เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god) - ตอนที่ 2493 เรื่องอื้อฉาว
ตอนที่ 2493: เรื่องอื้อฉาว
ค่ายกลบนยอดเขาเมฆจันทราปรากฏขึ้นทันที อย่างไรก็ตามสิ่งนี้อยู่ในลัทธิเต๋าเสียงสวรรค์ ดังนั้นค่ายกลจึงไม่ได้ทรงพลังเป็นพิเศษ จุดประสงค์หลักคือการปิดกั้นสัมผัสวิญญาณและรักษาความเป็นส่วนตัว ดังนั้นค่ายกลจึงแตกเป็นเสี่ยง ๆ เมื่อจุนกงชนกับมัน
จุนกงที่ไม่มีสติตรงไปที่บ่อน้ำพุร้อน
เสียงกรีดร้องดังออกมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อชายคนหนึ่งอย่างจุนกงปรากฏตัวออกมา ศิษย์หญิงวิ่งกระจายออกไปทั่วด้วยเนื้อตัวที่เปลือยเปล่า ขณะที่ม่านพลังและชุดเกราะปกคลุมทั่วร่างกายของพวกนาง
“จุนกงที่ตาบอดเพราะตันหา ข้าจะให้เวลาเจ้าออกไปภายใน 10 วินาที เจ้าควรจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากผ่านไป 10 วินาที” เสียงของซ่างกวนมูเอ๋อดังออกมาจากด้านบนบ่อน้ำพุ มันเย็นชามาก
เสียงของนางดูมีเสน่ห์ลึกลับ ทำให้จุนกงชะงักก่อนที่เขาจะเหวี่ยงหญิงสาวคนหนึ่งออกไป
เขาอยู่ภายใต้อิทธิพลของซ่างกวนมู่เอ๋ออีกครั้งและแม้แต่จิตใจของเขาก็ถูกควบคุมชั่วคราว เขายืนอยู่ในบ่อน้ำพุร้อนราวกับคนโง่
“นั่นคือศิษย์พี่จุนกง มันเป็นศิษย์พี่จุนกงจริง ๆ….” หญิงสาวที่หวาดกลัวและวุ่นวายก็สงบลงทันทีเมื่อได้ยินชื่อของจุนกง แสงในดวงตาของพวกนางก็กระพริบ ขณะที่พวกนางมองไปที่จุนกงด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย
มีความหลงใหลอยู่ในสายตาของใครหลาย ๆ คน
“ศิษย์พี่จุนกงถูกตันหาบังตา วิธีเดียวที่จะช่วยศิษย์พี่ได้คือ….แม้ว่า….ไม่อย่างนั้นศิษย์พี่จุนกงต้องทุกข์ทรมาณจากความต้องการของเขาที่ย้อนกลับมา….”
“ศิษย์พี่จุนกงเป็นอัจฉริยะของลัทธิเต๋าเสียงสวรรค์ ผู้เชี่ยวชาญบนบัลลังก์ราชาเทพ เขายังเข้าใจหัวใจแห่งความเป็น-ความตายจากแนวคิดสูงสุด 3 ประการ อนาคตของเขาไร้ขีดจำกัด เราจะปล่อยให้ศิษย์พี่จุนกงเป็นอย่างนั้นไม่ได้….”
ศิษย์หญิงบางคนกล่าว พวกนางหน้าแดงและอาย อย่างไรก็ตามมีความกระตือรือร้นเช่นกัน
จุนกงมีรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาและมีความสามารถที่น่าทึ่งและยังมีภูมิหลัง เขายังเข้าใจหัวใจแห่งความเป็น-ความตาย ด้วยคุณสมบัติที่น่าชื่นชมเหล่านี้ จุนกงจึงราวกับเป็นเจ้าชายทรงเสน่ห์ในสายตาของศิษย์หญิง ในสายตาของหญิงสาวหลาย ๆ คนในลัทธิเต๋าเสียงสวรรค์ พวกนางหลายคนหลงใหลเขาและมันก็มาถึงจุดที่พวกนางเสนอตัวอย่างไม่ลังเลใด ๆ ตราบที่จุนกงขอ
ทำไมมีเพียงพวกนางไม่กี่คนที่ตระหนักได้ถึงโอกาสที่เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาเห็นว่าจุนกงตกอยู่ในตัณหา
ท้ายที่สุด ก็มีคนกว่าสิบคนที่เลือกที่จะอยู่จากศิษย์หญิง 100 กว่าคน
“แม้ว่าสิ่งนี้จะทำให้ข้าเสียหน้า แต่ข้าก็ไม่เสียใจตราบใดที่ข้ากลายเป็นผู้หญิงของศิษย์พี่จุนกงได้….”
“เจ้ากำลังพูดอะไร ? อะไรที่ตัวเองเสื่อมเสีย ? เจ้าไม่เห็นหรอว่าศิษย์พี่จุนกงตกอยู่ในอิทธิพลอะไรบางอย่าง ? หากเราไม่ช่วยเขา ผลที่ตามมาจะน่ากลัว เรากำลังช่วยศิษย์พี่จุนกงไว้….”
ศิษย์หญิงสองสามคนคุยกันเบา ๆ ในบ่อน้ำพุร้อน พวกนางทุกคนเข้าใจถึงผลที่ตามมา แต่ไม่มีใครเสียใจ
ซ่างกวนมู่เอ๋อลอยอยู่เหนือยอดเขาเมฆจันทราอย่างไร้อารมณ์ ดวงตาที่น่าหลงใกลของนางเต็มไปด้วยเย็นชา หลังจากได้เห็นว่ายังมีหญิงสาวสองสามคนที่ไม่ยอมจากไปหลังจากผ่านไป 10 วินาที นางก็ไม่ได้โน้มน้าวพวกนางอีก นางปล่อยให้จุนกงกลับมาควบคุมตัวเองได้อีกครั้ง
10 วินาทีนั้นเกินพอสำหรับพวกนางที่จะหลบหนี พวกนางคงจะออกไปไกลหากพวกนางต้องการจากไป ตอนนี้พวกนางเลือกที่จะอยู่ต่อ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนาง
เมื่อปราศจากการควบคุมของซ่างกวนมู่เอ๋อ จุนกงก็ส่งเสียงคำรามและเปิดฉากทันที
ระหว่างนั้นหญิงสาวคนหนึ่งโยนร่มปักกลดออกมา ร่มขยายทันทีและครอลคลุมกว่าหลายร้อยเมตร รอบ ๆ
ในตอนนี้สมาชิกระดับสูงของลัทธิเต๋าเสียงสวรรค์กำลังรับแขกคนสำคัญในห้องพูดคุยบนยอดเขาหลัก ห้องพูดคุยนั้นเป็นวัตถุเทพขั้นกลางและมีการตกแต่งภายในนั้นก็ดูเหมือนมาจากโลกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
ลัทธิเต๋าเสียงสวรรค์ได้สร้างมันขึ้นมาอย่างลงตัวเพื่อต้อนรับพวกเขา ไม่เพียงแต่มีบรรพชนสามจากสี่คนเท่านั้น แต่ยังมีผู้นำลัทธิคนปัจจุบันและเหล่าผู้อาวุโสขอบเขตตั้งต้นทั้งหมดก็มาอยู่ที่นี่เช่นกัน
ด้วยการต้อนรับยิ่งใหญ่เช่นนี้ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เคยทำได้ในประวัติศาตร์ของลัทธิ
นี่เป็นเพราะแขกที่ออกมาต้อนรับครั้งนี้มีสถานะที่สูงมาก พวกเขามาจากหนึ่งในไม่กี่ตระกูลของโลกเซียน ตระกูลเต๋า
องค์กรที่เรียกกันว่าตระกูลโบราณ แม้ว่าจะไม่ใช่องค์กรเดียว ยุคก่อนที่จะให้กำเนิดจอมปราชญ์สูงสุดเป็นอย่างน้อย ๆ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็ยังมีมรดกของจอมปราชญ์สูงสุด, วัตถุเทพขั้นสูงและผู้เชี่ยวชาญสูงสุดที่เป็นรองเพียงจอมปราชญ์สูงสุดเท่านั้น
เพียงเพราะเมื่อเงื่อนไขทั้งหมดเหล่านี้บรรลุก็สามารถเรียกได้ว่านี่คือตระกูลโบราณ
ด้วยเหตุนี้อาจมีองค์กรโบราณไม่กี่แห่งที่รอดชีวิตมาตั้งแต่ยุคก่อนหน้านี้ แต่องค์กรที่สามารถดำรงตำแหน่งตระกูลโบราณได้นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ลึกลับ
เพียงแค่ตระกูลโบราณเพียงกลุ่มเดียวก็สามารถจัดการคนในโลกเซียนที่ต่ำกว่าจอมปราชญ์สูงสุด
มีคนทั้งหมด 5 คนจากตระกูลเต๋า ถ้าเจี้ยนเฉินอยู่ที่นี่เขาจะรู้ได้อย่างแน่นอนว่าพวกเขาทั้งห้าคนเป็นกลุ่มที่มาถึงหลังจากที่เขามายังที่ราบอัคคีฟ้า พวกเขาเป็นกลุ่มนายน้อยที่หล่อเหลา มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น 2 คนที่มาพร้อมกับสาวใช้อีก 2 คน
บรรพชนทั้งสามของลัทธิเต๋าเสียงสวรรค์เดินตามพวกเขาอย่างระมัดระวัง แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าชายหนุ่มมาจากตระกูลสาขาของตระกูลเต๋า แต่พวกเขาก็ไม่กล้าทำให้เขาเสียเวลา
ในตอนนี้บรรพชนทั้งสามขมวดคิ้ว ในฐานะบรรพชนของลัทธิเต๋าเสียงสวรรค์ พวกเขามีอำนาจควบคุมบางส่วนเหนือโถงศักดิ์สิทธิ์ อย่าไงรก็ตามพวกเขาตระหนักได้ว่าในตอนนี้มีคนมาสัมผัสโถงศักดิ์สิทธิ์จากด้านนอก
นี่เป็นการแจ้งเตือนที่เร่งด่วนที่พวกเขาตั้งขึ้น เว้นแต่จะมีเหตุการณ์เร่งด่วนเกิดขึ้น ศิษย์ทั้งหลายจะไม่รบกวนพวกเขาอย่างแน่นอน
หนึ่งในสี่บรรพชน เหลียนฉีมองไปที่กู่นา กู่นาเข้าใจและส่งสัมผัสวิญญาณของนางออกไปด้านนอกเพื่อตรวจสอบทันที
“บรรพชน มีเสียงเลวร้ายเกิดขึ้น มะ-มีบางอย่างเกิดขึ้นบนยอดเขาเมฆจันทรา….” ศิษย์ราชาเทพรีบรายงานออกไปด้านนอก
กู่นาขยายสัมผัสวิญญาณของนางไปยังยอดเขาเมฆจันทราทันที แต่ในเวลาต่อมาใบหน้าของนางก็เปลี่ยนไป มันเต็มไปด้วยความตกใจ นางไม่อาจสงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไปและกระโจนออกไปทันที นางไม่ได้บอกตระกูลเต๋าด้วยซ้ำว่านางจะไปไหน นางหายไปในพริบตา
ทุกคนในโถงต่างก็ประหลาดใจอย่างมากกับการจากไปที่รวดเร็วของกู่นา บรรพชนอีก 2 คน เหลียนฉีและเติ้งเหวินซิ่นก็อดไม่ได้ที่จะขยายสัมผัสของพวกเขาเช่นกัน แต่ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนแปลงไปในไม่ช้าเช่นกัน
“บัดสี ! ” บรรพชนที่เป็นรองเพียงบรรพชนวายุในด้านความแข็งแกร่งและสถานะของเติ้งเหวินซิ่นตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวทันที นางออกจากโถงศักดิ์สิทธิ์ด้วยความรีบร้อน
ซ่างกวนมู่เอ๋อถือพิณปิศาจร่ำไห้ขณะที่ลอยอยู่ด้านนอกยอดเขาเมฆจันทราอย่างเย็นชา นางไม่ได้จากไป
ในขณะนี้มีแสงวาบออกมาอยู่ข้าง ๆ นางและกู่นาก็มาถึงแล้ว แม้ว่ากู่นาจะดูอยู่ในช่วงวัยกลางคน แต่นางมีเสน่ห์อย่างมาก อย่างไรก็ตามในตอนนี้ใบหน้าของนางซีดด้วยความโกรธ ขณะที่หน้าอกของนางกระเพื่อมราวกับภูเขาไฟ นางจ้องไปยังด้านหลังยอดเขาเมฆจันทรา
ในเวลาต่อมา เหลียนฉีและเติ้งเหวินซิ่นก็มาถึงเช่นกัน เติ้งเหวินซิ่นยื่นหน้าออกมา สีหน้าของนางนั้นแสดงให้เห็นว่านางรังเกียจอย่างมาก
สำหรับเหลียนฉี การจ้องมองของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นไม่แน่ใจ
“นี่มันคือยามอมเมา” กู่นากัดฟันของนางขณะที่นางโกรธจนร่างสะท้าน
“ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้นในลัทธิเต๋าเสียงสวรรค์ของเรา ถือเป็นเรื่องโชคร้ายของเรา มันเป็นความโชคร้ายของเรา….” เติ้งเหวินซิ่นทั้งเจ็บใจและขยะแขยง แม้ว่าทุกอย่างบนยอดเขาเมฆจันทราจะถูกปกคลุมด้วยร่มขนาดใหญ่ แต่พวกเขาก็ยังสามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขาในขั้นบรรพกาล
นี่เป็นความอัปยศอย่างยิ่งต่อลัทธิเต๋าเสียงสวรรค์
ยิ่งกว่านั้น ราชาเทพก็มารวมกันที่นี่มากขึ้น ๆ แม้แต่อาวุโสเพียงไม่กี่คนก็รีบร้อนออกมาจากห้องพูดคุย
เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนรู้เรื่องนี้ เติ้งเหวินซิ่นจึงโบกมือของนางและวางค่ายกลปิดกั้นการรับรู้ของทุกคน
“มู่เอ๋อ นี่มันอะไรกัน ? ” เหลียนฉีจ้องมองไปที่ซ่างกวนมู่เอ๋อด้วยสีหน้าที่น่าเกลียดและถามเหมือนกับว่าเขากำลังซักถามนาง เขาแอบให้ยามอมเมากับจุนกง แต่เขาเชื่อว่าแม้ว่าจุนกงจะใช้มันก็แค่เพียงในถ้ำปีศาจและเทวาเท่านั้น เรื่องนี้ไม่ต้องพูดเลย