เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 1161-1162
บทที่ 1161 ท่านผู้เฒ่าช่วยสอนน้องสาวได้ไหม 1
“ไอ้หนูทําไมถามเยอะขนาดนี้? แกจะสนใจทําไมว่าฉันจะเป็นใคร?” ผู้เฒ่าซุนตอบทันที ต่อให้เป็น ‘ศิษย์’ ที่สอนมาหลายวัน แต่ผู้เฒ่าซุนก็ยังอารมณ์ไม่ดี
และผู้คนในลานบ้านนี้ มีเพียงเจี่ยนอีหลิงเท่านั้น ที่สามารถทําให้ผู้เฒ่าซุนอารมณ์ดีได้ เพราะเจี่ยนอีหลิงไม่เพียงแต่เข้าใจสมุนไพร แต่ยังสอนวิธีการปลูกสมุนไพรที่ถูกต้อง และเธอยังมีสิ่งใหม่ๆอีกมากมายที่เขาสนใจ
ถึงแม้ว่าผู้เฒ่าซุนจะไม่ยอมรับ แต่ในใจของเขาชอบที่มีใครสักคนมาพูดคุยกับเขา
เขาอาศัยอยู่คนเดียวที่น้ําตกจึงค่อนข้างเหงา บางครั้งเขาไม่ได้พูดอะไรเลยตลอดทั้งวัน แต่บางครั้งก็พูดคุยกับคนในหมู่บ้านบ้างล่ะ!”
แต่ผู้เฒ่าซุนไม่ชอบคนในหมู่บ้าน เพราะพวกเขาไม่มีความรู้ จึงทําให้ไม่สามารถพูดคุยกันได้ ผู้เฒ่าซุนจําไม่ได้ว่ากี่ปีแล้ว ที่เขาไม่เคยพบคนที่สามารถตามความคิดของเขาทัน และนี่คือเหตุผลหลัก ที่ผู้เฒ่าซุนเต็มใจสอนกังฟูให้กับจ่ายหวินเชิ่งอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
คนหนุ่มสาวเหล่านี้ เป็นไปตามความปราถนาของเขาทุกอย่าง
นอกจากนี้ ยังสามารถบรรเทาความเบื่อหน่ายของเขาได้เป็นอย่างดี
“อย่าดุอาเชิ่ง” เจี่ยนอีหลิงพึมพําขึ้นมา พร้อมกับจ้องไปที่ผู้เฒ่าซุนด้วยดวงตากลมโต เสียงนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ แต่เธอกลับใช้น้ําเสียงที่จริงจังมาก
“โอ้ สาวน้อยคนนี้…เธอต้องปกป้องตัวเองให้ดีก่อนจะถึงวันแต่งงาน ระวังจะโดนกินไปซะก่อน
“ไม่กลัว” ใบหน้าของเจี่ยนอีหลิงเต็มไปด้วยความมั่นใจ
“ถ้ารอให้เธอกลัวก็คงจะไม่ทันแล้ว!”
ผู้เฒ่าซุนไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เขาแค่ชอบทะเลาะกับคนอื่นเท่านั้น
โดยเฉพาะเมื่อก่อนไม่เคยมีใครทะเลาะกับเขาเลย แต่ตอนนี้พอมีคนจับได้ว่ากําลังทะเลาะกันเลยทําให้เขาไม่สามารถทะเลาะกันได้อีก
เจี่ยนหยุ่นไม่ต้องการถามผู้เฒ่าซุนบางอย่าง “ท่านผู้เฒ่าผมมีบางอย่างที่อยากจะปรึกษาคุณไม่ทราบว่าจะไปคุยกับผมทางนั้นได้ไหม?”
ผู้เฒ่าซุนมองเจี่ยนหยุ่นโม่แวบหนึ่ง ก่อนจะเดินตามเจี่ยนหยุ่นโม่ไปยังมุมหนึ่งของบ้านจินจิ่น
“ท่านผู้เฒ่า ผมต้องการให้คุณสอนทักษะการป้องกันตัวให้กับน้องสาวของผม” เจี่ยนหยุ่นโม่กล่าวว่าค่าขอของตัวเองออกมา
น้องสาวของเขาเก่งทุกอย่าง แต่ร่างกายของเธอกลับแย่มาก เธอไม่มีความสามารถในการป้องกันตัวเอง และเขาก็กังวลเสมอว่าเจี่ยนอีหลิงจะประสบอุบัติเหตุ
ถึงแม้ว่าเขาและเฟิงเหว่ยจะทําอุปกรณ์ป้องกันตัวให้กับเจี่ยนอีหลิงมากมาย แต่เขารู้สึกว่ามันยังไม่เพียงพอ จะดีกว่ามากถ้าเธอสามารถปกป้องตัวเองได้
ทักษะกังฟูของท่านผู้เฒ่าคนนี้ เกินกว่าความรู้ความเข้าใจของคนทั่วไป และถ้าเขายินดีที่จะสอน บางทีน้องสาวสามารถเรียนรู้ได้บ้าง
“อย่าแม้แต่จะคิดเลย ถึงเด็กสาวคนนั้นจะหัวดีมาก แต่ร่างกายและกระดูกของเธอไม่ได้ดีขนาดนั้น การเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความสามารถของกล้ามเนื้อและกระดูก ถ้าหากกล้ามเนื้อและกระดูกของคู่หมั้นเธอมี 100 คะแนน เธอน่าจะได้แค่ 3 คะแนนเท่านั้น” “มันแย่…ขนาดนั้นเลยเหรอ?” เจี่ยนหยุ่นโม่ถามขึ้นมาอีกว่า “แล้วถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไปล่ะ?” “ใช่ ถ้าเธอเป็นคนธรรมดาจะดีมาก” ผู้เฒ่าซุนกล่าว
สภาพร่างกายของเจี่ยนอีหลิงแย่จริงๆ แต่จ่ายหวินเชิ่งกลับแข็งแกร่งมาก ผู้เฒ่าซุนหรี่ตาลงแล้วพูดกับเจี่ยนหยุ่นโม่ “ถ้าอย่างนั้น ชีวิตหลังแต่งงานของสองคนนี้ หึ
ชายชราคนนี้ก็เคยเป็นหนุ่มมาก่อน และเคยมีช่วงเวลาที่โรแมนติก เขาจึงค่อนข้างมี ประสบการณ์ในเรื่องนั้นระหว่างชายและหญิงเจี่ยนหยุ่นโม่หน้าดําคล้ําทันที “ท่านผู้เฒ่าอย่าเปลี่ยนเรื่อง”
“ชิ เธอตกลงเรื่องการแต่งงานของทั้งคู่แล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วทําไมฉันถึงพูดเรื่องแบบนี้ไม่ได้ล่ะ? สองสามีภรรยานอนบนเตียงเดียวกันทั้งคืน ไม่แน่อาจจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นก็ได้”
ผู้เฒ่าซุนกาไหนน้ําไม่เดือดหยิบกานั้น* (IBE/F#
สํานวนจีน แปลตรงตัวว่า กาไหน
น้ําไม่เดือดหยิบกานั้น ความหมายคือ แตะต้องจุดอ่อน หรือ พูดถึงจุดที่เจ็บช้ํา)
“หยุดพูดได้แล้ว!” ยิ่งฟังคําพูดของผู้เฒ่าซุนมากเท่าไร ใบหน้าของเจี่ยนหยุ่นโม่ก็ยิ่งดําคล้ํามากเท่านั้น
บทที่ 1162 ท่านผู้เฒ่าช่วยสอนน้องสาวได้ไหม 2
ผู้เฒ่าซุนหัวเราะคิกคัก “เอาเถอะ ไม่ต้องรู้สึกอึดอัดไป ไม่ช้าก็เร็วผู้หญิงก็จะไม่อยู่และกลาย เป็นคนอื่น! และอีกไม่นานน้องสาวของแกก็จะให้กําเนิดหลานชายตัวน้อยออกมา”
ผู้เฒ่าซุนกําลังเกลี้ยกล่อมคนตรงหน้าอยู่ เห็นได้ชัดว่าเจี่ยนหยุนไม่กําลังโกรธมาก “ขอบคุณท่านผู้เฒ่า ผมขอตัวกลับไปทํางานก่อน” เจี่ยนหยุ่นโม่หันหลัง และกําลังจะเดินจากไป
“เอ่อ เดี๋ยวก่อน!” ผู้เฒ่าซุนตะโกนบอกเจี่ยนหยุ่นโม่ “ถึงแม้ว่าเด็กสาวคนนั้นจะมีร่างกายที่ย่ําแย่ แต่ไม่ใช่ว่าจะสอนไม่ได้ทั้งหมด เห็นแก่ความเฉลียวฉลาดของเธอ ฉันสามารถสอนให้ได้ แต่จะสามารถเรียนรู้ได้มากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับโชคของตัวเธอเอง”
“จริงเหรอ?”
“นี่ไม่ใช่เรื่องไร้สาระ ฉันจะล้อเล่นไปเพื่ออะไร?”
“ขอบคุณท่านผู้เฒ่า!” เจี่ยนหยุ่นโม่รีบกล่าวขอบคุณทันที และบนใบหน้าที่อ่อนโยนของเขาเต็มไปด้วยความสุข
“อย่ากังวลเกี่ยวกับน้องสาวนักเลย ถึงเด็กสาวคนนั้นจะดูอ่อนโยนและน่ารัก แต่ฉันรู้สึกว่าเธอเป็นเด็กดีและมีจิตใจที่แข็งแกร่งมาก
เจี่ยนหยุ่นไม่ส่ายหัวด้วยสีหน้าขมขื่น “จะมีความแข็งแกร่งได้อย่างไร ถ้าคนเราสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างสบายๆ แล้วใครจะเรียนรู้ที่จะแข็งแกร่งขึ้นกัน?”
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ผู้เฒ่าซุนก็เข้าใจถึงบุคลิกของเจี่ยนอีหลิงด้วยเช่นกัน
เด็กสาวของเขาควรจะมีอิสระ มีชีวิตชีวา และร่าเริง
เจี่ยนอีหลิงไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้น และจะเสียน้ําตาถ้าเธออักหก
คนจะเข้มแข็งได้ก็ต่อเมื่อ ไม่มีทางอ่อนแอ
น้ําตามีไว้เพื่อคนที่ตัวเองรัก และถ้าไม่มีคนที่ตัวเองรัก น้ําตาก็จะไม่ไหล
ผู้เฒ่าซุนมองไปที่เจี่ยนหยุ่นโม่ และยิ้มออกมา “ไม่เลว ช่างน่าเอ็นดูจริงๆ น้องสาวของเธอถือว่าโชคดีมาก”
เจี่ยนหยุ่นโม่ยิ้มอย่างขมขื่น “แต่ผมไม่สามารถปกป้องเธอได้”
เจี่ยนหยุ่นไม่ดูขมขื่นและเสียใจเป็นอย่างมาก
เรื่องบางเรื่องถึงแม้จะผ่านไปแล้ว แต่เจี่ยนหยุ่นโม่ก็ยังรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้อยู่เคียงข้างเธอในช่วงเวลาที่เจ็บปวดที่สุด และไม่สามารถปกป้องเธอได้
ผู้เฒ่าซุนและเจี่ยนหยุ่นโม่หลังจากปรึกษากันเสร็จแล้ว ทั้งสองก็เดินกลับมาหาเจี่ยนอีหลิง
“สาวน้อยมาเรียนกังฟูกับตาแก่อย่างฉันนี่มา” ผู้เฒ่าซุนพูดกับเจี่ยนอีหลิงอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการถามว่าเจี่ยนอีหลิงอยากเรียนไหม เพราะยังไงเขาก็จะสอน ต่อให้เธอไม่อยากเรียนก็ต้องเรียน
“คุณจะทําอะไร?” จ่ายหวินเชิ่งหรี่ตามองแล้วถามผู้เฒ่าซุนทันที
“ฉันจะสอนกังฟูให้สาวน้อย? ฉันกลัวว่าในอนาคตแกจะกลั่นแกล้งสาวน้อย ก็เลยจะสอนลูกเล่นเล็กๆน้อยๆให้ และจากนี้ไป ถ้าหากแกทําอะไรผิดขึ้นมาก็ให้คุกเข่าบนทุเรียน”
(คุกเข่าบนทุเรียน แผลงมาจากคุกเข่าบนกระดานซักผ้า หมายถึง หากสามีทําอะไรผิด เขาจะถูกลงโทษโดยการคุกเข่าลงบนกระดานซักผ้าที่เป็นลอนๆ แต่ต่อชาวเน็ตคิดว่าการคุกเข่าบนกระดานซักผ้าไม่เจ็บพอ และไม่รุนแรงพอ ซึ่งส่งผลให้มีประโยคที่รุนแรงมากขึ้น เช่น กลับบ้าน คุกเข่าบนคีย์บอร์ด หรือกลับบ้านคุกเข่าบนทุเรียน ซึ่งทุเรียนมีหนามที่แหลมมาก)
“ท่านผู้เฒ่า คุณรู้จักคําว่าคุกเข่าบนทุเรียนด้วยเหรอ ฮ่าๆๆๆ…” หยูซีตบต้นขาของตัวเอง และหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ผู้เฒ่าซุนมองหยูซีด้วยสายตาว่างเปล่า “ทําไมฉันจะไม่รู้จัก? แกคิดว่าคนแก่อย่างฉันเป็นคนป่าที่อาศัยอยู่แต่บนภูเขาหรือไง? ฉันรู้จักคํานี้ตั้งแต่ฉันยังเป็นหนุ่ม ส่วนแกยังเป็นแค่เด็กที่ไม่รู้ด้วยซ้ําว่าตัวเองได้ฉี่รดที่นอนไว้มุมไหนบ้าง!”
เมื่อได้ยินดังนั้น หยูซีก็ไม่สามารถหัวเราะออกมาได้
“เจ้าเด็กเหลือขอ สาวน้อย ตามฉันมา” ผู้เฒ่าซุนตะโกนเรียกจ่ายหวินเชิ่งและเจี่ยนอีหลิงให้ตามเขามา
ทั้งสามคนเข้าไปในสวนของจินจิ่น
ภายในสวนของจินจิ่นได้ปลูกพืชไว้หลากหลายชนิด
ต้นข้าวโพดสูงมาก และมันได้ปิดกั้นสายตาของผู้คนทั้งหมด
ถ้าพวกเขาไม่ได้เข้าไปใกล้ๆ ก็จะไม่มีทางรู้เลยว่าทั้งสามคนกําลังทําอะไรกันอยู่ในไร่ข้าวโพด
คนที่มู่หรูไห่ส่งมาเพื่อเฝ้าติดตามจ่ายหวินเชิ่ง ไม่เคยคาดคิดว่าผู้เฒ่าซุนจะสอนวิชากังฟูชั้นยอดให้กับพวกเขาด้วย
ผู้เฒ่าซุนบอกเจี่ยนอีหลิงเอาไว้ก่อนว่า “สาวน้อย การเรียนรู้วิชากังฟูไม่ใช่เรื่องง่าย มันจะทําให้เธอเหนื่อยมาก อีกทั้งยังปวดกระดูกไปทั้งตัว”
“อือ!” เจี่ยนอีหลิงพยักหน้า พร้อมกับเตรียมใจเอาไว้แล้ว