เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god) - ตอนที่ 2490 ที่ราบอัคคีฟ้า
ตอนที่ 2490: ที่ราบอัคคีฟ้า
“ศิษย์น้องแปด ยานอวกาศลำนี้ถูกสร้างโดยศิษย์พี่หญิงของเจ้า แม้ว่าจะเป็นเพียงวัตถุเทพขั้นต่ำ แต่ก็มีวัตถุเทพระดับสูงสุดของขั้นต่ำ มันอาจจะไม่ใช่วัตถุเทพขั้นกลาง แต่มันก็บ่งบอกถึงวัตถุเทพขั้นกลางในบางแง่มุม”
ศิษย์พี่หญิงห้าของเจี้ยนเฉิน ซูฉีได้หยิบยานอวกาศสีไม้แกมขาวออกมา
ยานอวกาศดูเหมือนกับเพรชที่กำลังลอยอยู่ในมือของนางอย่างเงียบ ๆ มันส่องสว่างเป็นพัก ๆ มีแรงกดดันของวัตถุเทพแผ่ออกมา
“ในเมื่อเจ้าจะออกจากภูเขาวิญญาณนักรบ เจ้าต้องเดินทางไปมามายและมีสิ่งที่ต้องทำ ยานอวกาศของข้าสามารถจับคู่กับขั้นบรรพกาลได้ แม้แต่ขั้นบรรพกาลที่อ่อนแอก็ยังไม่สามารถตามได้ทัน ยิ่งไปกว่านั้นยานอวกาศไม่ได้มีแค่ความเร็ว มันยังมีการป้องกันที่ยอดเยี่ยมและสามารถทะลุสิ่งกีดขวางได้หลายสิ่ง เมื่อถึงความเร็วเต็มที่ มันจะมีพลังโจมตีที่ทรงพลังมากและมันสามารถทะลวงผ่านดาวเคราะห์ได้โดยตรง” ซูฉียังคงอธิบายละเอียดให้เจี้ยนเฉินฟัง
“ขอบคุณศิษย์พี่หญิงห้า แต่มันมีค่ามากเกินไป” เจี้ยนเฉินปฏิเสธที่จะรับยานอวกาศเป็นของขวัญ ยานอวกาศที่ใกล้เคียงกับวัตถุเทพขั้นกลางนั้นมีค่ามากกว่าวัตถุเทพขั้นกลางทั่ว ๆ ไปหลายเท่า
ไม่ต้องพูดถึงการสร้างวัตถุเทพเลย แค่วัสดุสำหรับการสร้างมันก็หายากเช่นกัน ด้วยเหตุนี้วัตถุเทพพิเศษอย่างยานอวกาศนั้นมีค่ากว่าวัตถุเทพทั่ว ๆ ไปหลายเท่า
“ศิษย์น้องแปด รับมันไปเถอะ พี่หญิงห้าของเจ้ามีทักษะในการสร้างสิ่งประดิษฐ์ การสร้างวัตถุเทพขั้นต่ำไม่ได้พิเศษสำหรับนางเท่าไรนัก แค่รับยานอวกาศไป” ศิษย์พี่สี่หยุนซื่อติงพูด
“ศิษย์น้องแปด เจ้าไม่อาจปฏิเสธของขวัญของศิษย์พี่หญิงห้าได้ นางก้าวไปถึงระดับปรมาจารย์ในด้านการสร้างสิ่งประดิษฐ์แล้ว ในความเป็นจริงแล้วศิษย์พี่ของเจ้าทุกคนต่างก็มียานอวกาศที่ถูกสร้างโดยศิษย์พี่หญิงของเจ้าเช่นกัน ดูสิ นี่ของข้า” ฉินฉันกล่าว ยานอวกาศลอยอยู่เหนือมือของฉินฉัน มันเปล่งประกายเหมือนกับเพรช แต่รูปลักษณ์ของมันแตกต่างไปจากสิ่งที่ซูฉีให้กับเขา
ฉิงฉันยังกล่าวต่อว่า “ยิ่งไปกว่านั้น ยานอวกาศได้รับการสร้างจากศิษย์พี่หญิงห้า มันไม่ได้เพียงแค่วัตถุเทพเท่านั้น พวกมันยังมีสัญลักษณ์ของเชื้อสายนักรบวิญญาณของเรา แม้ว่าเชื้อสายนักรบวิญญาณของเราจะไม่ใช่มหาอำนาจที่ยับยั้งกองกำลังทั้งหมดของโลกเซียนได้ แต่เราก็ยังมีแรงกดดันมากพอ โดยปกติแล้วองค์กรชั้นสูงทั่ว ๆ ไปไม่กล้ามายั่วยุเรา นอกจากโถงเซียนธาตุแสงแล้ว เราก็ไม่มีศัตรูอีกเลย
เจี้ยนเฉินจ้องมองไปที่ยานอวกาศในมือของฉินซาน เขาบอกได้เพียงมองแว่บเดียวว่ายานอวกาศของฉิงฉันเป็นวัตถุเทพขั้นกลาง
เจี้ยนเฉินไม่ได้พยายามปฏิเสธมันอีกต่อไปหลังจากที่เห็นอย่างนั้น เขารับยานอวกาศจากซูฉี
เขาเข้าใจ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้ยานอวกาศด้วยตัวเอง เขาก็ยังมอบมันให้กับตระกูลเทียนหยุนได้ในอนาคต
ยานอวกาศมีขนาดเท่ามือก็หดไป จิตวิญญาณวัตถุได้เกิดขึ้นภายในแล้ว
ภายใต้จิตวิญญาณวัตถุ เจี้ยนเฉินก็สามารถปรับแต่งยานอวกาศได้อย่างง่าย ๆ
2 ชั่วยามต่อมา แสงสีเงินขาวพุ่งออกจากภูเขาวิญญาณนักรบ มันหายเข้าไปในส่วนลึกของมิติในพริบตา
แสงสีเงิน ยานอวกาศที่เปล่งประกายราวกับเพรชยาว 60 เมตรได้พุ่งผ่านเข้าไปในความลึกน้ำแข็งนอกอวกาศด้วยความเร็วที่น่ากลัวอย่างยิ่ง
เจี้ยนเฉินยืนเอามือไพล่หลังในยานอวกาศ เขามองไปที่แผนภูมิดวงดาวและบ่นว่า “ยานอวกาศที่สร้างโดยศิษย์พี่หญิงห้านี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ ความเร็วของมันเร็วกว่าตอนที่ข้าออกเดินทางด้วยตัวคนเดียวอย่างน้อยหลายสิบเท่า อาจะเป็นไปได้ว่าขั้นบรรพกาลบางส่วนก็ไม่อาจตามความเร็วนี้ได้ทัน”
“มีเพียงปัญหาเดียว ยานอวกาศมีขนาดเล็กนิดหน่อย” เจี้ยนเฉินมองไปด้านหลัง ยานอวกาศยาวเพียง 60 เมตรเท่านั้น มันไม่สามารถขยายได้อีก
ด้วยเพราะมียานอวกาศ เจี้ยนเฉินจึงใช้เวลาเดินทาง 3 วันได้ใน 2 ชั่วยาม เขามาถึงค่ายกลเคลื่อนย้ายระหว่างดวงดาวที่อยู่ใกล้กับภูเขาวิญญาณนักรบมากที่สุด หลังจากที่จ่ายเหรียญผลึกห้าสีไปแล้ว เขาก็ออกไปทันที
“ลัทธิเต๋าเสียงสวรรค์อยู่บนที่ราบอัคคีฟ้ามาหลายปีแล้ว ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ข้าจะไปหามู่เอ๋อ ถ้าเป็นไปได้ข้าควรจะพานางไปที่ตระกูลเทียนหยวนด้วย” เจี้ยนเฉินคิด เขาเคลื่อนย้ายผ่านดวงดาวหลายต่อหลายครั้งติดต่อกันจนมาถึงที่ราบอัคคีฟ้า
ในอดีต เขาไม่มีความแข็งแกร่งพอที่จะพามู่เอ๋อออกมาได้ แต่ตอนนี้เขามีความสามารถพอแล้ว ท้ายที่สุดก็ไม่มีใครคุกคามเขาได้ ตราบเท่าไม่มีขั้นบรรพกาล
นั่นรวมไปถึงขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 9
ในอดีตเจี้ยนเฉินใช้ปราณกระบี่เพื่อสังหารขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 9 ในสำนักกลืนธารา หลังจากที่เขาได้บ่มเพาะบนภูเขาวิญญาณนักรบอีกครั้ง ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นอีก
ทำให้มีเพียงขั้นบรรพกาลเท่านั้นที่จะสามารถคุกคามเขาได้ในตอนนี้
ในด้านทรัพยากรบ่มเพาะที่เขาได้รับมาจากโถงเมฆธาราที่สะสมมาอย่างมหาศาลในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา เจี้ยนเฉินก็มั่นใจว่าทรัพยากรบ่มเพาะที่เขาครอบครองนั้นไม่น้อยไปกว่าลัทธิเต๋าเสียงสวรรค์
หลังจากเคลื่อนย้ายมาหลายครั้ง ท้ายที่สุดเจี้ยนเฉินก็มาถึงปลายทางของเขา ที่ราบอัคคีฟ้า
ค่ายกลเคลื่อนย้ายระหว่างดวงดาวถูกสร้างขึ้นอย่างชัดเจนภายในเมือง ทันทีที่เขาไปถึงที่นั่นเขาก็เห็นจัตุรัสและถนนที่พลุกพล่านอยู่ด้านหน้าของเขา
“มันผ่านมาหลายปีแล้ว ในที่สุดข้าก็ได้มาเยือนที่ราบอัคคีฟ้า ข้าสงสัยว่ามู่เอ๋อกำลังอะไรอยู่” เจี้ยนเฉินถอนหายใจด้วยอารมณ์ที่หลากหลายขณะที่เขามองไปยังที่ราบอัคคีฟ้า
ในอดีตเมื่อซางกวนมู่เอ๋อถูกพาออกไปจากที่ราบเมฆาโดยผู้เชี่ยวชาญของลัทธิเต๋าเสียงสวรรค์ ที่ราบอัคคีฟ้าเป็นสิ่งที่อยู่ห่างไกลมากจนเขาไม่อาจจินตนาการได้ในเวลานั้น ที่เป็นเพราะเหรียญผลึกห้าสีนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการใช้ค่ายกลเคลื่อนย้าย มันมากมายสำหรับเขา
ย้อนกลับไปตอนนั้น เขาทำได้เพียงสาบานว่าเขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อข้ามจักรวาลอันกว้างใหญ่และนำซางกวนมู่เอ๋อกลับมาจากที่ราบอัคคีฟ้า
ตอนนี้ ท้ายที่สุดเขาก็ทำได้
ในตอนนี้ค่ายกลเคลื่อนย้ายที่เจี้ยนเฉินเพิ่งใช้ก็เปล่งประกายรุนแรงอีกครั้งและพลังงานที่รุนแรงก็พุ่งออกมา
“นายท่าน โปรดหลีกทางให้คนถัดไป เพื่อที่ท่านจะได้ไม่ไปรบกวนค่ายคนเคลื่อนย้ายของพวกเขา” ทหารที่ทำการอยู่ที่นั่นได้มาหาเจี้ยนเฉินและพูดกับเขาอย่างสุภาพ
ไม่มีคนธรรมดาที่สามารถเดินผ่านค่ายกลเคลื่อนย้ายเหล่านี้ ทหารจึงไม่กล้าล่วงเกินพวกเขา
ในตอนนี้ค่ายกลเคลื่อนย้ายได้กระพริบและร่างห้าร่างถูกส่งมาจากที่ราบอีกที่ก็ปรากฏขึ้นที่นั่น
เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง เขาสามารถบอกได้เลยว่าชายชราทั้งสองจากห้าคนเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น แต่พวกเขาก็เป็นเพียงขอบเขตอสงไขยช่วงต้นและช่วงกลางเท่านั้น
อีกสามคนที่เหลือนั้นเป็นนายน้อยที่มีท่าทางและหน้าตาที่โดดเด่น ดูเหมือนเขาหยิ่งยโส อีก 2 คนเป็นผู้หญิงที่ดูเหมือนสาวรับใช้
“ตรงไปที่ลัทธิเต๋าเสียงสวรรค์” นายน้อยหนุ่มพูดอย่างเฉยเมย แต่สายตาของเขานั้นกลับแสดงให้เห็นอย่างแตกต่าง ดูเหมือนเขาจะรีบมาก
สาวใช้ทั้งสองยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆ ในขณะที่ชายชราขั้นอสงไขยช่วงต้นและช่วงกลางทั้งสองต่างก็พยักหน้าและนำทั้งสามออกไปทันที
“พวกเขาก็จะไปที่ลัทธิเต๋าเสียงสวรรค์ด้วย ? ดูเหมือนว่าเขาจะพยายามขอแต่งงาน.….” ทหารที่พูดกับเจี้ยนเฉินบ่มพึมพำหลังจากที่ทั้งห้าจากไป
“ลัทธิเต๋าเสียงสวรรค์ ? ขอแต่งงาน ? ” เจี้ยนเฉินได้ยินทุกอย่างที่ทหารพูด ทำให้เขาตกใจมาก เขารู้สึกค่อนข้างอยากรู้อยากเห็น
ท้ายที่สุดเขาก็กำลังจะไปยังลัทธิเต๋าเสียงสวรรค์ เขาหวังว่าจะได้รู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ของลัทธิ
“ท่าน ข้าถามได้หรือไม่ว่าหญิงอัจฉริยะคนไหนที่คนเหล่านี้จะขอแต่งงานด้วย เมื่อพวกเขาไปที่ลัทธิเต๋าเสียงสวรรค์ ? ” เจี้ยนเฉินถามพร้อมกับป้องมือให้