เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 1091-1092

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 1091 เธอไม่คู่ควรที่จะรู้

หลังจากทําความเข้าใจกันสั้นๆแล้ว ทีมงานก็จัดให้แขกรับเชิญสองกลุ่มมาเล่นเกมด้วยกัน เกมแรกคือ “Zerg Invasion” และต่อด้วยเล่นเกมโป๊กเกอร์

จ่ายหวินเชิ่งและเจี่ยนอีหลิงชนะโดยไม่มีแรงกดดันใดๆ

จากนั้น ทางทีมงานก็คิดโปรเจกต์ขึ้นมาใหม่ โดยการให้เลือกชุดให้กับอีกฝ่าย คืนนี้จะมีงานเต้นรํา

ลูซี่เข้าไปในห้องแต่งตัวของเจี่ยนอีหลิง และเริ่มเลือกชุด รองเท้า และกระเป๋าสําหรับเจี่ยนอีหลิงอย่างระมัดระวัง

ลูซี่เป็นผู้หญิงจากตระกูลดัง เธอจึงมีวิสัยทัศน์ที่ดี ทําให้กระโปรงที่เธอเลือกนั้นเหมาะกับเจี่ยนอีหลิงมาก

รองเท้ายังเลือกรองเท้าส้นแบนที่เจี่ยนอีหลิงชอบเป็นพิเศษ

เธอดูเอาใจใส่มาก

ถึงขั้นตอนสุดท้าย เป็นการเลือกเครื่องประดับ

ลูซี่ถามเจี่ยนอีหลิงว่าเครื่องประดับอยู่ที่ไหน

เจี่ยนอีหลิงจึงดึงกระเป๋าเดินทางออกมาจากห้องนอน

ลูซี่ ที่ก่อนหน้านี้มีสายตาที่นิ่งสงบมาตลอด ในที่สุดก็เผยแสดงอาการแปลกประหลาดออกมาเล็กน้อย เมื่อเธอเห็นกระเป๋าเดินทางใบนี้

ในมุมที่กล้องมองไม่เห็น ดวงตาของลูซี่จ้องเขม็งไปที่กระเป๋าเดินทาง ซึ่งในแววตาของเธอเต็มไปด้วยความคาดหวัง

กระเป๋าเดินทางไม่ได้ตั้งรหัสผ่าน และเจี่ยนอีหลิงสามารถเปิดได้โดยตรง

ภายในกระเป๋าเดินทางเต็มไปด้วยเครื่องประดับ และอัญมณีที่มีมูลค่านับไม่ถ้วนวางอยู่อย่างไรก็ตาม ลูซี่ไม่พบเข็มทิศของตระกูลที่เธอเฝ้านึกถึง

เป็นไปได้ยังไง?

แล้วเข็มทิศของตระกูลอยู่ที่ไหน? ทําไมมันถึงไม่อยู่ในกระเป๋าใบนี้?

เหตุการณ์ไม่คาดคิดนี้ได้ทําลายแผนการเดิมของลูซี่ลงทั้งหมด

เธอยืนอยู่หน้ากระเป๋าเดินทางเป็นเวลานาน ดูเหมือนลังเลว่าจะเลือกเครื่องประดับชุดไหนให้กับเจี่ยนอีหลิง

หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็เลือกชุดเครื่องประดับเพชรที่เรียบง่าย แต่สง่างามออกมาให้เจี่ยนอีหลังใส่

ลูซี่จ้องมองไปที่ผู้หญิงตรงหน้า แต่เธอเห็นเพียงดวงตาที่เยือกเย็นและไร้คลื่นของเจี่ยนอีหลิงเท่านั้น

“เจี่ยนอีหลิง แผ่นดิสก์ในกระเป๋าเดินทางของเธออยู่ที่ไหน?” ลูซี่กระซิบที่หูของเจี่ยนอีหลิงตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์บันทึกเสียงในห้องไม่ได้ยินเสียงของเธอ

เจี่ยนอีหลิงเหลือบมองลูซี่เล็กน้อย “เธอกําลังพูดถึงเข็มทิศของตระกูลเธองั้นเหรอ?” เมื่อได้ยินคำพูดของเจี่ยนอีหลิง ใบหน้าของลูซี่ก็ไม่สามารถเยือกเย็นได้อีกต่อไป “เธอรู้งั้นเหรอ ?!”

“ฉันรู้” เป็นคําตอบที่แผ่วเบาค่อนข้างแตกต่างจากลูซี่มาก

“ขายมันให้ฉัน แพงแค่ไหนฉันก็จะซื้อ!”

“มันไม่สามารถซื้อขายกันได้” เจี่ยนอีหลิงตอบ

“ถ้าอยู่ในมือของเธอมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย แต่มันจะมีประโยชน์เฉพาะกับคนในตระกูลกู๊ดแมนเท่านั้น”

“เธอควรกลับไปถามวิธีที่ถูกต้องในการใช้เข็มทิศนี้เสียก่อน” เจี่ยนอีหลิงตอบอย่างเฉยเมย

“เธอหมายความว่ายังไง?” ลูซี่ตะลึง

มีอะไรที่เธอไม่รู้เกี่ยวกับเข็มทิศนี้บ้างไหม?

แต่ทําไมเจี่ยนอีหลิงถึงรู้?

“บอกฉันที เข็มทิศนี้หมายความว่ายังไง? แล้วทําไมมันถึงมาอยู่ในมือของเธอ?” ลูซี่ถามเจี่ยนอีหลิงอย่างร้อนรน

ถ้าไม่ใช่เพราะเธอยังอยู่ในการถ่ายทอดสด ลูซี่คงตะโกนออกไปแล้ว

โชคดีที่ตอนนี้เธอหันหลังให้กับกล้อง ไม่อย่างนั้นผู้ชมทุกคนจะเห็นสีหน้าที่บิดเบี้ยวของเธอ

“เธอไม่คู่ควรที่จะรู้” คําตอบของเจี่ยนอีหลิงนั้นเย็นชามาก

“ทําไมฉันถึงไม่คู่ควรล่ะ?”

“เธอพร้อมที่จะขโมย เธอไม่คู่ควร”

“ฉัน…” ลูซี่สําลัก เธอได้รับการคาดการณ์จากเจี่ยนอีหลิงไว้ก่อนที่เธอจะลงมือทํา

ความรู้สึกที่ถูกมองผ่านนี้ ทําให้ลูซี่รู้สึกปลือยเปล่า เมื่ออยู่ต่อหน้าเจี่ยนอีหลิง

ลูซี่ก้มศีรษะลงเล็กน้อย และมองไปยังผู้หญิงที่มีเสน่ห์และอ่อนโยนคนนี้

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ความกลัวได้คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเธออย่างช้าๆ

เห็นได้ชัดว่าเจี่ยนอีหลิงกําลังดูถูกเธอ

แต่ทําไมทุกอย่างดูเหมือนจะอยู่ภายใต้การควบคุมของเจี่ยนอีหลิงทั้งหมด?

บทที่ 1092 ทําไมทุกคนถึงเคารพเจี่ยนอีหลิง

แม้แต่สิ่งที่เธอต้องการมากที่สุด ก็ยังอยู่ภายในการควบคุมของเจี่ยนอีหลิง!?

ลูซี่จ้องมองไปที่เจี่ยนอีหลิงเป็นเวลานาน โดยที่ไม่ได้ละสายตาไปที่ไหนเลย

เจี่ยนอีหลิงไม่สนใจลูซี่แม้แต่น้อย หลังจากที่แต่งตัวเสร็จแล้ว เธอก็หันหลังเดินจากไปทันที

ลูซี่จ้องเจี่ยนอีหลิงที่เดินจากไปด้วยสายตาที่ว่างเปล่า

หลังจากนั้นไม่นาน ลูซี่ก็ฟื้นคืนสติ และเดินตามเจี่ยนอีหลิงออกไป

เธอต้องรู้ให้ได้ว่าเจี่ยนอีหลิงรู้อะไรกันแน่ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เข็มทิศของตระกูลจะมาปรากฏอยู่ในมือของผู้หญิงคนนั้น และต้องมีบางอย่างที่เธอไม่รู้เกี่ยวกับมันอย่างแน่นอน

เธอต้องรู้ให้ได!

ทั้งสี่คนกําลังเดินทางไปที่งานเต้นรําา

หลังจากที่มาถึง ก็มีบางสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับลูซี่

เธอเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยมากมาย

และพวกเขาก็คือตระกูลกู๊ดแมน!

เหล่าสมาชิกของตระกูลกู๊ดแมนที่มีตัวตนมากกว่าเธอ!

ไม่มีทางที่คนเหล่านี้จะมาอยู่ด้วยกัน ถ้าไม่มีเหตุผลที่ดีพอ

ปกติแล้วนอกจากวันพบปะในตระกูลแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะพบสมาชิกของตระกูลจํานวนมากในครั้งเดียว

“ลูซี่ เธออยู่ที่นี่นี่เอง?”

สาวสวยผมบลอนด์ และดวงตาสีฟ้าเดินมาหาลูซี่

เช่นเดียวกับลูซี่ เธอมีผิวที่ขาวเนียน ใบหน้าที่งดงาม และมีรูปร่างที่สูงกว่าลูซี่เล็กน้อย

เมื่อลูซี่เห็นใบหน้าของผู้หญิงคนนี้ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมอย่างรวดเร็ว

ญาติของเธอ! อันนาผู้เป็นที่รักของบรรดาผู้อาวุโสในตระกูลกู๊ดแมน!

“เธอมาทําอะไรที่นี่?” เสียงของลูซี่เย็นชาลงอย่างเห็นได้ชัด แต่เพราะมีกล้องของทีมงานอยู่ไม่ไกล เธอจึงไม่กล้าแสดงความเกลียดชังออกมาต่อหน้ากล้อง

“หมายความว่ายังไง? ญาติที่น่าสงสารของฉัน” อันนาเลิกคิ้ว

“ใครน่าสงสาร?” ลูซี่เกลียดใบหน้าของอันนามาก

“เธอไม่รู้ด้วยซ้ําว่าวิธีที่ถูกต้องในการรับเข็มทิศของตระกูลจะต้องทํายังไง เธอคิดแค่ว่าเธอต้องเป็นเจ้าของเข็มทิศเท่านั้น แล้วจะไม่ให้ฉันสงสารเธอได้ยังไง?”

และนี่เป็นครั้งที่สอง ที่ลูซี่ได้ยินประโยคแบบนี้

เกี่ยวกับเข็มทิศของตระกูล มีบางอย่างที่เจี่ยนอีหลิงและอันนารู้ แต่เธอไม่รู้

ลูซี่กัดฟัน “เธอจงใจปิดบังฉัน?”

“จงใจปิดบังงั้นเหรอ?” อันนาดูถูกเหยียดหยามและยั่วยุต่อว่า “ไม่จําเป็นต้องปิดบัง แค่เธอกับพ่อโง่ๆของเธอไม่มีคุณสมบัติพอที่จะรับรู้ก็เท่านั้นเอง”

“อันนา อย่าภูมิใจไปเลย” ลูซี่ตอบด้วยน้ําเสียงเย็นชา

หัวใจของลูซี่ เต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ

เธอไม่เข้าใจ ว่าทําไมเธอกับพ่อทํางานหนักถึงขนาดนี้ แต่ก็ยังไม่ได้รับการยอมรับจากตระกูล

“ยังไงก็ตาม ฉันจะไม่พูดเรื่องไร้สาระกับเธอแล้ว ฉันไปหามิสเจี่ยนดีกว่า”

อันนาหันหลัง แล้วเดินไปที่เจี่ยนอีหลิงอย่างสง่างาม

“มิสเจี่ยน ฉันชื่นชมคุณมานานแล้ว ในที่สุดวันนี้ก็ได้พบคุณซะที”

อันนาทักทายเจี่ยนอีหลิงด้วยรอยยิ้ม

ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของอันนา ไม่เพียงแต่ลดความหยิ่งยโสที่ปรากฎอยู่ในแววตาของเธอเท่านั้น แต่เธอยังลดทิฐิลง และเริ่มทําความรู้จักกับเจี่ยนอีหลิงอย่างจริงจัง

สถานะของอันนาในตระกูลกู๊ดแมนนั้น สูงกว่าสถานะของลูซี่ผู้ซึ่งถูกมองข้าม

“อือ” เจี่ยนอีหลิงพยักหน้าเป็นค่าตอบ

“มิสเจี่ยนฉันไม่รู้ว่าจะทําอะไรให้คุณได้บ้าง” อันนายิ้มอย่างจริงใจ

“ยังไม่มี” เจี่ยนอีหลิงตอบ

“ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือจากฉัน โปรดบอกฉันได้เสมอ” อันนาพูดแล้วยื่นนามบัตรของตัวเองให้กับเจี่ยนอีหลิง

เธอยื่นนามบัตรด้วยมือทั้งสองข้าง ซึ่งการกระทําเล็กๆน้อยๆนี้ ทําให้คนอื่นรู้ว่าอันนาให้เกียรติเจี่ยนอีหลิงแค่ไหน

“อือ” เจี่ยนอีหลิงรับนามบัตรของอันนา และใส่ไว้ในกระเป๋าของตัวเอง