เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god) - ตอนที่ 2433 กระบี่ผู้พิทักษ์ปรากฏตัว
ตอนที่ 2433 : กระบี่ผู้พิทักษ์ปรากฏตัว
“ข้ามาหาเจี้ยนเฉิน ข้าอยากดูว่าเขาแตกต่างยังไง” เด็กน้อยพูดขึ้นโดยไม่หันกลับมามอง เขาแสดงท่าทีเฉยเมยอย่างมาก
“เจี้ยนเฉิน ? ” ชายแก่ด้านหลังสับสนขึ้นมา
“ชายหนุ่มคนตะกี้คือคนที่ทำให้โลกเซียนวุ่นวายด้วยหอคอยอนัตตา เจี้ยนเฉิน” สายตาของเด็กน้อยดูลึกซึ้งขึ้นมา เขาพูดต่อ “พระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงรู้เรื่องการปรากฏของหอคอยอนัตตามานานแล้ว พวกนั้นน่าจะรีบไปเอาคืนให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่พวกนั้นกลับมองข้ามเรื่องนี้ไปและปล่อยให้ยอดฝีมือของโลกเซียนสู้กันเพื่อแย่งชิงมัน ตอนแรกข้าสับสนกับเรื่องนี้อย่างมาก ข้าสงสัยว่าพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงวางแผนอะไรอยู่”
“แต่สุดท้ายข้าก็เข้าใจ พระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงปล่อยให้เจี้ยนเฉินครองหอคอยอนัตตาไว้ เพราะจอมปราชญ์สูงสุดอนัตตานั้นอนุญาต…. ”
“อะไรกัน ! จอมปราชญ์สูงสุดอนัตตา..” ชายแก่ด้านหลังตะลึงทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาถามขึ้นมา – “ จอมปราชญ์สูงสุดอนัตตา…ขะ ขะเขาตายไปแล้วเมื่อสามล้านปีก่อนไม่ใช่รึ ? ”
“ข้ารู้เรื่องนี้มาไม่นานจากเผิงสีฟ้า องค์ชายเก้าได้ปรากฏตัวในพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง เมื่อมันมีองค์ชายเก้าแล้ว มันก็หมายความว่าจอมปราชญ์สูงสุดอนัตตายังมีชีวิตอยู่ ทุกคนที่ได้ตำแหน่งองค์ชายหรือองค์หญิงในพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงคือศิษย์ของจอมปราชญ์สูงสุดอนัตตา…”
มีแค่ชายแก่ที่ได้ยินเสียงของเด็กน้อยผู้นี้ คนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่ด้านหลังไม่ได้ยินอะไรเลยแม้แต่น้อย
ชายแก่สูดหายใจเข้าลึก ๆ และสงบสติอารมณ์ตัวเองก่อนจะพูดขึ้นว่า “ข้าเข้าใจแล้ว เจี้ยนเฉินอาจจะเกี่ยวข้องกับ จอมปราชญ์สูงสุดอนัตตา ดังนั้นพรรคกระดูกโอฬารของเราต้องผูกมิตรกับเขาให้ได้มากที่สุด”
“ผูกมิตรรึ ? ” เด็กน้อยกอดอกและยิ้มออกมา
แต่รอยยิ้มนั้นดูน่ากลัวและน่าขนลุก
…
บนที่ราบรกร้างภายในหอคอยธาตุแสง หมอกทั้งหมดที่แผ่ออกมาที่นั่นได้สลายไป ผลก็คือโลกจิ๋วภายในหอคอยธาตุแสงจึงกลายเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดในโถงเซียนธาตุแสง
ในโถงเซียนธาตุแสง มันมีราชาเทพธาตุแสงมากมายที่สามารถทะลวงผ่านขึ้นไประดับเท่าเทียมกับราชาเทพช่วงปลายได้ แต่เพราะภัยของยอดฝีมือลึกลับ พวกเขาจึงไม่กล้าทำแบบนั้น
ตอนนี้หอคอยธาตุแสงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของโถงเซียนธาตุแสง ราชาเทพธาตุแสงทุกคนที่ทะลวงผ่านไปได้ต่างก็พากันอัดแน่นแกนวิญญาณ 7 สีช่วงปลายของตน
ผลก็คือราชาเทพธาตุแสงหลายคนได้ไปรวมตัวกันที่หอคอยธาตุแสง พวกเขากระจายตัวอยู่ทั่วทุกที่ ทำการบ่มเพาะและทำความเข้าใจกฎแห่งศรัทธา พวกตัดสินใจจะอยู่ที่นี่จนกว่าจะควบรวมต้นไม้วิญญาณขึ้นมาได้ ซึ่งนั่นเท่ากับการก้าวขึ้นไปขอบเขตตั้งตั้น จากนั้นพวกเขาจึงค่อยออกจากที่นี่
ซวนหมิงได้กลับมายังโถงเซียนธาตุแสงเมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นเขาเองก็อยู่ในหอคอยธาตุแสงเช่นกัน
เพราะพ่อของ ซวนหมิง เป็นหนึ่งในรองหัวหน้าทั้งแปดของโถงเซียนธาตุแสง เขาจึงเป็นหนึ่งในคนที่มีฐานะยิ่งใหญ่ในหอคอยธาตุแสง มันมักจะมีราชาเทพธาตุแสงรอบตัวเขาราวกับว่าพวกนั้นจะมารุมล้อมเขาเอาไว้
“ข้าคิดไม่ถึงจริง ๆ ข้าคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า น้องเจี้ยนเฉิน จะเป็นส่วนหนึ่งของเชื้อสายนักรบวิญญาณ….” ซวนหมิง ถอนหายใจออกมา เขารู้หลายอย่างเกี่ยวกับเจี้ยนเฉินจากราชาเทพธาตุแสง
“ฮึ่ม ซวนหมิง เจ้าร่วมมือกับสมาชิกของเชื้อสายนักรบวิญญาณ เจ้ารู้รึไม่ว่าเจ้าทำผิดอะไร ? ” ตอนนั้นเองที่ประตูไปยังโลกจิ๋วก็เปิดออก กงซุนอี้ได้เดินออกมา ใบหน้าเขาแสดงความหยิ่งทะนง เขามองไปที่ซวนหมิงด้วยสายตาเย็นชาราวกับว่าตัดสินว่าอีกฝ่ายคือคนร้าย
ราชาเทพธาตุแสงกว่า 30 คนตามหลังเขามา พวกนั้นคือผู้นำของยอดเขาต่าง ๆ ในโถงเซียนธาตุแสง บางคนถึงกับมีวัตถุเทพด้วย
แต่ผู้นำของยอดเขาหมื่นดอกไม้ไม่ได้อยู่ในนั้นด้วย
กงซุนอี้ใช้อำนาจของตัวเองในฐานะหลานของจอมปราชญ์สูงสุดในการยึดโลกจิ๋วนี้ไว้ ผลก็คือมันกลายเป็นอาณาเขตส่วนตัวของเขา มีแค่คนที่ติดตามเขาเท่านั้นที่สามารถบ่มเพาะในโลกจิ๋วนี้ได้
ตงหลินฉินชุยไม่คิดจะก้มหัวให้กับกงซุนอี้ ดังนั้นนางจึงออกจากโลกจิ๋วส่วนนี้ไปบ่มเพาะด้านนอก
ซวนหมิงรู้ฐานะใหม่ของกงซุนอี้ แต่เขาไม่ได้กลัวอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าของเขาหม่นลงและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “กงซุนอี้ เจ้าคิดว่าเจ้าคือผู้นำของโถงเซียนธาตุแสงรึไง ? ข้าจะผิดรึไม่นั้น มันไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะมาตัดสิน”
“ ไม่ใช่แค่เจี้ยนเฉินขโมยวิธีบ่มเพาะของจอมปราชญ์สูงสุดไปจากโถงเซียนธาตุแสง แต่เขายังเป็นส่วนหนึ่งของเชื้อสายนักรบวิญญาณด้วย เขาคือศัตรูของเรา ทุกคนที่เกี่ยว้องกับเขาควรจะถูกกำจัด จับตัวซวนหมิงให้ข้า ! ” กงซุนอี้พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา
ผู้นำยอดเขาด้านหลังกงซุนอี้ต่างก็พากันลังเล แต่ในไม่ช้าทั้งแปดคนก็ตัดสินใจและพุ่งเข้าหากงซุนอี้พร้อมกัน สามคนนั้นใช้วัตถุเทพด้วย
แน่นอน พ่อของซวนหมินเป็นรองผู้นำ แต่กงซุนอี้เป็นหลานของจอมปราชญ์สูงสุด แม้แต่ท่าทีของผู้นำที่มีต่อกงซุนอี้ก็ยังเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน ดังนั้นพวกเขาจึงเชื่อว่าฐานะของกงซุนอี้ตอนนี้สูงส่งกว่าพ่อของซวนหมิง
“กงซุนอี้ หยุด ! ” สีหน้าของราชาเทพธาตุแสงรอบตัว ซวนหมิงต่างก็เปลี่ยนไป
สีหน้าของซวนหมิงหม่นลง สายตาเขาสะท้อนความเย็นชาออกมา เขาไม่ได้กลัวเลยแม้แต่น้อย กฎแห่งศรัทธาอัดแน่นขึ้นมารอบตัวเขา ชัดเจนแล้วว่าเขาพร้อมที่จะสู้
แต่ตอนนั้นเองโลกภายในหอคอยธาตุแสงกลับเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง พื้นดินทั่วทั้งโลกสั่นไหว มันดูเหมือนว่าจะเป็นจุดจบของโลก
ภูเขารูปร่างราวกับกระบี่ทั้งเก้าได้ปรากฏขึ้นมาบนท้องฟ้าตั้งตรงราวกับกระบี่ พวกมันส่องแสงเจิดจ้าออกมาซึ่งทำให้มันดูเหมือนกับดวงอาทิตย์ทั้งเก้าดวง
มันทำให้ราชาเทพธาตุแสงภายในหอคอยธาตุแสงต่างก็ตกใจ ความขัดแย้งระหว่างซวนหมิงและกงซุนอี้จบลงทันที ทุกคนต่างก็เงยหน้าขึ้นมองไปยังภูเขาทั้งเก้าบนท้องฟ้า พวกเขาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น
“ ดูสิ ดูเหมือนว่าจะมีกระบี่ในภูเขาแต่ละลูก..”
“ มันมีกระบี่อยู่จริง ๆ พวกมันคือวัตถุเทพเป็นอย่างน้อย…”
“แรงกดดันช่างน่ากลัวจริง ๆ กระบี่ทั้งเก้านี่ต้องเป็นของคุณภาพสูง…”
ราชาเทพธาตุแสงต่างก็พากันถกเถียงกัน
ตอนนั้นเสียงราวกับฟ้าผ่าดังก้องไปทั่วทุกมุมของหอคอยธาตุแสง “นายท่านมีศิษย์ 9 คนในอดีต พวกเขาต่างก็แข็งแกร่งและเข้าร่วมสงครามกับนายท่าน พวกเขาสร้างผลงานไว้อย่างมาก “
“หลังจากที่นายท่านตายไป ศิษย์ทั้งเก้าไม่เลือกที่จะมีชีวิตต่อ กลับกันแล้ว พวกเขาได้ใช้ทักษะลับของตัวเองอัดแน่นพลังชีวิตโดยใช้ร่างกายและพลังของตัวเองในการอัดแน่นกระบี่ทั้งเก้าขึ้นมาซึ่งถูกผนึกไว้ที่นี่ พวกเขาได้กลายเป็นกระบี่ผู้พิทักษ์ซึ่งจะถูกใช้โดยเจ้าของของหอคอยธาตุแสงคนต่อไปในการยึดครองโลก ! ”
“ ด้วยกระบี่ทั้งเก้านี้ เจ้าจะมีพลังทัดเทียมกับศิษย์ทั้งเก้า…”
…
เสียงนี้มาจากจิตวิญญาณวัตถุ
ลมหายใจของราชาเทพธาตุแสงทุกคนในหอคอยยธาตุแสงต่างก็ถี่กระชั้นขึ้นเมื่อได้ยินแบบนั้น พวกเขาต่างก็มองไปยังกระบี่ผู้พิทักษ์ทั้งเก้าพร้อมกับเลือดที่สูบฉีดอย่างพลุ่งพล่าน
ร่างของกงซุนอี้สั่นไหวเพราะความตื่นเต้น
ศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดรองมาจากเจ้าของหอคอยธาตุแสง….
ตราบใดที่มีคนได้กระบี่นี้ไปสักเล่ม พวกเขาก็จะมีพลังของศิษย์ผู้นั้น มันน่าสนใจแค่ไหนกัน ?