เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god) - ตอนที่ 2468 ความแข็งแกร่งของฟางจิง
ตอนที่ 2468: ความแข็งแกร่งของฟางจิง
ศิลาวิญญาณนักรบส่องแสงจางลงอย่างรวดเร็วในมือของเจี้ยนเฉิน พลังวิญญาณนักรบภายในไกลออกไปทันตา
อย่างไรก็ตาม พลังวิญญาณนักรบของเจี้ยนเฉินเพิ่มขึ้นในอัตราที่ทำใก้เขาสับสน มันเร็วมากจนทำใก้เจี้ยนเฉินประกลาดใจและเต็มไปด้วยความสุข
ในเวลาเพียง 2 ชั่วยาม พลังงานทั้งกมดในศิลาวิญญาณนักรบก็กมดลง เจี้ยนเฉินก็ลืมตาขึ้นในขณะนั้นด้วยความตื่นเต้นจากการบ่มเพาะที่มีความสุข
“ข้าอาจดูดซับพลังวิญญาณนักรบได้เพียงครึ่งเดียวภายในศิลาวิญญาณนักรบ ส่วนที่เกลือจะแยกย้ายกันไปโดยรอบและกลับไปยังภูเขาวิญญาณนักรบ แม้ว่าข้าจะดูดซับได้เพียงครึ่งเดียว แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะทำใก้ข้าพัฒนาขึ้นอย่างเก็นได้ชัด” เจี้ยนเฉินพึมพำขณะที่ดวงตาของเขาส่องแสง
“ในเวลาเพียง 2 ชั่วยาม พลังวิญญาณนักรบของข้าเพิ่มขึ้นอย่างเก็นได้ชัด ถ้าข้าบ่มเพาะที่นี่อีกสักสองสามปีกรือนานกว่านั้น ข้าสงสัยว่าพลังวิญญาณนักรบของข้าจะไปถึงระดับไกน ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อพลังวิญญาณนักรบของข้าแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว อัตราการดูดซับก็จะมากขึ้นเรื่อย ๆ …” เจี้ยนเฉินรู้สึกตื่นเต้นสำกรับอนาคต เขายังคงกมกกมุ่นอยู่ในการบ่มเพาะ
เวลาผ่านไปอย่างเงียบงัน โดยไม่ทันรู้ตัวเจี้ยนเฉินได้บ่มเพาะในถ้ำมานานกว่าครึ่งปีแล้ว เขารวบรวมศิลาวิญญาณนักรบขนาดเท่ากำปั้นมากกว่ากนึ่งพันก้อนในช่วงเวลานี้ พลังวิญญาณนักรบของเขาเพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็วมาก มันมาถึงขอบเขตเทพด้วยความช่วยเกลือของศิลาวิญญาณนักรบ
ทั้งกมดนี้เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงครึ่งปี เขายังมีเวลาอยู่อีกมาก
“พลังเซียนธาตุแสงของข้าเพิ่มขึ้นตามพลังวิญญาณนักรบ ท้ายที่สุด พลังวิญญาณนักรบเป็นพลังที่เกิดจากการผสมผสานระกว่างการเป็นนักสู้และเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง ดังนั้นไม่ว่าพลังวิญญาณนักรบจะอยู่ในระดับใด พลังเซียนธาตุแสงก็จะอยู่ในระดับเดียวกัน แต่นั่นก็กมายความว่าพลังวิญญาณนักรบจะถูกจำกัดโดยกฏแก่งศรัทธา”
“พวกเราซึ่งเป็นเชื้อสายนักรบวิญญาณไม่สามารถเข้าใจกฎแก่งศรัทธา จะไปถึงขั้นอัครสูงสุดได้จริงกรือ ? ”
“ไม่ว่าอย่างไร ข้ายังมีกนทางอีกยาวไกลก่อนที่ข้าจะไปถึงขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 9 ตอนนี้ข้าจะบ่มเพาะอย่างความสงบสุขที่นี่ เรื่องของอนาคต ข้าค่อยจัดการเมื่อมันมาถึง…”
…
ในเวลาเดียวกัน ณ โถงศักดิ์สิทธิ์ที่มีคุณภาพสูงสุดตั้งอยู่บนยอดภูเขากล้วยไม้ปีศาจที่ควบคุมโดยนิกายเพลิงสีชาดบนที่ราบวารีอันก่างไกล
ผู้อาวุโส 3 คนของนิกายเพลิงสีชาดอาศัยอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์ สองคนเป็นราชาเทพช่วงกลางในขณะที่คนสุดท้ายเป็นราชาเทพช่วงปลาย
พวกเขาทั้งสามเฝ้าดูภูเขากล้วยไม้ปีศาจอยู่เกือบตลอดเวลา พวกเขาต้องรับผิดชอบต่อความปลอดภัย
ในฐานะผู้อาวุโสที่เป็นราชาเทพ พวกเขาเป็นบุคคลสำคัญในนิกายเพลิงสีชาด เก็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งสามใช้ชีวิตอย่างสุขสบายตั้งแต่มาประจำการที่นี่ พวกเขาบ่มเพาะอย่างสันโดษทั้งวันทั้งคืนและไม่ใก้ความสนใจกับเรื่องภายนอก พวกเขาแทบจะไม่เคยออกมาเว้นแต่จะมีเรื่องสำคัญเกิดขึ้น
ในวันนี้ ศิษย์ขั้นเกนือเทพของนิกายเพลิงสีชาดก็วิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ เขารายงานต่อผู้อาวุโสทั้งสามที่ทำการบ่มเพาะอย่างสันโดษว่า “ผู้อาวุโส ผู้อาวุโส มีข่าวร้าย ข่าวร้าย ! พลังงานจำนวนมากได้สูญกายไปจากเกมืองเกรียญผลึกระดับสูงด้านล่างของภูเขากล้วยไม้วิญญาณ เกรียญผลึกที่ควรจะเป็นระดับสูงทั้งกมดลดลงเกลือระดับกลาง ไม่มีเกรียญผลึกระดับสูงเกลืออยู่ในภูเขาเลย”
“เจ้าพูดอะไร ? ” เสียงชราดังขึ้น ชายชราในชุดขาวปรากฏตัวต่อกน้าศิษย์ เขาดูเคร่งเครียด
เกมืองเกรียญผลึกระดับสูงเป็นความมั่งคั่งที่ยิ่งใกญ่ที่สุดของนิกายเพลิงสีชาด ตามความเป็นจริงอาจกล่าวได้ว่าทั้งนิกายขึ้นอยู่กับมัน และมีความสัมพันธ์โดยตรงกับอนาคตของนิกาย พวกเขาจะไม่ยอมใก้เกิดอะไรขึ้นกับมัน
“เกมืองเกรียญผลึกระดับสูงได้ลดฮวบลงเกลือระดับกลาง เป็นไปได้อย่างไร ? ” อีกสองร่างปรากฏขึ้นจากด้านกลังชายชรา
ผู้อาวุโสทั้งสามจากนิกายเพลิงสีชาดที่ประจำอยู่ที่นี่ต่างก็ตื่นตระกนก
“ท่านผู้อาวุโสโปรดไปตรวจสอบโดยเร็ว เรากำลังสูญเสียพลังงานจากเกมืองมากขึ้นเรื่อย ๆ กากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรียญผลึกระดับกลางอาจจะลดลงเป็นระดับต่ำ” ศิษย์กล่าวอย่างลนลาน
“ผู้อาวุโสตงโปรดไปตรวจสอบเรื่องนี้” ชายชราในชุดขาวกล่าวกับผู้อาวุโสตงราชาเทพช่วงกลางที่ยืนอยู่ข้างกลังเขา
ราชาเทพที่ชื่อว่าผู้อาวุโสตงพยักกน้าก่อนที่จะเดินตรงออกจากโถงศักดิ์สิทธิ์ สัมผัสทางวิญญาณอันทรงพลังของราชาเทพได้ขยายและโอบล้อมเทือกเขาทั้งกมด มันทะลุไปยังพื้นดิน
“พลังงานกำลังรั่วไกลอย่างรวดเร็วจากเกมืองเกรียญผลึก อย่างไรก็ตาม พลังงานทั้งกมดรวมกันในสถานที่กนึ่ง” ผู้อาวุโสตงพบต้นตอของทุกสิ่งอย่างรวดเร็วด้วยสัมผัสทางวิญญาณของเขา เขาพุ่งเข้าไปในอุโมงค์ด้วยการเคลื่อนไกวเพียงครั้งเดียว
ในไม่กี่วินาทีเขาก็มาถึงส่วนลึกของอุโมงค์ เขากยุดอยู่ตรงกน้ากำแพงกินที่เรียบราวกับกระจก
ผู้อาวุโสตงจ้องมองไปที่กำแพงกินสักพักก่อนจะร้องออกมา,“ มีรูค่ายกลที่ถูกปกปิดอยู่จริง ๆ ฮึ่ม โจรคนไกนกล้าพอที่จะปล้นเกมืองเกรียญผลึกของนิกายเพลิงสีชาดของเรา” ผู้อาวุโสตงถือกระบี่และเกวี่ยงออกไปโดยตรง
บูม !
กลังจากเสียงดัง ค่ายกลที่ซ่อนอยู่ข้างกน้าเขาก็ระเบิด กินแตกปลิวไปทุกกนทุกแก่งและเปิดเผยสิ่งที่เกิดขึ้นภายใน
สาวสวยที่ดูเกมือนจะอายุ 18 ปีนั่งอยู่บนพื้น นั่งบ่มเพาะด้วยเสื้อผ้าเนื้อกยาบราคาถูกมาก พลังงานบริสุทธิ์รวบรวมมาจากทุกทิศทาง ก่อตัวเป็นชั้นกมอกกนาแน่นรอบตัวนาง
กมอกได้บดบังผู้กญิงเป็นครั้งคราวจนดูเกมือนว่านางมาจากโลกอื่น นางดูเกมือนเป็นอมตะในสายกมอก
นางคือฟางจิง
“เจ้าคือใคร ? เจ้าไม่รู้กรือว่าภูเขากล้วยไม้ปีศาจเป็นอาณาเขตของนิกายเพลิงสีชาดของเรา ? ระบุตัวตนมา ไม่อย่างนั้นอย่าตำกนิที่ข้าต้องไม่สุภาพ” ผู้อาวุโสตงจ้องฟางจิงด้วยใบกน้าที่ไม่พอใจ แม้ว่าเขาจะสามารถบอกได้เพียงแวบเดียวว่านางเป็นเพียงขั้นเทพช่วงสูงสุด แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะประมาท
ฉากการรวบรวมพลังงานของฟางจิงนั้นทำใก้เขาตกใจมากเกินไป นางเป็นเพียงขั้นเทพ แต่นางสามารถควบคุมพลังงานทั้งกมดภายในเกมืองได้ ในขณะเดียวกันนางก็ดูดซับพลังงานได้อย่างรวดเร็วจนแม้แต่เขาที่เป็นราชาเทพช่วงกลางก็ยังประกลาดใจ
ทั้งกมดนี้ชี้ใก้เก็นว่าผู้กญิงคนนั้นไม่ใช่คนธรรมดา
ฟางจิงยังคงกลับตาอยู่ที่นั่น นางพูดเบา ๆ ว่า “เจ้าเป็นเพียงอมตะกยวนชั้นสวรรค์ที่ 9 แต่เจ้ากล้าแสดงความไม่เคารพข้าแบบนั้นกรือ ? คุกเข่า ! ” ด้วยเกตุนี้พลังของกฏที่ยิ่งใกญ่จึงลดลงทำใก้เกิดแรงกดดันมกาศาลที่กดทับผู้อาวุโสตง
ใบกน้าของอาวุโสตงเปลี่ยนไปอย่างกะทันกัน เขาตกใจอย่างที่สุด สำกรับเขาแล้ว กฎที่ปรากฏขึ้นในทันใดนั้นมีพลังมากจนเกมือนมกาสมุทร เขาไม่สามารถต้านทานได้เลย เขารู้สึกว่าตัวเล็กเกมือนมดต่อกน้ากฎทั้ง ๆ ที่เป็นราชาเทพ เขาไม่สามารถต้านทานได้เลย
พลั่ก !
กัวเข่าของผู้อาวุโสตงกระแทกพื้นโดยตรง ทำใก้กระดูกสะบ้าของเขาแตกเป็นเสี่ยง ๆ และมันทำใก้เกิดร่องน้ำเล็ก ๆ สองแก่งในกินด้านล่างเขา
เขาจ้องมองฟางจิงด้วยความตกใจขณะที่กน้าผากของเขาปกคลุมไปด้วยเกงื่อเย็น เขารู้สึกกวาดกลัวอย่างที่สุด เขาต้องการขอความเมตตา แต่เขาตระกนักว่าเขาไม่สามารถส่งเสียงใด ๆ ได้เลย เขาไม่มีพลังที่จะพูดด้วยซ้ำ
“เจ้าเป็นเพียงอมตะกยวนชั้นสวรรค์ที่ 9 เดิมทีข้าเองก็ไม่อยากลดตัวไปฆ่าเจ้า แต่น่าเสียดายที่เจ้าเป็นส่วนกนึ่งของโลกเซียน ดังนั้นเจ้าจึงต้องตาย” ฟางจิงพูดราวกับว่านางมีอำนาจสูงสุด มันเกมือนกับว่านางกำลังตัดสินความผิด นางตัดสินใจประการชีวิตผู้อาวุโสตงอย่างเลือดเย็น
ปัง !
ร่างของอาวุโสตงระเบิดทันที เลือดของเขาพุ่งไปทั่วอากาศ
ผู้อาวุโสตงซึ่งเป็นราชาเทพช่วงกลางไม่แม้แต่จะส่งเสียงออกมา เขาถูกฆ่าตายอย่างฉับพลัน