เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)

ตอนที่ 2475: บรรลุวัตถุประสงค์

เมื่อนางได้ยินเขาพูดถึงชื่อของเจี้ยนเฉิน สีหน้าของเสี่ยวม่านที่หงุดหงิดก่อนหน้านี้ก็เปลี่ยนไปทันที นางจ้องมองไปที่ชายชราตัวเตี้ยด้วยดวงตาที่เปล่งประกายและตะโกนว่า “ท่านพูดอะไร ? จะ-เจี้ยนเฉินอยู่ด้านนอก ? พี่เจี้ยนเฉินน่ะหรือ ? ”

แม้แต่ดวงตาของจื่อหยุนก็เบิกกว้างเมื่อนางได้ยินชื่อของเจี้ยนเฉิน ทันใดนั้นนางก็มองไปที่ชายชราตัวเตี้ยและมีแสงแปลก ๆ วาบผ่านดวงตาของนาง มีความกระตือรือร้นและตื่นเต้นอย่างที่ไม่อาจปิดบังได้

“เจี้ยนเฉิน ? เป็นเขาจริง ๆ ? มันก็หลายปีมาแล้วหลังจากที่เจอกันครั้งล่าสุด ข้าสงสัยว่าเขาเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้……” จื่อหยุนคิดอยู่ภายใน นางอดไม่ได้ที่จะนึกความสัมพันธ์ที่นางมีกับเขา

ชายชราพยักหน้า “ใช่ เจี้ยนเฉิน อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเขาจะกลายเป็นหนึ่งในเชื้อสายนักรบวิญญาณตอนนี้”

“ข้าอยากเห็นพี่เจี้ยนเฉิน ให้พี่เจี้ยนเฉินเข้ามา ข้าอยากคุยกับพี่เจี้ยนเฉิน” เสี่ยวม่านพูดอย่างตื่นเต้น ย้อนกลับไปในตระกูลทลายสวรรค์ นางได้เสนอแร่ไพไรต์ให้กับบรรพชนทลายสวรรค์เพื่อแลกกับการที่เขาช่วยเจี้ยนเฉิน ท้ายที่สุดเจี้ยนเฉินก็หายตัวไปจากที่ราบรกร้าง ซึ่งทำให้เสี่ยวม่านรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากในเวลานั้น

ท้ายที่สุดนางก็ได้รับข่าวจากเจี้ยนเฉินอีกครั้งหลังจากผ่านไปหลายปี นางรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

แม้ว่านางจะไม่รู้จักเจี้ยนเฉินมานานนัก แต่เขาก็ช่วยเหลือนางเมื่อพวกเขาพบกันครั้งแรกบนยานอวกาศซึ่งทำให้นางรู้สึกขอบคุณ หลังจากนั้นเมื่อนางและจื่อหยุนเผชิญหน้ากับการไล่ล่าโดยราชาเทพจำนวนมากและเกือบจะจบชีวิต เจี้ยนเฉินก็ได้ออกมาช่วยเหลือพวกเขาในท้ายที่สุด เพื่อให้พวกเขารอดออกไปได้

แม้ว่านางจะกลายเป็นเจ้านายของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน แต่เจี้ยนเฉินก็ให้ความช่วยเหลือนางมากมาย

ไม่เพียงแต่เสี่ยวม่านที่เชื่อใจเจี้ยนเฉินเท่านั้น แต่นางยังรู้ว่านางสามารถพึ่งพาเขาได้ นางเริ่มทำตัวราวกับว่าเจี้ยนเฉินเป็นพี่ชายของนาง

“นั่นอาจเป็นไปไม่ได้ พระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนถูกยับยั้งโดยผู้เชี่ยวชาญหลายคน แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะเข้ามาในสถานที่แห่งนี้เขาก็ไม่อาจออกไปได้” จิตวิญญาณวัตถุรู้สึกหนักใจ

“ละ-แล้วเราจะทำอย่างไรดี ? ” เสี่ยวม่านขมวดคิ้ว นางรู้สึกเสียใจ

จื่อหยุนลังเลก่อนที่นางจะพูดว่า “เสี่ยวม่าน ตอนนี้เราไม่มีทางเลือก เมื่อพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนหมดพลัง เราก็จะอยู่ในมือของพวกเขาอยู่ดี เมื่อเป็นอย่างนั้น ใครจะรู้ว่าเกิดอะไรกับเราบ้าง เนื่องจากมันเป็นแบบนี้ทำไมเราไม่สร้างพันธมิตรกับเชื้อสายนักรบวิญญาณ ? เจี้ยนเฉินเป็นคนของเชื้อสายนักรบวิญญาณอีกด้วย ข้าคิดว่าเราเป็นพันธมิตรกับพวกเขา ไม่ว่ามันจะเลวร้ายแค่ไหน เราก็จะดีกว่าที่เราต้องลงเอยด้วยน้ำมือของผู้เชี่ยวชาญคนอื่น”

เห็นได้ชัดว่าเสี่ยวม่านให้ความสำคัญกับคำพูดจื่อหยุนเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เสี่ยวม่านจึงพยักหน้า “เอาล่ะ เนื่องจากพี่ชายเจี้ยนเฉินเป็นคนของเชื้อสายนักรบวิญญาณ งั้นเราก็เป็นพันธมิตรกับพวกเขา ข้าเชื่อว่าพี่เจี้ยนเฉินจะไม่ทำร้ายเรา”

…

“หุนเจิ้ง ทำไมเชื้อสายนักรบวิญญาณของเจ้าถึงยังไม่เริ่มลงมือ ? เจ้าจะประหยัดพลังงานเพื่อใช้ประโยชน์จากสถานการณ์เมื่อเราหมดพลังแล้วงั้นรึ ? ” ผู้เชี่ยวชาญชั้นสูงอีกคนหนึ่งตะโกนออกมาจากด้านนอกพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน เมื่อเขาเห็นว่าหุนเจิ้งยังคงนั่งเงียบอยู่บนภูเขาวิญญาณนักรบ อย่างไรก็ตามเขารู้สึกว่ามีบางอย่างดูไม่ถูกต้อง

“พลังวิญญาณนักรบนั้นลึกซึ้งมาก ผู้ที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเชื้อสายนักรบวิญญาณจะไม่มีวันเข้าใจความลับของมัน หุนเจิ้ง เจ้าแอบเข้าไปยุ่งกับพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนผ่านความมหัศจรรย์ของพลังวิญญาณนักรบของเจ้าหรือไม่ ? ” ชายในชุดเกราะสีทองและสีม่วงถามขณะที่เจตนาต่อสู้พุ่งสูงขึ้น ขณะที่จิตสังหารแผ่ออกมารอบตัวของเขา

เขาเป็นผู้คุมกฏตระกูลใหญ่ในโลกเซียน เขาทรงพลังอย่างมาก

ในเวลาเดียวกันเขาก็ไม่ได้เป็นคนเดียวที่ไม่ได้เห็นว่าเชื้อสายนักรบวิญญาณแน่เท่าไรนัก

หุนเจิ้งลืมตาขึ้นช้า ๆ เขามองทุกคนและยิ้มอย่างมีเลศนัย “สิ่งนี้ เนื่องจากทุกคนต้องการให้เชื้อสายนักรบวิญญาณของเราลงมือ งั้นเราก็จะลงมือ”

“ข่ายวิญญาณนักรบ ! ” หุนเจิ้งตะโกน

พริบตาเดียวก็มีแสงวาบผ่านสายตาของเจี้ยนเฉิน เขารู้ว่าเสี่ยวม่านตกลงที่จะเป็นพันธมิตรจากการกระทำของหุนเจิ้ง โดยไม่ลังเล เขาได้ใช้ข่ายวิญญาณนักรบพร้อมกับคนอื่น ๆ

ข่ายวิญญาณนักรบเป็นข่ายเวทย์ที่มีชื่อเสียงมากที่ถูกใช้โดยเชื้อสายนักรบวิญญาณ มันไม่ซับซ้อน เจี้ยนเฉินจึงใช้มันได้และเข้าไปในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์

ทันทีที่ใช้ข่ายวิญญาณนักรบ เจี้ยนเฉินรู้สึกได้ทันทีว่าพลังชีวิตของเขาดูเหมือนจะหลอมรวมกับคนอื่น ๆ และทั้งหมดก็พุ่งเข้าหุนเจิ้ง ในขณะนั้นพลังทั้งหมดจากพวกเขาทั้งแปดก็ได้หลอมรวมกันที่หุนเจิ้ง

อย่างไรก็ตามค่ายกลของข่ายวิญญาณนักรบ แม้แต่วิญญาณภูเขาวิญญาณที่อยู่ด้านล่างก็ดูเหมือนจะหลอมรวมกับหุนเจิ้ง ทำให้หุนเจิ้งสามารถใช้พลังได้ตามที่เขาต้องการ

ทันใดนั้นพลังแห่งการมีอยู่ของหุนเจิ้งก็พุ่งสูงขึ้น พลังงานพุ่งออกมาจากตัวเขาราวกับคลื่นยักษ์ที่น่ากลัวและทำให้มิติถูกกระชาก

“มีบางอย่าง ! ทุกคนระวังตัว ! ” สีหน้าของผู้เชี่ยวชาญในชุดเกราะสีม่วงทองเปลี่ยนไปและเขาก็เตือนทุกคน

ใคร ๆ ก็บอกได้เพียงแว่บเดียวที่หุนเจิ้งใช้กำลังเต็มที่ มันก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนี้เพื่อให้พลังงานของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนหมดไป

“หุนเจิ้ง เจ้าพยายามทำอะไรอยู่ ? ” ในเวลาเดียวกันอัครสูงสุดอีกคนก็ตะโกนออกมา พวกเขาระวังตัวเป็นอย่างมาก

“โอ้ ไม่ พวกเขาต้องการทำลายโซ่รอบ ๆ พระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน หยุดเขา….” ผู้เชี่ยวชาญในชุดเกราะมองเห็นความตั้งใจของหุนเจิ้งและเตือนทุกคนอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตามมันสายเกินไปแล้ว หุนเจิ้งมาถึงด้านหน้าพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนและใช้ทักษะทำลายวิญญาณ 5 ครั้ง ทักษะทำลายวิญญาณทั้งห้าได้กลายเป็นกระบี่ที่มองไม่เห็นแทงเข้าไปยังพันธนาการรอบ ๆ ของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน

โซ่เป็นวัตถุเทพขั้นกลาง มันมีประโยชน์อย่างมากที่จะล่ามพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนให้อยู่กับที่

“อ้ากกก ! ” ทันใดนั้นเสียงกู่ร้องที่เจ็บปวดก็ดังออกมา ทักษะทำลายวิญญาณที่หุนเจิ้งใช้นั้นทรงพลังกว่าเจี้ยนเฉินมาก ตอนนี้เขาใช้มันถึง 5 ครั้งติดกันทำให้จิตวิญญาณวัตถุเทพระดับปานกลางร้องออกมาอย่างดัง มันทำให้โซ่อ่อนแรงลง

หุนเจิ้งปลดปล่อยความแข็งแกร่งอย่างเต็มที่เมื่อเขาใช้ทักษะทำลายวิญญาณออกไป พลังของเชื้อสายนักรบวิญญาณทั้งแปดได้มารวมตัวกันที่เขาพร้อมกับพลังจิตของภูเขาวิญญาณ ดังนั้นความแข็งแกร่งในตอนนี้จึงท่วมท้นอย่างมาก แต่ก่อนเมื่อเขาต่อยออกไป พลังมันก็น่าตกใจพอแล้วและสามารถทำลายมิติได้ทันที เขาสร้างหลุมไปยังผนึกของอัครสูงสุดที่วางไว้รอบ ๆ พระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน

เขาจับส่วนหนึ่งของโซ่ด้วยมือซ้ายและปลดมัน โซ่ทั้งหมดถูกกระชากออกจากพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน

พระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนเป็นอิสระทันที

“หุนเจิ้ง ! “คนในเกราะสีม่วงทองตะโกนออกมา เขาแทงหอกไปที่หุนเจิ้งตรง ๆ

ทันใดนั้นหอกก็ส่องสว่างเจิดจ้า พลังที่น่ากลัวได้มารวมกันและพุ่งผ่านอากาศราวกับวิถีของโลกและปรากฏด้านหน้าของหุนเจิ้ง

ทันใดนั้นตาของหุนเจิ้งก็กลายเป็นดำสนิท เขามองไปที่หอกทันทีขณะที่พลังวิญญาณนักรบปะทุขึ้น

ทันใดนั้นหอกก็หมองและหม่นแสง มันช้าลงเช่นกันทำให้หุนเจิ้งสามารถหลบมันได้อย่างง่ายดาย

“หุนเจิ้ง เชื้อสายนักรบวิญญาณของเจ้าทำลายได้ทุกสิ่งจริง ๆ ! ” ในเวลาเดียวกันผู้เชี่ยวชาญชั้นสูงคนอื่น ๆ ก็โกรธมาก พวกเขารวมพลังแห่งวิถีและเปิดการโจมตีหลากสีไปยังหุนเจิ้งโดยมันพุ่งทะลุมิติ

พวกเขารู้สึกถึงพลังเชื้อสายนักรบวิญญาณของหุนเจิ้ง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าใช้วัตถุเทพ พวกเขากลัวว่าจิตวิญญาณวัตถุจะได้รับบาดเจ็บและพลังของวัตถุเทพจะลดลง

ในตอนนี้พระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนกลายเป็นภาพพร่ามัวและพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันร่อนบนภูเขาวิญญาณและลอยอยู่ตรงหน้าของเจี้ยนเฉิน ในตอนนี้มีขนาดเท่ากับกำปั้น

“เด็กน้อย นายหญิงเชื่อเจ้ามาก อย่าทำให้นายหญิงผิดหวัง ข้าจะให้พวกเจ้าเจอกันตอนนี้ เราจะพูดคุยเรื่องอื่น ๆ ออกมาจากที่นี่” เสียงของจิตวิญญาณวัตถุดังขึ้นในหัวของเจี้ยนเฉิน

พริบตา หุนเจิ้งก็ปรากฏตัวบนภูเขาวิญญาณนักรบเช่นกัน เขามองไปที่พระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนที่ลอยอยู่ด้านหน้า เจี้ยนเฉินยิ้มบาง ๆ “เราบรรลุวัตถุประสงค์ของเราแล้ว ไม่จำเป็นต้องพยายามไปกับการต่อสู้ของพวกเขาอย่างไร้จุดหมาย กลับกันเถอะ”

“หุนเจิ้ง เชื้อสายนักรบวิญญาณของเจ้านั้นทำเกินไปแล้ว” ผู้เชี่ยวชาญในชุดเกราะลอยอยู่เหนือภูเขาวิญญาณนักรบ เขาทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญชั้นสูงคนอื่น ๆ โดยเริ่มการโจมตีอย่างรุนแรงไปที่ภูเขาวิญญาณนักรบ