เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 1117-1118
เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 1117 มีคนสําคัญมากรอฉันอยู่
หลังจินจินพูดจบ เธอพบว่าดวงตาของเจี่ยนอีหลิงผิดปกติ
“เธอเป็นอะไรมากไหม?” จินจินถาม “เธอเป็นแฟนของเทพ Z เหรอ เขาหล่อมากแถมยังมีแฟนคลับเยอะมาก ฉันแปลกใจมากตอนที่เห็นรูปเขาบนอินเทอร์เน็ต อย่าเศร้าไปเลย ข่าวการเสียชีวิตเขาเป็นเพียงการคาดเดาของคนบางคนบนอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ยังไม่ได้รับการยืนยันสักหน่อย”
“ทําไมคิดแบบนั้น” น้ําเสียงของเจี่ยนอีหลิงผิดปกติและเปล่งเสียงออกมาอย่างอยากลําบาก
“เหตุผลก็เพราะมีคนพูดว่าเขาสุขภาพไม่ดี หลังจากเกิดอุบัติเหตุคู่หมั้นของเธอถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล และไม่ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนอีกเลย ว่ากันว่าไม่เพียงแต่ไม่ปรากฏบนอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แต่เขากลับหายไปเหมือนกับไม่มีตัวตน จึงมีคนเริ่มคาดเดาว่าเขาอาจจะไม่รอด”
เป็นเพียงแค่การคาดเดาบนอินเทอร์เน็ตไม่มีหลักฐานที่แน่นอน
นั่นแปลว่าเธอยังมีความหวัง
แต่ไม่รู้ว่าความหวังนี้มีมากแค่ไหน
เธอต้องการการยืนยันเรื่องนี้ เธอต้องการรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่
“เมื่อไหร่หมอจางจะมา?” เจี่ยนอีหลิงถามจินจิน
“สามหรือสี่โมงเย็น รอให้โรงพยาบาลไม่มีคนเธอก็มาได้แล้ว”
สถานพยาบาลในหมู่บ้านไม่ได้เข้มงวดขนาดนั้น ทั้งโรงพยาบาลมีหมอจางคนเดียว
เธอรอไม่ไหวแล้ว
เจี่ยนอีหลิงมองลงไปที่ร่างกายของตัวเอง
มีคราบเลือดอยู่เต็มใบหน้าของเธอ ไม่สามารถบอกได้ว่าหน้าตาของเธอเป็นยังไง มีรอยขีดข่วนและรอยฟกช้ํามากมายบนร่างกายและใบหน้าของเธอ เธอไม่สามารถขยับตัวและเดินไปรอบๆได้ตามใจชอบ
ในฐานะหมอเธอรู้ดีว่าการนอนบนเตียงและไม่ขยับเขยื้อนในเวลานี้จะดีกว่า
แต่เมื่อเทียบกับอาการบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆนี้ หรือว่าจะต้องมีรอยแผลเป็นถาวร เธอต้องการแค่ต้องการโทรศัพท์ตอนนี้
เจี่ยนอีหลิงลุกขึ้นจากเตียง
หลังจากเคลื่อนไหว ก็มีอาการปวดอย่างรุนแรงที่ขาขวาของเธอ
เจี่ยนอีหลิงรู้ได้ทันทีว่ากระดูกต้นขาขวาของเธอร้าว
ไม่รุนแรงเท่ากระดูกหัก ดังนั้นเธอจึงสามารถขยับได้ แต่จะเจ็บนิดหน่อย
เจี่ยนอีหลิงสวมรองเท้าต่อไป
“ทําอะไรน่ะ?!” จินจินรีบหยุดเจี่ยนอีหลิง “หมอจางบอกให้อยู่นิ่งๆสักพัก เพื่อหลีกเลี่ยงอาการ บาดเจ็บเบื้องต้น แม้ว่าแผลของเธอจะไม่ลึกแต่ก็มีขนาดใหญ่ และเสี่ยงติดเชื้อได้”
“ไม่เป็นไร” เจี่ยนอีหลิงพูด “ฉันต้องการโทรศัพท์เดี๋ยวนี้”
เจี่ยนอีหลิงผลักจินจิ่นออกอย่างแรง ยืนกรานจะเดินออกไปด้านนอก
“หยุดนะ!” จินจินหยุดเจี่ยนอีหลิงไว้ “ถ้าเธอรีบขนาดนั้น ฉันจะรีบไปที่สถานพยาบาลตอนนี้เพื่อยืมโทรศัพท์ให้เธอเอง”
จินจินทนไม่ได้ที่จะเห็นเธอที่ได้บาดเจ็บทั้งตัววิ่งไปไกลขนาดนี้
แม้ว่าจินจินจะมองไม่เห็นรูปลักษณ์ของเจี่ยนอีหลิง แต่จากผิวที่บอบบางของเธอที่ปราศจากบาดแผลก็ดูออกว่าเด็กสาวคนนี่เติบโตโดยการเลี้ยงดูอย่างตามใจและทะนุถนอมอย่างดี
เจี่ยนอีหลิงส่ายหน้า “ฉันจะไปเอง เร็วเข้า”
เจี่ยนอีหลิงไม่อยากสร้างปัญหาให้จินจินอีก และเธอไม่ต้องการเสียเวลา
เธอต้องการรู้สถานการณ์ของเขาเดี๋ยวนี้
“แต่ทางออกจากทีนี้ มันไกลมากนะ”
จินจินเช่าที่ดินผืนใหญ่ห่างจากชาวบ้านคนอื่นในหมู่บ้านเพื่อปลูกพืชผัก
มันอยู่ไกลจากสถานพยาบาลในหมู่บ้านมาก
จินจินไม่มีสกู๊ตเตอร์
“มีคนที่สําคัญมากกําลังรอฉันอยู่”
เจี่ยนอีหลิงพูด เธอสวมรองเท้าแล้วเดินออกไป
เธอก้าวเท้าเดินอย่างยากลําาบาก
บาดแผลทั่วร่างกาย โดยเฉพาะกระดูกร้าวที่ต้นขาแค่เคลื่อนไหวนิดเดียวก็เจ็บทันที
แต่ความเจ็บปวดนี้เทียบไม่ได้กับครอบครัวที่ตามหาเธอในช่วงสองปีที่ผ่านมา
จินจินเข้าไปประคองเจี่ยนอีหลิงอย่างอดไม่ได้ “งั้นก็ได้ ฉันจะไปกับเธอเอง”
บทที่ 1118 ต้องการติดต่อทางโทรศัพท์
จินจินเดินไปปลอบใจเจี่ยนอีหลิง “อย่าเพิ่งรีบร้อนไป ชีวิตไม่มีอะไรที่ยากล่ามาก เหมือนตอนที่ฉันทําาโทรศัพท์หาย ทําข้อมูลหายไป แต่ฉันคิดว่าจริงๆก็โอเคเหมือนกัน เทียบกับตอนที่พ่อแม่ ฉันจากไปตอนนี้ฉันก็โอเค ยังใช้ชีวิตอยู่ได้”
จินจินกล่าวต่อว่า “ชีวิตต่างก็เต็มไปด้วยอุปสรรค แม้จะผ่านแต่ละอุปสรรคไปได้ก็จะมีอุปสรรคต่อไรออยู่ เธอต้องรู้จักที่จะล้มอย่างเจ็บปวด ก่อนจะลุกขึ้นเดินและผ่านอุปสรรคชีวิตทั้งหมดมาได้ ฉันอิจฉาเธอนะ เธอคู่ควรกับความพยายามอย่างหนักตัวเอง”
“ขอบคุณ” เจี่ยนอีหลิงขอบคุณจินจินที่พูดให้กําลังใจเธอ
“เธอเดินช้าๆลงหน่อย มันเจ็บ” จินจินอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขณะที่เธอมองเจี่ยนอีหลิง
“ไม่เจ็บ”
จินจินส่ายหน้าอย่างจนปัญญา
จินจินพูดไม่ผิด ถนนสายนี้เดินไม่ง่าย เจี่ยนอีหลิงได้รับบาดเจ็บทั้งตัว และเธอยังคงสวมเสื้อผ้าของจินจินที่ไม่พอดีตัวอีก
ทุกก้าวที่เธอเดิน ขาและร่างกายของเธอนั้นเจ็บปวดอย่างมาก
แต่เจี่ยนอีหลิงไม่ได้หยุดแม้แต่วินาทีเดียว
ยังไปได้เร็วขึ้นและเร็วขึ้น
ปกติจินจินจะเดินครึ่งชั่วโมง วันนี้เธอเดินกับเจี่ยนอีหลิงแค่35นาที ทั้งที่เจี่ยนอีหลิงกําลังบาดเจ็บ ที่โรงพยาบาล หมอจางไม่มีผู้ป่วยในขณะนี้
หมอจางเป็นผู้หญิงที่มีอายุน้อยไม่ถึง30ปี เธอเพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแพทย์ และเข้าร่วมกิจกรรมอาสาสมัครและมาเป็นหมอที่สถานีอนามัยหมู่บ้านจินสุ่ย
เมื่อหมอจางเห็นเจี่ยนอีหลิงเธอแปลกใจมาก “พาเธอมาทําไม? เธออาจกระดูกหักและเดินไม่ได้อีก”
“เธอไม่ได้บอกเรื่องนี้กับฉัน”
“ฉันไม่แน่ใจ สถานพยาบาลที่นี่คงช่วยอะไรเธอไม่ได้ คงต้องพาเธอเข้าไปเอ็กซเรย์ในเมืองฉันบอกให้เธอนอนรออยู่ที่เตียง ฉันตั้งใจจะไปหาในตอนเย็น”
หมอจางหันกลับมาถามเจี่ยนอีหลิง “เธอไม่เจ็บกระดูกเหรอ?”
เจี่ยนอีหลิงไม่ตอบ แต่ขอยืมโทรศัพท์มือถือหมอจางอย่างแน่วแน่ “ขอยืมมือถือหน่อย ฉันอยากติดต่อครอบครัวของฉัน”
หมอจางล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าให้เธออย่างไม่เต็มใจ “ฉันรู้ว่าเธอกลัวว่าครอบครัวจะเป็นกังวล แต่อย่าหักโหมร่างกายตัวเองแบบนี้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นเธออาจจะล้มป่วยไปตลอดชีวิตได้”
เมื่อได้รับโทรศัพท์ เจี่ยนอีหลิงกดโทรศัพท์โทรหาหลี่จั่วเจียเป็นคนแรก
เนื่องจากความสัมพันธ์ของหลี่จั๋วเจียและเธอค่อนข้างบริสุทธิ์ใจ ปฏิกิริยาอาจน้อยกว่าคนอื่นๆ หลังจากรับสายแล้ว เมื่อได้ยินเสียงคนที่อยู่อีกฝั่งก็ตกตะลึงในทันที
หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็เริ่มร้องไห้ออกมา
เจี่ยนอีหลิงรออยู่นาน รอให้หลี่จั่วเจียใจเย็นๆตอบคําถามได้ ก็รีบถามถึงจ่ายหวินเชิ่งทันที
เมื่อเจี่ยนอีหลิงถามเกี่ยวกับจ่ายหวินเชิ่ง หลี่จั๋วเจียก็เงียบไป
“เขา…เป็นอะไร?” เสียงของเจี่ยนอีหลิงสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้
“ไม่ต้องกลัว มิสเตอร์จ่ายยังมีชีวิตอยู่ แต่สถานการณ์ไม่ค่อยดี…”
เจี่ยนอีหลิงก่าโทรศัพท์แน่น “คุณมาที่นี่ตอนนี้เลยได้ไหม?”
“ได้สิ! แน่นอน! ฉันจะไปเดี๋ยวนี้! คณบดีคุณส่งที่อยู่ตอนนี้ของคุณมาให้ฉันได้เลย!”
“พี่ชายรองอยู่บนเกาะด้วยไหม?”
“อยู่ๆ ฉันจะแจ้งให้เขาทราบทันที เขาต้องมีความสุขมากแน่ๆ สองปีมานี้เขาดูโทรมมาก เขา…”
หลี่จั๋วเจียและเจี่ยนอีหลิงพูดคุยเกี่ยวกับเจี่ยนหยุ่นโม่ในช่วงสองปีที่ผ่านมา
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เจี่ยนหยุ่นโม่ไม่เคยออกจากเกาะหลัวไห่เซ่นเลยแม้แต่ก้าวเดียว
เนื่องจากน้องสาวหายไประหว่างเดินทางไปเกาะ เขาคิดว่าเธอจะหาทางกลับมาได้แน่
เจี่ยนหยุ่นโม่ขังของตัวเองไว้ในห้องแล็บ มันไม่เหมือนกับการทําวิจัยครั้งก่อนๆ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เขาเริ่มเลอะเลือนปล่อยเนื้อปล่อยตัว มักลืมกินข้าวและนอนไม่หลับทุกคืน