เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 1175-1176
บทที่ 1175 อําลาผู้เฒ่าซุน 1
ผู้อาวุโสจอร์จอธิบายว่า “นิกายลับดาบซ่อนเร้นนั้นพิเศษมาก ในบรรดาตระกูลเร้นลับจํานวนมาก พวกเขาไม่เคยใช้ชีวิตแบบมนุษย์ธรรมดา ไม่มีอํานาจหรือทรัพย์สิน มีเพียงทักษะอันยอดเยี่ยมที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษของพวกเขาเท่านั้น”
เรื่องชายที่ชื่ออาหย่งยินดีช่วยเหลือมู่หรูไห่นั้นเข้าใจได้ง่าย ไม่ว่าคนที่มีอํานาจจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็มักจะพบเจอกับความยากลําบากเสมอ สิ่งต่างๆในโลกไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยอํานาจเพียงอย่างเดียว
แต่การเปลี่ยนแปลงของจ่ายหวินเชิ่งในเดือนนี้ ค่อนข้างยากที่จะเข้าใจ
ในโลกนี้มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถต่อสู้กับนิกายลับดาบซ่อนเร้นได้
อันนาถามผู้อาวุโสจอร์จว่า “จะมีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลเซี่ยหรือเปล่า?” ผู้อาวุโสจอร์จไม่สามารถตัดสินได้ทันที “เรื่องของตระกูลเซี่ย ฉันก็รู้ไม่มากนักหรอก แต่ความ เป็นไปได้นั้นไม่มากนัก เพราะตระกูลเซียไม่ได้มีความเชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้”
“แล้วผู้อาวุโสจอร์จรู้งั้นเหรอว่าวิชาไหนจะเหนือกว่านิกายลับดาบซ่อนเร้นได้?” อันนายังคงสงสัยว่าทําไมจ่ายหวินเชิ่งถึงแข็งแกร่งขนาดนั้น
ผู้อาวุโสจอร์จครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เมื่อสามสิบกว่าปีก่อน ในดินแดนตะวันออกแห่งนี้ มีบุรุษคนหนึ่งที่มีพรสวรรค์ด้านศิลปะการต่อสู้สูงสุด เขากวาดล้างตระกูลใหญ่ทั้งหมดในสมัยนั้นด้วยกําลังของตนเพียงคนเดียว และตระกูลใหญ่ๆต่างก็หวาดกลัว ตอนนั้นผู้อาวุโสคนหนึ่งของตระกูลกู๊ดแมนที่ถูกส่งมาทางทิศตะวันออกรู้สึกประทับใจมาก เขากล่าวถึงบุรุษคนนั้นในที่ประชุมครั้งสําคัญของตระกูลหลายครั้ง”
และผู้อาวุโสจอร์จก็เสริมอีกว่า “แต่ชายคนนั้นหายไปนานกว่าสามสิบปีแล้ว และในตอนที่เขา หายไปจ่ายหวินเชิงก็ยังไม่เกิด”
ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องระหว่างทั้งสองคน
อันนาพูดกับจอร์จ “มองในแง่นี้ ตระกูลจ่ายมีอนาคตที่สดใสและถือได้ว่าเป็นพันธมิตร” จอร์จกล่าวว่า “เธอมีวิสัยทัศน์ที่ดีเสมอและผู้นําได้มอบอํานาจทั้งหมดให้กับเธอเพื่อจัดการแล้ว เธอสามารถกาหนดนโยบายใดๆก็ได้ตามที่เธอต้องการ”
จ่ายหวินเชิ่งและเจี่ยนอีหลิงกําลังจะออกจากหมู่บ้านจินฮุ่ยเพื่อกลับไปยังเมืองหลวง
ก่อนออกเดินทางจ่ายหวินเชิ่งและเจี่ยนอีหลิงไปที่กระท่อมเพื่อไปหาผู้เฒ่าซุนเพื่อบอกลาและขอบคุณสําหรับการสอนของเขาในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้
ผู้เฒ่าซุนเดินออกมาจากกระท่อม และเห็นว่าทั้งสองคนดูไม่มีความสุข จึงด่าทอเสียงดัง “ไสหัวมาที่นี่ทําไม? ใครให้พวกเธอมา? ไสหัวกลับไป!”
เมื่อพูดจบผู้เฒ่าซุนก็กําลังจะหยิบไม้กวาดอีกครั้ง
ไม่ว่าก่อนหน้านี้จะเข้ากันได้ดีแค่ไหน ตราบใดที่เขามาที่นี่ ผู้เฒ่าซุนจะต้องอารมณ์เสียอย่างแน่นอน
หลังจากที่ผู้เฒ่าซุนสาปแช่งไม่กี่ค่า เขาก็มองไปที่จ่ายหวินเชิ่งและเจี่ยนอีหลิงและรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที
“ฉัน ไม่ได้หมายถึงอย่างอื่น อยู่ที่นี่ มันไม่ปลอดภัย” มันเป็นเรื่องยาก สําหรับผู้เฒ่าซุนที่จะอธิบายจากนั้นผู้เฒ่าซุนก็เดินตามจ่ายหวินเชิ่งและเจี่ยนอีหลิงไประยะหนึ่ง จนห่างจากน้ําตกทั้งสามคนจึงหยุดเดิน
ผู้เฒ่าซุนยื่นมือออกไปตบไหล่จ่ายหวินเชิ่ง “เจ้าหนู ต่อไปอย่าบอกใครว่านายเป็นศิษย์ของฉัน ฉันไม่มีลูกศิษย์ และก็ไม่รับศิษย์คนไหน ฉันแค่ทําตามข้อตกลงกับเด็กคนนี้ เข้าใจไหม?”
การเป็นศิษย์ของเขาไม่ใช่เรื่องดี
ผู้เฒ่าซุนถอนหายใจอีกครั้ง “แม้ไม่มีฉัน แต่หลังจากที่ร่างกายของเธอฟื้นตัวเต็มที่ ความสูงของขีดจํากัดก็ไม่มีที่สิ้นสุดเช่นกัน สิ่งที่ฉันสามารถทําได้คือการเพิ่มความเร็วให้กับเธอเท่านั้น” ผู้เฒ่าซุนไม่ได้พูดแบบสุภาพ แต่เป็นเพราะเขาคิดเช่นนั้นจริงๆ
ก่อนหน้านี้ ขีดจํากัดสูงสุดของจ่ายหวินเชิ่งถูกจํากัดโดยร่างกายของเขา
ตอนนี้ร่างกายของเขาฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์แล้ว ขีดจํากัดเดิมของเขาก็ถูกทําลายไปด้วย
บทที่ 1176 อําลาผู้เฒ่าซุน 2
ผู้เฒ่าซุนมองเจี่ยนอีหลิงอีกครั้ง “ยัยหนู ความรู้ทางการแพทย์ของเธออยู่เหนือฉัน หากมีโอกาส ฉันจะขอค่าชี้แนะจากเธอ”
ในวงการการแพทย์ ผู้เฒ่าซุนชื่นชมคนแค่ไม่กี่คนเท่านั้น และเจี่ยนอีหลิงก็เป็นหนึ่งในนั้น “ยินดีต้อนรับเสมอ” เจี่ยนอีหลิงกล่าว
เมื่อพูดจบเจี่ยนอีหลิงก็มอบของขวัญที่ตัวเองเตรียมไว้ให้กับผู้เฒ่าซุน
“อะไร? ให้ของขวัญอําลากับตาแก่อย่างฉันด้วยเหรอ? ตระกูลเธอนี่เหลือเกินจริงๆ!” แม้ผู้เฒ่าซุนจะปากบอกว่าไม่ชอบ แต่มือของเขาก็รับกล่องของขวัญจากเจี่ยนอีหลิงมาแล้ว
“ดูแลตัวเองให้ดี กินข้าวให้ตรงเวลาและเข้านอนให้ตรงเวลา” เจี่ยนอีหลิงพูดค่าที่ห่วงใยไม่ค่อยเก่ง แต่นี่เป็นค่าแนะนําาทั้งหมดที่เธอสามารถจินตนาการได้
“เกิดอะไรขึ้นกับเธอ ยัยเด็กนี่ไปเลียนแบบคนอื่นมาสินะ! ฉันเป็นตาแก่ที่ชอบเธอที่ทําหน้าจริงจังมากกว่านะ” ผู้เฒ่าซุนทําท่าทางที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ
เขาปฏิเสธที่จะยอมรับว่ารู้สึกสบายใจเมื่อได้ยินว่าสาวน้อยห่วงใยตัวเอง
ผู้เฒ่าซุนกําชับอีกรอบอย่างไม่วางใจ “หลังจากที่พวกเธอออกไปแล้วห้ามบอกใครเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ ห้ามบอกใครเรื่องของฉันเข้าใจไหม?”
ในตอนที่เขาพูดแบบนี้ผู้เฒ่าซุนมีน้ําเสียงที่จริงจังมาก
“อือ”
“เข้าใจแล้ว”
เจี่ยนอีหลิงและจ่ายหวินเชิงตอบตกลง
จ่ายหวินเชิ่งพูดกับผู้เฒ่าซุนว่า “แม้ว่าจะไม่ได้เรียกว่าอาจารย์และศิษย์ แต่ในใจของผม คุณคืออาจารย์ของผม ดังนั้นผมจะกลับมาเยี่ยมคุณทุกปี”
“ใครอยากให้เธอมาเยี่ยมฉันกันล่ะ?” ผู้เฒ่าซุนกล่าวอย่างรังเกียจ “ฉันไม่รู้ว่าการอยู่คนเดียว มันสบายแค่ไหน ในช่วงเดือนที่ผ่านมาผมของฉันก็ขาวขึ้นมาก เป็นเพราะพวกเธอทั้งสองคนที่ไม่เอาไหน!”
จ่ายหวินเชิ่งและเจี่ยนอีหลิงถูกดุมาเป็นเดือนแล้ว แล้วทั้งสองจะไม่รู้อารมณ์ของเขาได้ยังไง
พวกเขาตัดสินใจแล้วว่าจะมาเยี่ยมผู้เฒ่าซุนทุกปี ต่อให้ผู้เฒ่าซุนพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์ “พวกเราจะไปแล้วนะ คุณดูแลตัวเองด้วย” จ่ายหวินเชิ่งพูดกับผู้เฒ่าซุน
“รู้แล้ว เข้าใจแล้ว ต่อไปอย่ามาหาฉันอีก ฉันไม่อยากเห็นพวกเธอแล้ว” ผู้เฒ่าซุนเริ่มไล่ทั้งสองอย่างใจร้อน
เขาอายุมากแล้ว จึงไม่มีความสุขกับเสียงเจี๊ยวจ๊าวของผู้คนมากนัก
ผู้เฒ่าซุนหันหน้าหนีและเดินออกไป เขาไม่อยากมองสองคนนี้อีก
เมื่อเขาหันหลังกลับ ผู้เฒ่าซุนก็มองไปที่กล่องของขวัญในมือของเขา สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์
เฮ้อ เขากําลังจะเหลือตัวคนเดียวอีกแล้ว
หนึ่งคน บ้านหนึ่งหลัง ไม้กวาดหนึ่งด้าม
และคงไม่มีใครสนใจที่จะพูดคุยกับเขาอีก
คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายของจ่ายหวินเชิ่งและเจี่ยนอีหลิงในหมู่บ้านจินซุย ตอนกลางคืนพอจ่ายหวินเชิ่งกลับมาที่ห้องก็เห็นคนน่ารักสองคนนอนอยู่บนเตียง
เพราะเป็นฤดูร้อน เจ้าตัวเล็กจึงสวมผ้าอ้อม และเสื้อผ้าฝ้ายบางๆเท่านั้น แขนและขาโผล่ออกมาด้านนอก
หัวของเจ้าตัวเล็กหนุนบนแขนใหญ่ ใบหน้าเล็กๆของเขาเต็มไปด้วยความพึงพอใจ
แม้ว่าจะหลับไปแล้ว แต่มือเล็กๆข้างหนึ่งยังจับเสื้อตรงหน้าอกของเจี่ยนอีหลิงเอาไว้ ราวกับกลัวว่าจะมีคนมาแย่งอาคนสวยของเขาไปในตอนที่เขาหลับอยู่
ส่วนคนโตก็หลับสนิทเหมือนกัน คงจะเหนื่อยกับการเล่นกับเจ้าตัวเล็ก
ลูกชายของเจี่ยนหยู่หมินชอบเจี่ยนอีหลิงมาก ตั้งแต่เจอกันก็ติดเจี่ยนอีหลิงตลอด แม้แต่ตอนกินข้าวกับตอนนอนก็ต้องอยู่กับเจี่ยนอีหลิง
ไม่ว่าพ่อแม่ของเขาจะพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์ แค่ต้องตัวติดกับอาคนสวยของเขาเท่านั้น
จ่ายหวินเชิ่งนั่งข้างเตียงและเฝ้าดูพวกเขาอย่างเงียบๆสักพัก