงานวิจัย