เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god) - ตอนที่ 2519 - การล่อลวงของน้ำนรก
ตอนที่ 2519 – การล่อลวงของน้ำนรก
ผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตตั้งต้นทุกคนต่างล้วนประหลาดใจอย่างมากกับการกระทำที่ไม่คาดคิดของผู้พิทักษ์ชาน ผู้พิทักษ์ชานกลายเป็นคนว่าง่ายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
อย่าลืมว่าบุคคลที่เขาเผชิญในตอนนี้ไม่ใช่นายน้อยหมิง หรือไม่ใช่ผู้อาวุโสหมิงหรือผู้อาวุโสซู ที่เป็นขั้นบรรพกาล
ในตระกูลเทียนหยวน ผู้พิทักษ์ชานจะกล้ำกลืนศักดิ์ศรีของเขาและลดระดับตัวเองลงต่อหน้าเขาทั้งสามคน เขาไม่เคยทำแบบนั้นกับคนอื่น
“ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถรับมือเจี้ยนเฉินได้ง่าย ๆ เช่นกัน เขาใช้อำนาจในการต่อต้านผู้พิทักษ์ชานตั้งแต่เริ่มต้น ดูเหมือนว่าเขาต้องการสร้างปัญหา…”
“ผู้พิทักษ์ชานเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเราทุกคน เขาเป็นขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 8 แล้ว แม้แต่จักรวรรดินิรันดร์บางแห่งหรือตระกูลสูงสุดที่ปกครองที่ราบก็ต้องปฏิบัติต่อผู้เชี่ยวชาญเช่นนี้อย่างเกรงใจ เจี้ยนเฉินเริ่มกำหนดเป้าหมายไปที่เขาทันทีที่เขากลับมา มันประมาทเกินไป…”
ชายชรา 2 คนท่ามกลางผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นในตอนนี้ได้สนทนากันอย่างลับ ๆ พวกเขาเป็นชายชรา 2 คนที่หยุดเจี้ยนเฉินก่อนหน้านี้และต้องการจับตัวเขา พวกเขาถูกเรียกว่าผู้พิทักษ์ซิงและผู้พิทักษ์ไป่ และทั้งสองต่างก็เป็นขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 2
“บ้าบิ่น ? ข้าไม่คิดอย่างนั้น ข้ารู้สึกได้อย่างคลุมเครือว่าเจี้ยนเฉินกำลังระงับความโกรธและความโกรธนี้ยิ่งใหญ่มาก ถ้าข้าเดาได้ถูกต้องมีบางคนที่มีปัญหาจากบรรดาผู้พิทักษ์เหล่านี้ และไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้พิทักษ์ชานจะรวมอยู่ในพวกเขาเหล่านั้น” หญิงสาวสวยและมีเสน่ห์เข้าร่วมในการสนทนาของพวกเขาด้วยเช่นกันและออกความคิดเห็นของนาง
นางชื่อเหม่ยจี ผู้คนเรียกนางว่าผู้พิทักษ์เหม่ย
“ ผู้พิทักษ์ชานเป็นขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 8 การบ่มเพาะของเจี้ยนเฉินดูเหมือนจะไม่ได้มีพลังมาก ข้าได้ยินมาว่าเขาเป็นเพียงขั้นเหนือเทพเมื่อไม่กี่สิบปีก่อน เขาจะกำหราบผู้พิทักษ์ชานได้จริงหรือ ? ” ผู้พิทักษ์ซิงถามด้วยความสงสัย
“อย่าลืมว่าเจี้ยนเฉินคือผู้นำของตระกูลเทียนหยวนในตอนนี้ ไม่มีผู้อาวุโสหรือบรรพชนที่ยิ่งใหญ่ในตระกูลในตอนนี้ที่มีตำแหน่งเกินกว่าตำแหน่งผู้นำ ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้วเจี้ยนเฉินจึงมีอำนาจสูงสุด ยิ่งไปกว่านั้นข้ามีความรู้สึกอย่างยิ่งว่าผู้นำของเราไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่เราคิดว่าเขาเป็น เจ้าจำไม่ได้หรือว่าทันทีที่เขากลับมา ผู้อาวุโสซูก็ปรากฏตัวด้วยตัวเอง จริง ๆ แล้วคนที่ผู้อาวุโสซูไปต้อนรับจะต้องไม่ธรรมดา…” ผู้พิทักษ์เหม่ยกล่าวอย่างเคร่งเครียด นางยังคงสีหน้าเคร่งขรึมขณะจ้องมองเจี้ยนเฉินบนบัลลังก์ ริมฝีปากสีแดงก่ำของนางค่อย ๆ คลี่ยิ้มออกมา ขณะที่นางคิดกับตัวเองว่า“ ตอนนี้ผู้นำสมเป็นลูกผู้ชายจริง ๆ ”
“ท่านผู้นำ ข้าขอถามท่านอะไรบางอย่างได้หรือไม่ ? ” ในขณะนี้ผู้พิทักษ์ชานซึ่งเพิ่งนั่งลงไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไปและโค้งคำนับให้เจี้ยนเฉิน
“เชิญถามตามสบาย” เจี้ยนเฉินเหลือบมองผู้พิทักษ์ชานอย่างสบาย ๆ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ให้ความสำคัญกับผู้พิทักษ์ชานมากนัก
เมื่อผู้พิทักษ์ชานเห็นว่าเจี้ยนเฉินไม่ได้ให้ความสำคัญกับเขาแต่อย่างใด เขาก็โกรธทันที ยังไม่มีใครในตระกูลเทียนหยวนที่ดูแคลนเขาได้
อย่างไรก็ตามทันทีที่เขานึกถึงน้ำนรก ผู้พิทักษ์ชานก็สามารถสะกดกลั้นมันไว้ได้ในที่สุด
“ข้าได้ยินมาว่าท่านผู้นำครอบครองน้ำนรก เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ? ” ผู้พิทักษ์ชานถาม เขาปรารถนาน้ำนรกมาก เขาหมดความอดทนนานมาแล้ว
ทันทีที่พวกเขาได้ยินการกล่าวถึงน้ำนรก ดวงตาของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นทั้งหมดที่รวมตัวกันในห้องโถงก็ลุกโชนขึ้น พวกเขาทั้งหมดจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความสนใจ
แม้แต่ผู้พิทักษ์ซิง ผู้พิทักษ์ไป่ และผู้พิทักษ์เหม่ยที่ได้เห็นเจี้ยนเฉินได้มอบน้ำนรกให้ซูหรานก็ยังทำเช่นเดียวกัน
แสงส่องผ่านดวงตาของเจี้ยนเฉินและเขาก็เข้าใจในระดับหนึ่ง ด้วยการพลิกมือของเขา ขวดหยกก็ปรากฏขึ้นทันที ฝาเปิดออกเองและหยดของเหลวสีน้ำเงินเข้มโปร่งแสงค่อย ๆ ลอยออกมา มันส่องแสงสีฟ้าที่ทำให้ลืมตาไม่ขึ้น
ทันใดนั้น มันย้อมห้องโถงเป็นสีฟ้ามันเป็นภาพที่น่าตื่นตาทีเดียว
“น้ำนรก มันเป็นน้ำนรกจริง ๆ…”
“ตัวตนนี้ สีนี้ มันคือน้ำนรกอย่างแน่นอน มันไม่ผิด…”
ห้องโถงมันเงียบในตอนแรก แต่ในไม่ช้าเสียงดังก้องก็ดังขึ้น มันค่อนข้างวุ่นวาย ดวงตาของขั้นอสงไขยทั้งหมดเป็นประกายขึ้นมาด้วยความปรารถนา
ไม่มีใครเคยเห็นน้ำนรกมาก่อน แต่พวกเขารู้เกี่ยวกับคุณสมบัติและประโยชน์ของมันเป็นอย่างดี
นี่เป็นสมบัติอันมหัศจรรย์ที่มีผลดีอย่างมาก แม้แต่ขั้นอัครสูงสุด หากพวกเขาใช้มันกับตัวเอง ผลที่ได้รับจะยิ่งใหญ่กว่า มันเป็นสมบัติขั้นสูงสุดสำหรับการหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ
“ข้ามีน้ำนรกมากมายที่ตัวข้า” เจี้ยนเฉินกล่าว ขวดน้ำนรกลอยออกมาทีละขวด มีทั้งหมด 8 ขวดปรากฏตัวต่อหน้าเขาและพวกมันทั้งหมดก็เปิดออก หยดน้ำนรกไหลออกมาขวดละหยด
หยดน้ำนรก 8 หยดส่องแสงเจิดจ้า มันลอยแพรวพราวอยู่ตรงหน้าเจี้ยนเฉินอย่างเงียบ ๆ
ทันใดนั้น ห้องโถงก็เงียบลงอีกครั้ง ทุกคนกลั้นหายใจขณะเผชิญหน้ากับหยดน้ำนรก 8 หยด
“สวรรค์ จริง ๆ แล้วเจี้ยนเฉินมีน้ำนรกอยู่บนตัวเขามากมาย…” ผู้พิทักษ์ชานตกใจมาก เขานิ่งเงียบขณะที่จ้องมองไปที่หยดน้ำนรก 8 หยด หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นเร็วขึ้นและเลือดของเขาก็พุ่งพล่านขึ้น
ในขณะนั้นเขารู้สึกอยากจะขโมยน้ำนรกทั้งหมดแล้วหนีไป
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขานึกถึงค่ายกลที่ทรงพลังรอบ ๆ ตระกูล เขาก็ได้แต่เพียงล้มเลิกความคิดนั้นเท่านั้น
“ท่านผู้นำ ข้าอยู่ในจุดวิกฤตในการบ่มเพาะของข้าและข้าต้องการน้ำนรกในการทะลวงผ่านด่าน ถ้าข้ามีน้ำนรก การบ่มเพาะของข้าจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก มันอาจถึงระดับใหม่ทั้งหมด ข้าต้องการ 1.. ไม่สิ 3 หยด ข้าต้องการน้ำนรก 3 หยด” ผู้พิทักษ์ชานพูดอย่างเร่งรีบในขณะที่การหายใจของเขาเริ่มขาดห้วง เขาขอน้ำนรกจากเจี้ยนเฉินตรง ๆ
ผู้พิทักษ์ซือในชุดสีขาวและผู้พิทักษ์ฉีในร่างผอม ทั้งคู่จ้องมองไปที่น้ำนรกเช่นกัน ผู้พิทักษ์ซือยังคงสงบนิ่งและไม่หวั่นไหว แต่ผู้พิทักษ์ฉีพยายามดิ้นรนเพื่อสะกดกลั้นตัวเอง
ผู้พิทักษ์ฉีก็เปิดปากเพื่อขอน้ำนรกเช่นกัน แต่เมื่อเขาเห็นว่าผู้พิทักษ์ซือไม่ได้ถูกล่อลวงเลย เขาก็ประหลาดใจทันที เขาอดไม่ได้ที่จะถามอย่างลับ ๆ ว่า “ผู้พิทักษ์ซือ เจ้าไม่สนใจน้ำนรกเลยหรือ ? ”
“ข้าไม่ได้ตาบอดเพราะความโลภและสูญเสียความสามารถในการประมวลผลความคิดตามปกติ เจ้าคิดว่าเราสามารถเอาน้ำนรกจากเจี้ยนเฉินได้หรือ ? แม้แต่ผู้อาวุโสซูก็ได้รับเพียงหยดเดียว” ผู้พิทักษ์ซือตอบ
ด้วยเหตุนี้ประกายในแววตาของผู้พิทักษ์ฉีจึงหม่นลง เขาอดไม่ได้ที่จะพิจารณาเจี้ยนเฉินอย่างละเอียดในขณะที่เขานิ่งเงียบ
“ผู้พิทักษ์ชาน เจ้าแน่ใจหรือว่าต้องการ 3 หยด ? ” เจี้ยนเฉินนั่งอยู่บนบัลลังก์ขณะที่เขามองไปที่ผู้พิทักษ์ชานอย่างเย้ยหยัน ดูเหมือนว่าเขากำลังเล่นกับอีกฝ่ายอยู่