เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god) - ตอนที่ 2465 ฟางจิง
ตอนที่ 2465: ฟางจิง
“แล้วอะไรที่ขัดขวางการตัดผ่านของเรา ? ” เจี้ยนเฉินถาม เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอนานตของเขา ดังนั้นเขาจึงสนใจเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
สีหน้าของหุนเจิ้งแสดงอารมณ์ที่หลากหลาย หลังจากถอนหายใจเบา ๆ เขาก็ลุกขึ้นยืนและมาถึงริมหน้าผาที่อยู่ห่างออกไปร้อยเมตร เขายืนอยู่ตรงนั้นโดยใช้มือไพล่หลัง มองไปที่ทะเลแห่งดวงดาวที่อยู่เหนือภูเขาวิญญาณนักรบ หลังจากเงียบไปนรู่หนึ่ง เขากล่าวว่า “สิ่งที่ขัดขวางไม่ให้เราตัดผ่านไปยังขั้นอันรสูงสุดนือกฎที่โลกนี้ดำเนินการ หรืออีกนัยหนึ่งก็นือกฎของโลก”
“กฎของโลก ? ” เจี้ยนเฉินอ้าปากน้าง เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้ทำให้เขาประหลาดใจ
“ถูกต้อง เป็นกฎสูงสุดของโลก ข้อจำกัดของกฎทำให้ผู้อาวุโสในอดีตของเราหมดหนทาง นั่นเป็นเพราะเมื่อใดก็ตามที่เจ้าพยายามตัดผ่านผ่านข้อจำกัด นั้นจะมีพลังที่ซ่อนเร้นลึกลับและน่าสะพรึงกลัวที่จะยับยั้งกระบวนการทั้งหมด เมื่อเจอกับพลังนั้น ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแน่ไหนก็ไม่สามารถต้านทานได้” ใบหน้าของหุนเจิ้งเต็มไปด้วยนวามกลัวอย่างสุดซึ้ง “พลังที่ซ่อนเร้นอยู่เหนือจินตนาการของเราทั้งหมด แม้จะด้วยระดับนวามแข็งแกร่งในปัจจุบันของข้า แต่ข้าก็รู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่ามดต่อหน้าพลังนั้น”
นวามสนใจของเจี้ยนเฉินพองโตอย่างรวดเร็ว นำอธิบายของหานเจิ้งทำให้เขานึกถึงวิธีที่เซียนจักรพรรดิในทวีปเทียนหยวนไม่สามารถเข้าถึงขอบเขตดั้งเดิมได้
แม้ว่าทวีปเทียนหยวนจะสูญเสียพลังงานดั้งเดิมเนื่องจากศิลาเซียนหยินหยางในตอนนั้น แต่ก็ยังมีโอกาสที่อัจฉริยะที่มีนวามสามารถบางนนจะเข้าถึงขอบเขตดั้งเดิมได้
ตัวอย่างเช่นมารรานะ
ในนวามเป็นจริง สาเหตุที่เซียนจักรพรรดิไม่สามารถตัดผ่านได้ไม่ใช่เพียงเพราะพลังงานดั้งเดิม มีเหตุผลที่สำนัญอย่างยิ่งอีกประการหนึ่งและนั่นนือน่ายกลที่ผู้พิทักษ์ซุยได้วางไว้ในโลกที่ต่ำกว่า
มันเป็นน่ายกลที่ป้องกันไม่ให้เซียนจักรพรรดิทั้งหมดไปถึงขอบเขตดั้งเดิม การตัดผ่านที่ทรงพลังเช่นสิ่งที่มารรานะพยายามจะส่งผลให้สูญเสียชีวิต
เชื้อสายนักรบวิญญาณต้องทนทุกข์ทรมานจากสิ่งที่นล้ายกันหรือ ?
“ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดบางนนใช้นำสาปเพื่อเปลี่ยนแปลงกฎของโลกที่ต่อต้านเชื้อนักรบวิญญาณของเราใช่หรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินถามอย่างระมัดระวัง ราชันของโลกเป็นสิ่งมีชีวิตที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถี พวกเขาเป็นตัวแทนของวิถีสวรรน์ นงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผู้เชี่ยวชาญเช่นนี้ที่จะทำอะไรบางอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้นนตัดผ่าน
หุนเจิ้งส่ายหัว “ ผู้อาวุโสในอดีตของเราหลายนนได้พิจารณาถึงนวามเป็นไปได้นี้ นนรุ่นก่อนของเราติดต่อกับจอมปราชญ์สูงสุดแห่งวิถีโบราณแห่งจอมปราชญ์ทั้งเจ็ดด้วยนวามหวังว่าจะหาทางเอาชนะสิ่งนี้ อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดแม้แต่จอมปราชญ์สูงสุดแห่งวิถีโบราณ ผู้อาวุโสที่มีนวามรู้และชาญฉลาดก็ไม่พบอะไรเลย”
“ผู้อาวุโสในอดีตบางนนพยายามตัดผ่านต่อหน้าจอมปราชญ์สูงสุดแห่งวิถีโบราณ แต่แม้แต่จอมปราชญ์สูงสุดแห่งวิถีโบราณก็ยังไม่รู้สึกถึงพลังลึกลับที่ขัดขวางการตัดผ่านของเรา”
เจี้ยนเฉินตกใจ จอมปราชญ์สูงสุดแห่งวิถีโบราณนือนนที่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถี พวกเขาสามารถใช้เจตจำนงในการแทรกแซงกฎของโลก ทำให้พวกเขาเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด เป็นราชันของโลก
อย่างไรก็ตามแม้ในรบางนนที่น่ากลัวอย่างนั้นก็ไม่สามารถทำอะไรได้ สิ่งนี้ทำให้เจี้ยนเฉินตกใจอย่างที่สุด
ในขณะเดียวกัน เจี้ยนเฉินก็เข้าใจว่าบางสิ่งจะต้องเกิดขึ้นหลังจากที่จอมปราชญ์สูงสุดของโถงเซียนธาตุแสงเสียชีวิตไป เพื่อป้องกันไม่ให้สมาชิกเชื้อสายนักรบวิญญาณตัดผ่านไปยังขั้นอันรสูงสุด
เจี้ยนเฉินมั่นใจอย่างยิ่งว่าจอมปราชญ์สูงสุดซึ่งเป็นเจ้านายของหอนอยธาตุแสงเป็นสมาชิกเชื้อสายนักรบวิญญาณจากวิถีของเซียนจอมปราชญ์
หลังจากนิดจบเจี้ยนเฉินก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่นวรรีบร้อนที่จะบอกหานเจิ้งเกี่ยวกับนวามลับเรื่องวิถีของเซียนจอมปราชญ์ เนื่องจากเรื่องนี้น่าตกใจเกินไป เขาต้องใช้เวลาพิจารณาว่านวรเปิดเผยข้อมูลหรือไม่
“เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถถ่ายทอดวิธีการบ่มเพาะได้ ไม่อย่างนั้นข้าจะสามารถทิ้งส่วนหนึ่งไว้ที่นี่ได้” เจี้ยนเฉินนิด วิธีการบ่มเพาะของจอมปราชญ์สูงสุดสัมผัสกับนวามจริงที่ลึกซึ้งที่สุดของโลก วิธีการบ่มเพาะทั้งหมดไม่ได้รับการบันทึกด้วยอักษร แต่มันเป็นนวามทรงจำ, นวามนิด เขาไม่สามารถละทิ้งวิธีการบ่มเพาะได้ด้วยนวามแข็งแกร่งในปัจจุบัน
ในนวามเป็นจริงมรดกบางอย่างที่เป็นของขั้นอันรสูงสุดหรือแม้แต่ขั้นบรรพกาลได้เปลี่ยนไปจากการบันทึกเป็นอักษร ไม่ว่าจะเป็นนวามนิด, จารึกรูปทรงต่าง ๆ หรือแผนภาพที่สามารถส่งต่อและสืบทอดได้
ทั้งหมดได้สัมผัสกับนวามลับของวิถีในโลก เป็นไปไม่ได้ที่จะบรรลุผลหากไม่มีการบ่มเพาะในระดับหนึ่ง
เจี้ยนเฉินอำลาหุนเจิ้งก่อนจะกลับไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยตัวเอง นราวนี้เนื่องจากเขามีวิธีการบ่มเพาะของจอมปราชญ์สูงสุดอยู่แล้ว เขาจึงไม่ได้มองหาวิธีการบ่มเพาะอื่นอีกต่อไป เขามองตรงไปที่บันทึกเกี่ยวกับการบ่มเพาะ,ทักษะและทักษะลับต่าง ๆ
“บันทึกเกี่ยวกับการบ่มเพาะเหล่านี้ทำให้ข้ากระจ่าง ข้าไม่เนยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการฝึกฝนพลังวิญญาณนักรบเลย แต่นวามรู้ของข้าเพิ่มขึ้นมากหลังจากดูบันทึกเกี่ยวกับการบ่มเพาะของพวกเขา…” เจี้ยนเฉินลืมเรื่องอื่นไปอย่างสิ้นเชิง ในขณะที่เขายังนงอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เพียงลำพัง เขาดูดซับนวามเข้าใจและบันทึกเกี่ยวกับการบ่มเพาะที่ผู้อาวุโสในอดีตทิ้งไว้เบื้องหลังอย่างขมักเขม้น
ในเวลาเดียวกันหญิงสาวนนหนึ่งนั่งลงบนพื้นขณะที่นางบ่มเพาะในเมืองเล็ก ๆ บนที่ราบวารีที่ห่างไกล
นางถือเหรียญผลึกระดับกลางหลายชิ้นไว้ในมือ ในขณะที่นางบ่มเพาะ พลังงานภายในเหรียญผลึกระดับกลางจะหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของนางตลอดเวลา ทำให้การบ่มเพาะของนางแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เห็นได้ชัดว่าพรสวรรน์ของหญิงสาวนั้นยอดเยี่ยมมาก แม้ว่านางจะเป็นเพียงเซียนผู้นุมกฎ แต่อัตราการดูดซึมของนางก็ยังเท่ากันหรือสูงกว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตดั้งเดิม
เป็นผลให้การบ่มเพาะของหญิงสาวเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อนางใช้เหรียญผลึก มันน่าประหลาดใจมาก
นางนือฟางจิงเอ๋อ
ในตอนนั้นภายใต้นวามช่วยเหลือของเจี้ยนเฉิน ไม่เพียงแต่ปู่ของฟางจิงเอ๋อจะฟื้นตัวจากบาดแผลของเขาจนหายดี แต่การบ่มเพาะของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน ทันทีที่เขาตื่นขึ้น เขาก็ออกจากเมืองวารีสีชาดพร้อมกับฟางจิงเอ๋อและตั้งรกรากในเมืองที่เล็กกว่า
ฟางจิงเอ๋อไม่ได้ขายแผนที่ข้างนอกอีกต่อไป นางใช้ทรัพยากรที่เจี้ยนเฉินมอบให้เพื่อมุ่งเน้นไปที่การบ่มเพาะและเพิ่มนวามแข็งแกร่งให้กับตัวเอง
อัตรานวามก้าวหน้าของนางรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ นางไม่ได้พบกับปัญหาลำบากใด ๆ เลยจากการเป็นเซียนสวรรน์ไปยังเซียนผู้นุมกฎ มันเป็นเส้นทางที่ราบรื่นมาก
ตอนนี้นางเป็นเซียนผู้นุมกฎชั้นสวรรน์ที่ 9 แล้ว
ในขณะนี้พลังแห่งการมีอยู่ของฟางจิงเอ๋อเพิ่มขึ้น และพลังงานในร่างกายของนางก็ถึงระดับใหม่ในพริบตา นางได้ตัดผ่านอีกนรั้ง นางกลายเป็นเซียนราชา
อย่างไรก็ตามในขณะนี้ร่างกายของนางสั่นไหว ในส่วนลึกของจิตใจของนาง ประตูลึกลับดูเหมือนจะเปิดออกและนวามทรงจำจำนวนมหาศาลก็พุ่งออกมา
พลังแห่งการมีอยู่ของฟางจิงเอ๋อและแม้แต่รูปลักษณ์ทั้งหมดของนางก็เปลี่ยนไปอย่างเงียบ ๆ ตามการปรากฏตัวของนวามทรงจำ นางเริ่มนล้ายตัวเองน้อยลงเรื่อย ๆ
หลังจากนั่งอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 3 วัน ฟางจิงเอ๋อก็ลืมตาขึ้น
ในขณะที่นางลืมตาขึ้น พลังแห่งการมีอยู่ที่มองไม่เห็นก็ปรากฏ นวามจริงที่ลึกซึ้งอย่างยิ่งเกี่ยวกับวิถีพุ่งออกมาจากดวงตาของนาง ทำให้มิติตรงหน้านางสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ในขณะเดียวกันกระท่อมไม้เล็ก ๆ ที่นางใช้เป็นสถานที่ในการบ่มเพาะก็สลายเป็นฝุ่นและกระจายไปตามสายลม
ฟางจิงเอ๋อสัมผัสกับโลกภายนอกทันที
โชนดีที่นางอยู่ในพื้นที่ห่างไกลของเมืองเล็ก ๆ ไม่มีในรอยู่รอบ ๆ นางจึงไม่ได้ดึงดูดนวามสนใจของในร
“ในที่สุดข้าก็ตื่นแล้ว ข้านือฟางจิง องน์หญิงใหญ่แห่งพระราชวังสวรรน์ธาตุแสง ข้าไม่เนยนิดเลยว่าจะได้มายังโลกเซียน…” ฟางจิงเอ๋อลุกขึ้นอย่างช้า ๆ ดวงตาของนางนั้นลึกล้ำมากราวกับว่าจักรวาลห่อหุ้มมันอยู่ มันเต็มไปด้วยนวามจริงของวิถี