เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 1081-1082
เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 1081 เวินเจ๋อเริ่มช่วยอีกครั้ง 1
ตระกูลเจี่ยนมีความสามัคคีมีความสุขอยู่ที่นั่น แต่ลูซี่เศร้าสร้อยและเย็นชา ไช่ชิงเยว่ล้มเหลวในการเคลื่อนไหวครั้งนั้น ทําให้ตัวหมากรุกนี้ถูกเธอทิ้งไปโดยสิ้นเชิง
เธอไม่รู้ว่าต้องทํายังไงต่อไป
ตอนนี้ความคิดเดียวกันกับพ่อของเธอก็ผุดขึ้นมาในหัว เธอใช้กลอุบายเสี่ยงหาโอกาสลักพาตัวเจี่ยนอีหลิงหรือให้คนแอบเข้าไปในที่พักของเจี่ยนอีหลิงและขโมยของในกล่อง เพราะนั่นเป็นวิธีที่ตรงและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
โชคดีที่เหตุผลสุดท้ายดึงเธอกลับมา
เธอทําไม่ได้ เธอไม่มีทางเดินตามรอยพ่อของเธอแน่นอน
ลูซี่กําลังดูตัวอย่างรายการตอนต่อไปของรายการ “Dear Let’s Live Together” ทันใดนั้นก็เห็นว่ารายการกําลังจะเตรียมจัดให้แขกรับเชิญได้โต้ตอบกันและจะมีแขกรับเชิญร่วมกัน
เมื่อเห็นแบบนี้ลูซี่ก็เกิดความคิด
เธอสามารถใช้แขกคนอื่นๆไปที่บ้านของเจี่ยนอีหลิง
บางทีในเวลานั้นเธออาจจะมีวิธีที่จะได้เห็นเข็มทิศของตระกูล บางทีเธออาจจะมีโอกาสได้เข็มทิศไป
แม้จะไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้ทําได้แค่รักษาม้าตายต่างม้าเป็น* เท่านั้น
เดิมพันอาจจะมีโอกาส ถ้าเธอไม่เดิมพันเธอจะไม่มีโอกาสเลย
เมื่อ คิดถึงสิ่งนี้ ลูซี่จึงให้ผู้คนของเธอช่วยนําข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแขกกรับเชิญคนอื่นที่เข้าร่วมในรายการมาให้ลูซี่ติดต่อทีมงานรายการ…
###
ในคืนวันศุกร์ เวินเจ๋อกลับมาอีกครั้งพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่
เขากลับไปอยู่กับพ่อแม่เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์และไปโรงเรียนเป็นเวลาหลายวัน
“เด็กน้อย นายมีไอคิวแล้ว ยังต้องไปโรงเรียนอีกเหรอ ?” เงี่ยนอี้เฉินหยอกล้อเวินเจ๋อ
“แม่บอกว่าถึงผมจะมีไอคิวค่อนข้างสูงแต่ผมก็ยังเด็กอยู่ ผมต้องอยู่ร่วมกับเพื่อนๆเพื่อที่จะได้พัฒนารอบด้านและจะได้ไม่โตไปเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งกระด้าง ดังนั้น ในแต่ละภาคเรียนผมต้องตอกบัตรเข้าโรงเรียนให้ครบสามสิบวัน และต้องเข้าสอบกลางภาคด้วย
“แล้วทําไมนายถึงกลับมา? คราวนี้นายคิดจะทําอะไรกับพี่สาวหลิงหลิงอีกงั้นเหรอ?”
“เฮ้ แน่นอน ผมจะช่วยพี่สาวจัดการกับพี่เขย”
“เป็นเรื่องที่ดีสําหรับเขาเพราะแม้แต่คําว่า ‘อนาคต’ ก็ถูกละไว้”
“ถ้าพี่เขยของผมไม่สามารถเป็นพี่เขยได้ในอนาคตได้จริงๆ พี่สาวหลิงจะต้องเสียใจ ผมเรียกเขาว่าพี่เขยเพื่อเป็นตัวแทนของความปรารถนาดีที่ผมมีให้เขา”
“นายเพี้ยนไปเยอะเลย” เจี่ยนอี้เฉินยอมจํานนต่อเจ้าเด็กคนนี้ “อย่าพูดเลย เดี๋ยวพี่ช่วยผมหน่อย”
“ฉันจะช่วยนายได้ยังไง?”
“ผมกลับบ้านไปคุยกับท่านแม่อย่างจริงจัง พี่เขยคนนี้ดื่มเหล้าไม่ได้ ใช้ยาไม่ได้ ดังนั้นหากอยากให้เขายอมเชื่อฟังอย่างว่าง่าย ก็ต้องใช้กําลังเท่านั้น”
“นายต้องการใช้กําลังกับจ่ายหวินเชิ่งงั้นเหรอ?” เจี่ยนอี้เฉินมองเด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ํานมตรงหน้า และรู้สึกว่าเขากําลังฝัน “ยอมแพ้เถอะ แม้ว่าหัวใจของหมอนั่นจะไม่ดี แต่นายก็สามารถตายได้ทุกเมื่อ ตราบใดที่หัวใจของเขายังเต้นอยู่ ค่าพลังก็แข็งแกร่งมาก คนทั่วไปไม่สามารถจัดการได้ นับประสาอะไรกับเจ้าเด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ํานมอย่างนายเอง
“อย่าประมาทผม ผมเคยเรียนเทควันโดมาแล้ว” เวินเจ๋อพูดพร้อมกับเขย่ากําปั้นเล็กๆของตัว ในฐานะที่เป็นชายหนุ่มยุคใหม่ที่มีคุณธรรมและสติปัญญาที่ได้รับการพัฒนาอย่างรอบด้านเวินเจ๋อให้ความสําคัญกับการออกกําลังกายมาตั้งแต่เด็กว่ายนํา ฟันดาบ ปีนหน้าผา ชกมวย ทุกประเภท
“แค่เรียนเทควันโดแล้วอยากชนะจ่ายหวินเชิ่งเหรอ? อาบน้ําแล้วนอนซะ นายทําได้ทุกอย่างในความฝัน ”
บทที่ 1082 เวินเจ๋อเริ่มช่วยอีกครั้ง 2
“ฮึ! แล้วพี่จะช่วยไหม? ถ้าพี่ไม่ช่วยก็ช่างมันเถอะ” เวินเจ๋อพูด “พี่หลิงที่น่าสงสาร มีแค่ผมคนเดียวที่คิดถึงเธอด้วยความจริงใจ พี่ชายอย่างพวกพี่ได้แต่พูด แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาเลย พี่สาวต้องการแค่นี้ พวกพี่ก็ไม่ช่วย พี่สาวน่าสงสารจริงๆ…”
“เด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ํานม นายกําลังพึมพําอะไรอยู่? ยังไงฉันก็จะไม่ทําให้เสี่ยวหลิงเจ็บอีกแล้ว”
เวินเจ๋อเมินใส่เงี่ยนอี้เฉินและพูดต่อไปว่า “เฮ้อ พี่สาวน่าสงสารจัง พี่สาวทําทุกอย่างด้วยตัวเอง บางอย่างก็ทําได้ไม่ดี ไม่มีใครอยู่ข้างเธอที่จะสามารถช่วยเธอได้เลย เธออยู่คนเดียว… ” “เอาล่ะ ได้” เจี่ยนอี้เฉินรีบดักคอเวินเจ๋อ “ให้ฉันช่วยไหม?”
ฉันทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว
“พี่พูดเองนะ” สีหน้าของเวินเจ๋อเปลี่ยนไปในวินาทีเดียว ตอนแรกเขาทําท่าเหมือนจะร้องไห้ออกมา แต่ในวินาทีต่อมาเขาก็ยิ้มราวกับจิ้งจอกน้อย
เจี่ยนอี้เฉินมีความรู้สึกว่าเขาบังเอิญขึ้นเรือโจรไปอย่างไรอย่างนั้น
“พูดตรงๆนะ พลังการต่อสู้ของฉันมีจํากัด ถ้านายโดนเตะ ฉันจะช่วยนายอย่างสุดความสามารถ เป็นไปไม่ได้ที่จะอยากให้ฉันเอาชนะเขา
เจี่ยนอี้เฉินมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับความสามารถในการต่อสู้ของตัวเอง
“โอ้! ไม่มีปัญหา” เวินเจ๋อตอบตกลง
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ เวินเจ๋อก็เรียกจ่ายหวินเชิ่งไปที่ห้อง
“พี่เขย ผมมีความลับจะบอก เข้ามา! ”
เวินเจ่อกระพริบตาอย่างขี้เล่น ดวงตาทั้งสองเขาด่าสนิทและสดใส
ด้วยคําว่า “พี่เขย” ทําให้จ่ายหวินเชิ่งเดินตามเข้าไปในห้องโดยไม่ถามอะไร เมื่อเขาเข้ามาเด็กชายตัวน้อยก็ลงมือทันที เขาใส่กุญแจมือที่มือซ้ายของจ่ายหวินเชิ่ง
ในเวลาเดียวกันเวินเจ๋อก็ดึงจ่ายหวินเชิ่งและต้องการที่จะให้อีกด้านของกุญแจมือไปเกี่ยวที่หัวเตียง
แต่เวลานี้จ่ายหวินเชิ่งเข้าใจเจตนาของเด็กน้อยแล้ว เขายืนนิ่ง ไม่ขยับเขยื้อน
ไม่ว่าเหวินเจ๋อจะใช้แรงจากการดื่มนมมากแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถขยับอีกฝ่ายได้แม้แต่นิดเดียว
“โอ้ย ทําไมตัวหนักจัง! ” เวินเจ่อหน้าแดง
ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้ความรุนแรงมากขึ้น
เวินเจ่ออยากจะลงมือกับจ่ายหวินเชิง
ทันทีที่เขาต่อย เขาก็ถูกมืออีกข้างของจ่ายหวินเชิ่งจับไว้
กําปั้นเล็กๆของเขาชกไปที่ฝ่ามือใหญ่ เหมือนชกลงไปในทะเลแล้วกระทบกับหิน แม้แต่น้ํากระเซ็นก็มองไม่เห็น
อย่าว่าแต่โจมตีจ่ายหวินเชิ่งเลย แม้แต่การดึงหมัดเล็กๆกลับมาก็ยังทําไม่ได้
“ฮือ…พี่เขย เบาๆหน่อย มือผมกําลังจะหัก” เวินเจ่อรีบอ้อนวอนขอความเมตตา
“นายจะทําอะไร?”
จ่ายหวินเชิ่งมองไปในห้องและเห็นว่านอกเหนือจากที่อยู่ในมือเขาแล้ว ยังมีกุญแจมืออยู่อีกสามชุด
“มัดพี่เขยไว”
เวินเจ่อได้แต่ยอมรับอย่างว่าง่าย
“มัดฉันไว้หาไม?”
“อือ…” เวินเจ๋อตอบด้วยความรู้สึกผิดว่า “ด้วยวิธีนี้ พี่จะไม่สามารถต่อต้านพี่หลิงได้” เวินเจ๋อเข้าใจดีว่าพี่หลิงไม่มีพลังการต่อสู้ และต้องการให้จ่ายหวินเชิ่งเชื่อฟังคําสั่งเธออย่างว่าง่าย มีเพียงเขาเท่านั้นที่ช่วยควบคุมจ่ายหวินเชิ่งได้
ดังนั้นหลายวันมานี้ตอนที่เขาอยู่บ้าน เขาจึงปรับแต่งกุญแจมือเหล่านี้สําหรับจ่ายหวินเชิ่ง แผนเขารอบคอบมาก แต่ประเมินพลังการต่อสู้ของพี่เขยที่สุขภาพร่างกายไม่ดีต่ําเกินไป หรืออาจกล่าวได้ว่าประเมินพลังการต่อสู้ของตัวเองสูงเกินไป
“ใครสอนวิธีนี้ให้นาย?” จ่ายหวินเชิ่งถาม
“ผมขอค่าแนะนําจากแม่” เวินเจ่อสารภาพ
“แม่นาย…ให้นายใส่กุญแจมือฉันไว้กับเตียงงั้นเหรอ?”
“อื้อ” เวินเจ๋อพยักหน้าอย่างตรงไปตรงมา “แม่ผมบอกว่า ตราบใดที่ผมใส่กุญแจมือพี่ไว้ได้เรื่องที่เหลือก็จะสําเร็จ”