เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 1179-1180

บทที่ 1179 ใครเป็นศัลยแพทย์ตัดอันดับหนึ่งของลั่วไห่เซิน 1

ในวันแรกที่เจี่ยนอีหลิงมาที่โรงพยาบาลสาขา เธอได้รับความสนใจจากโรงพยาบาลอย่างมาก นั่นเป็นเพราะว่าเธอเป็นคนในข่าวที่หายตัวไปสองปี

นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงอันดับหนึ่งด้านศัลยกรรมอีกด้วย

เนื่องจากในช่วงสองปีที่เจี่ยนอีหลิงไม่อยู่ มีหมอที่ผ่าตัดเก่งมากคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่โรงพยาบาลลั่วไห่เซินสาขาเป่ยจิง ชื่อว่าเฟียชิง

ในช่วงสองปีที่ผ่านมาเฟียชิงได้ทําการผ่าตัดไปหลายเคสที่หลายคนมองว่าเป็นไปไม่ได้และได้รับการยอมรับอย่างเป็นเอกฉันท์จากวงการแพทย์และกลายเป็นศัลยแพทย์ชั้นนําทั้งในประเทศและต่างประเทศ

แต่เมื่อพูดถึงเฟ่ยชิง ผู้คนมักจะนึกถึงศัลยแพทย์สาวเจี่ยนอีหลิงผู้มีชื่อเสียงซึ่งมาจากโรงพยาบาลทั่วไห่เซินเมื่อสองปีก่อน

เนื่องจากทั้งสองคนทํางานที่โรงพยาบาลรั่วไห่เซิน ทั้งคู่จึงเป็นอัจฉริยะในการผ่าตัด

เพียงแต่ว่าเจี่ยนอีหลิงได้หายตัวไป ทําให้ไม่มีใครสามารถเปรียบเทียบพวกเธอได้ สิ่งที่ยากที่สุดในโลกนี้คือการเอาชนะคนตาย เพราะคนตายไม่สามารถที่จะพ่ายแพ้ได้

การไม่พ่ายแพ้ จะถูกกําหนดให้เป็นตํานาน

บางคนคิดว่าเจี่ยนอีหลิงนั้นแข็งแกร่งกว่าด้วยเหตุผลง่ายๆว่า เจี่ยนอีหลิงเป็นสมาชิกของโรงพยาบาลสํานักงานใหญ่ลั่วไห่เซิน ส่วนเฟยชิงนั้นมาจากโรงพยาบาลลั่วไห่เซินสาขาเป่ยจิงและนั่นทําให้ทุกคนรู้ว่ามีความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างสาขาและสํานักงานใหญ่ คนอื่นๆคิดว่าเฟยชิงมีชื่อเสียงมากขึ้นด้วยเหตุผลสามประการ

เหตุผลที่หนึ่ง เฟ่ยชิงมีเคสศัลยกรรมที่ประสบความสําเร็จมากพอและเป็นที่รู้จักกันดีสําหรับทุกคน

ประการที่สองในเวลานั้น โรงพยาบาลหลัวไห่เซินสาขาเป่ยจิงยังไม่ได้เริ่มรับสมัครอย่างเป็นทางการ แม้ว่าโรงพยาบาลหลัวไห่เซินจะต้องการจ้างเจี่ยนอีหลิงเป็นสมาชิกของสาขาแต่ก็ไม่ได้สามารถทําได้

ประการที่สามเจี่ยนอีหลิงเป็นนักกีฬา ESports มืออาชีพ เธอจึงทุ่มเทกับเกมอย่างมาก ดังนั้น จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เธอจะมีความเชี่ยวชาญในงานหลักไม่เพียงพอ

ในเวลานี้เฟยชิงซึ่งเป็นศูนย์กลางของหัวข้อสนทนากําลังอยู่ในห้องทํางานของตัวเอง

เธอเป็นแพทย์ผ่าตัด หัวหน้าแผนกศัลยกรรมของโรงพยาบาลรั่วไห่เซินสาขาเป่ยจิง “เฟ่ยชิงเธอได้ยินเรื่องนี้ไหม? เจี่ยนอีหลิงมาที่สาขา!”

“อือ” เฟียชิงตอบอย่างเฉยเมย เธอไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เฟียชิงดูสวย อ่อนหวานและมีเสน่ห์มาก เธอคือความงามที่แท้จริง

ตอนนี้เธอสวมเสื้อผ้าของหมอ นั่งอยู่บนที่นั่งทํางานของตัวเองซึ่งดูเป็นผู้ใหญ่และมั่นคง เพื่อนร่วมงานในแผนกข้างๆกําลังบอกเธอเกี่ยวกับการกลับมาของเจี่ยนอีหลิง

“เธอไม่รู้ เช้านี้ทุกคนในแผนกต่างพูดคุยกันอย่างบ้าคลั่ง ทุกคนต่างก็สงสัยว่าสํานักงานใหญ่จะจัดตําแหน่งอะไรให้เจี่ยนอีหลิง เมื่อเธอมาที่สาขา”

ตําาแหน่งหัวหน้าแผนกศัลยกรรมของโรงพยาบาลลั่วไห่เซินสาขาเป่ยจิงนั้นมีเพียงตําแหน่งเดียว และตอนนี้คือเฟียชิง

เจี่ยนอีหลิงมาทําอะไร? เฟยชิงจะสละตําแหน่งนี้ให้กับเจี่ยนอีหลิงงั้นเหรอ?

แต่หากไม่ใช่ ด้วยตัวตนของเจี่ยนอีหลิงคงน่าอึดอัดใจมาก เธอเป็นสมาชิกของสํานักงานใหญ่ แต่กลับถูกย้ายไปทํางานที่สาขา และยังต้องทํางานภายใต้การควบคุมของเฟียชิง นั่นก็หมายความว่าเธอถูกลดตําแหน่งงั้นเหรอ?

“นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องใส่ใจ การจัดตําแหน่งการทํางานไม่ได้ขึ้นอยู่กับความหมายข้างต้น” เฟ่ยชิงตอบด้วยน้ําเสียงเรียบเฉย

เมื่อเห็นว่าเฟยชิงไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เพื่อนร่วมงานก็วางใจ “เธอไม่สนใจก็ดีแล้ว ฉันกลัวว่าอีกสักพักเจี่ยนอีหลิงจะไปพบคณบดี แล้วกลับมาบอกว่าตัวเองจะเข้ามาแทนที่ตําแหน่งของเธอ หากเป็นแบบนั้นจะทําให้ความพยายามของเธอในช่วงสองปีที่ผ่านมาสูญเปล่า” แต่เธอมั่นใจได้ว่าในใจของฉัน เธอเป็นศัลยแพทย์อันดับหนึ่งของโรงพยาบาลสําหรับฉันเสมอ และเรื่องราวความสําเร็จก่อนหน้านี้ของเธอจะเป็นตํานานที่ไม่มีใครเทียบได้”

บทที่ 1180 ใครคือศัลยแพทย์อันดับหนึ่งของหลัวไห่เซิน 2

เฟยชิงยิ้มบางๆและไม่ได้พูดอะไรออกมาก่อน

เมื่อเพื่อนร่วมงานออกไป ดวงตาของเฟียชิงก็หม่นหมองลง

เธอเปิดหน้าเว็บและค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเจี่ยนอีหลิง

เธอเคยได้ยินชื่อเจี่ยนอีหลิง เมื่อเธอสมัครเป็นหมอที่สาขาเป่ยจิงของลั่วไห่เซินเมื่อสองปีและความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องมากที่สุดคือ เธอเป็นแพทย์ที่อายุน้อยที่สุดที่เข้ามาทําการรักษา

ในโรงพยาบาลลั่วไห่เซิน และเป็นแพทย์ศัลยกรรมเพียงคนเดียวที่โรงพยาบาลลั่วไห่เซินเปิดเผยต่อสาธารณชนจนถึงปัจจุบัน

เมื่อเห็นผู้คนเปรียบเทียบเธอกับเจี่ยนอีหลิงในอินเทอร์เน็ต เฟยชิงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ เจี่ยนอีหลิงมีพรสวรรค์ด้านการผ่าตัดมากกว่าเธองั้นเหรอ? เฟยชิงไม่เห็นด้วย

เห็นได้ชัดว่าเจี่ยนอีหลิงมีการโฆษณาเกินจริง

ข่าวออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับเจี่ยนอีหลิงมีเพียงเรื่องที่เธอและเจ้าพ่อทางการแพทย์ได้เข้าร่วมการประชุมทางการแพทย์ด้วยกัน ที่เหลือเป็นข่าวบันเทิง ข่าวซุบซิบ เรื่องอื้อฉาว และเนื้อหาสีดําแทบทั้งสิ้น

ศัลยแพทย์ควรมีลักษณะเช่นนี้หรือ? คนที่มีความสามารถจริงๆ ควรจะรู้ว่าเธอได้ผ่านการผ่าตัดที่ยากลําบากมาแล้วกี่ครั้ง หรือเธอช่วยชีวิตคนได้กี่คน?

และการค้นหาข่าวที่เกี่ยวข้องกับเจี่ยนอีหลิง ไม่ใช่วิธีที่ดาราใช้กันมากที่สุดในตอนนี้หรอกหรือ?

ผลงานดีๆยังไม่มีให้เห็น มีแค่การค้นหายอดนิยมและรายการวาไรตี้ ที่มีมากกว่าดาราคนดังเท่านั้น

ดังนั้น แทนที่จะบอกว่าเจี่ยนอีหลิงเป็นศัลยแพทย์ที่ยอดเยี่ยม คงจะดีกว่าถ้าจะบอกว่าเธอรู้วิธีทําการตลาดของตัวเอง

นักกีฬาอีสปอร์ตมืออาชีพที่ลงเล่นในรายการวาไรตี้ไม่สามารถเป็นหมอที่ดีได้

บุคคลที่มีความสามารถหลายๆด้าน ทําให้เธอดึงดูดแฟนๆมาได้นับไม่ถ้วน

เฟยชิงไม่สนใจที่จะเปรียบเทียบกับคนแบบนี้ไม่ว่าเพื่อนร่วมงานและคนภายนอกจะคิดยังไงเกี่ยวกับพวกเธอก็ไม่สําคัญ

เจี่ยนอีหลิงออกมาจากห้องทํางานของคณบดีสาขา และมาถึงยังแผนกศัลยกรรม

พอเธอเข้าประตูมา ทุกคนในทีมผ่าตัดก็หันมามองเธอ

ทุกคนต่างส่งสายตาอยากรู้อยากเห็นออกมา

ส่วนสูงไม่ถึง 160 เซนติเมตร ผิวพรรณขาวเนียนละเอียด ใบหน้างดงามราวกับตุ๊กตาในหน้าต่างร้าน

เธอสวมเสื้อกาวสีขาวและสะพายกระเป๋าเป้สีดํา ผมของเธอถูกมัดเป็นหางม้าและห้อยไว้ด้านหลังศีรษะอย่างเรียบร้อยและสะอาดสะอ้าน

เธอหายไปไหนมาสองปี?

แล้วตอนนี้กลับมาที่ลั่วไห่เซินสาขาเป่ยจิงเพื่ออะไร?

เจี่ยนอีหลิงไปที่มุมสุดแล้วนั่งลง เธอวางกระเป๋าเป้สะพายหลังของตัวเองและนําแล็ปท็อปออกมาวางไว้บนโต๊ะ

จากนั้นก็เปิดคอมพิวเตอร์และเริ่มทํางาน

เจี่ยนอีหลิงไม่สนใจสายตาของคนอื่น และโฟกัสที่งานในมือของตัวเอง

ตอนนี้เธอยังต้องตรวจสอบข้อมูลทางกายภาพของจ่ายหวินเชิ่งและพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อปรับปรุงข้อมูล

เธอไม่พอใจกับสถานการณ์ปัจจุบัน เธอต้องแน่ใจ 100% ว่าเขาจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้และแข็งแรงอยู่เสมอ

คณาจารย์และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลมีกลุ่ม WeChat อย่างเป็นทางการและแพทย์ที่ดี บางคนจะถูกดึงเข้ากลุ่ม

หนึ่งในนั้นคือกลุ่มพนักงานทั่วไปที่ถูกแยกออกผู้นําออกจากสาขาเป่ยจิงของลั่วไห่เซิน ตอนนี้คนในกลุ่มนี้กําลังพูดถึงเจี่ยนอีหลิง

[เจี่ยนอีหลิงสวยจริงๆ ตัวจริงดูดีกว่าในรูป!]

[สวยจริงๆ แถมผิวดีไปมั้ย? ฉันอิจฉา]

[เมื่อมองดูจากหน้าตาของเธอแล้ว ฉันอยากรู้มากกว่าว่า 2 ปีที่ผ่านมาเธอไปไหนมาบ้าง มีใครเป็นเหมือนฉันมั้ย?]

[ใช่ ใช่ ฉันก็อยากรู้ แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะถาม จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันถามถึงเรื่องเศร้าของเธอ?]