เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god) - ตอนที่ 2488 ปราบโถงศักดิ์สิทธิ์
ตอนที่ 2488: ปราบโถงศักดิ์สิทธิ์
เจี้ยนเฉินรู้สึกสงสัยอย่างยิ่งหลังจากได้ยินคำพูดของจื้อเจี้ยน การยับยั้งที่ป้องกันไม่ให้เชื้อสายนักรบวิญญาณเข้าถึงอัครสูงสุดจะหายไปชั่วคราวหรือไม่ ?
อย่างไรก็ตามแม้ว่าการยับยั้งจะหายไป แต่มันก็ยังมีช่องว่าที่ยิ่งใหญ่ระหว่างพวกเขากับจอมปราชญ์ช่วงสูงสุด เขาพยายามที่จะเข้าใจว่าเชื้อสายนักรบวิญญาณจะสามารถยืนหยัดต่อหน้าจอมปราชญ์สูงสุดได้เมื่อทายาททั้งเก้าอยู่พร้อมหน้ากัน
อย่างไรก็ตามมีแง่มุมหนึ่งที่เขามั่นใจโดยพื้นฐาน แน่นอนมันจะไม่ขึ้นอยู่กับการบ่มเพาะของแต่ละคน
นี่เพราะช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างอัครสูงสุดและจอมปราชญ์สูงสุด มันเป็นไปไม่ได้ที่ผู้คนจะประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย ไม่อย่างนั้นจะเป็นไปไม่ได้ที่โลกเซียนจะมีจอมปราชญ์สูงสุดเพียงหยิบมือเดียวแม้จะมีอัครสูงสุดเต็มไปหมดก็ตาม
“น่าเสียดายที่อายุของทายาททั้งเก้าปรากฏตัวก็ห่างไกลจากเวลาในตอนนี้เป็นอย่างมาก บันทึกและจดหมายจำนวนมากสูญหายไป เราจึงไม่สามารถตรวจสอบได้โดยละเอียด” เจี้ยนเฉินรู้สึกอยากรู้อยากเห็นอย่างมากเกี่ยวมีเรื่องราวใหญ่โตที่อยู่เบื้องหลังเชื้อสายนักรบวิญญาณ มันดูท่าจะไม่ง่ายอย่างที่เห็น
นอกจากนี้ยังมีเชื้อสายนักรบวิญญาณเพียงกลุ่มเดียวในโลกเซียนที่มีมานานอย่างไม่ขาดสาย
“และภูเขาวิญญาณนักรบมาอยู่มาหลายกัลปหลายกัล มันไม่เข้าใจอย่างชัดเจนว่ามันอยู่มานานไหนประวัติศาสตร์บนภูเขาวิญญาณนักรบเพียงอย่างเดียวที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใครมาจากไหน ยิ่งไปกว่าความลับที่ซ่อนอยู่ในหอคอยธาตุแสงของโถงเซียนธาตุแสง” เจี้ยนเฉินสงสัยในขณะที่เขามองไปภูเขาด้านล่าง
ไม่นานทายาททั้งแปดของเชื้อสายนักรบวิญญาณก็แยกย้ายกัน เจี้ยนเฉินก็ยังกลับไปที่ซึ่งเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในการบ่มเพาะ
ระหว่างเดินทาง เขาผ่านพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน เขาอดไม่ได้ที่จะหยุดและคิดถึงสิ่งที่ศิษย์พี่หญิงห้าของเขาพูด นางบอกให้เขาไปหาจื่อหยุน
เขายืนอยู่ตรงหน้าพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนขณะที่เขาจ้องมองไปที่วังสีน้ำเงิน ท้ายที่สุดเขาก็ไม่เข้าไป แต่เขาหันกลับมาและจากไป
เขารู้ว่าจื่อหยุนมีใจให้เขามาก แต่เขาไม่สนใจเรื่องนี้เลย เนื่องจากเขาได้อธิบายทุกอย่างกับจื่อหยุนแล้ว มันจะเป็นการดีที่สุดสำหรับเขาที่จะรักษาระยะห่างและปล่อยให้เวลารักษาแผลใจของจื่อหยุน การติดต่อกับนางอย่างต่อเนื่องอาจส่งผลเสียแทน
“จิตวิญญาณวัตถุ เจ้าจะยอมแพ้ตอนนี้หรือเจ้าจะยังดื้อด้านต่อ ? ” เจี้ยนเฉินมาถึงด้านหน้าโถงศักดิ์สิทธิ์จากสำนักกลืนธาราและถามจิตวิญญาณวัตถุอย่างไม่แยแส
เขาเตรียมพร้อมที่จะออกจากภูเขาวิญญาณนักรบแล้ว แต่โถงศักดิ์สิทธิ์ตรงหน้าเขาทำให้รู้สึกไร้พลัง หากจิตวิญญาณวัตถุยังคงไม่ยอมจำนนและยังต้านทานต่อไป ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะใช้โถงศักดิ์สิทธิ์ซึ่งสามารถยืดและหดได้ทุกเมื่อ เขาก็ไม่อาจสร้างค่ายกลเคลื่อนย้ายระหว่างดวงดาวได้
“เจ้าไม่คิดจะทำให้ข้ายอมจำนนด้วยซ้ำ” จิตวิญญาณวัตถุตอบอย่างดื้นรั้นเหมือนเมื่อก่อน
“มันดูเหมือนว่าข้าต้องใช้เจ้าทดสอบพลังวิญญาณนักรบ” เจี้ยนเฉินพูดอย่างเย็นชา เขานั่งอยู่ตรงหน้าโถงศักดิ์สิทธิ์และใช้มันเพื่อทำความคุ้นเคยกับทักษะที่เกี่ยวกับพลังวิญญาณนักรบ
เขาจะไม่สามารถออกจากภูเขาวิญญาณนักรบได้ก่อนที่เขาจะปราบโถงศักดิ์สิทธิ์ ท้ายที่สุดแล้วโถงศักดิ์สิทธิ์มากเกินไป มันยังมีน้ำนรกซึ่งเป็นสิ่งของที่แม้แต่อัครสูงสุดยังสนใจ
เจี้ยนเฉินต้องการน้ำนรกเพราะเขารู้ว่ามันเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถขัดเกลาวิญญาณได้ มันยังมีชิ้นส่วนของวิถีต่าง ๆ ทำให้มันมีผลกระทบที่น่ามหัศจรรย์
“ข้าจะฝึกทักษะปีศาจเป็นทักษะลับที่สามของข้า” เจี้ยนเฉินคิด ทักษะปีศาจแตกต่างจากทักษะการทำลายวิญญาณและทักษะทำลายสวรรค์ หากทักษะการทำลายวิญญาณและทักษะการทำลายสวรรค์มุ่งเน้นไปที่การโจมตี แต่ทักษะปีศาจเป็นทักษะที่เอาไว้เสริมแรง
นี่เป็นทักษะที่มีอิทธิพลต่อวิญญาณของผู้คนผ่านพลังวิญญาณนักรบ โดยสร้างภาพลวงตาและทำให้จิตใจสับสน
ภายใต้อิทธิพลของทักษะปีศาจ ผู้ที่มีจิตใจอ่อนแอกว่าหรือผู้ที่อ่อนแอกว่าอาจจะถูกทำล้ายและทำให้หลงทางชั่วนิรันดร์
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงหนึ่งในผลกระทบของทักษะปีศาจ มันมีผลกระทบอีกอย่างหนึ่งคือการเชิดหุ่นวิญญาณ
สิ่งที่เรียกกว่าการเชิดหุ่นวิญญาณนั้นคือการเข้าควบคุมจิตใจของเป้าหมายชั่วคราวเพื่อบรรลุจุดประสงค์ของตนเองได้
แน่นอน ว่าการเชิดหุ่นวิญญาณยากมากที่จะบรรลุ มันไม่มีประโยชน์กับผู้บ่มเพาะในระดับเดียวกันและมีผลกับคนที่อ่อนแอกว่ามากเท่านั้น
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็เริ่มฝึกฝนทักษะปีศาจกับจิตวิญญาณวัตถุ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถควบคุมจิตวิญญาณวัตถุผ่านทักษะนี้ แต่เขาสามารถทำให้อีกฝ่ายตกอยู่มนภาพลวงตาได้
จิตวิญญาณวัตถุของโถงศักดิ์สิทธิ์นั้นทรงพลังมาก แต่พลังส่วนใหญ่มาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ ถ้าเขาไม่สามารถใช้พลังของโถงศักดิ์สิทธิ์ได้ เขาจะอ่อนแอมาก
ทำให้เจี้ยนเฉินสามารถมีอิทธิพลต่อจิตวิญญาณวัตถุด้วยทักษะปีศาจ
ในช่วงเวลาถัดไปจิตวิญญาณวัตถุมักจะมีการตะโกนแปลก ๆ มันประหลาด ภายใต้อิทธิพลของทักษะปีศาจ เขาตกอยู่ในภาพลวงตาประสบกับเรื่องที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้
บางครั้งเขาก็หัวเราะออกมาดัง ๆ หรือร้องไห้ และบางครั้งก็ตื่นเต้นหรือหวาดกลัว อารมณ์ของเขาเปลี่ยนแปลงบ่อยประสบกับความรู้สึกมากมาย
“นายท่าน ! อย่าลบล้างข้า ! ข้าจะภักดีกับท่านอย่างจริงใจ ได้โปรดอย่าลบล้างข้า….” ทันใดนั้นจิตวิญญาณวัตถุก็ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความหวาดกลัวราวกับพบเจอกับสิ่งที่น่ากลัวอย่างยิ่ง
แสงในดวงตาของเจี้ยนเฉินกระพริบจากภาพนี้ เขารู้สึกประหลาดใจ “ข้าไม่คิดว่าทักษะปีศาจนี้จะทรงพลังขนาดนี้ แม้แต่จิตวิญญาณวัตถุเทพขั้นกลางก็ไม่อาจต้านทานมันได้หรือบางทีจิตวิญญาณวัตถุของวัตถุเทพนั้นแพ้ทางภาพลวงตามากกว่าการบ่มเพาะ ? ”
5 ปีต่อมา
“จิตวิญญาณวัตถุ ข้าขอถามเจ้าอีกครั้ง เจ้าจะยอมรับข้าเป็นเจ้านายหรือไม่ ? หากเจ้าทำเช่นนี้ ความเจ็บปวดและความทรมานทั้งหมดของเจ้าจะหายไป แต่ถ้าเจ้าไม่ยอมรับก็จะมีแต่เจ็บปวดและทรมานมากกว่านี้ และถ้าเจ้ายังคงดื้อรั้นต่อไป ข้าจะลบตัวตนของเจ้าออกไป เมื่อข้ามีพลังวิญญาณมากเพียงพอ” เจี้ยนเฉินตะโกนออกมาขณะที่เขานั่งอยู่หน้าโถงศักดิ์สิทธิ์
เขาเข้าใจทักษะลับทั้งสามแล้วในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ทำให้จิตวิญญาณวัตถุได้รับความทุกข์ทรมานโดยมันถูกทรมานทุกวัน
แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะไม่สามารถทำร้ายเขาด้วยพลังในปัจจุบันของเขาได้ แต่การถูกทรมานครั้งแล้วครั้งเล่านั้นยากยิ่งกว่าที่จะอดทนได้มากกว่าการบาดเจ็บหนัก
“ขะ-ข้ายอมแพ้ ข้ายอมรับเจ้าเป็นเจ้านายของข้า…” คราวนี้ในที่สุด จิตวิญญาณวัตถุก็ยอมแพ้
“ดี ! ” เจี้ยนเฉินมีความสุขมาก ท้ายที่สุดเขาก็สยบโถงศักดิ์สิทธิ์นี้สงบลงหลังจากความยากลำบากมากมาย
ต่อไปนี้ง่ายกว่ามาก ด้วยความร่วมมือของจิตวิญญาณวัตถุ เจี้ยนเฉินก็ได้ปรับแต่งวัตถุเทพขั้นกลางได้สำเร็จ
ในเวลาเดียวกัน เขาได้รู้ชื่อของโถงศักดิ์สิทธิ์ โถงเมฆธารา