เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 1171-1172
บทที่ 1171 ตัดสินผู้ชนะหรือแพ้ 4
ค่าพลังจ่ายหวินเชิ่งนั้นสูงกว่าเขาด้วยซ้ํา!
เป็นไปได้ยังไง?
ในฐานะทายาทของนิกายลับดาบซ่อนเร้นซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านศิลปะการป้องกันตัว เขาจะแพ้ให้กับคนในตระกูลธรรมดาได้ยังไง?
มู่หรูไห่ลุกขึ้นยืนจากตรงที่นั่ง
สถานการณ์ตรงหน้าไม่ดีต่อเขาเป็นอย่างมาก
“อาจะไปไหน?” อันนาไม่รู้ว่าเธอมาอยู่ฝั่งมู่หรูไห่ตั้งแต่เมื่อไหร่
“ฉันนั่งนานๆ แล้วเมื่อยนิดหน่อย เลยยืนยืดเส้นยืดสายหน่อย”
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง ที่อายืนเยอะๆเพราะอายุมากแล้ว เอวไม่ดีไม่เหมาะที่จะนั่งนานๆสินะ” มู่หรูไห่มองอันนาอย่างเย็นชา จากนั้นก็นั่งลงอย่างไม่เต็มใจ
ในเวลาเพียงครู่เดียว จ่ายหวินเชิ่งก็ได้เปรียบอย่างสมบูรณ์
“อาเชิ่งทําได้ดีมาก! สมแล้วที่เป็นหลานชายฉัน!” ท่านผู้เฒ่าจ่ายตื่นเต้นและอดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นและตะโกนด้วยเสียงเชียร์ของท่านผู้เฒ่าจ๋าย เจี่ยนหมู่เจี๋ยไม่สามารถนั่งนิ่งๆได้ แล้วตะโกนว่า “น้องเขย หาได้ดีมาก!”
คนจากตระกูลจ่ายและตระกูลเจี่ยนทั้งสองตระกูล ต่างก็ส่งเสียงเชียร์จ่ายหวินเชิ่ง
“นายน้อยหล่อมาก!” “นายน้อยทุ่มเขาเลย!”
“นายน้อยจอมพลัง!”
เสียงโห่ร้องของทุกคนในสมาคมจงอี้ ดังก้องกังวานไปทั่วสนามบาสเก็ตบอล
อาหย่งหลบไปอีกไม่ได้แล้ว หลังจากการเตะครั้งสุดท้ายของจ่ายหวินเชิ่ง เขาก็ล้มลงกับพื้น และยากที่จะลุกขึ้นได้อีกครั้ง
ชายชราอ้วนของสมาคมจงอี้ขึ้นมานับเวลา มากกว่าสิบวินาที อาหย่งไม่สามารถลุกขึ้นจากพื้นได้ ดังนั้นเขาจึงถูกตัดสินให้แพ้
“สิบ เก้า แปด…”
ในวินาทีสุดท้าย อาหย่งก็ยังไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ ไม่เพียงเพราะความเจ็บปวดทางกายเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะเรี่ยวแรงที่หมดลงด้วย
เขาไม่มีแรงเหลือพอที่จะพยุงตัวเองให้ยืนขึ้นได้
แม้ว่าเขาจะฝืนลุกขึ้นยืนได้ แต่เขาก็ไม่สามารถเอาชนะจ่ายหวินเชิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาได้ ชายชราอ้วนประกาศเสียงดังว่า ผู้ชนะของการเดิมพันครั้งนี้คือจ่ายหวินเชิ่ง
ทุกคนจากสมาคมจงอี้ที่อยู่ในสนามบาสต่างก็โห่ร้องกันดังลั่น
พวกเขาคิดเสมอว่านายน้อยของพวกเขาป่วย และคิดว่าเขากําลังจะเสียชีวิตลงในไม่ช้านี้ และพวกเขาก็กังวลเกี่ยวกับอนาคตของสมาคมจงอี้ของพวกเขามาก
การต่อสู้ในวันนี้ไม่เพียงแต่ทําลายข่าวลือที่ว่าจ่ายหวินเชิ่งกําลังจะตายหรืออาจตายไปแล้ว แต่ยังแสดงให้พวกเขาเห็นถึงด้านที่แข็งแกร่งที่หาที่เปรียบมิได้ของนายน้อยของพวกเขาอีกด้วย ซึ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับพวกเขาเป็นอย่างมาก
ตอนนี้ใครกล้าพูดว่านายน้อยของพวกเขาอ่อนแอก็ลองดู! ให้พวกนั้นได้เห็นว่านายน้อยของพวกเขาแข็งแกร่งแค่ไหน!
ใบหน้าของมู่หรูไห่มืดมน
ผลลัพธ์กลับตรงกันข้ามกับที่เขาคาดไว้
และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาผิดพลาดในการคาดการณ์ครั้งใหญ่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
“ดูเหมือนว่าอาเขยคนดีของฉันจะติดคุกซะแล้ว” อันนายิ้มและพูดเสียดสีมู่หรูไห่
ต้นสังกัดเขาจะมีประโยชน์อะไร ถ้าสุดท้ายก็ยังร่ายรําเพลงมวยได้ไม่เจ๋ง?
อันนาพูดอีกว่า “แน่นอนคุณยังสามารถเลือกที่จะผิดสัญญาได้เช่นกัน ในกรณีนี้คุณจะไม่เพียงแต่ถูกไล่ออกจากตระกูล แต่ทรัพย์สินทั้งหมดภายใต้ชื่อของคุณจะสูญหายไปด้วย”
ก่อนเริ่มการแข่งขัน ทั้งจ่ายหวินเชิ่งและมู่หรูไห่ได้ลงนามในข้อตกลงโอนทรัพย์สินภายใต้ชื่อของตัวเองให้อีกฝ่ายหนึ่งโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ข้อตกลงสองฉบับถูกปิดผนึกไว้ในตู้นิรภัยที่อยู่ตรงกลางของสถานที่แข่งขัน
ตระกูลกู๊ดแมนถือกุญแจของตู้เซฟ และสมาคมจงอี้ตั้งรหัสผ่านของตู้เซฟไว้
ฝ่ายที่ชนะจะสามารถรับกุญแจและรหัสผ่านได้ และทําลายสําเนาของตัวเองแล้วนําสําเนาของอีกฝ่ายไปขอรางวัลตามที่ตกลงกันไว้
ตอนนี้ผลการแข่งขันออกมาแล้ว จ่ายหวินเชิงเป็นฝ่ายชนะ
ทางเลือกที่เหลือสําหรับมู่หรู่ไห่คือ ยอมมอบตัวตามที่ตกลงและสารภาพความจริงเกี่ยวกับการสังหารจ่ายป๋อเชิน มิฉะนั้นข้อตกลงของเขาจะมีผลบังคับใช้
พร้อมกับการลงโทษสําหรับการผิดสัญญา ตระกูลกู๊ดแมนก็จะเฉดหัวเขาทิ้งอย่างไร้ความปราณี
บทที่ 1172 ราคาที่ต้องจ่ายสําหรับความทะเยอทะยานของตัวเอง
มู่หรู่ไห่มองอันนาอย่างชั่วร้าย
ความโกรธในดวงตาของเขากําลังลุกโชนราวกับเปลวไฟที่โหมกระหน่ํา
คราวนี้อันนาก็สมหวังตามที่เธอปราถนา ในที่สุดเธอก็มีเหตุผลที่เหมาะสมที่จะไล่เขาออกไปตระกูลกู๊ดแมน
จ่ายหวินเชิ่งเดินไปหามู่หรูไห่ “นายเป็นหนี้ฉันก็ต้องคืนให้หมดสิ”
เมื่อสองปีก่อน จ่ายหวินเชิ่งไม่มีโอกาสทวงหนี้จากมู่หรูไห่เพราะเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเจี่ยนอีหลิง
สองปีต่อมา วันนี้เขาต้องคิดบัญชีกับมู่หรูไห่ให้ได้
“จ่ายหวินเชิ่ง นายทําได้ยังไง? ร่างกายของนายไม่น่าจะทนสิ่งที่นายทําแบบนี้ได้!”
มู่หรู่ไห่ยังไม่อยากเชื่อว่าจ่ายหวินเชิ่งจะทําได้
อาการป่วยของจ่ายหวินเชิ่งเป็นยังไงมู่หรูไห่รู้ดี
จ่ายหวินเชิ่งสืบทอดโรคหัวใจมาจากแม่อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าเขาจะสามารถฝึกศิลปะการต่อสู้และออกกําลังกายได้
แต่ขีดจํากัดนั้นต่ํากว่าคนปกติอย่างแน่นอน และเป็นไปไม่ได้ที่จะก้าวข้ามขีดจํากัดได้ตามใจชอบ
“นายเดาสิ” จ่ายหวินเชิ่งยิ้มอย่างชั่วร้ายด้วยท่าทางโกรธจัด
มู่หรูไห่อยากรู้งั้นหรอ? ไปถามยมบาลเอาสิ!
อันนาประชดมู่หรูไห่ “ยังมีเวลามาสงสัยว่าร่างกายของคนอื่นฟื้นตัวได้ยังไงอีกเหรอ ตอนนี้ คุณควรคิดว่าคุณจะมอบทรัพย์สินของตัวเองหรือจะมอบตัวดีกว่าไหม?”
มู่หรู่มองไปรอบๆ คนในตระกูลกู๊ดแมน คนในตระกูลจ่าย คนในตระกูลเจี๋ยนและสมาคมจงอี้น่าโดยตระกูลจ่ายต่างก็มองมาที่เขาอย่างตั้งใจ
มู่หรูไห่รู้ว่าวันนี้ไม่ดีแน่
ก้าวผิดไปหนึ่งก้าว แพ้ทุกเกม!
วันนี้มู่หรูไห่ไม่ได้แพ้ใคร แต่เขาแพ้ให้กับตัวของเขาเอง!
หากตัวเองไม่ทะเยอทะยานเกินไป และอยากได้สิ่งที่จ่ายหวินเชิ่งและเจี่ยนอีหลิงมี ในวันนี้ก็คงจะไม่มีการเดิมพันดังกล่าว และจะไม่เกิดผลลัพธ์แบบนี้
หลังจากจัดการเรื่องของมู่หรูไห่เสร็จ สมาชิกตระกูลจ่ายและตระกูลเจี่ยนก็มองจ่ายหวินเชิ่ง และเจี่ยนอีหลิงราวกับพวกเขาเป็นเด็กทารก
ปีศาจตัวน้อยทั้งสองฟื้นคืนชีพแล้ว
แค่มองไปที่ทั้งสองคนท่านผู้เฒ่าจ่ายก็อยากจะร้องไห้แล้ว
พระเจ้ารู้ว่าเขามาถึงตรงนี้ได้ยังไงในช่วงสองปีที่ผ่านมา และตระกูลของเขาก็รอดมาถึงตรงนี้ได้ยังไง
เมื่อตอนที่เขายังเป็นเด็ก เขาเจอเรื่องราวขึ้นๆลงๆมากมาย และเรื่องของเด็กสองคนนี้ก็ไม่ได้ทําให้เขาไม่ตกใจเท่าใดนัก
“โรคของผมสามารถควบคุมได้” จ่ายหวินเชิ่งแบ่งปันข่าวดีนี้ให้กับทุกคน
เมื่อวันก่อนเขาได้ฉีดยาที่พัฒนาโดยเจี่ยนอีหลิงและเจี่ยนหยุ่นโม่เป็นครั้งแรก
ก่อนท่าการฉีดเจี่ยนอีหลิงบอกจ่ายหวินเชิ่งว่า เนื่องจากโรคของเขามีลักษณะเฉพาะ จึงไม่สามารถทําการทดลองทางการแพทย์เพิ่มเติมได้
จ่ายหวินเชิ่งไม่สนใจเพราะเขาเชื่อในตัวเธอ และเขายินดีที่จะมอบชีวิตของเขาไว้ในมือเธอ
นี่คือเหตุผลสําคัญที่จ่ายหวินเชิ่งสามารถต่อสู้กับคนของมู่หรูไห่ได้โดยไม่ลังเลเลยในวันนี้
“หมายความว่าไง?” ท่านผู้เฒ่าจ๋ายงงเล็กน้อย
หมายถึงดีขึ้นงั้นเหรอ?
แปลว่าจะไม่ป่วยแล้วใช่ไหม?
หมายความว่าเขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้จนถึงร้อยปีงั้นเหรอ?
จ่ายหวินเชิงอธิบายว่า “อีหลิงได้พัฒนายาที่สามารถยับยั้งปัญหาหัวใจของผมได้ ตราบใดที่ฉีดเป็นประจํา ผมก็สามารถเป็นได้เหมือนกับคนปกติโดยไม่มีอันตรายใดๆ”
“นี่ เรื่องจริงเหรอ?” ท่านผู้เฒ่าจ่ายดีใจมากจนไม่รู้จะพูดอะไร “แค่ฉีดยาเป็นประจําก็พอจริงๆ เหรอ?”
“อือ สําเร็จแล้ว”
“ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณพระเจ้า! อีหลิงเป็นดาวน่าโชคของตระกูลจ่ายของเราจริงๆ!” เจี่ยนอีหลิงอยู่ที่นี่ ไม่ใช่แค่จ่ายหวินเชิ่งที่ยังมีชีวิตชีวา แต่ยังมีสิ่งอื่นๆที่สามารถแก้ไขได้ในเวลาเดียวกัน
เมื่อเขาสุขภาพดีขึ้นแล้ว ก็ควรทําอะไรสักอย่างแล้ว