เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 1133-1134
บทที่ 1133 ฉันพบวิธีที่จะช่วยเขาแล้ว
หยูซีได้นําน้ําร้อน ผ้าเช็ดตัวที่สะอาด และเสื้อผ้าชุดใหม่ไว้สําหรับเปลี่ยนมาให้กับเจี่ยนอีหลิง “หยูซีนายมาทำ” จ่ายหวินเชิ่งสั่งหยูซีด้วยน้ําเสียงเย็นชา
“นายท่านเชิ่ง ขอโทษนะ” หยูซีวางของลงอย่างรวดเร็ว และรีบออกจากห้องราวกับกําลังหลบ
หยูซีไม่ใช่แค่วิ่งออกไปเร็วเท่านั้น แต่เขายังปิดประตูให้เจี่ยนอีหลิงด้วย
จ่ายหวินเชิ่งมองเจี่ยนอีหลิงที่กําลังถือผ้าขนหนูอยู่ และหลับตาลงอย่างเจ็บปวด
ราวกับว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปเป็นสิ่งที่น่าอับอายอย่างหาที่เปรียบมิได้สําหรับเขา
หากเป็นร่างกายก่อนหน้านี้ของเขา เขาคงไม่รังเกียจที่เธอจะเห็นแม้แต่น้อย
แต่ตอนนี้ ร่างกายเขาผอมแห้ง และไม่น่ามอง
เจี่ยนอีหลิงเคลื่อนไหวอย่างช้าๆและนุ่มนวล เธอกลัวว่าการเคลื่อนไหวของเธอจะทําให้เขาระมัดระวัง ประหนึ่งกําลังรักษาเครื่องลายครามอันล้ําค่า
เมื่อผ้าขนหนูร้อนลูบที่หลังของเขา จ่ายหวินเชิ่งก็สั่นเล็กน้อย
เขาไม่เห็นว่าเจี่ยนอีหลิงที่อยู่ด้านหลัง ที่กําลังเช็ดหลังของเขาอยู่กําลังร้องไห้
เจี่ยนอีหลิงคิดว่าตัวเองจะไม่เสียน่าตา
แต่ตอนนี้เพียงแค่มองไปที่ร่างกายของเขา น้ําตาของเธอก็ไหลออกมา
ปรากฎว่าเธอเป็นเด็กขี้แยน้ํามูกโป่งอย่างที่พี่หยูหมินพูดไว้จริงๆ เพียงแต่เธอไม่เคยเจอใครหรือสิ่งใดที่ทําให้เธอร้องไห้มาก่อน
ในเวลากลางคืน เจี่ยนหยุ่นโม่และหลี่จั่วเจียก็มาถึง
นอกจากนี้ยังมีเงินเหยียนที่พักรักษาตัวอยู่ในที่เดียวกับพวกเขาอีกด้วย
สิ่งที่คาดไม่ถึงคือเวินเหยียนที่นั่งอยู่บนรถเข็นเมื่อสองปีก่อน สามารถเดินได้แล้วแม้ว่าจะต้องใช้ไม้ค้ํายันคอยช่วยเหลือและจ่ายหวินเชิ่งและเจี่ยนอีหลิงต่างก็นั่งรถเข็น
บนเครื่องบินที่กําลังจะมาถึง เจี่ยนหยุ่นโม่จัดระเบียบตัวเองเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ตัวเองอยู่ใน สภาพที่น่าอายเมื่อพบกับเจี่ยนอีหลิง แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ดูผอมลงกว่าเดิมเล็กน้อย
เมื่อเห็นเจี่ยนอีหลิงที่นิ่งสงบ เจี่ยนหยุ่นโม่ก็มองไปที่เธอก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นเธอจริงๆ
จากนั้นเขาก็กอดเธอไว้ในอ้อมแขนเขาเป็นเวลานาน
“พี่รอง ขอโทษ”
“ไม่ต้องขอโทษหรอก พี่รองรู้ว่าสองปีมานี้เธอต้องเสียใจมากแน่ๆ เธอต้องพยายามทุกวิถีทาง เพื่อหาพวกเราให้เจอระหว่างที่พวกเรารอเธออยู่ เธอต้องอยากเจอพวกเราแน่ๆ” เจี่ยนหยุ่นโม่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจี่ยนอีหลิงในช่วงสองปีที่ผ่านมา และทําไมเธอถึงหายไปถึงสองปีเต็ม แต่เจี่ยนหยุ่นโม่รู้ว่าเธอต้องเจอกับอะไรบางอย่างที่ขัดขวางไม่ให้เธอกลับมาแน่นอน
“พี่รอง…”
“แค่เธอสบายดี สําหรับพี่รองมันเป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่พระเจ้าท่านมอบให้เลยนะ” ความสุขที่สูญเสียไป ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยคําพูด
“พี่รอง ฉันต้องการความช่วยเหลือจากพี่” เจี่ยนอีหลิงไม่สนใจที่จะพูดคุยกับเจี่ยนหยุ่นโม่อีก ต่อไป “ฉันพบวิธีช่วยอาเชิงแล้ว ฉันต้องการความช่วยเหลือจากพี่” ตอนนี้สําหรับเจี่ยนอีหลิงไม่มีอะไรสําคัญไปกว่าร่างกายของจ่ายหวินเซิ่งอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความสุขที่ได้พบกันใหม่หรือช่องว่างสองปีที่ไม่ได้พบกัน ก็ไม่สําคัญเท่ากับการช่วยชีวิตของจ่ายหวินเชิ่ง
“เมื่อเธอกลับมา เขาก็มีความกล้าหาญที่จะมีชีวิตอยู่” เจี่ยนหยุ่นโม่กล่าว
“อือ แต่หัวใจของเขาหยุดเต้นกะทันหันยังอยู่ เนื่องจากอารมณ์ด้านลบ” “เธอพบปัญหาที่หัวใจของเขาแล้วงั้นเหรอ?”
“อือ หัวใจของเขาผิดปกติ เรามักจะคิดว่ามันเป็นที่โครงสร้างที่ทําให้เขาไม่สามารถทนต่อการ เต้นของหัวใจและอารมณ์ของเขาได้ แต่จริงๆแล้วตราบใดที่เขาไม่แสดงอารมณ์ด้านลบ หรือ แม้ว่าเขาจะวิ่งและต่อสู้ แม้ว่าหัวใจของเขาจะเต้นเร็วขึ้น แต่ก็สามารถเต้นได้ตามปกติโดยไม่เป็น อันตราย ดังนั้น จึงแตกต่างจากหัวใจปกติที่ไม่สามารถทนต่อการเต้นของหัวใจที่เต้นเร็วกว่าเดิม แต่อย่างไรก็ตามมีบางอย่างที่หัวใจของเขาไม่สามารถทนได้
“แล้วเธอเจออะไร?”
บทที่ 1134 น้องสาวยังมีชีวิตอยู่ สําคัญกว่าสิ่งใด
“อารมณ์เชิงลบ เมื่อคนมีอารมณ์เชิงลบ ปัจจัยทางอารมณ์ที่สร้างขึ้นโดยต่อมไร้ท่อที่ยังไม่ได้
ถูกค้นพบจะเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิต และหัวใจเขาไม่สามารถทนต่อปัจจัยนี้ได้
สิ่งนี้ยังอธิบายได้ว่าทําไมหัวใจของเขาถึงหยุดกะทันหันเมื่อรู้ว่าเจี่ยนอีหลิงประสบอุบัติเหตุ
ก่อนหน้านี้ตระกูลจ่ายไม่รู้ว่าหัวใจของเขาเป็นอะไร ดังนั้นตามการรักษาโรคหัวใจทั่วไป จะเชื่อว่าการกระตุ้นใดๆอาจทําให้เขาเกิดอาการหัวใจวายได้
“เธอแยกปัจจัยนี้ออกงั้นเหรอ?” เจี่ยนหยุ่นโม่ถาม
“ฉันพบตัวอย่างการทดลองสองร้อยตัวอย่าง และพบปัจจัยทางอารมณ์ ที่มีอยู่ในระบบต่อมไร้ท่อ”
ในตอนที่เจี่ยนอีหลิงอยู่ในโลกนั้น นอกจากจะหาทางกลับแล้ว เธอยังยืมเทคโนโลยีทางการ
แพทย์ขั้นสูงของที่นั่นเพื่อศึกษาปัญหาเกี่ยวกับหัวใจของจ่ายหวินเชิ่งอีกด้วย
เจี่ยนอีหลิงไม่ได้หยุดพักแม้แต่วินาทีเดียว เธอไม่กล้าพักผ่อน เพราะเธอไม่รู้ว่าจะเกิดอะไร ขึ้นในโลกนี้ขณะที่เธอหยุดพักผ่อน
“ถ้าเป็นแบบนี้ ขอเพียงพัฒนายาที่ปรับสภาพปัจจัยทางอารมณ์ให้เป็นกลางได้ ก็สามารถ
รับรองได้ว่าหัวใจของเขาจะไม่ป่วย!” เจี่ยนหยุ่นโม่เข้าใจถึงกุญแจสําคัญของปัญหาได้ทันที “อือ!” เจี่ยนอีหลิงพยักหน้า “ฉันพัฒนามันขึ้นมา ก่อนจะใช้งาน ฉันต้องทําการตรวจสอบร่างกายของเขาเพื่อให้แน่ใจว่าการอนุมานของฉันถูกต้อง”
“ฉันเข้าใจแล้ว ฉันเอาคอมพิวเตอร์มาด้วย เดี๋ยวจะขอให้จั่วเจียไปรับหลิวถึงมาด้วย ก่อนหน้า
นี้เขาเคยทําการวิเคราะห์หัวใจของจ่ายหวินเชิ่งกับเธอมาก่อน ครั้งนี้ให้เขาช่วยเธอน่าจะดีกว่า”
เจี่ยนหยุ่นไม่ดาเนินการทันที
“พี่รอง งั้นฉันไปดูแลอาเชิ่งนะ”
“เดี๋ยวก่อน” เจี่ยนหยุ่นโม่หยุดเจี่ยนอีหลิง “ที่เธอบาดเจ็บ เธอได้กินยาหรือยัง? ฉันเอายามา ให้ด้วย”
แม้ว่าเจี่ยนหยุ่นโม่จะเดินทางมาจากลั่วไห่เซินอย่างเร่งรีบ แต่เขาก็จําได้ว่าต้องนําทุกอย่างที่
ควรน่าติดตัวไปด้วย
โดยเฉพาะยา
เจี่ยนหยุ่นโม่ดึงเจี่ยนอีหลิงมาอยู่ข้างๆ เพื่อให้ยาแก่เธอ
ปลายนิ้วของเขาป้ายครีม และทาลงบนแผลเป็นที่อยู่บนใบหน้าของเจี่ยนอีหลิงอย่าง
ระมัดระวัง
เมื่อเขากําลังจะทาครีมลงบนฝ่ามือของเจี่ยนอีหลิง เจี่ยนหยุ่นโม่ก็มองไปที่ฝ่ามือของเจี่ยนอี
หลิงแล้วหยุดมีรอยแผลเก่าๆและหนังด้านอยู่บนมือของเธอ
นี่ไม่ใช่บาดแผลที่เกิดขึ้นในสองวันนี้ แต่เป็นบาดแผลที่ผ่านมาระยะหนึ่งแล้ว
เจี่ยนอีหลิงรักมือของตัวเองมากที่สุด ยกเว้นหนังด้านที่อยู่ในตําแหน่งถือมีดผ่าตัด ส่วนอื่นนั้นบอบบางและเรียบเนียนไร้รอยแผลเป็น
เธอยอมถูกตบหน้ามากกว่าโดนทําร้ายมือ
มือของเจี่ยนหยุ่นโม่ที่กําลังทาครีมให้เจี่ยนอีหลิงสั่นเล็กน้อย
แต่เขาไม่ได้ถามเจี่ยนอีหลิงว่ามือของเธอเป็นแบบนี้ได้ยังไง
เพราะเจี่ยนหยุ่นโม่รู้ว่าในช่วงสองปีที่ผ่านมามีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นกับเธอ และเธอจะต้องพยายามอย่างหนักที่จะกลับมาหาพวกเขา
มันต้องมีบางอย่าง ที่ทําให้เธอไม่สนใจมืออันเป็นที่รักของเธอ
เจี่ยนหยุ่นโม่ทาครีมที่มือของเจี่ยนอีหลิงเบาๆ รอยแผลเป็นทั้งเก่าและใหม่ก็ยังไม่ลดลง
หลังจากทาเสร็จแล้ว เจี่ยนหยุ่นโม่ก็พูดเสียงอ่อนโยนว่า “บนใบหน้าและแขน พี่ทาให้แล้ว
ส่วนบาดแผลที่อื่นบนตัวเธอเดี๋ยวให้คุณจินทาให้นะ”
“อือ”
เจี่ยนอีหลิงดึงมือกลับ ไม่กล้าให้เจี่ยนหยุ่นโม่มองมือของตัวเองอีก
“ฉันจะไปหาอาเชิง”
ถ้าเป็นเมื่อสองปีที่แล้ว เจี่ยนหยุ่นโม่อาจจะยังไม่พอใจอยู่บ้าง
แต่ตอนนี้ อารมณ์ของเขาเปลี่ยนไปแล้ว
การที่น้องสาวของเขายังมีชีวิตอยู่ มันสําคัญกว่าสิ่งอื่นใด