เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god) - ตอนที่ 2437 เจ้าของกระบี่ผู้พิทักษ์
ตอนที่ 2437 : เจ้าของกระบี่ผู้พิทักษ์
นางมองไปที่ชายวัยกลางคนตรงหน้า ไป๋หยูรู้สึกเหมือนว่าเขาหลอมรวมกับแสงสีขาวจากภูเขาทั้งเก้า ผลก็คือเขากลายเป็นตัวตนเดียวในโลกสีขาวแห่งนี้
แต่ใจของไป๋หยูกลับเต้นรัวขึ้นมา นอกจากชายวัยกลางคนแล้ว ไม่มีอะไรเลยรอบตัวนาง เพราะแบบนั้นนางจึงคาดเดาตัวตนของชายวัยกลางคนได้ นางเริ่มอึดอัดขึ้นมา “ท่านเป็นใครกัน ? ”
ชายวัยกลางคนยิ้มออกมาอย่างอบอุ่นแสดงท่าทีเป็นมิตร “ดูจากท่าทีของเจ้าแล้ว เจ้าคงเดาได้ว่าข้าเป็นใคร ข้าคือจิตวิญญาณวัตถุของหอคอยธาตุแสง”
หลังจากที่ได้รับการยืนยันแล้ว ไป๋หยูก็หน้าซีดลงในทันที นางผงะถอยกลับไปพร้อมกับใจที่หล่นวูบ
จิตวิญญาณวัตถุของหอคอยธาตุแสงคือตัวตนราวกับเทพในสายตาของไป๋หยู เขาอยู่ระดับสูงสุดของราชาเทพธาตุแสงและผู้อาวุโสทุกคนต่างก็ต่ำต้อยกว่าเขา พวกนั้นถึงกับต้องเรียกเขาอย่างสุภาพ เขาคือตัวตนที่สูงส่งกว่าใครในที่นี้
แต่ตอนนี้ตัวตนระดับสูงแบบนั้นกลับมาพบกับนาง ไป๋หยูคิดถึงคำพูดของพวกราชาเทพธาตุแสงทันที จิตวิญญาณวัตถุคงมาฆ่านางเพราะความสัมพันธ์ของนางกับศิษย์พี่รอง
ยังไงซะศิษย์พี่รองก็ไม่ใช่แค่คนของเชื้อสายนักรบวิญญาณที่เป็นศัตรูกับโถงเซียนธาตุแสง แต่เขายังได้เข้ามาในหอคอยธาตุแสงและชิงเอาของสำคัญที่สุดของที่นี่ไป สุดยอดทักษะ
“ไม่ต้องกังวลไป ข้าไม่ได้มีจุดประสงค์ร้าย” ชายวัยกลางคนพูดขึ้น เขาชี้นิ้วออกมาพร้อมกับเก้าอี้หิน 2 ตัวและโต๊ะหินปรากฏขึ้นมาจากพื้น จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่เก้าอี้หินอีกตัวและพูดขึ้น “นั่งลงแล้วคุยกันสิ”
หากเซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธาคนอื่นเห็นว่าจิตวิญญาณวัตถุได้มาหาไป๋หยู และถึงกับเตรียมเก้าอี้หินให้กับนาง พวกนั้นคงพากันอ้าปากค้าง
นี่เพราะการปฏิบัติแบบนี้นั้นเป็นสิ่งที่แม้แต่หลานของจอมปราชญ์สูงสุดอย่างกงซุนอี้ก็ยังไม่ได้รับ
อันที่จริงแม้แต่หัวหน้าและรองหัวหน้าของโถงเซียนธาตุแสงก็ไม่เคยเห็นรูปลักษณ์ของจิตวิญญาณวัตถุ พวกเขาเคยได้ยินแต่เสียง
ไป๋หยูลังเลก่อนจะมองไปที่เก้าอี้หินตรงหน้า นางค่อนข้างสับสนว่าจิตวิญญาณวัตถุต้องการจะทำอะไร แต่สุดท้ายนางก็นั่งลงด้วยความกลัว
“ตัวตนศิษย์พี่รองของเจ้าคือสมาชิกของเชื้อสายนักรบวิญญาณ เขาได้หลอกเจ้ามานาน เจ้าแค้นเขาหรือไม่ ? ” จิตวิญญาณวัตถุถามอย่างใจเย็น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบอกได้ว่าเขารู้สึกยังไงจากน้ำเสียงของเขา
หลังจากที่ลังเลได้สักพัก ไป๋หยูก็ตัดสินใจและรวบรวมความกล้าพูดขึ้นมา “ข้าไม่ได้แค้นเคืองเขา ไม่ว่าศิษย์พี่รองจะเป็นใคร แต่เขาก็จะเป็นศิษย์พี่รองที่ดีของข้าเสมอ “
จิตวิญญาณวัตถุมองไปที่ไป๋หยูแต่ไม่ได้พูดอะไรอื่นอีก ก่อนจะหายไป
ต่อมาเซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธาทุกคนที่อยู่ในหอคอยธาตุแสงต่างก็รู้สึกได้ว่าพื้นดินสั่นไหวอย่างรุนแรง พลังอันแข็งแกร่งแผ่ไปโดยรอบ ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็ได้ยินเสียงสั่นไหวของกระบี่
เซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธาทุกคนต่างก็เห็นลำแสงสีขาวที่ตกลงมาที่พื้นก่อนจะหายไปในพริบตา
“ กระบี่ผู้พิทักษ์ มีคนได้รับการยอมรับจากกระบี่ผู้พิทักษ์…”
“ ใครกัน ? เป็นใครกัน…”
…
ใจของเซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธาต่างก็พากันเต้นรัว กระบี่ผู้พิทักษ์แทนโอกาสในการเติบโต เมื่อมีคนได้รับกระบี่ไป มันก็หมายความว่าคน ๆ นั้นจะกลายเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดไม่ว่าระดับการบ่มเพาะจะอยู่ขั้นไหนก็ตาม พวกเขาจะกลายเป็นคนระดับสูงของโถงเซียนธาตุแสง
ไกลออกไป หัวหน้าอย่างหยู่เฉินและรองหัวหน้าซวนจ้านได้ยืนเอามือไพล่หลังมองไปยังพื้นที่ที่ครอบคลุมด้วยแสงสีขาว
“มีคนได้รับกระบี่ผู้พิทักษ์ไปแล้ว” หัวหน้าพูดขึ้น ความรู้สึกเขาดูซับซ้อน เขาไม่รู้ว่าเขาควรจะดีใจหรือเสียใจดี
“ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ความแข็งแกร่งของโถงเซียนธาตุแสงก็เพิ่มขึ้นไปอีกระดับ” ซวนจ้านพูดขึ้นมา เขตนั้นครอบคลุมด้วยพลังของกระบี่ผู้พิทักษ์ เมื่อรวมกับการควบคุมของจิตวิญญาณวัตถุจึงทำให้พวกเขาไม่อาจจะมองเห็นได้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้านในแสงสีขาวนั้น พวกเขาไม่รู้เลยว่าใครกันที่ได้รับกระบี่ไป
ไป๋หยูได้เห็นแค่แสงส่องประกายขึ้นมาตรงหน้าและพบกับกระบี่ส่องแสงปรากฏขึ้นตรงหน้านาง
กระบี่นั้นยาว 4 ฟุตและกว้าง 2 นิ้ว มันออกแบบเรียบง่ายและแผ่พลังของเวลาออกมา พลังภายในกระบี่นั้นแข็งแกร่งจนทำให้พื้นดินสั่นไหว
ตอนนั้นมันมีแสงส่องประกายขึ้นมาอีก ก่อนที่ไป๋หยูจะได้สติ นิ้วของนางก็ถูกเฉือนด้วยกระบี่และมันก็ได้ดูดซับเลือดของนางเข้าไป
หลังจากนั้นมันก็ทำให้นางแปลกใจ มันเกิดการเชื่อมต่อทางจิตอันลึกลับขึ้นระหว่างตัวนางกับกระบี่
“ กระบี่ผู้พิทักษ์ที่สี่ กระบี่ของทลายภูผา” ไป๋หยูพึมพำชื่อออกมา นางพบว่านางสื่อสารกับกระบี่ได้ในระดับพื้นฐาน ดังนั้นนางจึงรู้ชื่อของมันทันที
ตาของไป๋หยูเป็นประกายขึ้นมา นางตื่นเต้นซะจนนางยากที่จะเชื่อได้ว่านี่คือเรื่องจริง
กระบี่ตรงหน้านางคือกระบี่ผู้พิทักษ์และมันก็อยู่ถึงอันดับสี่ในหมู่กระบี่ทั้งเก้า กระบี่ของทลายภูผา
“จากวันนี้ไป เจ้าคือเจ้าของกระบี่ของทลายภูผา กระบี่ของทลายภูผาไม่ได้หลอมขึ้นโดยวัสดุแต่กลับเป็นตัวทลายภูผาที่อยู่อันดับ 4 ในหมู่ศิษย์ทั้ง 9 คน กระบี่คือทลายภูผา และทลายภูผาก็คือกระบี่”
“แต่ทลายภูผาได้เปลี่ยนเป็นจิตวิญญาณวัตถุแล้ว เจ้าสามารถสื่อสารกับจิตวิญญาณวัตถุได้และปลดปล่อยพลังของกระบี่ของทลายภูผาผ่านการสื่อสารกับเขา…”
ในเวลาเดียวกันเสียงจิตวิญญาณวัตถุของหอคอยธาตุแสงก็ดังขึ้นมาในหัวของไป๋หยู
…
“ ตงหลินหยานเซว่ เจ้าได้ช่วยเจี้ยนเฉินของเชื้อสายนักรบวิญญาณหลบหนี เจ้ารู้สึกผิดกับการกระทำของเจ้าหรือไม่ ? ”
จิตวิญญาณวัตถุปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าตงหลินหยานเซว่และถามนาง
“ข้าไม่รู้สึกผิด หากข้าย้อนอดีตกลับไปได้และต้องตัดสินใจแบบเดียวกันอีกครั้ง ข้าก็จะทำเช่นเดิม” ตงหลินหยานเซว่พูดขึ้นโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ภาพของเจี้ยนเฉินฝังลึกอยู่ในใจของนาง
จิตวิญญาณวัตถุพยักหน้าก่อนจะหายตัวไป
ต่อมาก็เกิดเสียงดังครั้งที่สองขึ้น กระบี่ผู้พิทักษ์เล่มหนึ่งได้ลอยอยู่ตรงหน้าตงหลินหยานเซว่ พร้อมกับแผ่พลังของมันออกมา
“กระบี่นี้คือกระบี่ของเปิดลาน มันอยู่อันดับ 3 ในหมู่กระบี่ทั้ง 9 เล่มและมันถูกทิ้งไว้โดยเปิดลาน หนึ่งในศิษย์ทั้งเก้าในอดีต….”
….
ไม่นานก็มีกระบี่เล่มที่สามพุ่งลงมาตรงหน้าซวนหมิง
“กระบี่ผู้พิทักษ์ มันเป็นกระบี่ผู้พิทักษ์จริง ๆ ข้าคิดไม่ถึงมาก่อนเลยว่า ข้า ซวนหมิง จะโชคดีเพียงพอที่จะได้รับกระบี่ผู้พิทักษ์ ฮ่าฮ่า กระบี่ผู้พิทักษ์ที่อยู่อันดับ 8 จากวันนี้ไปข้าจะพึ่งพาเจ้าเพื่อให้มีหน้าตาในโลกเซียน เจ้าจะเป็นสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตข้า …”
ไม่นานหลังจากที่กระบี่เล่มที่สามพุ่งลงมา มันก็ทำให้เหล่าเซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธาที่ยังไม่ได้รับกระบี่ต่างก็อึดอัดและกังวล
“จิตวิญญาณวัตถุ มานี่…” ในอีกด้าน กงซุนอี้ได้ตะโกนออกมา ตอนนี้สีหน้าของเขาดูหงุดหงิดอย่างมาก
กระบี่ผู้พิทักษ์ 3 จาก 9 เล่มได้พุ่งลงมาแล้วและมันก็ตกเป็นของคนที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา มันทำให้เขาหงุดหงิดอย่างมาก
ราชาเทพธาตุแสงทุกคนที่ติตตามเขานั้นอยู่ข้างกายเขา แต่กระบี่ 3 เล่มที่พุ่งลงมาชัดแล้วว่าไม่ได้อยู่ใกล้เขาเลยแม้แต่น้อย