เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 1131-1132
บทที่ 1131 อาเมิ่ง นายเป็นของฉัน
“ใครก็ได้เข้ามาที!” จ่ายหวินเชิ่งตะโกนออกไปนอกประตู
แต่ไม่มีใครเข้ามา
“ฉันขออนุญาตปูจ๋ายแล้ว ตอนนี้พวกเขาฟังฉันไม่ใช่นาย”
เจี่ยนอีหลิงจดจ่ออยู่กับมือของตัวเอง
“อีหลิงอย่าท่าแบบนี้”
เสียงของจ่ายหวินเชิ่งทุ้มต่ําและฟังดูทรมาน
จ่ายหวินเชิ่งหลับตาลง พยายามเมินเฉยต่อเจี่ยนอีหลิงและพยายามไม่สนใจมือของเธอ สีหน้าของเขาเริ่มอ่อนลง และเขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นความเจ็บปวดหรืออะไรบางอย่าง
“อาเชิ่ง นายเป็นของฉัน” เจี่ยนอีหลิงกล่าว
เสียงที่นุ่มนวลและอ่อนโยนพูดด้วยคําพูดที่หนักแน่นอย่างหาที่เปรียบมิได้ หลังจากนั้นไม่นาน ลมหายใจจ่ายหวินเชิ่งก็ติดขัดเครื่องมือแสดงอัตราการเต้นหัวใจแสดงให้เห็นว่าหัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้น แต่เจี่ยนอีหลิงดูเหมือนจะไม่กังวลเรื่องอัตราการเต้นของหัวใจที่เต้นเร็วของเขาเลย
หยูซีเข้ามาอีกครั้งเพื่อนําอาหารมาให้จ่ายหวินเชิ่งและเจี่ยนอีหลิง และก็เห็นว่าเจี่ยนอีหลิงกําลังล้างมืออยู่
จ่ายหวินเชิ่งที่นั่งบนรถเข็นอยู่ตรงหน้าต่างหน้าแดงมาก ในที่สุดก็มีสีเลือดขึ้นมาบ้าง
“เทพหลิงเธอก็กินด้วยนะ” หยูซีพูดกับเจี่ยนอีหลิง
“อือ” เจี่ยนอีหลิงพยักหน้า “เธอบอกให้คนเอาเสื้อผ้าของเขามาใหม่ด้วยนะ ไม่ใช่เสื้อสูทแบบนี้ แค่แบบที่ใส่อยู่บ้าน เอาที่ใส่และถอดออกได้ง่ายๆหน่อยนะ”
“โอเค” หยูซีรับปาก “มีอะไรที่ต้องการอีกไหม?”
“เธอบอกให้อันหยางส่งคนไปรับพี่รองของฉันหน่อย เขาน่ายาที่ฉันต้องการมาให้ฉันน่ะ” เจี๋ยนอีหลิงกล่าว
เจี่ยนหยุ่นโม่และคนอื่นๆบินมาจากเกาะลั่วไห่เซิน และต้องเปลี่ยนเครื่องบินอีกรอบ พวกเขา
จึงมาไม่ทันจ่ายหวินเชิ่ง
“โอเค”
หยูซีกลายเป็นพี่เลี้ยงของเจี่ยนอีหลิงและจ่ายหวินเชิ่งอีกครั้ง แต่เขาก็เต็มใจและหวังว่าทั้ง
สองคนจะหายดีเร็วๆนี้ แม้ว่าเขาจะเป็นพี่เลี้ยงให้สองคนนี้ก็คุ้มค่าสําหรับเขามาก
หยูซีที่กําลังจะหันหลังกลับ และได้ยินจ่ายหวินเชิ่งพูดว่า “เอาอาหารมา” เขาอยากกิน
หยูซีได้ยินคําพูดนี้ ก็ตกใจเล็กน้อย แล้วพูดด้วยความดีใจว่า “ได้ๆ ฉันจะเอามาให้เดี๋ยวนี้เลย” จ่ายหวินเชิ่งเต็มใจขออาหารด้วยตัวเอง ดีจังเลย!
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเทพหลิงใช้วิธีใด ตราบใดที่นายท่านเชิ่งเต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงมันก็เป็นสิ่งที่ดี
จ่ายหวินเชิงหันกลับไปมองเจี่ยนอีหลิงสายตาจับจ้องไปที่มือบอบบางของเธอ และใบหน้าของเขาก็แดงระเรื่ออีกครั้ง
เขาอยากให้เจี่ยนอีหลิงหยุดทําสิ่งนั้น เขาจึงจะต้องกิน ฟื้นฟูร่างกาย และเรียกคืนความแข็งแรงตัวเองให้ได้
หยูซ๊รีบน่าอาหารใหม่มาให้ เป็นโจ๊กและผักแสนอร่อย
เจี่ยนอีหลิงกําลังจะป้อนอาหารให้จ่ายหวินเชิ่ง แต่จ่ายหวินเชิ่งพูดว่า “ให้หยูซีท่า”
“นายเป็นคนของฉัน และฉันไม่ต้องการให้คนอื่นมาดูแลนาย” เจี่ยนอีหลิงพูดด้วยสีหน้า
เคร่งขรึมและพูดอย่างมั่นใจว่าจ่ายหวินเชิ่งจะไม่สามารถโต้แย้งได้
“เธอเองก็เจ็บเหมือนกัน”
“ฉันมีแค่รอยขีดข่วนบนผิวและกระดูกต้นขาร้าว ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้มือของฉัน”
เจี่ยนอีหลิงมีเหตุผล แต่ส่วนใหญ่ไม่สามารถอธิบายได้
“อ้าปาก แล้วกินได้แล้ว” เจี่ยนอีหลิงกล่าวว่า
จ่ายหวินเชิ่งได้แต่อ้าปากและกินอาหารที่เจี่ยนอีหลิงป้อน
กินไปไม่กี่คำ จ่ายหวินเชิ่งก็ไม่อยากกินอีก
“ฉันกินไม่ลงแล้ว”
การทานอาหารน้อยลงในระยะยาว ทําให้จ่ายหวินเชิ่งไม่สามารถทานได้มากในครั้งเดียว
เจี่ยนอีหลิงหยุดป้อน แล้วเอาโจ๊กเข้าปากของตัวเอง
เมื่อจ่ายหวินเชิ่งคิดว่าเธอกําลังจะกินโจ๊กที่เหลือจากเขา แต่ทันใดนั้นเธอก็เข้ามาจูบเขาและส่งโจ๊กเข้าไปในปากเขา
หยูซียังอยู่ในห้อง พอเห็นฉากนี้ก็รีบหันหลังให้ทันที
ใบหน้าของเขาแดงก่ําา เขาอดคิดไม่ได้ ว่าไม่ได้เจอกันมาสองปีแล้ว เทพหลิงเก่งขึ้นมาก!
บทที่ 1132 นายท่านเชิ่ง ฉันขอโทษ
จ่ายหวินเชิ่งที่กินโจ๊กได้เพียงครึ่งชาม แต่สุดท้ายเขาก็กินจนหมดชามและกินผักเกือบหมด
เจี่ยนอีหลิงยังได้ป้อนวิตามินทางปากให้กับจ่ายหวินเซิ่งอีกด้วยซึ่งเป็นวิตามินที่หยูซีนํามาให้พร้อมกับอาหาร
จากนั้นเจี่ยนอีหลิงก็ให้หยูซีนําน้ําร้อนมา เพื่อเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับจ่ายหวินเชิ่ง “ไม่ต้อง” จ่ายหวินเชิ่งปฏิเสธ
เขาไม่อยากให้เจี่ยนอีหลิงใกล้ชิดกับตัวเองอีก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่อยากให้เธอเห็นร่างที่ผอมแห้งและน่าเกลียดของตัวเองในตอนนี้
“พี่หยูซีไปเอาของมา” เจี่ยนอีหลิงไม่ฟังเขา และให้หยูซีเอาสิ่งที่เธอต้องการให้เธอ
“ห้ามไป!” จ่ายหวินเชิ่งสั่ง
“พวกนาย…” หยูซีฟังเจี่ยนอีหลิงไม่ได้ และฟังจ่ายหวินเชิ่งไม่ได้เหมือนกัน เขาอยู่ในภาวะที่
กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“พี่หยูซี ไป!” เจี่ยนอีหลิงย้ําอีกครั้ง
หยูซีสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดกับจ่ายหวินเชิ่งว่า “นายท่านเชิ่ง ขอโทษนะ หลังจากที่หาย
ดีแล้วค่อยมาตีฉันนะ วันนี้ฉันต้องฟังเทพหลัง!”
เขาไม่ได้ทําเพราะคําว่า “พี่หยูซี” คํานี้ เขาหวังว่านายท่านเชิ่งจะฟื้นตัวได้แค่นั้นเอง
สําหรับหยูซีการเสียสละไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลย
หยูซีหันไปช่วยเจี่ยนอีหลิง
แม้แต่คนสุดท้ายที่เชื่อฟังคําสั่งของจ่ายหวินเชิ่งก็เลือกเจี่ยนอีหลิง ตอนนี้จ่ายหวินเชิ่ง “โดดเดี่ยวและไร้ความช่วยเหลือ” อย่างสมบูรณ์
ถ้าเขาไม่รีบรักษาร่างกายของตัวเอง เขาคงทําได้เพียงแค่อยู่ในความเมตตาของเจี่ยนอีหลิงและไม่สามารถหาอะไรได้เลย
หยูซียังคงคิดอยู่ในตอนที่เขากําลังเดินออกจากห้องไป
สองปีมานี้เทพหลิงไม่เพียงเติบโตแต่อายุ แต่ยังมีความกล้าหาญอีกด้วย!
เมื่อเดินมาถึงประตูก็พบกับจินจิ่นที่กลับมาพอดี
“น้องจิน ฉันยังไม่ได้บอกขอบคุณเธอเลย!” หยูซีรีบกล่าวขอบคุณ “ไม่เพียง แต่ช่วยเทพหลิง ของเรา แต่ยังให้ที่พักกับเราอีกด้วย”
เพราะไม่อยากให้ร่างกายของจ่ายหวินเชิ่งได้รับความกระทบกระเทือนอีก เมื่อพวกเขามาถึง พวกเขาก็เลือกบ้านของจินจิ่นที่อยู่ใกล้ๆแทนที่จะไปหาบ้านในเมือง
บังกะโลเล็กๆของจินจิ่นแม้ว่าจะเรียบง่าย แต่ก็ให้ความรู้สึกพิเศษที่แตกต่างออกไป
“ด้วยความยินดี” จินจิ่นไม่ได้ดูแลอะไรมากมาย ทั้งสองคนอยู่บนรถเข็น เธอแค่อํานวยความ สะดวกกับคนป่วยทั้งสองคนเท่านั้นเอง ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรผล”
“สวนผักที่นี่เธอปลูกเองเหรอ? มันยากไหม?”
“ไม่เลย ฉันชอบมันมาก ฉันรู้สึกถึงความสําเร็จ เมื่อได้ชมพืชผักที่ตัวเองปลูกเติบโตและออก
จินจิ่นและหยูซีเริ่มพูดคุยกัน
เมื่อพูดถึงการปลูกผัก จินจิ๋นก็พูดอย่างมีความสุข
“แล้วก่อนหน้านี้เธอท่าอะไร?” หยูซีสงสัยมาก
“โปรแกรมเมอร์ พัฒนาซอฟต์แวร์” จินจิ่นตอบ
“จริงเหรอ?” หยูซีประหลาดใจและมองจินจิ่นอีกครั้ง “เธอเป็นโปรแกรมเมอร์หญิงงั้นเหรอ?” เขาคิดว่าโปรแกรมเมอร์หญิงเป็นคนที่พิเศษ เขาไม่คิดว่าสาวสวยที่อยู่ตรงหน้าเขาจะเป็นโปรแกรมเมอร์ด้วย
“อือ ฉันเรียนเอกวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัย และหลังจากเรียนจบ ฉันก็เข้าบริษัท ไอทีเพื่อเขียน Java” (Java หรือ Java programming language คือภาษาคอมพิวเตอร์ สําหรับ เขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ)
หลังจากเรียนจบจินจิ่นก็ทําธุรกิจสตาร์ทอัพ ต่อมาบริษัทก็ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
หลังจากที่จินจิ่นถอนหุ้นออก ก็คืนเงินทุนให้กับคนใจดีที่ให้ทุนเธอด้านการศึกษาที่ผ่านมา และ หลังจากนั้นเธอจึงมาที่ชนบทและปลูกผักของตัวเอง (ธุรกิจ สตาร์ทอัพ คือ ธุรกิจสร้างใหม่ ที่ เป็นการเปิดบริษัทขึ้นมาใหม่ในการรองรับธุรกิจต่าง ๆ)
“เธอนี่สุดยอดจริงๆ!” หยูซีชื่นชมหญิงสาวที่มีความคิดของตัวเองตรงหน้าเขา “ฉันและคนอื่นๆ อาศัยอยู่ในรถ RV ถัดจากบ้านของเธอไป ถ้าเธออยากให้ช่วยอะไรก็บอกพวกเราได้เลยนะ” บ้านของจินจิ่นมีพื้นที่จํากัด มีห้องว่างเพียงห้องเดียวสําหรับจ่ายหวินเชิ่งและเจี่ยนอีหลิง เท่านั้น ผู้ติดตามที่มาพร้อมกับพวกเขาสามารถอาศัยอยู่ในรถ RV ของอันหยางได้เท่านั้น “อือ ดีจัง” จินจิ่นประทับใจเพื่อนของเจี่ยนอีหลิงเป็นอย่างดี คนเหล่านี้มาจากภูมิหลังที่ดีมาก แต่ก็สุภาพมากพูดน้อย และมีท่าทางที่สง่างาม