เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 1183-1184

บทที่ 1183 ถ้าเทียบกันแล้วจะรู้

“แต่เธอไม่ต้องการโควต้านี้แล้วเหรอ? เมื่อการประชุมทางการแพทย์จัดขึ้น คนข้างนอกจะคิดว่าเจี่ยนอีหลิงเป็นศัลยแพทย์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเธอนะ”

คําพูดของเพื่อนร่วมงานหญิง ได้ทิ่มแทงไปที่เฟยชิงจนรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งหัวใจ

ความรุ่งโรจน์ที่เธอได้รับในช่วงสองปีที่ผ่านมากําลังจะหายไป?

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เฟยชิงก็เอ่ยขึ้นว่า “ทองคําแท้ย่อมไม่แพ้ไฟ ฉันมีความแข็งแกร่งอยู่กับตัว และไม่จําเป็นต้องสนใจในเรื่องไร้สาระพวกนั้นหรอก”

และตอนนี้ เจี่ยนอีหลิงก็อยู่ในโรงพยาบาล ซึ่งพวกเธอมีโอกาสที่จะต่อสู้กัน

เมื่อพิสูจน์ระดับของตัวเองด้วยความแข็งแกร่งที่แท้จริง ก็จะไม่มีใครรู้สึกว่าโควต้าเข้าร่วมนั้นมีความหมายอะไรมากนัก

“เธอพูดถูก ตอนนี้เธอมีพลังที่แท้จริงและแข็งแกร่งมาก และตราบใดที่มีการแข่งขัน เธอก็จะสามารถพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเธอคือศัลยแพทย์อันดับหนึ่งของโรงพยาบาลลั่วไห่เซิน”

“การแข่งขัน?”

“ใช่ การแข่งขัน โรงพยาบาลของเราจะมีเคสผู้ป่วยยากๆเข้ามาทุกเดือน บางคนรับได้ บางคนรับไม่ได้ เธอก็แข่งกับเจี่ยนอีหลิงเพื่อพิสูจน์ว่าเธอเก่งกว่าผู้หญิงคนนั้นซะสิ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนในโรงพยาบาล หรือคนภายนอกก็จะรู้ว่าถ้าพูดถึงทักษะทางการแพทย์ เธอต้องมีทักษะที่สูง เจี่ยนอีหลิงที่เน้นไปที่การแสดงมากกว่าอย่างแน่นอน”

เฟียชิงเงียบไปครู่หนึ่ง และรู้สึกว่าข้อเสนอของเพื่อนร่วมงานคนนี้มีความเป็นไปได้

ถ้าเธอกับเจี่ยนอีหลิงแข่งขันกัน และถ้าหากเธอชนะ ทุกคนก็จะรู้ว่าเจี่ยนอีหลิงเป็นเพียงชื่อที่ไร้สาระ

เธอเองก็ไม่ได้สูญเสียอะไร อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทางโรงพยาบาลได้ให้เจี่ยนอีหลิงเป็นตัวแทนของโรงพยาบาล เพื่อเข้าร่วมการประชุมทางการแพทย์ และโลกภายนอกก็จะคิดว่าทักษะทางการแพทย์ของเธอเทียบกับเจี่ยนอีหลิงไม่ได้

ตั้งแต่ที่เจี่ยนอีหลิงมาที่สาขานี้ ความเป็นไปได้ที่จะรักษาผู้ป่วยรายเดียวกันก็สูงมากเช่นเดียวกัน

“ฉันจําได้ว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว โรงพยาบาลของเราเพิ่งปฏิเสธผู้ป่วยมะเร็งไป?”

“เธอหมายถึงผู้ป่วยมะเร็งที่อายุมากคนนั้นน่ะเหรอ? คนที่เธอแนะนําให้ครอบครัวพาเขากลับบ้านใช่ไหม?”

“อือ มะเร็งปอด จุดสําคัญอยู่ที่จุดเชื่อมต่อของหลอดลมและหลอดเลือด เซลล์มะเร็งได้ห่อหุ้มหลอดลมและหลอดเลือดอยู่ จึงทําให้การผ่าตัดเป็นเรื่องที่ยากมาก”

อย่างที่เราทราบกันดีว่า หากมะเร็งปอดเกิดขึ้นที่กลีบปอด การกําจัดมะเร็งนั้นไม่ใช่เรื่องยากและจะไม่ส่งผลกระทบต่อคนที่ต้องตัดส่วนหนึ่งของปอดทิ้งไป

แต่ถ้ามันเติบโตตรงรอยเชื่อมต่อของหลอดลมและหลอดเลือด การผ่าตัดจะกลายเป็นเรื่องที่ยากมาก

ถ้าหากบังเอิญสัมผัสถูกหลอดลมและหลอดเลือดเข้า เป็นเรื่องยากสําหรับคนที่จะลุกจากโต๊ะผ่าตัดได้อีก

นอกจากนั้น ผู้ป่วยรายนี้ก็มีอายุมากแล้ว ซึ่งผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 70 ปี โรงพยาบาลทั่วไปจะไม่แนะนําให้ผ่าตัด เพราะถ้าหากประมาทเพียงเล็กน้อย อาจทําให้ผู้ป่วยจากไปแบบไม่มีวันหวนกลับ ไม่มีโอกาสได้ทนทุกข์ทรมานอีกต่อไป

เมื่อกลับมาถึงห้องทํางาน เฟยชิงก็ดึงข้อมูลของผู้ป่วยออกมาทันที

ในฐานะผู้อํานวยการแผนกศัลยกรรม เธอมีสิทธิที่จะเลือกรับหรือปฏิเสธผู้ป่วยได้

ก่อนหน้านี้ เธอได้พิจารณาถึงชื่อเสียงของโรงพยาบาล และชื่อเสียงของตัวเอง จึงได๋โน้มน้าวให้ผู้ป่วยรายนี้กลับบ้านไป

แต่ตอนนี้ เธอต้องการที่จะเดิมพัน

เธอเลือกที่จะรับผู้ป่วยรายนี้ และแจ้งเพื่อนร่วมงานในแผนกที่รับผิดชอบในการติดต่อ

ในตอนเย็น เจี่ยนอีหลิงเดินไปกับจางหยุน เมื่อเธอเลิกงานแล้ว จางหยุนดึงเจี่ยนอีหลิง และรีบบอกเกี่ยวกับสิ่งที่เธอเพิ่งได้ยินมาทันที

“อีหลิง ฉันได้ยินมาว่าเธอจะแข่งขันกับผู้อํานวยการแผนกศัลยกรรมด็อกเตอร์เฟยเหรอ?”

เจี่ยนอีหลิงทําหน้างงเล็กน้อยและตอบว่า “การผ่าตัดคือการช่วยชีวิตคน ไม่ใช่การแข่งขัน “ฉันรู้ว่าการผ่าตัดไม่ใช่การแข่งขัน แต่ฉันได้ยินพวกเขาบอกว่าด็อกเตอร์เฟียได้รับเคสผู้ป่วย ยากเข้ามาก และต้องการทําการผ่าตัดร่วมกับเธอ พวกเขาทั้งหมดบอกว่านี่เป็นการแข่งขันที่ไม่ธรรมดาระหว่างเธอและด็อกเตอร์เฟีย”น้อย

บทที่ 1184 การผ่าตัดไม่ใช่การแข่งขัน

ไม่รู้ว่าใครที่เป็นคนปล่อยข่าวว่าเจี่ยนอีหลิงและเฟยชิงจะแข่งขันกัน

ตอนนี้แพทย์และพยาบาลในโรงพยาบาล รู้ข่าวการแข่งขันระหว่างเจี่ยนอีหลิงและเฟยชิงแล้ว เจี่ยนอีหลิงขมวดคิ้วทันที

“จะไม่มีการแข่งขัน

เจี่ยนอีหลิงมีท่าทีที่เด็ดเดี่ยว น้ําเสียงเฉียบขาด และบนใบหน้าของเธอไม่มีความลังเลแม้แต่การผ่าตัดคือการช่วยชีวิต ไม่ใช่การแข่งขัน และชีวิตมนุษย์ไม่ใช่การเดิมพัน

“ถ้าเธอไม่แข่งขัน เฟยชิงจะคิดว่าเธอด้อยฝีมือกว่าหรือเปล่า?” จางหยุนเตือนด้วยน้ําเสียงหนักแน่น

จางหยุนรู้สึกว่าการแข่งขันไม่ใช่สิ่งที่ดีอะไร แต่เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นมาแล้ว และถ้าเจี่ยนอีหลิงไม่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ เธอต้องถูกคนอื่นคาดเดาเป็นอื่นอย่างแน่นอน

“สบายใจได้” น้ําเสียงของเจี่ยนอีหลิงนั้นเบามาก อีกทั้งสีหน้าและดวงตาคู่นั้นของเธอช่างเย็นชา และไม่มีระลอกคลื่นใดๆเลย

เมื่อเห็นท่าทางของเจี่ยนอีหลิง จางหยุนก็ยากที่จะพูดอะไรออกมาอีก เธอแค่บอกในสิ่งที่ตัวเองได้ยินมาและคิดเท่านั้น

ในเวลานี้ในกลุ่ม WeChat ของโรงพยาบาล ก็มีการถกเถียงกันเกี่ยวกับการแข่งขันที่กําลังจะมาถึง

[การแข่งขันระหว่างด็อกเดอร์เฟียและด็อกเตอร์เจี่ยน ถือได้ว่าเป็นจุดสูงสุดของวงการแพทย์ ในประเทศและต่างประเทศในปีนี้ใช่ไหม?]

[ระดับของด็อกเตอร์เจียน ฉันไม่เคยเห็นด้วยตาตัวเอง และได้ยินแต่ชื่อเสียงของเธอเท่านั้น แต่ของด็อกเตอร์เฟ่ยเป็นเรื่องจริงแน่นอน ซึ่งฉันได้เข้าร่วมการผ่าตัดมาหลายครั้งแล้ว จึงไม่จําเป็นต้องจับคู่กัน แต่มันต้องเป็นการผ่าตัดอันดับต้นๆอย่างแน่นอน]

[ไม่ว่ายังไง ฉันก็รอคอยการแข่งขันนี้ เพราะในที่สุดก็จะได้รู้แล้วว่า ใครคือศัลยแพทย์อันดับหนึ่งของโรงพยาบาลลั่วไห่เซิน]

[การแข่งขันจะมีขึ้นเมื่อไร ฉันคาดหวังมาก

หลังจากทํางานมาทั้งวัน เจี่ยนอีหลิงก็กลับมาถึงอพาร์ทเม้นท์ และทันทีที่เธอเดินเข้ามา เธอก็ถูกกอดจนแน่น

และหลังจากนั้น จ่ายหวินเชิ่งก็กัดที่คอของเธอ

“มันจะแดง” เจี่ยนอีหลิงไม่ยอมให้เขาได้กัดอีกต่อไป

“อือ” จ่ายหวินเชิ่งยกยิ้ม และจ้องมองไปที่คอของเจี่ยนอีหลิง ที่ถูกเขากัดจนเป็นสีแดงระเรื่อ หลังจากที่หยูซีเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า เขาก็ทนดูไม่ได้อีกต่อไป

จิตใจของนายท่านเชิ่งทําด้วยอะไร หลังจากที่กัดคอของเทพหลิงจนเป็นรอยแดง ก็มีเพียงคำว่า “อือ” ออกมาเท่านั้น!

“หยูซี นายก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ?” เมื่อเห็นหยูซี เจี่ยนอีหลิงก็กล่าวทักทาย

“ไม่มีอะไรมากหรอก ฉันมาที่นี่เพื่อจัดการเรื่องงานกับนายท่านเชิ่ง”

หยูซีมาที่นี่เพื่อช่วยจ่ายหวินเชิ่ง ในการเริ่มต้นทํางานใหม่อีกครั้ง

“จริงสิเทพหลิง เธอให้เสี่ยวจิ่นไปทํางานที่ไหนเหรอ?” หยูซีถามเกี่ยวกับจินจิ่น

หยูซีรู้สึกว่าเจี่ยนอีหลิงนั้นน่าทึ่งมาก ทั้งๆที่จินจิ่นและจางหยุนไม่อยากมาเป่ยจิง แต่ต่อมาเจี่ยนอีหลิงก็บอกว่าได้จัดหางานให้กับพวกเธอแล้ว ซึ่งทั้งสองคนก็ยอมตกลงมาแต่โดยดี

ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้หยูซีได้แนะนํางานให้กับเสี่ยวจิ่น และอยากจะจ้างเสี่ยวจิ่นให้มาเป็นเลขาให้เขา แต่เสี่ยวจิ่นกลับปฏิเสธ

เขามาที่เป่ยจิงได้

“ลุงเฟิง” เจี่ยนอีหลิงตอบกลับ

“ลุงเฟิง? เฟิงเหว่ยน่ะเหรอ? เธอให้เสี่ยวจิ่นไปทํางานอะไร?”

เทพหลิงแนะนําางานอะไรให้กับเสี่ยวจิ่น ถึงทําให้เธอเต็มใจเลิกทําสวนที่บ้าน และตามพวก

“เฟิงเหว่ยมีรีสอร์ทอยู่ที่ชานเมืองเป่ยจิง” จ่ายหวินเชิ่งช่วยเจี่ยนอีหลิงตอบข้อสงสัยของหยูซีจินจิ่นต้องการมีบ้านไร่เป็นของตัวเอง และรีสอร์ทของเฟิงเหว่ยก็เป็นสถานที่ที่ดีสําหรับเธอในการเรียนรู้

และที่สําคัญ เฟิงเหว่ยยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านพืชไร่ในการปลูกพืชอีกด้วย

มันเป็นแบบนี้นี่เอง

หยูซีเข้าใจแล้ว

ไม่น่าแปลกใจที่เขาจะไม่มีประโยชน์สําหรับจินจิ่น เพราะเทพหลิงได้เข้ามาแก้ไขปัญหานี้แทนเขาเรียบร้อยแล้ว

“ถ้าอย่างนั้น นายท่านเชิ่ง เทพหลิง ฉันไม่รบกวนแล้วขอตัวกลับก่อนแล้วกัน”

หยูซ๊รีบจากไปอย่างรวดเร็ว