เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god) - ตอนที่ 2405 - การลงโทษผู้อาวุโสเงาภูต
บทที่ 2405 – การลงโทษผู้อาวุโสเงาภูต
“ สัตว์อสูรกระบี่ทองคำขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 6 นี้แข็งแกร่งอย่างน่าอัศจรรย์อย่างแท้จริง เกือบจะอยู่ในระดับของวัตถุเทพขั้นต่ำ ข้าคงไม่สามารถฆ่ามันได้โดยไม่ใช้กระบี่นวดาราวิถีสวรรค์หรือปราณกระบี่ลึกซึ้ง” เจี้ยนเฉินคิด แม้ว่าการโจมตีด้วยนิ้วของเขาก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็เป็นพลังเต็มที่ของเขา
นี่เป็นการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดที่เขาสามารถปลดปล่อยได้เมื่อใช้เพียงกฎแห่งกระบี่เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เขาล้มเหลวในการทำร้ายสัตว์อสูรกระบี่ทองคำด้วยการโจมตีครั้งนั้น
ในเวลาเดียวกัน สัตว์อสูรกระบี่ทองคำก็ไม่สามารถทำร้ายเจี้ยนเฉินได้เช่นกัน
“แข็งแกร่งอะไรเช่นนี้ เขาสามารถปะทะกับสัตว์อสูรกระบี่ทองคำขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 6 โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ … ”
“ขั้นอสงไขยช่วงกลาง คนผู้นี้อยู่ในจุดสูงสุดของขั้นอสงไขยช่วงกลางเป็นอย่างน้อย หรืออาจจะเป็นขั้นอสงไขยช่วงปลาย…”
…
ทุกคนได้เห็นเจี้ยนเฉินรับการโจมตีจากสัตว์อสูรกระบี่ทองคำโดยตรง ซึ่งทำให้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นที่รับใช้จักรวรรดิกลางหาวอ้าปากค้างทันที สายตาของพวกเขาที่มองเจี้ยนเฉินได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก
วิถีแห่งกระบี่ขั้นสูงสุดของเจี้ยนเฉินนั้นทรงพลังเกินไป พวกเขาไม่สามารถบอกระดับการบ่มเพาะที่แน่นอนของเจี้ยนเฉินจากกฎแห่งกระบี่ของเขาได้ แค่ความสามารถในการต่อสู้ของเขาเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาทั้งหมดตกตะลึง
ด้วยความแข็งแกร่งเช่นนี้ เขาจึงเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดในยานอวกาศนอกเหนือจากอี้เจี้ยนปิง
อีกด้านหนึ่งสายตาของผู้อาวุโสเงาภูตที่ซ่อนตัวอยู่ตลอดเวลาก็หรี่แคบลงเล็กน้อยเช่นกัน ความสามารถในการต่อสู้ที่เจี้ยนเฉินแสดงออกมาตอนนี้ทำให้เขาประหลาดใจเช่นกัน
ในขณะนั้นผู้อาวุโสเงาภูตที่เกิดความลังเลก็ได้ตัดสินใจ เขาตัดสินใจที่จะยอมล้มเลิกการลอบสังหารเจี้ยนเฉิน
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้อาวุโสเงาภูตกำลังจะจากไป ความรู้สึกถึงอันตรายก็เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันที
จากด้านหลังของเขา ริ้วของแสงที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าก็พุ่งตรงเข้ามา
ปราณกระบี่นั้นเร็วมาก การสะท้อนของแสงพราวพรายขยายอย่างรวดเร็วในรูม่านตาของผู้อาวุโสเงาภูต พลังตัวตนที่แหลมคมได้กำหนดเป้าหมายเข้ากับตัวเขาแล้ว
ผู้อาวุโสเงาภูตรู้สึกเหมือนไม่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้ทันที ไม่มีที่ไหนที่เขาจะไปได้ในตอนนี้ ปราณกระบี่ได้กำหนดเป้าหมายเข้าที่ตัวเขาแล้ว เขาทำได้เพียงแค่บังคับปัดมันออกไป
สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับผู้อาวุโสเงาภูตมากที่สุดก็คือก่อนที่ปราณกระบี่จะมาถึง มันสามารถสร้างอิทธิพลต่อพื้นที่รอบตัวเขา ทำให้มันกลายเป็นขอบเขตของปราณกระบี่ในคราวเดียว
ปราณกระบี่ที่มองไม่เห็นดูเหมือนจะมีอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่งซึ่งเต็มไปทุก ๆ ตารางนิ้วของพื้นที่รอบตัวเขา แม้แต่พลังงานดั้งเดิมในอวกาศก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นพลังปราณกระบี่ที่มองไม่เห็น
ราวกับว่าเขาจะเผชิญหน้ากับการโจมตีของปราณกระบี่ทันที ถ้าเขามีการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย
“เจตจำนงที่ทรงพลังอะไรเช่นนี้!” ผู้อาวุโสเงาภูตตัวสั่นอยู่ข้างในขณะที่เขาเปลี่ยนเป็นคนเคร่งเครียด กระบี่สีดำปรากฏขี้นในมือของเขาทันที ในขณะที่เป็นลำแสงสีดำ มันโจมตีปราณกระบี่ที่เข้ามาอย่างเงียบ ๆ
กระบี่สีดำเป็นวัตถุเทพขั้นต่ำ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นซึ่งเป็นสมาชิกของตระกูลอันธกาลที่ติดอันดับสามบนที่ราบหยกวารี เห็นได้ชัดว่าเขามีวัตถุเทพ
อย่างไรก็ตาม การปรากฏตัวของวัตถุเทพนั้นถูกปกปิดอย่างสมบูรณ์และไม่มีสิ่งใดรั่วไหลออกมา ดูเหมือนว่าจะหลอมรวมกับความมืดมิดอย่างสมบูรณ์และถูกแทงออกมาอย่างเงียบ ๆ มันยากมากที่จะค้นพบ
บูม !
ด้วยเสียงอันดังก้อง วัตถุเทพของผู้อาวุโสเงาภูตได้ปะทะกับปราณกระบี่ที่เข้ามา เขาถูกบังคับให้ออกจากความมืดทันทีและกลายเป็นที่เปิดเผยอย่างสมบูรณ์
กระแสปราณกระบี่มีพลังมาก แม้ว่าผู้อาวุโสเงาภูตจะใช้วัตถุเทพ แต่เขาก็ไม่สามารถหยุดตัวเองจากการถูกพัดไปข้างหลังได้หลังจากการปะทะกัน
“เจ้าสามารถสัมผัสได้ถึงตัวตนของข้าได้จริงหรือ ? ” ผู้อาวุโสเงาภูตไม่ได้พยายามซ่อนอะไรอีก เขาลอยอยู่ในอวกาศและจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินในระยะไกลอย่างเคร่งเครียด เขาตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายทางอารมณ์
ทักษะลับของเขาไม่เพียงแต่ซ่อนเขาไว้ในอวกาศ แต่มันยังครอบคลุมถึงร่องรอยและตัวตนของเขาด้วย แม้แต่ฝ่ายตรงข้ามที่มีการบ่มเพาะมากกว่าเขาก็ยังต้องดิ้นรนเพื่อค้นหาตัวตนของเขา
อย่างไรก็ตาม ทักษะลับของเขานั้นไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าเจี้ยนเฉิน
ยิ่งไปกว่านั้นเขาได้รับการเปิดเผยจากที่ไกล ๆ ซึ่งน่าตกใจอย่างยิ่ง
เจี้ยนเฉินมองไปที่ผู้อาวุโสเงาภูตและพูดว่า “เจ้าแอบสังเกตข้ามานานแล้ว เป็นเพียงการเฝ้าดูข้าต่อสู้กับสัตว์อสูรกระบี่ทองคำใช่หรือไม่ ? ”
ผู้อาวุโสเงาภูตผงะเมื่อได้ยินเช่นนั้น ความไม่อยากจะเชื่อปรากฏอยู่เต็มใบหน้าของเขาและเขาก็ร้องว่า “จะ- เจ้าค้นพบข้านานแล้ว…”
เจี้ยนเฉินก้าวไปเพียงก้าวเดียวและข้ามระยะทางมาถึงตรงหน้าผู้อาวุโสเงาภูตทันที เขาพูดอย่างไร้อารมณ์ “ เจ้าตามข้ามาอย่างน่าสงสัย ดูเหมือนว่าตระกูลอันธกาลของเจ้าต้องการฆ่าข้า” เมื่อนั้นการจ้องมองของเจี้ยนเฉินก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปอย่างเย็นชา “ อย่างไรก็ตาม ที่นี่ไม่ใช่ที่ราบหยกวารี ตระกูลอันธกาลของเจ้าสามารถทำตามที่พวกเจ้าต้องการได้บนที่ราบหยกวารี แต่ตระกูลอันธกาลของเจ้าไม่มีอำนาจในอวกาศ”
มีแสงวูบวาบบนมือของเจี้ยนเฉิน ด้วยเหตุนี้เขาจึงส่งการโจมตีด้วยฝ่ามือโดยตรงไปยังผู้อาวุโสเงาภูต
ฝ่ามือฟาดมีเจตจำนงกระบี่ขั้นสูงสุดของเขา เมื่อเขาฟาดฝ่ามือออกไปพลังทั้งหมดที่อยู่รอบ ๆ ก็ดูเหมือนจะกลายเป็นของเขากลายเป็นปราณกระบี่ที่มองไม่เห็นอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง
สีหน้าของผู้อาวุโสเงาภูตเปลี่ยนไปอย่างมาก ในขณะที่เขาเผชิญหน้ากับการโจมตีด้วยฝ่ามือของเจี้ยนเฉิน เขารู้สึกเหมือนจมลงไปในดินแดนแห่งปราณกระบี่ ปราณกระบี่ไร้ที่สิ้นสุดพุ่งเข้าหาเขาจากทุกทิศทุกทางสร้างกรงที่ขังเขาไว้ข้างใน
ทันใดนั้น ผู้อาวุโสเงาภูตก็ร้องออกมาและกฎแห่งความมืดก็พุ่งออกจากร่างของเขา วัตถุเทพในมือของเขาก็ส่องแสงอันมืดมิดเช่นกัน เขาแทงเข้าหาเจี้ยนเฉินอย่างแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 3 แม้ว่าเจ้าจะใช้วัตถุเทพ แต่เจ้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า” เจี้ยนเฉินกล่าวอย่างเย็นชา วิถีแห่งกระบี่ขั้นสูงสุดของเขานั้นทรงพลังเกินไปทำให้เขามีความสามารถในการต่อสู้ที่ไม่อ่อนแอไปกว่าขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 6 และก่อนหน้าที่เขาจะใช้กระบี่นวดาราวิถีสวรรค์ด้วยซ้ำ
ในสายตาของเขา เห็นได้ชัดว่าผู้อาวุโสเงาภูตไม่ใช่คู่ต่อสู้ในระดับเดียวกัน
ปัง !
ด้วยเสียงอึกอัก ผู้อาวุโสเงาภูตก็ปลิวออกไป เขาหน้าซีดทันทีเมื่อเลือดสีแดงสดพ่นออกมาจากปากของเขา
ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยรอยกระบี่ที่หนาแน่นปกคลุมเขาซึ่งเต็มไปด้วยบาดแผล เขากลายเป็นร่างโชกเลือดอย่างสมบูรณ์
บาดแผลกระบี่มาจากพื้นที่รอบ ๆ มันถูกสร้างขึ้นโดยปราณกระบี่ที่มีอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง
“คะ- คน ๆ นี้น่ากลัวจริง ๆ ไอ้สารเลวอันเย่จิวหยูทำร้ายข้า…” ผู้อาวุโสเงาภูตตกใจมาก สายตาของเขาที่มีต่อเจี้ยนเฉินมีแม้กระทั่งความกลัว เขาไม่พอใจอันเย่จิวหยูอย่างแน่นอน
เจี้ยนเฉินมีพลังมากเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิถีแห่งกระบี่ที่น่ากลัวของเขา แม้ว่าผู้อาวุโสเงาภูตจะใช้วัตถุทพ แต่เขาก็รู้สึกไร้พลังอยู่ข้างใน เขาไม่สามารถปัดป้องคู่ต่อสู้ได้เลย
อย่าลืมว่าวัตถุเทพสามารถมอบความแข็งแกร่งให้กับเขาได้มากที่สุดในระดับเดียวกัน ทำให้เขามีความแข็งแกร่งในการต่อสู้กับขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 4 เมื่อเทียบกับเจี้ยนเฉินซึ่งไม่ได้อ่อนแอไปกว่าชั้นสวรรค์ที่ 6 ก็ยังคงมีความแตกต่างอย่างมาก
“ครั้งนี้จะเป็นการลงโทษเพียงเล็กน้อย หากเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง อย่าตำหนิว่าข้านั้นไร้ความเมตตา ทำไมเจ้าไม่รีบไปจัดการกับสัตว์อสูรกระบี่ทองคำ ? ” เจี้ยนเฉินคำราม เขาไม่ได้โจมตีผู้อาวุโสเงาภูตอีกต่อไป เขาหันกลับมาและพุ่งไปที่สัตว์อสูรกระบี่ทองคำขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 6
ในทางกลับกัน ผู้อาวุโสเงาภูตเฝ้าดูเจี้ยนเฉินจากไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เมื่อเขาสงบลง เขาก็พุ่งเข้าใส่ สัตว์อสูรกระบี่ทองคำ เขาทำงานร่วมกับหนึ่งในผู้พิทักษ์ของยานอวกาศต่อสู้กับพวกมัน
อย่างไรก็ตาม เขายังคงรักษาระยะห่างที่ค่อนข้างมากจากเจี้ยนเฉินตลอดเวลา เห็นได้ชัดว่าเขายังคงกลัวเจี้ยนเฉินอย่างมาก