เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)

ตอนที่ 2434 : สิทธิในการแจกจ่าย

“ท่านจิตวิญญาณวัตถุจู่ ๆ ก็บอกเราเรื่องกระบี่ทั้งเก้านี้ มะ มะ มันหมายความว่ายังไง…”

“เจ้าโง่รึไง ? เจ้าบอกไม่ได้รึ ? ท่านจิตวิญญาณวัตถุต้องการให้เราหาเจ้าของกระบี่ทั้งเก้านี้…”

“กระบี่ทั้งเก้านี้มาจากศิษย์ทั้งเก้าของเจ้าของหอคอยธาตุแสงในอดีต กระบี่นี้มีพลังของศิษย์ทั้งเก้า มันไม่ได้หมายความว่าใครที่ได้มันไป แม้ว่าจะเป็นแค่ราชาเทพธาตุแสงก็จะขึ้นไปเป็นยอดฝีมือระดับสูงได้ทันทีและมีฐานะทัดเทียมกับผู้นำไม่ใช่รึ…”

“สวรรค์ ! จากราชาเทพธาตุแสงเป็นยอดฝีมือระดับสูง ! มันคือโอกาสในการเติบโต…”

…

ราชาเทพธาตุแสงต่างก็พากันคึกคัก ทุกคนต่างก็พากันถกเถียงกันเรื่องนี้ ทุกคนต่างก็สนใจมัน

กงซุนอี้ไม่ได้สนใจซวนหมิงอีกต่อไป ใบหน้าของเขาแดงก่ำขึ้นมาพร้อมกับหายใจถี่ขึ้น เขาเงยหน้าขึ้นและตะโกนออกมา “จิตวิญญาณวัตถุ เจ้านายของเจ้าคือบรรพชนของข้า ข้าเป็นหลานคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ในตอนนี้ ดังนั้นข้าจึงเป็นตัวเลือกเดียวสำหรับการสืบทอดหอคอยธาตุแสงและเป็นเจ้าของหอคอยธาตุแสง ข้าต้องการให้เจ้ามอบกระบี่ทั้งเก้าให้กับข้า ข้าต้องเป็นคนที่ได้เลือกว่าใครกันที่จะได้กระบี่ไป”

ใจของกงซุนอี้เต้นรัว ตอนนั้นเขารู้สึกตื่นเต้นในระดับที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อเขาได้รับสิทธิในการแจกจ่ายกระบี่เหล่านี้แล้ว กระบี่ผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดก็ต้องตกเป็นของเขา

“ เมื่อข้าได้กระบี่ผู้พิทักษ์ที่ดีที่สุดมา อีก 8 คนก็ต้องติดตามข้าและพวกนั้นต้องอยู่ใต้คำสั่งของข้า มันจะมีกี่คนในโลกเซียนที่กล้าหาเรื่องข้า กงซุนอี้ ได้อีก ? และหัวหน้าจะมีความหมายอะไรต่อหน้าข้า ? ” ทันทีที่คิดถึงฉากนั้น กงซุนอี้ก็ตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม

ยังไงซะ กงซุนอี้ก็เป็นหลานของเจ้าของหอคอยธาตุแสง ในสายตาของทุกคน กงซุนอี้มีสิทธิมากสุดในหอคอยธาตุแสง เขาคือคนที่มีอำนาจมากที่สุดต่อจิตวิญญาณวัตถุ หากเขาสั่งการจิตวิญญาณวัตถุในฐานะหลานของจอมปราชญ์สูงสุด จิตวิญญาณวัตถุอาจจะยอมฟังเขาจริง ๆ

ยังไงซะโลกจิ๋วที่เป็นการสืบทอดของจอมปราชญ์สูงสุดก็เป็นหลักฐานที่พิสูจน์ได้ดีที่สุดแล้ว

ตงหลินฉินชุยมีสีหน้าหม่นลง นางไม่คิดจะฟังคำสั่งของกงซุนอี้ ดังนั้นความสัมพันธ์ของนางกับเขาจึงย่ำแย่ หากกงซุนอี้ได้สิทธิในการแจกจ่ายกระบี่ทั้งเก้าเล่ม งั้นแน่นอนว่านางคงไม่ได้มันมา

หากเทียบกับท่าทีสลดของตงหลินฉินชุยแล้ว สายตาของราชาเทพธาตุแสงที่ติดตามกงซุนอี้ต่างก็ร้อนผ่าวขึ้นมา พวกเขาต่างก็พากันสาบานว่ากงซุนอี้จะเป็นผู้นำของพวกเขาในอนาคต

ชัดแล้วว่าคนพวกนี้เชื่อว่ากงซุนอี้จะได้รับสิทธิในการแจกจ่ายกระบี่ผู้พิทักษ์ทั้งเก้า ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกถึงยกยอกงซุนอี้นัก พวกเขาหวังว่ากงซุนอี้จะมอบกระบี่ให้กับพวกเขา เพื่อที่พวกเขาจะได้ขึ้นเป็นยอดฝีมือระดับสูงในเสี้ยววินาที

ในเวลาเดียวกันก็มีคน 9 คนบินเข้ามาจากทางเข้าหอคอยธาตุแสง พลังของพวกนั้นแข็งแกร่ง ตัวของพวกเขาห่อหุ้มด้วยกฎแห่งศรัทธา พวกเขาแข็งแกร่งอย่างมาก

ทั้งเก้าคนนี้คือหัวหน้าของโถงเซียนธาตุแสง หยู่เฉิน และรองหัวหน้าทั้งแปดคน

เสียงของจิตวิญญาณวัตถุไม่ได้ดังก้องแค่ในหอคอยธาตุแสง แต่คนที่ดูแลโถงเซียนธาตุแสงก็ยังรู้ถึงเรื่องกระบี่ผู้พิทักษ์ทั้งเก้าเล่ม

“ข้าไม่คิดเลยว่ามันจะมีกระบี่ที่แข็งแกร่งแบบนี้ซ่อนอยู่ในหอคอยธาตุแสง ! ” ผู้นำของโถงเซียนธาตุแสงมองไปที่ภูเขาทั้งเก้า มันไม่ได้มีบันทึกเรื่องตัวตนของกระบี่ผู้พิทักษ์เอาไว้เลย

“กระบี่ผู้พิทักษ์ทั้งเก้าเล่มนี้แข็งแกร่งอย่างมาก แค่พลังที่มันแผ่ออกมาก็ทำให้ข้าขนลุกได้แล้ว ศิษย์ทั้งเก้าเป็นอัครสูงสุดชั้นสวรรค์ที่ 6 เป็นอย่างน้อย บางทีพวกเขาอาจจะแข็งแกร่งกว่านั้น…” รองหัวหน้าด้านหลังคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด สายตาเขาก็แสดงความสนใจออกมา

พลังของกระบี่ผู้พิทักษ์ทั้งเก้าเล่มนี้เหนือกว่าพวกเขา มันสูงกว่าพลังของหัวหน้าโถงเซียนธาตุแสงเสียอีก

“ทุกคนต่างก็มีโอกาสเป็นได้ครองกระบี่ผู้พิทักษ์ กระบี่ผู้พิทักษ์มีไว้เพื่อเจ้าของหอคอยธาตุแสง ดังนั้นคนที่สนใจสืบทอดกระบี่ผู้พิทักษ์นี้ต้องรับใช้เจ้าของหอคอยธาตุแสงและต่อสู้เพื่อเขา ตอนนี้เซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธาทั้งหมดให้มารวมตัวกันโดยไม่ต้องสนใจความแข็งแกร่งหรือพรสวรรค์ ตราบใดที่เข้าใจกฎแห่งศรัทธาก็ให้พาพวกเขามาที่นี่….” เสียงของจิตวิญญาณวัตถุดังก้องไปทั่วทั้งโลก

หัวหน้าโถงเซียนธาตุแสงขมวดคิ้ว เขาอดไม่ได้ที่จะสนใจขึ้นมาเมื่อได้ยินว่าทุกคนมีโอกาสได้รับกระบี่ผู้พิทักษ์ แต่เขาปฏิเสธที่จะยอมรับว่าทุกคนที่ได้กระบี่นี้ไปต้องรับใช้เจ้าของหอคอยธาตุแสง

ยังไงซะเขาก็เป็นยอดฝีมือระดับสูงทัดเทียมกับอัครสูงสุดแล้ว เขาก็มีเกียรติของตัวเอง มันคงยากที่เขาต้องไปรับใช้คนอื่นหลังจากที่ได้ครองตำแหน่งที่สูงส่งแบบนี้มานาน

เขาคงไม่คัดค้านหากเจ้าของหอคอยธาตุแสงคือยอดฝีมือระดับสูงหรือจอมปราชญ์สูงสุด แต่จากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว กงซุนอี้อาจจะได้เป็นเจ้าของคนต่อไปของหอคอยธาตุแสง เขาที่เป็นหัวหน้าโถงศักดิ์สิทธิ์ธาตุแสงต้องฟังคำสั่งจากกงซุนอี้งั้นรึ ?

นอกจากซวนจ้านที่ยังลังเลแล้ว รองหัวหน้าอีก 7 คนต่างก็พากันตื่นเต้น

“ไม่ พวกเจ้าห้ามเข้าร่วม จิตวิญญาณวัตถุ เจ้าต้องมอบสิทธิในการแจกจ่ายกระบี่ผู้พิทักษ์ทั้งเก้าเล่มให้กับข้า ข้าขอสั่งเจ้าในฐานะหลานของเจ้านายเจ้า ข้าต้องเป็นคนที่ได้แจกจ่ายกระบี่ผู้พิทักษ์” กงซุนอี้ลนลานขึ้นมา สิ่งที่กระบี่ผู้พิทักษ์ทั้งเก้าปกป้องคือเจ้าของคนที่สองของหอคอยธาตุแสง แม้ว่าเขาจะเป็นหลานของจอมปราชญ์สูงสุด แต่เขาก็ยังไม่ได้เป็นเจ้าของหอคอยธาตุแสง ดังนั้นเขาจึงต้องการควบคุมกระบี่ผู้พิทักษ์นี้เอาไว้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

แต่จิตวิญญาณวัตถุกลับไม่ได้สนใจคำพูดของเขา

ยังไงซะจิตวิญญาณวัตถุของหอคอยธาตุแสงก็เป็นจิตวิญญาณวัตถุที่ขึ้นมาจากโลกด้านล่างพร้อมกับเจี้ยนเฉิน !

ค่ายกลป้องกันทุกอันในโถงเซียนธาตุแสงต่างก็ทำงานที่ด้านนอกหอคอยธาตุแสง หัวหน้าโถงเซียนธาตุแสง หยู่เฉิน ได้ส่งข้อมูลไปยังผู้อาวุโสทุกคนเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ และสั่งการให้ผู้อาวุโสให้เรียกรวมเซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธาในโถงเซียนธาตุแสงและส่งพวกนั้นเข้ามาในหอคอยธาตุแสง

หยู่เฉินไม่ได้ปิดบังข่าวเรื่องกระบี่ผู้พิทักษ์ ราชาเทพธาตุแสงภายในหอคอยธาตุแสงก็รู้เรื่องนี้ มันยังมีจิตวิญญาณวัตถุอยู่ด้วย แม้ว่าเขาต้องการจะปิดบังมันแต่ก็ไม่อาจจะทำได้

ผลก็คือเขาได้ประกาศข่าวเรื่องกระบี่ผู้พิทักษ์ในโถงเซียนธาตุแสง แม้ว่าการปรากฏตัวของมันอาจจะเป็นภัยต่อโถงเซียนธาตุแสง แต่โถงเซียนธาตุแสงก็คงแข็งแกร่งขึ้นกับการปรากฏตัวของมัน และกลายเป็นองค์กรชั้นนำในที่ราบรกร้าง

เขาได้แต่ต้องตามน้ำไป

ผู้นำยอดเขาทะยานเมฆ หานซิน นั่งอยู่บนยอดเขาของตัวเอง เขามองไปที่เมฆไกลออกไปด้วยสายตาว่างเปล่า เขาเหมือนกับโดดเดี่ยว, เศร้าสร้อยและอ้างว้าง

แต่เดิมแล้วเขาคือสมาชิกของตระกูลหาน แม้ว่าฐานะของเขาในตระกูลจะไม่ได้พิเศษอะไร แต่มันก็ยังเป็นจุดกำเนิดของเขา แต่ว่าตั้งแต่ที่เขารับศิษย์คนใหม่อย่างเจียงหยาง ซึ่งเป็นสมาชิกของเชื้อสายนักรบวิญญาณมา หัวหน้าตระกูลหานกลับตัดขาดเขาโดยไม่ปราณี ทำให้เขาตัวคนเดียวโดดเดี่ยว

นี่เพราะหากตระกูลหานต้องการรักษาความสัมพันธ์กับโถงเซียนธาตุแสงเอาไว้ พวกเขาก็ไม่อาจจะเก็บหานซิน เอาไว้ได้