เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 1115-1116
เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 1115 กลัวได้รับข่าวร้าย
รอยแผลบนใบหน้าของเจี่ยนอีหลิง มีแนวโน้มว่าจะเสียโฉมมาก ซึ่งหญิงสาวทุกคนต่างก็กังวลเกี่ยวกับปัญหานี้กันทั้งนั้น จินจินจึงพูดออกมาแบบนี้ เพื่อมอบความหวังให้กับเจี่ยนอีหลิง “ได้ แต่ฉันขอยืมโทรศัพท์มือถือของเธอ…โทรหาใครสักคนได้ไหม?” เจี่ยนอีหลิงถามเสียงเบา
“ได้สิ” จินจินยื่นโทรศัพท์ให้เจี่ยนอีหลิงอย่างใจกว้าง “ถ้าเธอมีครอบครัว เธอต้องรีบแจ้งพวกเขาให้รู้โดยเร็วที่สุด พวกเขาจะได้ไม่ต้องกังวล”
พวกเขาต้องกังวลอย่างแน่นอน แต่…มันผ่านมาสองปีแล้ว
เจี่ยนอีหลิงไม่รู้ว่าจ่ายหวินเชิ่งตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
เธอกลัว แต่สุดท้ายก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน
เจี่ยนอีหลิงความจําดีมาก ในหัวของเธอสามารถจดจ่าเบอร์โทรศัพท์ของผู้คนได้เป็นจํานวนมาก
แต่ตอนนี้ เธอไม่รู้ว่าจะโทรหาใครดี
เมื่อชาติที่แล้ว ในตอนที่เธอกําลังรอคอยความตายอยู่ในวอร์ด ก็ไม่มีใครที่สามารถติดต่อได้ แต่ตอนนี้ เธอไม่รู้จะบอกครอบครัวของตัวเองยังไงดี ว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่
เพราะสองปี มันนานเกินไป
เธอไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา และพวกเขาจะเป็นยังไงกันบ้าง…
โดยเฉพาะ…
เธอไม่รู้ด้วยซ้ําว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า
เธอฝันถึงเขาหลายครั้ง และในความฝันนั้นเป็นความฝันว่าเขาได้ตายไปแล้ว
เธอต้องการที่จะกลับมา และบอกกับเขาว่าเธอยังมีชีวิตอยู่
แต่เธอไม่สามารถกลับมาได้
แต่ในที่สุดเธอก็กลับมา แต่เธอรู้สึกกลัวที่จะกดโทรออก เพราะเธอกลัวว่าสิ่งที่ตัวเองได้ยินจะเป็นข่าวร้าย
ในตอนนั้นเอง ก็มีกลุ่มคนได้บุกเข้ามาจากนอกประตู
เมื่อนักเลงชายสองสามคนเข้ามา พวกเขาก็คว้าโทรศัพท์มือถือในมือของเจี่ยนอีหลิงไปทันที
“พวกนายจะทําอะไร?” จินจินถลึงตาใส่แขกที่ไม่ได้รับเชิญด้วยความโกรธ
“จินจิน พี่ชายของเธอติดหนี้พวกเราแล้วหนีไป พวกเราเลยหาตัวเขาไม่เจอ และแน่นอนว่าเราต้องมาหาเธอ”
“ฉันบอกไปแล้ว ว่าฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับผู้ชายคนนั้น ถ้าพวกนายต้องการเงินหรืออะไรก็ตาม ก็ไปตามหาเขาให้เจอสิ!”
จินจินหยิบไม้กวาดขึ้นมา และไล่คนพวกนี้ออกไปทันที
พี่ชายของเธอจินเฟิงเป็นคนเลว เขาออกไปเที่ยวข้างนอกตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ ถ้าวันไหน ไม่มีเงินก็จะขอเงินจากพ่อแม่ และถ้าพ่อแม่ไม่ให้ ผู้ชายคนนั้นก็จะลงไม้ลงมือทุบตีพ่อแม่อย่างโหดเหี้ยม
และต่อมาจินเฟิงก็บอกว่าจะไปทําธุรกิจกับเพื่อน แต่ความเป็นจริงแล้วผู้ชายคนนั้นไปทําอะไรที่ไหนก็ไม่มีใครรู้
เขาไม่กลับมาอีกเลย แม้แต่ตอนที่พ่อแม่เสียชีวิต
จินจินไม่เคยคิดว่าตัวเองมีพี่ชายแบบนั้นด้วยซ้ํา
เป็นผลให้เขากลับมาเมื่อครึ่งปีที่แล้ว และบอกว่าตัวเองต้องการเงินทุนเพื่อนําไปทําธุรกิจ และเขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หลังจากที่ยืมเงินจากคนอื่นๆ
คนพวกนั้นหาจินเฟิงไม่เจอ ดังนั้น พวกเขาจึงมาหาจินจินแทน
“ฉันจะบอกอะไรบางอย่างกับเธอ เป็นเรื่องธรรมดาและชอบธรรมที่จะต้องชําระหนี้ ซึ่งจินเฟิงเป็นพี่ชายของเธอ! ฉะนั้น ถ้าวันนี้เธอไม่จ่ายเงินคืนฉันล่ะก็ โทรศัพท์เครื่องนี้ และของมีค่าทั้งหมดในบ้านของเธอ ฉันจะเอามันไปให้หมด!
“พวกแกกล้าดียังไง!” จินจินตะโกนใส่พวกผู้ชายตรงหน้า
“ทําไมฉันจะไม่กล้า? ถ้าจะโทรแจ้งตํารวจก็แจ้งเลย ฉันจะได้ให้ตํารวจช่วยเอาเงินที่พี่ชายของเธอเป็นหนี้คืนมา!”
“คืนโทรศัพท์ให้เธอ แล้วฉันจะให้เงินนาย” เจี่ยนอีหลิงเปิดปากพูดกับพวกผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าจินจิน
“เธอมีเงินเหรอ? ถ้าอย่างนั้น ที่บอกไปก่อนหน้านี้ยอดรวม 128,000 หยวน รวมดอกเบี้ยแล้วก็เป็นจํานวนเงินทั้งหมด 183,000 หยวน จ่ายมาซะ!”
ชายคนนั้นยื่นมือออกไปหาเจี่ยนอีหลิงทันที
“ไม่ใช่ตอนนี้” เจี่ยนอีหลิงพูดขึ้นอีกว่า “ส่งโทรศัพท์มาให้ฉันก่อน แล้วฉันจะนําเงินมาให้เร็วๆนี้”
“ไม่ต้องมาพูดเรื่องไร้สาระกับฉัน! คําพูดแบบนั้นฉันได้ยินมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว เพราะจินเฟิงก็เคยพูดแบบนั้นเหมือนกัน แต่หลังจากนั้น เขาก็หายตัวไป!”
ชายคนนั้นพูดพลางถ่มน้ําลายลงพื้น “นังผู้หญิงอัปลักษณ์ ดูแลตัวเองให้ดีก่อนเถอะ!”
ตอนนี้ เจี่ยนอีหลิงมีรอยขีดข่วนอยู่บนใบหน้า และบนร่างกายของเธอเป็นจํานวนมาก อีกทั้งคราบเลือดก็เริ่มแห้ง ซึ่งดูน่าเกลียดมาก
บทที่ 1116 ได้ยินมาว่าคู่หมั้นของเธอตายแล้ว
“พี่น้องทั้งหลาย ค้นหาให้หมดทุกซอกทุกมุม ถ้าหากเจอของมีค่าอะไรที่ง่ายต่อการขนย้ายก็เอาออกมาทั้งหมด และถ้าไม่พอคราวหน้าค่อยกลับมาใหม่”
ชายคนนั้นสั่งการ และเริ่มขนของในบ้านจินจินอย่างรวดเร็ว
บ้านของจินจินเป็นพื้นราบที่ปูด้วยซีเมนต์ บริเวณพื้นที่ไม่ใหญ่มาก มีเพียงสองห้องเท่านั้นและเธอมักจะอาศัยอยู่คนเดียว
จินจินรีบพุ่งเข้าไปต่อสู้กับอีกฝ่ายอย่างสุดชีวิต
“ถ้าอยากได้ก็เข้ามาสิ ถ้าพวกแกต้องการขนของในบ้านหลังนี้ ก็ต้องข้ามศพฉันไปก่อน! คิดว่าคนอย่างฉันกลัวพวกแกจริงๆงั้นเหรอ?”
จินจินหลังจากที่เงียบมาโดยตลอด ก็ได้ระเบิดพลังมหาศาลออกมา ในขณะที่กําลังเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ชายตรงหน้าอย่างดุเดือด
พวกอันธพาลกลุ่มนี้ชอบรังแกคนที่อ่อนแอ แต่กลัวคนที่แข็งแกร่ง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะหยิ่งและป่าเถื่อนมากเพียงใด แต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาไม่กล้าลงมือฆ่าคนจริงๆ
“เอาเถอะ เอาโทรศัพท์เครื่องนี้ไปเป็นดอกเบี้ยก่อนแล้วกัน”
สมาร์ทโฟนเครื่องนี้สามารถขายได้ในราคา 800 ถึง 900 หยวน ถือซะว่าเป็นค่าแรงเพื่อนๆของเขาที่ต้องทํางานหนักในวันนี้
หลังจากที่ทะเลาะกันอยู่สักพัก พวกเขาทั้งหมดก็หันหลังเดินจากไป
ทันทีที่พวกเขาจากไปแล้ว จินจินก็ทรุดตัวลงกับพื้น
อันที่จริง เธอก็กลัวเหมือนกัน ซึ่งตอนนี้มือและเท้าของเธอสั่นมาก
หลังจากนั้นไม่นาน จินจินก็กลับมารู้สึกตัว และพูดกับเจี่ยนอีหลิงที่นอนอยู่บนเตียงว่า “ขอโทษที ฉันไม่สามารถให้เธอยืมโทรศัพท์มือถือได้แล้ว แต่รอก่อน ในตอนเย็นหมอจางที่โรงพยาบาลหมู่บ้านจะแวะมาที่นี่ เมื่อถึงเวลานั้นเธอก็ยืมโทรศัพท์มือถือของหมอจางแล้วกัน”
เจี่ยนอีหลิงมองจินจิน และเอ่ยขึ้นอย่างปลอบโยน “เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”
จินจินยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย พวกเขาแค่ต้องการเงินเท่านั้น ถึงมันจะรู้สึกแย่มาก แต่ฉันจะไม่ยอมรับหนี้ของจินเฟิงเด็ดขาด”
“อือ”
เจี่ยนอีหลิงมองไปรอบๆแล้วถามว่า “เธออยู่คนเดียวเหรอ?”
“ใช่ พ่อกับแม่ของฉันตายหมดแล้ว แม่ฉันประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ส่วนพ่อฉันก็จากไปด้วยมะเร็งตับ”
“ฉันใช้เงินไปเท่าไรในระหว่างที่รักษาตัวอยู่ที่นี่ แล้วฉันจะคืนเงินทั้งหมดให้กับเธอ”
“ไม่จําเป็น อย่างแรก อาการบาดเจ็บของเธอไม่ได้ทําให้ฉันเสียอะไรมาก อย่างที่สอง ฉันไม่ได้ยากจนขนาดนั้น ตัวฉันเรียนจบมหาวิทยาลัยด้วยการสนับสนุนจากคนใจดี และได้งานที่ดีหลังจากเรียนจบ หลังจากจ่ายเงินคืนให้กับคนใจดีแล้ว ก็ยังพอมีเงินเหลืออยู่บ้าง ฉันจึงได้กลับมาที่หมู่บ้าน เพื่อทําสัญญาที่ดินเอาไว้ปลูกผักอินทรีย์สีเขียว เพราะฉันสนใจเรื่องนี้มากในช่วงสองปีที่ผ่านมา และเมื่อมีเงินมากขึ้น ฉันวางแผนที่จะสร้างบ้านไร่ที่นี่”
จินจินค่อนข้างมองโลกในแง่ดี นอกจากนี้ยังมีแนวคิดเป็นของตัวเอง
“อือ เธอจะประสบความสําเร็จ”
“ขอยืมคํามงคลของเธอแล้วกันนะ” จินจินพูดกับเจี่ยนอีหลังว่า “พูดกันมาตั้งนานแล้ว ฉันยังไม่ได้ถามชื่อของเธอเลย?”
“เจี่ยนอีหลิง”
“การออกเสียงชื่อของเธอเหมือนกับหมออัจฉริยะ ที่ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกเมื่อสองปีที่แล้วเลย” จินจินถอนหายใจ “พระเจ้าคงอิจฉาพรสวรรค์ของผู้หญิงคนนั้น ไม่น่าเชื่อว่าเธอคนนั้นจะหายตัวไป และเพราะการจากไปของเธอคนนั้น เซียงตั๋วลี่ก็ไม่ได้เปิดตัวเวชสําอางใหม่มาเป็นเวลาสองปีแล้ว”
ในฐานะคนธรรมดา จินจินไม่มีโอกาสได้หมออัจฉริยะคนนั้นมารักษา แต่เวชสําอางที่เธอพัฒนามานั้น มีอิทธิพลอย่างมากต่อพวกเธอ ถึงแม้ว่าจะไม่เต็มใจที่จะซื้อมันก็ตาม
เครื่องบินที่เจี่ยนอีหลิงประสบอุบัติเหตุอยู่เหนือน่านน้ํามหาสมุทรแปซิฟิก และหมู่บ้านจินสุ่ยที่เธออาศัยอยู่ตอนนี้ เป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆทางตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งอยู่กันคนละทิศละทาง แถมไทม์ไลน์ยังห่างออกไปถึง 2 ปี จึงทําให้จินจินไม่ได้เชื่อมโยงเจี่ยนอีหลิงที่อยู่ตรงหน้ากับเจี่ยนอีหลิงที่หายสาบสูญไปในปีนั้น
“ฉันได้ยินมาว่า คู่หมั้นของเธอคนนั้นก็ตายเหมือนกัน” จินจินกล่าว
“เธอว่าอะไรนะ?”
“พวกเขาทั้งคู่อยู่ในทีมเดียวกัน และเรียกเขาว่าเทพ Z ในอินเทอร์เน็ตพวกเขาได้เข้าร่วมรายการ’Dear We Live Together และพวกเขายังได้โรยอาหารสุนัข*จํานวนมากในรายการนี้อีกด้วย”
(โรยอาหารสุนัข เป็นคําศัพท์บนอินเทอร์เน็ต หมายถึง การแสดงความรักต่อหน้าสาธารณะ)