เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god) - ตอนที่ 2440 กลับไปยังที่ราบประกายดาว
ตอนที่ 2440 : กลับไปยังที่ราบประกายดาว
ชายแก่คนนั้นพึมพำจบก็หายตัวไป ไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปตอนไหน แม้แต่ทหารที่ดูแลค่ายเคลื่อนย้ายก็ยังไม่รับรู้อะไร
ตอนที่ชายแก่ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง เขากลับเดินทางมาได้ไกลอย่างมาก ตรงเข้าไปยังส่วนกลางของของเขตใต้ เขายืนอยู่ด้านนอกค่ายกลป้องกันของโถงเซียนธาตุแสง
ค่ายกลป้องกันทั้งหมดของโถงเซียนธาตุแสงได้ทำงานแล้ว มันปลดปล่อยพลังทั้งหมดมันออกมา หากมองจากไกล ๆ แล้ว ที่นี่ครอบคลุมไปด้วยโดมพลังงานขนาดใหญ่
ชายแก่คนนี้ไม่ได้แผ่พลังออกมาเลยแม้แต่น้อย เขาลอยอยู่เหนือค่ายกลป้องกันราวกับภูตผี เคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย เขาก็พุ่งเข้าใส่ค่ายกลป้องกันทันที
ค่ายกลป้องกันของโถงเซียนธาตุแสงนั้นดูเปราะบางต่อหน้าชายแก่ผู้นี้ พวกมันไร้ประโยชน์ สุดท้ายชายแก่ก็ยังผ่านค่ายไปได้อย่างง่ายดายและเข้าไปในโถงเซียนธาตุแสง
ตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีใครรู้ว่าเกิดเรื่องผิดปกติใด ๆ ขึ้น ไม่มีใครรับรู้ตัวตนของชายแก่ได้เลย
แม้แต่หัวหน้าของโถงเซียนธาตุแสงอย่างหยู่เฉิน ก็ไม่อาจจะรับรู้ได้ว่าแขกที่ไม่ได้รับเชิญได้เข้ามาในโถงเซียนธาตุแสงแล้ว
ชายแก่ไม่ได้เดินหน้าต่อ หลังจากที่เข้ามาได้แล้ว เขาก็ลอยอยู่ข้าง ๆ ค่ายกลป้องกันและมองไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ สายตาเขาเสียดแทงผ่านมิติและสิ่งบดบังของโถงศักดิ์สิทธิ์ทำให้เขามองเห็นได้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในได้อย่างชัดเจน
“ เกิดขึ้นเพราะกระบี่ทั้งหก กระบี่ทั้งหกนี้ไม่ได้สร้างขึ้นจากวัสดุกายภาพ มันกลายร่างมาจากตัวตนที่แข็งแกร่ง…” สายตาของชายแก่แสดงความสงสัยออกมา หลังจากที่คิดชั่วครู่ การรับรู้วิญญาณที่เบาบางแผ่ออกไปครอบคลุมทั้งโถงศักดิ์สิทธิ์เอาไว้
ไม่นานเขาก็ได้ข้อมูลกลับไปมากมาย
“กระบี่ผู้พิทักษ์ทั้ง 9 เล่มรึ ? ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่าโถงเซียนธาตุแสงจะซ่อนของแบบนี้เอาไว้ ด้วยกระบี่ผู้พิทักษ์พวกนี้แล้ว มันจะมีใครที่ทัดเทียมกับโถงเซียนธาตุแสงได้ ? บางทีแม้แต่เซียนกระบี่สวรรค์ที่ได้รับการสืบทอดจากเทพกระบี่สามชีวิตก็ยังไร้พลังต่อหน้าพวกนี้…”
“ข้าสงสัยว่าโถงเซียนธาตุแสงจะขยายอำนาจด้วยความทะเยอทะยานอันบ้าคลั่ง หากเป็นแบบนั้นขึ้นมา บางทีที่ราบรกร้างอาจจะเต็มไปด้วยเลือด…” ชายแก่มองไปทางโถงศักดิ์สิทธิ์ หลังจากนั้นเขาก็หายเข้าไปค่ายกลป้องกันอีกครั้งและจากที่นั่นไปเงียบ ๆ เหมือนกับตอนที่มาถึง
ในเวลาเดียวกัน ซวนจ้าน, ซวนหมิง, ตงหลินหยานเซว่, หานซิน และกงซุนอี้ ต่างก็ยืนอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์และยกกระบี่ของพวกเขาขึ้น
ทันใดนั้นพลังของกระบี่ผู้พิทักษ์ก็ปะทุออกมาราวกับน้ำหลาก มันทำให้ยอดฝีมือระดับสูงในที่ราบรกร้างต่างก็พากันตกใจ
โถงเซียนธาตุแสงไม่ได้เลือกที่จะปกปิดกระบี่ผู้พิทักษ์เอาไว้ กลับกันแล้วพวกเขาเลือกที่จะประกาศเรื่องนี้ออกไปแทน
ทันใดนั้นยอดฝีมือระดับสูงทั้งหมดในที่ราบรกร้างต่างก็พากันตื่นตัว พวกเขาได้ออกจากที่บ่มเพาะและรีบมุ่งหน้าไปยังโถงเซียนธาตุแสงด้วยความไม่สบายใจ
…
ในเวลาเดียวกัน เจี้ยนเฉินและซูหรานก็ได้ออกจากที่ราบรุ่งโรจน์ผ่านค่ายกลเคลื่อนย้าย
ไม่นานหลังจากที่พวกเขาจากไป หอคอยขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นในพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงตั้งอยู่ภายในเขตกลางของที่ราบรุ่งโรจน์ มันตกลงกับพื้นอย่างแรงแล้วตั้งอยู่ตรงหน้าพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง
หอคอยนี้มีขนาดใหญ่โตสูงหลายแสนเมตร หากมองจากไกล ๆ แล้วมันเหมือนกับแกนหลักของสวรรค์ มันน่าตะลึงอย่างมาก
หอคอยนี้ได้ทำให้ที่ราบทั้งหมดสั่นไหวตอนที่มันตกลงมาที่พื้น
หอคอยนี้คือหอคอยอนัตตาที่เจี้ยนเฉินเพิ่งนำมาคืนเมื่อไม่นานมานี้
แต่หอคอยอนัตตากลับใหญ่กว่าตอนที่เจี้ยนเฉินครอบครองมันหลายเท่า
ตอนนั้นพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงได้ส่องแสงออกมา แสงสีทองได้ส่องประกายออกมาจากพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงครอบคลุมทั้งหอคอยอนัตตาเอาไว้
แสงสีทองนี้ราวกับมีพลังที่ไร้ปราณี ภายใต้แสงสีทอง รอยกระบี่ที่อยู่บนหอคอยอนัตตาก็อ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว
แสงสีทองนี้ได้สยบพลังของรอยฟันบนหอคอยลง
ในเวลาเดียวกันพลังที่ซ่อนอยู่ภายในส่วนลึกของหอคอยอนัตตาก็เหมือนจะตื่นขึ้นเพราะแสงสีทองนี่ มันเริ่มร่วมมือกับแสงสีทองลบพลังของรอยกระบี่จากทั้งด้านในและด้านนอก
รอยกระบี่ถูกทิ้งไว้โดยนิพพานอมตะเที่ยงแท้ ในอดีตมันได้สร้างผนึกที่แข็งแกร่งขึ้นมา มันทำให้หอคอยอนัตตาถูกผนึกไว้กว่า 3 ล้านปี
มันเป็นเพราะผนึกนี้ที่ไม่ใช่แค่ทำให้หอคอยอนัตตาไม่อาจจะฟื้นฟูตัวเองได้ แต่ยังไม่อาจจะปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมาได้ด้วย
รอยกระบี่นี้มีความคิดของตัวเอง มันรับรู้ได้ถึงภัยและทำให้รอยฟันทั้งหมดส่องแสงพร้อมกับปราณกระบี่ที่น่ากลัวได้ปะทุออกมาต้านทานเอาไว้ เจตจำนงกระบี่ขั้นสูงสุดได้ครอบคลุมทั่วทั้งที่ราบรุ่งโรจน์
มันมีหลายคนลอยอยู่เหนือพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง ยอดฝีมือระดับสูงลอยอยู่นั่นและมองไปยังหอคอยอนัตตา
“ มันคือหอคอยอนัตตา หอคอยอนัตตากลับมาแล้ว….”
“ช่างเป็นปราณกระบี่ที่น่ากลัวจริง ๆ นิพพานอมตะเที่ยงแท้คือยอดฝีมือระดับสูงสุดของโลกอมตะ ปราณกระบี่ที่เขาทิ้งเอาไว้บนหอคอยอนัตตานั้นยังคงทรงพลังหลังจากที่ผ่านมาหลายปี…”
“ จิตวัตถุของพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงกำลังใช้พลังของโถงศักดิ์สิทธิ์เพื่อทำการลบปราณกระบี่นี่….”
“พระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงคือวัตถุเทพขั้นสูงสุด แค่พลังจากโถงศักดิ์สิทธิ์เองก็น่ากลัวมากแล้ว….”
….
ไม่นานข่าวเรื่องหอคอยอนัตตาได้กลับคืนไปยังพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงก็แพร่กระจายไปทั่วโลกเซียนราวกับไฟป่า
ยอดฝีมือระดับสูงหลายคนที่ตามหาหอคอยอนัตตาต่างก็พากันถอนหายใจเมื่อรู้ข้อมูลนี้ พวกเขาต่างก็เสียดายและผิดหวัง สุดท้ายพวกเขาต่างก็ยอมแพ้ในการไล่ล่า เจี้ยนเฉิน
พวกเขาตามหาตัวเจี้ยนเฉินก็เพราะหอคอยอนัตตา พวกเขาต้องการนำมันไปคืนให้กับพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงเพื่อแลกกับผลงานซึ่งทำให้พวกเขาจะพึ่งพาพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงได้
เมื่อหอคอยอนัตตาได้ถูกคืนไปแล้ว มันก็ไร้ค่าที่พวกเขาจะทำการตามล่าตัวเจี้ยนเฉินต่อไป
ในอีกที่ เจี้ยนเฉินและซูหรานได้ทำการเคลื่อนย้ายอย่างต่อเนื่อง พวกเขาเดินทางผ่านเขตในโลกยอดฝีมือระดับสูงสุดและกลับไปยังที่ราบประกายดาว
“อัครสูงสุดที่เจ้าต้องการฆ่าคือส่วนหนึ่งของที่ราบประกายดาวหรือไม่ ? ” ซูหรานขมวดคิ้วเมื่อมาถึงที่ราบประกายดาว ที่ราบประกายดาวนั้นคืออาณาเขตของใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้า และนางรู้สึกกลัวต่อยอดฝีมือระดับสูงสุดแบบนี้
“ข้ายังไม่รู้ว่าอัครสูงสุดที่ฆ่าไคยะนั้นเป็นใครกัน แต่มันมีคนที่รู้จักเขา ไปยังนิกายเบญจากัน” เจี้ยนเฉินพูดขึ้นก่อนจะก้าวเข้าไปในค่ายกลเคลื่อนย้ายใกล้ ๆ เพื่อไปยังอาณาเขตของนิกายเบญจา