เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 1101-1102
เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 1101 กระต่ายน้อยไปที่บาร์
จ่ายหวินเชิ่งหันไปมองหันเหมิงอวี้
“น่าเบื่อ”
จากนั้นจ่ายหวินเชิ่งก็ลุกขึ้นและเดินจากไป
“พี่หัน ดูนายสิ ถูกนายท่านเชิ่งโกรธแล้วไหมล่ะ? นายบอกวิธีเกลี้ยกล่อมคนรักยังไงให้นายท่านเชิ่ง? พี่สะใภ้กับผู้หญิงของนายท่าเหมือนกันได้รึไง?”
“นายไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้หรอก” หันเหมิงอวี้ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“งั้นนายคงเข้าใจสินะ นายเข้าใจแต่ก็ยังโสดอยู่ไม่ใช่เหรอ? คู่นอนก็เปลี่ยนคนแล้วคนเล่า แต่ก็ไม่มีใครไดไปต่อ
“นาย…นายชนะแล้ว…”
จ่ายหวินเชิ่งเดินลงไปที่โรงรถด้านล่าง เขาไม่ได้สตาร์ทรถทันทีหลังจากนั่งอยู่ตําแหน่งคนขับ
หลังจากนั่งอยู่พักหนึ่ง ใบหน้าเย็นชาที่สะท้อนอยู่ในกระจกมองหลังก็ปกคลุมด้วยชั้นน้ําแข็งใหญ่
เรื่องทั้งหมดมันไม่ง่ายเหมือนกับที่หันเหมิงอวี้และซิงเหว่ยหยอกล้อ
จ่ายหวินเชิงหยิบโทรศัพท์ออกมา เขามองไปยังหน้าจอโทรศัพท์ที่มืดลง และลังเลอยู่พัก หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กดหมายเลขโทรศัพท์เจี่ยนอีหลิง
กดโทรออก
แต่ไม่นาน เขาก็วางสาย
วางโทรศัพท์…
จ่ายหวินเชิ่งกําพวงมาลัยไว้แน่น
เขาเอนหลังพิงกับเบาะนั่งอย่างแรง
หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน จ่ายหวินเชิ่งก็สตาร์ทรถ
แล้วขับรถไปที่บาร์
จ่ายหวินเชิ่งน่าจะรู้ว่าเจี่ยนอีหลิงกําลังจะไปไหน
บอดี้การ์ดของเขาแอบปกป้องเจี่ยนอีหลิงอย่างลับๆ เจี่ยนอีหลิงรู้ดีและไม่ได้ทิ้งพวกบอดี้การ์ด ดังนั้นเขาจึงรู้ตําแหน่งคร่าวๆ ของเธอ
แม้จะเป็นแค่การคาดเดา
บาร์ เป็นที่ที่เจี่ยนอีหลิงไม่ควรไป
จ่ายหวินเชิ่งรู้ดีว่าเจี่ยนอีหลิงไม่ทําสิ่งที่ไม่ควรแน่นอน
แค่รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ที่เธอปิดบังเขา…
หัวหน้าทีมหร่วนเครียดกว่าปกติเมื่อต้องท่าภารกิจ
“อีหลิง ทําไมไม่ไปรอเราที่รถหน้าประตูล่ะ?” หัวหน้าทีมหร่วนอยู่ในรถคอยควบคุมส่วนกลางจากด้านนอก เขาพูดคุยกับเจี่ยนอีหลิงผ่านหูฟังบลูทูธ
หัวหน้าทีมหร่วนกลัวว่าอีกสักพักจะเกิดความวุ่นวายขึ้น และทําร้ายเจี่ยนอีหลิง อย่าว่าแต่สมาชิกคนอื่นในทีมจะไม่เต็มใจเลย ถ้าลูกพี่ลูกน้องของเจี่ยนอีหลิงที่เก่งมากคนนั้นรู้เข้า เขาก็ทนไม่ได้เหมือนกัน
“อีกฝ่ายจะไม่ปรากฏตัวถ้าไม่เห็นฉัน” เจี่ยนอีหลิงพูดอย่างมั่นใจ
หลายวันมานี้ เจี่ยนอีหลิงและหัวหน้าทีมหร่วนกําลังยุ่งอยู่กับการเคลื่อนไหวที่เหมาะสม เพื่อเอาชนะฝ่ายตรงข้ามในครั้งเดียวเมื่อการแลกเปลี่ยนของวันนี้เริ่มขึ้น
เจี่ยนอีหลิงและหัวหน้าทีมหร่วนได้ตรวจสอบในช่วงสองปีที่ผ่านมา จนรู้ว่าฆาตกรเป็นคนรวยระดับโลก และมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งมาก
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทําไมเขาถึงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลังจากก่ออาชญากรรมต่อจ่ายป๋อเชินในเมืองหลวง
หลังจากนั้น เจี่ยนอีหลิงก็ใช้โรงพยาบาลลั่วไห่เซินเพื่อทําการสืบสวนหลายครั้ง
เรื่องนี้หัวหน้าทีมหร่วนแอบอิจฉาจ่ายหวินเชิ่งเล็กน้อย
เจี่ยนอีหลิง เขารู้จักผู้หญิงคนนี้มาสองปีแล้ว สองปีมานี้ ความรู้สึกที่เขาสัมผัสได้มากที่สุด จากเธอคือความเย็นชา
และหนึ่งในสิ่งที่สําคัญที่สุดสําหรับเธอ คือการทําเพื่อจ่ายหวินเชิ่ง
หัวหน้าทีมหร่วนรู้ว่าเมื่อคนเย็นชาตกหลุมรัก ความรักจะถูกสลักเข้าไปในกระดูกของพวกเขา เสียงของสมาชิกในทีมที่ประจําการอยู่นอกประตูดังออกมาจากหูฟังบลูทูธ
คนที่พวกเขารอมาถึงแล้ว
หัวหน้าทีมหร่วนพูดกับสมาชิกทุกคนในทีมว่า “ทุกคนระวังด้วย หนูปรากฏตัวขึ้นแล้ว แมวขาวที่บาร์ และแมวแท็บบี้ที่อยู่ใกล้ S2 ภารกิจแรกคือการปกป้องแมวนําโชค”
ภายในหูฟังบลูทูธ หัวหน้าทีมหร่วนเตือนสมาชิกในทีมซ้ําๆ ว่าต้องปกป้องเจี่ยนอีหลิง หลังจากนั้นไม่นาน ชายคนหนึ่งก็เดินเข้าไปหาเจี่ยนอีหลิงอย่างช้าๆ
บทที่ 1102 ความแค้นที่แย่งภรรยา
ผู้ชายคนนั้นสูงประมาณ 190 เซนติเมตร ดูแล้วน่าจะอายุประมาณ 40 หรือ 50 ปี ที่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี นอกจากมีริ้วรอยย่นจางๆ อยู่ตรงหางตาแล้ว ใบหน้าของเขาก็ไม่มีร่องรอยอะไรมาก ชายคนนั้นสวมเสื้อโค้ท เมื่อมาถึงที่โต๊ะของเจี่ยนอีหลิง เขาก็ถอดเสื้อโค้ทออกและแขวนไว้บนเก้าอี้ด้านข้าง
จากนั้นเขาก็นั่งลงบนโซฟาตรงข้ามกับเจี่ยนอีหลิง และเอามือเท้าคางไว้
เวลานี้ในบาร์มีคนไม่มาก แต่ก็ยังมีเสียงดังอยู่เล็กน้อย ไม่ใช่สถานที่เหมาะแก่การพูดคุยเรื่องต่างๆ
“ในที่สุดเราก็พบกัน” ผู้ชายนั้นยิ้มอย่างคลุมเครือ
สัญญาณอันตรายเล็ดลอดออกมาจากร่างของเขา
“คุณรู้จักฉัน?” เจี่ยนอีหลิงมองไปที่ชายตรงหน้า และถามอย่างใจเย็น
“ตั้งแต่วันที่เธอหมั้นหมายกับนายน้อยตระกูลจ่าย ฉันก็สนใจเธอมาตลอด ทุกสิ่งที่เธอทําในเป่ยจิง ทุกการค้นหายอดนิยมของเธอ ฉันคอยจับตาดูอยู่” มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย ดูเต็มไปด้วยความสนุกสนาน
“คุณกับตระกูลจ่ายมีความแค้นอะไรกัน?” เจี่ยนอีหลิงมุ่งตรงไปข้างหน้า และถามโดยตรง “ความแค้นที่แย่งภรรยาของฉันไปนับรวมด้วยไหม?” ชายคนนั้นยิ้ม “จ่ายป๋อเชินแย่งผู้หญิงของฉันไป แต่กลับไม่ดูแลเธอให้ดี ปล่อยให้เธอตายในห้องคลอด ถ้าอย่างนั้นเขาควรไปอยู่เป็นเพื่อนเธอไม่ใช่เหรอ?”
ปากพูดด้วยความเคียดแค้น แต่ใบหน้าของเขากลับมีรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา
เจี่ยนอีหลิงขมวดคิ้ว
ชายคนนั้นมองที่เจี่ยนอีหลิงและพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องกังวล ขอแค่เธอเชื่อฟัง ฉันจะไม่แตะต้องเธอกับอาเชิ่ง เขาเป็นลูกชายของผู้หญิงคนนั้น เป็นชีวิตที่เหลืออยู่ของเธอ ไม่เพียงแต่สืบทอดความงามเธอมา แม้แต่หัวใจที่เป็นเอกลักษณ์ของผู้หญิงคนนั้น เขาก็ยังสืบทอดมาด้วยแล้วฉันจะยอมท่าร้ายเขากับเธอได้ยังไงล่ะ?”
เจี่ยนอีหลิงถามต่อ “คุณกับตระกูลกู๊ดแมนมีความสัมพันธ์อะไรกัน?”
“ภรรยาที่ตายไปแล้วของฉันเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลกู๊ดแมน เธอคิดว่าฉันกับตระกูลพว เขามีความสัมพันธ์อะไรต่อกันล่ะ? คนที่เธอเพิ่งเจอเมื่อไม่นานมานี้ที่ว่าชื่อแอนนา น่าจะเรียกฉันว่าอาเขย”
ผู้ชายคนนี้มีความเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับตระกูลกู๊ดแมน เขาจึงรู้เรื่องเข็มทิศดี
“คูณจะใช้เข็มทิศท่าอะไร?” เจี่ยนอีหลิงถาม
“แน่นอนว่าฉันต้องการแผนที่สมบัติบนเข็มทิศ” ชายคนนี้พูดพร้อมรอยยิ้ม “ไม่อย่างนั้น เธอคิดว่าทําไมฉันถึงอยากคุยกับเธอมากขนาดนี้ เพราะฉันรู้ว่าถ้าถามเธอตัวต่อตัว เธอจะบอกความลับของแผนที่สมบัติ ใช่ไหม?”
“ฉันไม่อยากให้เข็มทิศกับคุณ” เจี่ยนอีหลิงกล่าว
“สาวน้อยน่ารัก เธอไม่คงคิดว่าลุงอย่างฉันจะเอาผ้าห่มคลุมโปง แล้วตอบแค่สิ่งที่เธอถาม แต่สุดท้ายไม่ได้อะไรจากเธอเลยใช่ไหม?”
ใบหน้าของชายวัยกลางคนเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจ ราวกับว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมเขา เจี่ยนอีหลิงก็เป็นเพียงเนื้อปลาชิ้นหนึ่งบนเขียงของเขาเท่านั้น
หลังจากที่เขาพูดจบ ก็ชื่นชมสีหน้าของเจี่ยนอีหลิง
น่าเสียดายที่สาวน้อยคนนี้ขาดการแสดงสีหน้ามาตั้งแต่เกิด เขาจึงมองไม่เห็นสีหน้าประหลาดใจและสับสนจากใบหน้าของเธอ
ใบหน้าเล็กๆ บอบบางที่น่ารักแบบนี้ ช่างน่าเสียดายจริงๆ
ไม่รอให้เจี่ยนอีหลิงเปิดปากพูด ชายวัยกลางคนก็แก้ปริศนาตัวเขาเอง “ทําไมเธอถึงคิดว่าฉันขอให้เธอมาที่บาร์นี้? เพราะนี่คือพื้นที่ของฉัน ทุกการเคลื่อนไหวของเธอที่นี่อยู่ภายใต้การควบคุมของฉัน ไอคิวของเธอสูงมาก และเธอควรรู้ว่าต้องทํายังไงถึงจะประหยัดเวลามากที่สุด” ชายคนนี้ยังคงพูดอย่างไม่ใส่ใจ “นอกจากนี้ เธอน่าจะลองดูว่ายังสามารถติดต่อกับของตัวได้ อยู่รึเปล่า มีเกราะป้องกันอยู่ในตําแหน่งนี้ และฉันสามารถเปิดใช้งานได้ตลอดเวลา”